เมื่อครั้งยืนยืนใต้ร่มไม้ใหญ่ แดดส่องลอดช่องใบมวลพฤกษา แววระยิบแสงระยับงามจับตา ร่มเงาตกลงหน้าที่แหงนมอง ลมพัดพริวยอดกับพริวตามลมพัด โบกสะบัดเอนไหวใบทั้งผอง เหมือนลู่ลมแต่ไม่ลู่ก็พิศมอง ใบก็หยุดลอยล่องลมพัดพา ปลิวตามเมฆใหญ่น้อยที่ลอบผ่าน เป็นสายสานถักถอกลางเวหา ปลิวตามลมได้เพียงสักเวลา ก็ตกสู่พสุธาที่หญ้าคลุม หลังอิงแอบแนบไปกับลำต้น ผิวเนื้อชนกับผิวไม้ดับไฟสุม ผิวไม้เย็นดับอารมณ์ที่ร้อนรุม เหมือนมีกลุ่มอณูเย็นเป็นผิวกาย เท้าเปลือยเปล่าเหยียบลงบนพื้นหญ้า ส่งรู้สึกผ่านบาทาเมื่อยามสาย ไอแดดร้อนกลิ่นไอดินมิเคยคลาย รู้สึกได้ในเหตุการณ์ที่เป็นไป ลมยังพัดผ่านกายที่ยืนอยู่ แสงยังผ่านลอดรูช่องใบไม้ ดินยังแน่นรองรับอยู่เรื่อยไป เวลาไซร้ก็มิได้จะหยุดลง
9 มิถุนายน 2546 19:01 น. - comment id 144238
ชอบค่ะ.. มองเห็นภาพเลยล่ะ
10 มิถุนายน 2546 02:36 น. - comment id 144351
ชอบและชื่นชมชื่นใจมากเลยค่ะ..กับบทกวีนี้นะคะ และทุกเช้าในชีวิตพุดพัดชา ในเรียวตาจะใบจำปีไล่สีสดเขียวอ่อนใสที่ระดะใบเคลียใจเชยชายคามานานเนิ่น ในวิมานดินนี้ที่ได้พิงพักใจ.. และกับดอกแก้วช่อละมุนดวงดอกดกหลังฝนตกหยาดสายพรายดอกให้พรึบพราวสะพรั่งแข่งกันอวดดอกงาม.. พุดพัดชา..จะนอนนิ่งนานรับหวานงามทุกยามเช้า..จนชินใจนวลตากับงามละออของมวลพฤกษา..นานามานับสิบปีแล้วค่ะ ด้วยรักนะคะ
10 มิถุนายน 2546 09:57 น. - comment id 144390
เอกเขนกเอนกายใต้ไม้ใหญ่ ผ่อนจิตใจให้ลอยไปตามฝัน ใบไม้อ่อนผ่อนกรองแสงตะวัน ให้ร่มพลันครึ้มเขียวสบายตา ----------- กลอนไพเราะมากค่ะ เลยขอแจมซะหน่อย
10 มิถุนายน 2546 16:44 น. - comment id 144490
กลอนบทนี้น่ารักมากค่ะ ชอบค่ะ
11 มิถุนายน 2546 16:43 น. - comment id 144599
งามละไม ชอบค่ะ