@แสงดาวพราวพร่างเพี้ยง..........แสงดาว ล้ำค่าพรายพร่างพราว..................ค่าล้ำ ดารดาษส่องสกาว.......................ดารดาษ งามดั่งดวงพรายน้ำ....................ดั่งน้ำพรายงามฯ @เดือนยามอร่ามฟ้า....................เดือนยาม หล้าแหล่งแจ้งวาววาม..................แหล่งหล้า ส่องสว่างสมดังนาม....................ส่องสว่าง แสงก่องส่องผืนฟ้า.....................ก่องฟ้าส่องผืนฯ @เมฆาครืนเคลื่อนคล้อย..............เมฆา ริ้วร่องยามเลื่อนลา......................ร่องริ้ว พลิ้วระหว่างทางลมพา..................พลิ้วระหว่าง ลอยห่างราวร้อยนิ้ว......................ห่างนิ้วราวร้อยฯ @ฝนคล้อยฝนห่างฟ้า..................ฝนคล้อย คุ้นกลิ่นดินรินร้อย........................กลิ่นคุ้น กรุ่นกล่อมฟุ้งหอมฟ้อย.................กรุ่นกล่อม พรมพร่ำหวานฉ่ำวุ้น......................พร่ำวุ้นฉ่ำหวานฯ @คนงานกร้านหว่านกล้า...............คนงาน คร้านเกียจเดียดฉันท์การ..............เกียจคร้าน คงนิ่งบ่ได้นาน............................คงนิ่ง เช่นดั่งคนตายด้าน.......................ดั่งด้านตายคนฯ
11 กรกฎาคม 2546 06:15 น. - comment id 153497
..สัมผัส..คำ..เก่งจังคะ.. ..เรนมา..ชื่นชม...นะคะ...
11 กรกฎาคม 2546 10:55 น. - comment id 153537
บทกวีฟังแล้วรื่นหู รื่นไหลดี ความหมาย ยังไม่แน่ใจ ต้องคิดนานๆ หน่อย จะแตกมั้ยเนี๊ยะครับ ด้วยไม่สามารถพอจะแต่งโคลงได้หล่ะครับ ชื่นชมเสมอมาครับ
11 กรกฎาคม 2546 17:00 น. - comment id 153579
เก่งจังเลยค่ะ ความหมายก็ดี ชื่นชมค่ะ
12 กรกฎาคม 2546 00:50 น. - comment id 153696
@@ค่ำคืนท้องฟ้าคล้ำ ครื้มฝน ลมพัดเมฆเบื้องบน ป่วนฟ้า ใจดวงน้อยหมองหม่น เหม่อเศร้า สิ้นหวัง อยู่อย่างคนไร้ค่า หลบหน้าลาจร@@..??
30 กรกฎาคม 2546 19:30 น. - comment id 157512
เก่งค่ะ ให้กะลังใจ