อรุณรุ่งอึมครึมนภาฟ้า อกอุราหมองหม่นสิมืดมิด เมฆาเกลื่อนกลบระปกปิด อยู่เนืองนิตย์แน่นหนาในฉับพลัน อาทิตย์ห่างหายในเวหา หยดน้ำตารินไหลต้องฝืนกลั้น เฉกกองไฟสุมโรมรัน สิโศกศัลย์โหยหาใครอาทร ณ โลกหล้าล้วนพบสุขเกษม มนุษีปรีเปรมกันสลอน ณ มุมมืดหลืบหลบแหล่งนคร คืนเก่าก่อนนอนหลับหนแห่งใด ต่างผู้ฅนอิจฉาแก่งแย่งชิง สงบนิ่งสู่ภวังค์เหตุไฉน ด้วยตัณหารุมล้อมมากพิษภัย ช่วงชิงชัยแข่งขันโลกโลกีย์ ให้สายฝนชะล้างกิเลสเถิด จึงก่อเกิดทางธรรมตามวิถี ขจัดคราบคลาไคลของชีวี จักพึงมีกรรมดีชื่นกมล มองเห็นรูปธรรมที่เป็นไป ชโลมไล้ลูบกายให้สับสน ฤๅนามธรรมในจิตบ้างวกวน ทุรชนหวาดหวั่นนรกา - -
10 กันยายน 2546 13:47 น. - comment id 166706
พูดไม่ออก.....แต่ถูกใจมากๆ
10 กันยายน 2546 16:29 น. - comment id 166732
โดนจายเจงๆ ... อยากแต่งกลอนแบบนี้ได้บ้าง ... แต่ไม่มีพรสวรรค์ อิอิ
10 กันยายน 2546 23:23 น. - comment id 166813
เกินบรรยายเลยค่ะ แต่งเก่งจริง ๆ เลยจ๊ะน้องจ๋า
11 กันยายน 2546 02:21 น. - comment id 166853
ทะมึนฟ้าคลาคล่ำเมฆดำชัด ฝนสะบัดสายพร่างจากกลางฟ้า ล้างแผ่นดินล้างสิ้นสายธารา แต่หัวใจมืดหนา..ล้างด้วยธรรม มาส่งกำลังใจให้สอบได้คะแนนดีๆนะคะ