โฮ่ง..โฮ่ง....คะนองเห่า.................ตะคุ่มเงาระแวงหวั่น แฮ่ง..แฮ่ง...ตะแบงบัน..................จะเย้ยหยันกวีไซร้ ฮื่อ..ฮื่อ...ขยับเขี้ยว.......................หาได้เหลียวดูตัวไม่ หงิง..หงิง..จะอิงใคร....................เกากลากเกลื้อนละเลือนลาม ชิ..ชิ...ชะหมาน้อย.........................แคะคำถ่อยร้อยคำหยาม จุ๊..จุ๊...จงหยุดพล่าม......................หยุดลามปามทำย่ำยี ตุ๊บ..ตุ๊บ...ทุบสักพลั้ก....................ให้หลังหักดีไหมนี่ เอ๋ง..เอ๋ง...กระเจิงสิ.......................เมื่ออยากริอันธพาล.. ............ ...เป็นกวีมีใจไม่ใฝ่ศิลป์ คอยดูหมิ่นกลอนกานท์ผลงานหรู สำคัญตนถือว่าเหนือกว่าครู น่าส่องดูเงาสักนิดแล้วคิดทวน มัวสำรอกสำรากคายกากเก่า จึงขรึมเขลาเงางึมจนลืมล้วน แค่ควายน้อยคอยแอกแตกขบวน ใยปั่นป่วนลืมสิ้นตีนตนเอง..
3 ตุลาคม 2546 13:08 น. - comment id 171787
หือ .. แปลกไป ..!!
3 ตุลาคม 2546 13:35 น. - comment id 171800
ไม่มีอะไรหรอก.....แค่บ่นๆๆๆๆ ตอนแรกจะบอกว่าคนบ่นคือ...นางรื่นนางโรย
3 ตุลาคม 2546 14:21 น. - comment id 171811
สองคนนี้เป็นพี่เลี้ยงของ พระเพื่อน-พระแพง .. วรรณกรรมเก่า ..ว่ากันว่า..บทโคลง เสียงลือเสียงเล่าอ้าง .. เป็นรูปแบบที่ยึดถือกันมานาน จริงอยู่ที่เรื่องนี้ค่อนข้างจะมีบทอัศจรรย์แยะ (เดี๋ยวจะหาว่าอ่านหนังสือไม่แตก ที่จริงหากไม่มีใครตีหัวก็ไม่แตกหรอก..) บางทีอ่านไปก็รู้สึกอายๆนะ น้าสิบมีมั๊ย อัลมิตรามีนะจะให้ยืม .. ปล .. วันอาทิตย์ไปหาคุณพ่อกันมั๊ย
3 ตุลาคม 2546 14:27 น. - comment id 171815
บ่นแทนไง....ก็ไปอ่าน..พระลอตามไก่..เมื่อวาน เลยหงุดหงิด...แต่หายแล้ว ..ไม่อยู่ต้องไปธุระที่แม่ริม 2 วันนะ วันอื่นแล้วกัน
3 ตุลาคม 2546 14:44 น. - comment id 171819
อันที่จริง เขาตีความตามที่เขาคิด โดยที่ไม่เหมือนคนอื่นเขา .. ถือว่าผิดด้วยหรอคะน้าสิบ .. น้าสิบจะน่ารักมากเลย ถ้าไม่หงุดหงิด เนี่ยน๊า..สงสัยแต่งองค์ทรงเครื่องซะเอี่ยมอ่อง รำแป้ ตั้งแต่วานแล้วสิ ..คิก คิก .. ยี่เก จัง แม่ริมเชียงใหม่ ไกลจัง แต่ใกล้ลุงเวทย์ แวะไปหาละกัน ฝากบอกลุงด้วยว่า คุณฤกษ์ชักคะเย่อ อยู่
3 ตุลาคม 2546 17:42 น. - comment id 171828
- - มาให้กำลังใจนะคะ - -
3 ตุลาคม 2546 17:57 น. - comment id 171831
คุณผีปกติไม่หงุดหงิดนะคะ วันนี้แปลกไปจริง ขออภัยเห็นกลอนสักสามสิบรอบแล้ว แต่เข้าตอบไม่ได้สักที เลยต้องมามาดไม่ลงทะเบียน ด้วยมันหลุดทุกห้านาทีค่ะ จ้องจะอ่าน กดแล้วหายไปตลอดเลยค่ะ
3 ตุลาคม 2546 20:45 น. - comment id 171868
เออาผีนี่บ่นใครกันน๊า.........
3 ตุลาคม 2546 22:55 น. - comment id 171914
****ด้วมีความหมายจึงทายทัก ด้วยมีความรักจึงทักทาย**** ....เก็บลอกคราบเก่าเก่ามาเล่าสู่.... ....เตือนให้รู้ชีวิตผิดตรงไหน.... ....คำหยาม..ขามข่ม.ลมปากใคร.... ....เปลี่ยนเป็น..กำลังใจ.ดีไหมเอย.... .......ชีวิตจะมีค่า หากรู้ว่าเกิดมาเพื่ออะไร.......
3 ตุลาคม 2546 22:59 น. - comment id 171916
เป็นผลงานที่แปลกตาไปจากเดิม แต่ความน่ารักของบทกลอนยังน่ารักเหมือนเดิม แถมเป็นกลอนที่อ่านแล้วชอบมากอีกตั้งหากเลยค่ะ
4 ตุลาคม 2546 04:04 น. - comment id 172031
ผมว่าไม่ใช่บ่นซะแล้วครับ เพราะใช้ถ้อยคำแบบนี้ ถ้าน้องชายคนนี้ ทำให้พี่โกรธ ก็บอกมาตรง ๆ ก็ได้ครับ ผมเป็นคนอารมณ์ดีเสมอ
4 ตุลาคม 2546 09:06 น. - comment id 172047
ลิลิตพระลอ ถูกเขียนขึ้นมาหลายร้อยปีแล้ว เมื่อพิจารณาสิ่งแวดล้อมตอนนั้นจะเห็นว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะให้มีเนื้อหาเชิงอุดมคติเสียทั้งหมด แต่ก็มีหลายตอนที่สอนใจและมีคุณค่าเชิงความคิด ทั้งนี้ยังไม่นับคุณค่าเชิงสุนทรียศาสตร์ เทียบกับงานของ โทโส และ สดายุ (คนเดียวกันแหละ) ก็เหมือนเอาเพชรมาเทียบกับอาจม ผีขี้เมาบ่น ก็สมควรอยู่
4 ตุลาคม 2546 19:33 น. - comment id 172139
เรน..ชอบท่าเต้น... เรนเห็น..แล้วชอบจายย.. โห้ยย.. เรน..เต้นด้วย..ได้มั้ย..?.. แบบว่า..จะได้.. สดใส ..คืนนี้..นะคะ.. ..เรน..แวะมา..แบบ..ไม่กล้ากวน.. ....
6 ตุลาคม 2546 19:55 น. - comment id 172656
ขอยืมรูปหน่อยนะค้าบ ขอบคุณ
8 ตุลาคม 2546 13:23 น. - comment id 173134
....อารมณ์คุ้มดีคุ้มร้าย......มานึกดูแล้วก็น่าอายมาก รู้สึกว่าไม่ดี......อย่างไรก็ขออภัยอย่างที่สุดเลยครับผม.... นอนก่ายหน้าผากเพราะความเพี้ยน.... ขอขอบคุณทุกท่านด้วยครับ.......