...แว่วพระพายคล้ายเสียงร้องของน้องเจ้า ระรินระรวยด้วยเศร้าพัดเข้าหา ประสมถ้อยคอยพร่ำพรอดตลอดมา ณ รัตติกาลผ่านฟ้าพาคำนึง ระรื่นระงมพรมพลิ้วตามทิวไม้ ภิรมย์ใจมิเคยเหลือเมื่อคิดถึง ปรารถนามาเคลียเคล้าเฝ้ารำพึง ประดิษฐ์ประสิทธิ์คิดพึ่งถึงสิ่งดี ไฉนน้องต้องเคลือบแคลงระแวงรัก ณ กาลวิบัติซัดผลักใช่จักหนี และอายุขัยใจมั่นนั้นมากมี ผิวายปราณรานรักนี้ให้พี่ตาย โอ้วิมานบ้านใจรักมีหลักพร้อม พิสุทธิ์พิเศษเขตล้อมยอมถวาย ตะหง่านอยู่คู่สิ้นฟ้าชีวาวาย ณ ห้วงภวังค์ทั้งหลายหมายนางเดียว ประทังอุทารสารรักตักเตือนจิต ตระการเกินเดินหลงผิดไม่คิดเหลียว สรรพสิ่งยิ่งแปรผันกันจริงเชียว สลายมลายคลายเกี่ยวแล้วเที่ยวเลือน เผชิญกรรมทำกันมาพาโศกหนัก พระพายกระโชกโศกนักดั่งรักเฉือน ระหกระเหินเมิลซ้ำคอยย้ำเตือน ประเมินเหมือนรักเรานี้ที่เศร้าใจ... .........บังคับพิเศษ.....- ให้นำคณะของ อีทิสังฉันท์ มาแยกออกวางไว้ต้นวรรคทุกวรรค...ครับ .........หมายเหตุ.....เมิล หมายความว่า มองดู.....
20 เมษายน 2546 21:56 น. - comment id 128921
...ขอขอบคุณครับ..คุณอัลมิตรา...สำหรับมิตรภาพ.. ...ผมได้นำเอาส่วนหนึ่งของบทประพันธ์ http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_32554.php พระพายอันกลายผัน...( wind of change ) .......๑. .....วาระบทจรมุสู่วิหาร ระหว่างวิถีและอุทยาน.........................สราญรมย์ แว่วพระพายระรินระรวยประสม ณ รัตติกาลระรื่นระงม........................ภิรมย์ใจ พบทหารวิกรานต์เกษมฤทัย กระฉับกระเฉง เขลงกระไร...................พิไรลม ข้าพเจ้าพินิจพิเคราะห์ปฐม พิภพพินาศทลายถล่ม..........................นิยมใด ปรารถนาประดิษฐ์ประสิทธิ์ไฉน ณ กาลวิบัติและอายุขัย.........................ผิวายปราณ โอ้วิมานพิสุทธิ์พิเศษตระหง่าน ณ ห้วงภวังค์ประทังอุทาร.....................ตระการเกิน สรรพสิ่งสลายมลายเผชิญ พระพายกระโชกระหกระเหิน..................ประเมินเหมือน โปรดประคับประคองมิร้างมิเลือน ประสิทธิ์ประสาทผดุงเสมือน.................มิเบือนภักดิ์ ฯ ......ในส่วนที่ผมนำมาตั้งเป็นกระทู้ต้นวรรคดังนี้ครับ แว่วพระพาย ระรินระรวย ประสม ณ รัตติกาล ระรื่นระงม..............ภิรมย์ใจ ปรารถนา ประดิษฐ์ประสิทธิ์ ไฉน ณ กาลวิบัติ และอายุขัย..............ผิวายปราณ โอ้วิมาน พิสุทธิ์พิเศษ ตระหง่าน ณ ห้วงภวังค์ ประทังอุทาร...........ตระการเกิน สรรพสิ่ง สลายมลาย เผชิญ พระพายกระโชก ระหกระเหิน....ประเมินเหมือน ...........มิตรภาพตราบสิ้นใจ.....สวัสดีครับ........
20 เมษายน 2546 21:57 น. - comment id 128924
คิดได้ไงอ่ะคะ --- เก่ง ๆ อิจฉาตาร้อนแว้ววววววววววววววว -----
20 เมษายน 2546 22:11 น. - comment id 128931
แต่งดีมากเลยอ่ะค่ะ ยอมรับ ชอบจางเยยเสียงลม ................................................ :)
20 เมษายน 2546 22:14 น. - comment id 128932
มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า .. :)
20 เมษายน 2546 23:46 น. - comment id 128979
พระพายมาด้อมๆมองๆ แล้วก็งง กลบทนี้ เล่นไม่เป็น อิอิ
20 เมษายน 2546 23:56 น. - comment id 128994
ขอแจมแบบมิรู้กลนิ รักเอยเคยรักหักใจแสนเศร้า มิแคล้วบ่วงรักเร้าเฝ้าปักอุรา ใจเอ๋ยใจใยชักพาโหยหา ทุกทิวาราตรีแสนโศกทรวง เป็นกำลังใจให้นะครับ
21 เมษายน 2546 00:44 น. - comment id 129031
dเจ้าพ่อกลบท จริงๆ ชื่นชมครับ :)
21 เมษายน 2546 00:59 น. - comment id 129043
บทกล .อ่านแล้วรื่นหูนะครับ อยากจะเรียนบ้าง แต่ไฟฝันทำท่าจะมอดแล้วตอนนี้ครับ ..
21 เมษายน 2546 05:13 น. - comment id 129103
แจมนิ กังสดาลหวาน เสียงพิณสานสาย สวยสม ณ วิมานแมน สั่นสะท้านทรวง..............บ่วงลัดใจ หวานหวามละมุน ละมัยกระไร ไฉน ณ ฟากฟ้าใส เมฆาไคล..............คล้อยรวี มีนิ
21 เมษายน 2546 05:35 น. - comment id 129104
แก้นิเพิ่ม กังสดาล เสียงพิณสานสาย สวยสม ณ วิมานแมน สั่นสะท้านทรวง........บ่วงลัดใจ หวานหวามให้ ละมุนละไม ไฉน ณ ฟากฟ้าใส เมฆาเคลื่อนไคล..........คล้อยรวี หิมพานต์ ตระหง่านสง่า...........สระศรี เหล่ากินนรี บินเวียนวนที่..............วังไกรกาล โอ้วิมาน พิลาศพิไล ตระหง่าน ณ จินตนา บุราณโอราน...........เพลิศเพลินใจ
21 เมษายน 2546 05:42 น. - comment id 129107
แก้นิ กังสดาล เสียงพิณสานสาย สวยสม ณ วิมานแมน สั่นสะท้านทรวง........บ่วงลัดใจ หวานหวามให้ ละมุนละไม ไฉน ณ ฟากฟ้าใส เมฆาเคลื่อนไคล..........คล้อยรวี หิมพานต์ ตระหง่านสง่า...........สระศรี ณ กินนรี บินเวียนวนที่..............วังไกรกาล โอ้วิมาน พิลาศพิไล ตระหง่าน ดลจินตนา บุราณโอราน...........เพลิดเพลินใจ
21 เมษายน 2546 05:43 น. - comment id 129108
อิ่มแท้นิ
21 เมษายน 2546 10:30 น. - comment id 129187
เอาอีก
21 เมษายน 2546 11:45 น. - comment id 129246
สรรพสิ่ง..ยิ่งแปรผันกันจริงเชียว .. ค่ะ.. เห็นด้วย ๆ ..
21 เมษายน 2546 15:55 น. - comment id 129383
เยี่ม มากแล้ว อ่ะค่ะ
21 เมษายน 2546 21:02 น. - comment id 129561
ไพเราะค่ะ...ชื่นชมในความสามารถมากค่ะ..
23 เมษายน 2546 09:51 น. - comment id 130189
ชื่นชมด้วยคนค่ะ แต่งได้ไพเราะเพราะพริ้ง
28 เมษายน 2546 23:37 น. - comment id 132631
....ขอขอบตุณครับ..ทุกท่านที่มาเยือน...ด้วยความเคารพครับ... ........................สวัสดีครับ......................
25 กรกฎาคม 2549 15:40 น. - comment id 146021
ความรักเอยมีแล้วก็หวาดก็หวั่น ความรักเอยมีแล้วก็หวั่นก็ไหว ความรักเอยมีแล้วก็คิดก็คิดถึงใคร ความรักเอยรู้ไหมว่าใครคอย
25 กรกฎาคม 2549 15:47 น. - comment id 146022
อ่านแบบกลกลอน งูกินหาง แหะๆๆ ที่โรงอาหารกินข้าว ต้องเก็บจานอิ่มแล้ว จึงช่วยวานให้เพื่อน ฝากเก็บจานด้วยน่ะ ดั่งนี้ ให้อ่านซ้ำสามคำแรกในแต่บรรทัด ลองแต่งดูน่ะค่ะ ที่โรงอาหารกินข้าวที่โรงอาหาร ต้องเก็บจานอิ่มแล้วต้องเก็บจาน จึงช่วยวานให้เพื่อนจึงช่วยวาน ฝากเก็บจานด้วยน่ะฝากเก็บจาน