๏ เสียงสังคีตดีดสีดนตรีขับ กำซาบซับโสตซ่านกังวานเสียง ยินอักษรกลอนพร่ำถ้อยคำเพียง ศัพท์สำเนียงสังคีตประณีตยิน ศิลปะปรากฎจากรสถ้อย ที่สอดสอยสร้างสารชำนาญศิลป์ มาเคล้าคละประพนธ์เพียงชลริน ให้ดื่มกินกาพย์กลอนดังก่อนมา สาธยายระบายพจน์เป็นบทบาท กวีวาดวางลึกชวนศึกษา จารจับอรรถจัดสรรพรรณนา ก็เลอค่าเลิศคำที่นำจาร สานอักษรกลอนกลฤๅพ้นยุค ยินปู่ปลุกเปล่งเสียงจำเรียงสาร ควรศึกษาวิชาเก่าแต่เบาราณ เป็นลูกหลานลืมหลังหรือบังควร ๚ะ ๒๗ เมษายน ๒๕๔๕
27 เมษายน 2546 22:24 น. - comment id 132131
เป็นบทกลอนที่หอมหวลทวนลม แม้นไม่ใส่เพลงก็ได้ยินเสียงดนตรีครับ
27 เมษายน 2546 22:51 น. - comment id 132146
อายจัง ถ้าคัดทิ้งก็คงเหลือไม่กี่คนหรอกครับ ที่จะเรียกว่าชาตินักกลอนได้ อย่างผมและอีกหลายๆคนก็คงเป็นแค่ต้นไม้ต้นหญ้ามาเกะกะรกตาเล่นสนุกอย่างนั้นเอง จะเรียกว่าเป็นสีสัน ก็เป็นสีที่เลอะเทอะ แต่ถ้าไม่มี thaipoem ก็สนุกกันไม่กี่คนสิครับ
28 เมษายน 2546 00:28 น. - comment id 132179
๒๗ เมษายน ๒๕๔๕ อาหมอ .. ปีนี้ ๒๕๔๖ นะคะ
28 เมษายน 2546 04:39 น. - comment id 132206
เออเนาะ ผิดปีไป ขอบใจมากหลานลิง ...
28 เมษายน 2546 05:20 น. - comment id 132216
โห คุณหมอตื่นเช้าจัง :)
28 เมษายน 2546 09:18 น. - comment id 132282
ท่ามกลางกระแสสังคมและพายุร้ายพัดผ่าน จะเหลือสิ่งไหนบ้างหนอคุณหมอที่พอใจให้ ได้ชุ่มชื่นหัวใจ....ในเมื่อทุกอย่างกำลัง จะมลายลงไป กลอนคุณหมอสะกิดใจครับ
28 เมษายน 2546 12:12 น. - comment id 132363
^*^ ^*^ ^*^.............^___^..............^*^ ^*^.......................................^*^
30 เมษายน 2546 17:29 น. - comment id 133508
ไพเราะไปอีกรูปแบบหนึ่งค่ะ..ขออนุญาต..บันทึกไว้..เพื่อนำไปสอนน้องๆที่สนใจในงานวรรณศิลป์นะคะ...ขอขอบคุณล่วงหน้าค่ะ...