......นิทานดีมีคุณธรรมนำความสุข มุ่งปลอบปลุกถ้อยวจีมีความหมาย ไม่รานรุกบุกประชิดคิดทำลาย ทุกข์สลายเพราะวจีมีปัญญา .....นับว่าเป็นแง่ดีที่ควรมอง แต่จะต้องหยุดคิดสักนิดหนา ว่าผู้ฟังนั้นก็ต้องมีปัญญา จึงรู้ค่าของชีวิตไม่คิดเบียน ...พูดกับพาลก็เหมือนไร้มิได้พูด ยิ่งถูกขูดแคะไค้ให้คลื่นเหียน แม้นชีวิตก็ยังคงถูกเบียดเบียน มิอาจเปลี่ยนใจพาลให้ปานทอง ....อันพิษภัยมีมากมายในคำพูด บทพิสูจน์มีมากมายที่หม่นหมอง เพราะบทกรรมน้อมนำตามครรลอง ทุกสิ่งต้องเป็นไปในสายกรรม ....ถึงพูดดีเจรจาดูน่ารัก แต่อาจถูกแช่งชักและเติมซ้ำ ว่าปากหวานก้นเปรี้ยวในน้ำคำ เป็นเพราะกรรมตามทันวันนั้นเอง
11 กันยายน 2546 22:02 น. - comment id 167072
ถ้าตั้งหน้าตั้งตาทำหน้าที่ เทิดวจีที่จะให้ไม่ทอดภอน ใครจะชมใครจะว่าไม่โยกคลอน ไม่เดือนร้อนสรรรเสริญและนินทา ก็ข้ามพ้นใจตนไปอีกครึ่ง เขาจะบึ้ง เราไม่บึ้ง ขึ้งหึงสา ไม่โกรธคน ไม่ร้อนรน ด้วยปัญญา จะเปรี้ยวหน้าหวานข้างใน..ก็ใจเรา
11 กันยายน 2546 22:48 น. - comment id 167113
ท่ามกระแสวิปโยคโลกผกผัน มารตะบันฟันถากกลากเกรอะหนำ คนระแวงแคลงหวาดสาดสีดำ น้ำใจช้ำกล้ำกระแทกแตกกระเจิง... ขอเชื่อว่าคนดีมีมากอยู่ แม้ไม่สู้หมู่พาลซาตานเถลิง แต่ลมหนาวคราวพัดสะบัดเริง หมู่เปลวเพลิงย่อมลับดับสิ้นลง... สมาธิ สติตั้ง หยั่งลงจิต แผ่อุทิศวจีปัดขจัดหลง ดำริชอบกอบกู้รู้ใจปลง อานิสงส์ส่งแผ่แด่โลกา...
11 กันยายน 2546 22:58 น. - comment id 167120
@...tiki.. หากใจรู้ดูจิตพินิจแท้ จะมิแก้ไขคำเขาพร่ำขาน สิ้นกระแสก็สิ้นธรรมนำโสตทาน เพียงกระทบแล้วผ่านไม่ครุ่นคำ ขอบคุณที่แวะมานะคะ
11 กันยายน 2546 23:05 น. - comment id 167127
@...ไกลถิ่น... กระแสกรรมนำให้ได้พบโศก วิปโยคคือผลที่ตนสร้าง ผู้ฉลาดจะเร่งไม่ละวาง เพื่อสร้างทางปัญญาพาสุขใจ กลุ่มคนดีจะมากมีสงบถ้อย และเรียงร้อยกุศลธรรมนำจิตใส มิต่อตีบีฑากับผู้ใด รักษาใจในบุญคุ้นความดี ขอบคุณนะคะน้องไกลถิ่น วันนี้อุตส่าห์ตามมาแจมถึงที่นี่ ..พร้อมกับความจริงจังและเข้มข้นในบทกวีที่ระอุและสงบในที่สุด
11 กันยายน 2546 23:13 น. - comment id 167133
มารับฟัง คำสั่ง เตือนยังจิต ให้ครุ่นคิด เรื่องผ่านมา มีมากหลาย ที่พลาดพลั้ง เพราะคะนอง ไม่กรองใจ เผลอพูดไป ให้ฤดี นี้ต้องตรม
11 กันยายน 2546 23:26 น. - comment id 167141
@..ชัยชนะ.. ไม่มีใครไม่เคยพลาดปราศความผิด เพราะเป็นศิษย์ต้องเรียนรู้ตามครูสอน พระศาสดาบรมครูผู้อาทร สอนสังวรอินทรีย์หนีภัยพาล ..ไม่เป็นไรค่ะ ผ่านแล้วก้ผ่านไป อย่าย้ำคิดย้ำทำ ..แก้ไขใหม่ได้ แบบที่พี่เบิร์ดบอกว่า ..ซ่อมได้ ..ไงคะ
11 กันยายน 2546 23:51 น. - comment id 167160
การจะพูดต้องดูเหตุและดูผล พูดกับใครพูดกับตนต้องคิดก่อน ใช่ว่าจะพลีพลามพูดร้าวรอน ก็จะเกิดการแคลงคลอนให้ร้อนใจ คำพูดดีก็ดีเป็นศรีศักดิ์ พูดแต่เรื่องความรักหรือความใคร่ ก็จะเกิดการติชินนินทาแก่ใคร ๆ ฉะนั้นก่อนจะพูดไปต้องใคร่คำนวน ***กลอนบทนี้สอนใจดีจังเลยค่ะ***
12 กันยายน 2546 00:11 น. - comment id 167174
@...ผู้หญิงไร้เงา.. ก่อนจะพูดต้องครวญใคร่ในคำพูด บทพิสูจน์มากมายในความพลั้ง แม้นรอบคอบเท่าใดก็ยังพัง เพราะกรรมเก่ามายังให้เสียการณ์ ...น้องตูน บทแจมบทนี้มีค่ามากเช่นกันค่ะ...
12 กันยายน 2546 07:18 น. - comment id 167208
. แอบมาอ่าน..ทุกครั้ง... กับวัน.. ที่อ่อนล้า... ..คิดถึง..ตลอดเวลา.. ..มีคุณค่า.. ในบทกลอน.. ... แว๊ปป.. แบบเรน ต่อไม่ได้...นะคะ
12 กันยายน 2546 11:07 น. - comment id 167233
อันวจีไพเราะเพราะพริ้ง เหมือนถูกสิงในคำกระหน่ำซัด ตระหนักคำความคิดควรฝึกหัด แล้วจึงคัดความงดงามจากวจี independe