ความสัมพันธ์เสมอภาคเป็นรากฐาน ต่างกับการมิรู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ ประเพณีดีงามตามแบบไทย ท่านสอนให้มีสัมมาคารวะ รู้เคารพนบไหว้ให้เกียรติท่าน ทั้งเรียกขานถูกหลักห้ามกักขฬะ คำลุงป้าตายายคล้ายพันธะ เขายิ่งจะรักใคร่ผูกไมตรี อยู่อย่างไทยใกล้ชิดสนิทสนม เป็นสังคมครอบครัวทั่วทุกที่ ทั้งอบอุ่นจุนเจือเอื้ออารี ถือเป็นพี่เป็นน้องปรองดองกัน อาวุโสจัดลำดับแล้วนับญาติ บรรยากาศของการสมานฉันท์ เสมอภาคบนฐานการแบ่งปัน มิแบ่งชั้นชาติเชื้อตัดเยื่อใย สังคมที่มีกรอบมีขอบเขต ตามนิเวศน์วิทยาน่าเลื่อมใส อย่าหลงผิดบิดเบือนเลอะเลือนไป เตือนคนไทยสังวรก่อนอับปาง เด็กตามหลังผู้ใหญ่หมาไม่กัด แต่ตามวัดรอยเท้าเขาย่อมหมาง ผู้ใหญ่ทำหน้าที่ช่วยชี้ทาง มิใช่ขวางความคิดปิดหูตา
9 กันยายน 2546 12:14 น. - comment id 166460
ทำยังไงจะแต่งได้อย่างลุงบ้าง สวัสดีค่ะ
9 กันยายน 2546 12:59 น. - comment id 166474
เมื่อเป็นไทยใจอย่าหลงเข้าพงรก ไปยึดมั่นตะวันตกอย่างงกหงำ คอยสืบสานโบราณไทยไว้ประจำ ช่วยชี้นำติติงสิ่งที่ควร สวัสดีขอรับ....อิอิ..
9 กันยายน 2546 13:34 น. - comment id 166486
สวัสดีตอนบ่ายค่ะ .. คุณลุง เข้ามารับคำสอนก่อนไปทำงานต่อยามบ่ายค่ะ ลัลลา.. อิอิ :)
9 กันยายน 2546 13:51 น. - comment id 166493
อ้อม.....ก็แค่เอาจริงให้ถูกทาง ง่ายออก ผีขี้เมา.....ขอบคุณครับ ตามฝัน.....เคารพมิสู้เชื่อฟัง ภาษิตจีนน่ะ อิอิ
9 กันยายน 2546 14:47 น. - comment id 166510
บ่อยครั้งที่เยาวชนรุ่งหลังไม่ชอบและไม่ลงเห็นด้วยกับการเดินตามรอยไทยหรือรอยผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ก็เมินเฉยที่จะเหนี่ยวจะรั้งให้เด็กเดินทาง สุดท้ายก็จบลงที่ ทางใครทางมัน ไม่มีการเชื่อมต่อ ประสาน กันได้ในที่สุด บทกวีที่ให้ความหมายแจ่มชัด ชี้ถูกชี้ผิด อ่านแล้วฮึกเหิม เกิดแรงใจ เห็นข้อเท็จจริง ต้องลุงเวทย์เขียนครับ ชื่นชมไว้ตรงนี้เลยครับลุง
9 กันยายน 2546 19:34 น. - comment id 166549
ลำน้ำน่าน.....คนเรามักเลือกรับแต่ข้อมูลที่สนับสนุนความคิดเดิมของตัวเอง และทำให้ความคิดที่ผิดยิ่งผิดมากขึ้น คงต้องรอจนกว่าเขาจะเข้าใจความหมายของคำว่า การศึกษา อย่างแท้จริง เมื่อนั้น เขาจะเห็นคุณค่าของการแลกเปลี่ยนการเรียนรู้ และยอมรับข้อดีของอีก generation มาใช้
9 กันยายน 2546 21:24 น. - comment id 166564
มอบน้ำใส ใจจริง ที่ยิ่งใหญ่ กลั่นจากใจ ไม่รังเกียจ หรือเดียจฉันท์ ร่วมสร้างสรรค์ หันหน้า เข้าหากัน ไม่แบ่งชั้น ถือยศศักดิ์ จักเจริญ
9 กันยายน 2546 22:08 น. - comment id 166583
ผ่านมาเยือนไม่ได้เชิญต้องเดินก้มหลัง... เดินลงเท้าตึงตังระวังไว้ พูดทะลุกลางปล้องดูหมองใจ เดี๊ยวลุงเวทย์ตีเอาได้นะจ๊ะเธอ มาคารวะครับ
9 กันยายน 2546 23:11 น. - comment id 166616
ปัจจุบันรอยไทยไปไหนหมด มีแต่ลดมีแต่เสื่อมไม่เลื่อมใส ค่านิยมพวกผิวขาวเข้ามาใหม่ วัฒนธรรมคนไทยไม่ใยดี ก่อนคนไทยมีสัมมาคารวะ เมื่อพบปะผู้ใหญ่สวัสดี ปัจจุบันเป็นง่อยกันหรือนี่ เดินชนไหล่ทันทีไม่สนใจ โขนลิเกหมอลำหรือลำตัด ก็เริ่มขัดคนสานตำนานให้ อาจไม่ยงคงอยู่คู่คนไทย เด็กวันใหม่คงไม่เห็นเป็นบุญตา ของไทยไทยแล้วจะให้ใครมาสอน จึงฝากวอนคนไทยให้รักษา หรือจะให้ฝรั่งเป็นครูบา สอนวันทาของคนไทยให้ไทยทำ
9 กันยายน 2546 23:29 น. - comment id 166625
ความสัมพันธ์เสมอภาคเป็นรากฐาน ใช่จะดูหน้าที่การงานก็หาไม่ แต่ให้ดูที่มารยาทตามแบบวัฒนธรรมไทย ที่ใคร ๆ ควรเอาอย่างอย่างตั้งใจ ***สวัสดีค่ะคุณเวทย์ เป็นกลอนที่ดีมีคุณภาพมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ แล้วอย่างไรจะพยายามเดินตามรอยเท้าคุณเวทย์นะค่ะ จะได้มีผลงานที่มีคุณภาพกับเขาบ้าง ซึ่งถ้ามีอะไรถูกผิดช่วยชี้แนะด้วยแล้วกันค่ะ เพราะผู้หญิงไร้เงามือสมัคร จึงอาจผิดพลาดได้หลายอย่าง ฉะนั้นถ้าผิดพลาดประการใดก็โปรดชี้แนะให้ด้วยนะค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ***
9 กันยายน 2546 23:33 น. - comment id 166629
กลอนพี่อุดมด้วยรสความอ่านเต็มอิ่มเลยครับพี่ รอยธรรมจำ รอยทาง หว่างวิถี คุณความดี ท่านให้ ล้วนปรากฎ ลายสือลือ รสความ ตามน้อมนท สรรคำพจน์ หวานล้วน ถ้วนความดี คมความแท้ท่านพี่
10 กันยายน 2546 08:48 น. - comment id 166656
ชัยชนะ.....ความโอบอ้อมอารีก็เป็นอีกอย่างที่หายากขึ้นทุกที ส่องหล้า.....คนที่บ้านนายก๊องถามหาแน่ะ อิอิ พนาไพร.....หายไปซะนาน คิดถึง ผู้หญิงไร้เงา.....เราปล่อยให้ร้อยกรองไทยเป็นแค่เรื่องของความเพ้อเจ้อไร้สาระกันมานาน จนลืมไปว่าร้อยกรองเป็นรูปแบบการประพันธ์ที่ไพเราะ สละสลวย ง่ายแก่การจดจำ และสามารถสื่อความได้อย่างคมคายมีน้ำหนัก โดยเฉพาะคุณสมบัติที่ง่ายแก่การจดจำนี่ ร้อยแก้ว ไม่มีหรอก เพราะฉะนั้นก็น่าจะใช้ตรงนี้ให้เป็นประโยชน์ได้ กลอนรักที่เขียนได้อย่างน่าประทับใจก็ประเทืองอารมณ์ เป็นประโยชน์เหมือนกันนะ อย่ามองข้าม อิอิ น้ำ.....ขอเอากลอน ลุงสอนหลานที่เขียนไว้นานแล้วมาตอบนะ อิอิ ลุงน่ะเริ่มเขียนกลอนก่อนหลานเกิด ไม่เลอเลิศแต่มิใช่ไร้ชื่อเสียง เพราะครุ่นคิดประดิษฐ์ถ้อยมาร้อยเรียง มิใช่เพียงปากพล่อยคอยถากคน ด้วยเคารพบทกวีว่ามีค่า สูงเกินกว่าหยิบใช้ไร้เหตุผล รำลึกไว้ว่าชั้นปัญญาชน ไม่ทำตนเกะกะเที่ยวระราน ทุกบทกลอนสะท้อนเงาให้เขาเห็น ชี้ว่าเป็นบัณฑิตรู้คิดอ่าน ไม่แบ่งพวกแบ่งชั้นไม่อันธพาล แต่เจือจานน้ำใจให้ผู้คน ลุงอาศัยบทกวีชี้ถูกผิด เหมือนบอกทิศผู้หลงทางสร้างกุศล ถ้อยต่ำช้าสามานย์ประจานตน หรือเพ้อบ่นไร้สาระจะไม่ทำ จึงพอให้เขายอมรับแล้วนับถือ ซึ่งก็คือผลที่ใจไม่ใฝ่ต่ำ ไม่เคยให้ตัณหามาครอบงำ เพราะว่ากรรมย่อมสนองเจ้าของเอง
10 กันยายน 2546 14:31 น. - comment id 166717
เห็นด้วยนะ กับสิ่งที่คุณคิด
10 กันยายน 2546 17:02 น. - comment id 166738
ข้าวปล้อง.....ขอบคุณครับ เพราะการตอบสนองในทางที่ดี จากคนดีๆ นี่แหละ ทำให้ผมมีกำลังใจที่จะเขียนอะไรดีๆ และไม่แยแสความขี้อิจฉาของบางคน
10 กันยายน 2546 22:29 น. - comment id 166790
สวัสดีอีกรอบครับลุง ลืมทัก อินกับอารมณ์เพลิน อิอิอิ
11 กันยายน 2546 13:59 น. - comment id 166986
พนาไพร.....ครับ อิอิ
12 กันยายน 2546 20:08 น. - comment id 167357
เป็นสิ่งที่มีค่าสำหรับอนุชนรุ่นหลัง..ที่ควรจะนำไปเป็นแบบอย่างที่ดีต่อไปค่ะ... มาชื่นชม...และชมชื่นค่ะ...
7 มกราคม 2547 10:27 น. - comment id 199042
แวะมาเยี่ยมครับ