๑. .....วาระบทจรมุสู่วิหาร ระหว่างวิถีและอุทยาน.........................สราญรมย์ แว่วพระพายระรินระรวยประสม ณ รัตติกาลระรื่นระงม........................ภิรมย์ใจ พบทหารวิกรานต์เกษมฤทัย กระฉับกระเฉง เขลงกระไร...................พิไรลม ข้าพเจ้าพินิจพิเคราะห์ปฐม พิภพพินาศทลายถล่ม..........................นิยมใด ปรารถนาประดิษฐ์ประสิทธิ์ไฉน ณ กาลวิบัติและอายุขัย.........................ผิวายปราณ โอ้วิมานพิสุทธิ์พิเศษตระหง่าน ณ ห้วงภวังค์ประทังอุทาร.....................ตระการเกิน สรรพสิ่งสลายมลายเผชิญ พระพายกระโชกระหกระเหิน..................ประเมินเหมือน โปรดประคับประคองมิร้างมิเลือน ประสิทธิ์ประสาทผดุงเสมือน.................มิเบือนกานท์ ฯ ๒. .....พึงกระนั้นคะครึ้นระรื่นฤดี ประสบพิสุทธ์วิมุติศรี...........................สุธีฐาน เยาวชนผิว์เยี่ยง ณ เคียงพิชาน ก็เสพและจับประทับผลาน.....................ปริปราณปัน ย้อนอดีตวิจิตรสมานฉันท์ ฤทัยระรื่นรติกระนั้น.............................ถวัลย์คง ด้วยพระพายละมุนและอุ่นผจง อดีตระทมระทวยประสงค์......................เจาะจงหาย โปรดสนับสนุนมโนภิปราย มุมั่นประสงค์ตะเกียกตะกาย..................ชม้ายฝัน- อันพิลาสเจริดประเสริฐกระนั้น ณ รัตติกาลสราญนิรันดร์......................และหรรษา เพียงแสดงแถลงประกาศกถา เสมือนประคบประหงมยุพา-..................ดรุณชน ด้วยผสมผสานสมานกมล ขยม*และท่านสิหมั่นถกล.......................ประดนเกียรติ์ ฯ ๓. ..ห้วงพระพายประจักษ์อนิจตา ประดุจสุบินพิลาสประภา......................คละวนเวียน ท่านและข้าพเจ้าสิเฝ้าชระเมียน มิท้อมิถอยเผชิญกระเสียร....................เสถียรคง เฉกระหัดสิหมุนสนองประสงค์- มิหยุดมิหย่อนพระพายยุยง...................มิหลงภรานต์ เพียงหทัยผิว์มั่นผดุงวิธาน พิทักษ์ประจักษ์และภักดิ์ขนาน................ประสานปรีดิ์ ดัชนีขยับ ณ เส้น ณ คีย์ สดับเสนาะและเพราะฉะนี้.......................ฤดีหมาย ฯ ( สร้อยโซโล่ ) .....โปรดสนับสนุนมโนภิปราย มุมั่นประสงค์ตะเกียกตะกาย..................ชม้ายฝัน อันพิลาสเจริดประเสริฐกระนั้น ณ รัตติกาลสราญนิรันดร์.....................และหรรษา เพียงแสดงแถลงพิลาสกถา เสมือนประคบประหงมยุพา....................ดรุณชน ด้วยผสมผสานสมานกมล ขยมและท่านสิหมั่นถกล..........................ประดนเกียรติ์ สร้างสุบินพิลาสสถิตเสถียร ระหว่างพระพายระรวยผละเผียน..............และเปลี่ยนแปลง ฯ คำว่ากีตาร์ ใช้คำว่า ณ เส้น ณ คีย์ ... คำว่าผิวปาก ใข้คำว่า พิไรลม ..
19 เมษายน 2546 23:18 น. - comment id 128502
........................................ :)
19 เมษายน 2546 23:33 น. - comment id 128513
จันทร์มาเยือน แย้มงาม ค่ำคืนนี้ ใยราตรี มืดมน ดูหม่นหมอง เหมือนใจเรา ยามไร้เธอ คนที่ปอง เหมือนยามต้อง จากไกล ใจและจันทร์........ จันทร์แจ่มดวง นวลอร่าม งามหยาดหล้า ดวงดารา พริบพราย ไร้โศกสันต์ จันทร์ดวงงาม คู่นภา ทุกคืนวัน เหตุใดฉัน จึงต้องพราก จากดวงใจ!.....
20 เมษายน 2546 00:00 น. - comment id 128532
แล้ว wind of the saint ล่ะ ไม่เห็นมีครายเห็นใจมั่งเล้ย อิอิ พระพายมิกรายกลุ้ม..........มรสุมมิวางวาย ชื่นชมปฐมกราย................จะมลายณภายใน คือลมอศัตรู.......................มิตรรู้สุอื่นไหน คือเยาวปัจจัย....................ธนในมิร้างลา เอาอินทรวิเชียรไปก่อนเน้อ อิอิ
20 เมษายน 2546 00:04 น. - comment id 128536
งามแต่โบราณคำลมโหมโรมใจ เสียงพิณใสให้หวนชวนยลยิน พิไรลมผสมวิไรลมดลอาลัยลมผิน จมภวังค์พิณกังวานสิ้นใจไหลเย็นเห็นใจนางเอย
20 เมษายน 2546 01:06 น. - comment id 128588
ได้อ่านบทกวีที่เขียนของคุณอัลมิตรา ชวนให้ขนลุกซู่.....คำโบราณที่มากด้วยคุณค่า ผมว่าเป็นพรสวรรค์อย่างแท้จริงเชียวครับ ไม่มีใครเทียบเท่าแล้วในลานกลอนแห่งนี้ อดชื่นชมและปลื้มใจแทนไม่ได้จริงๆ ครับ
20 เมษายน 2546 05:38 น. - comment id 128611
ลมเอยพัดมาแล้วอย่าจากไปเลย เราเคยเคล้าเคลียเคียงกัน รักเย็นที่ให้ฉัน ยังจำมั่นมิลืมเลือน แบบแอร์ไม่อยากให้เสียหน้าร้อนอย่างนี้เลย แซวนิ
20 เมษายน 2546 09:11 น. - comment id 128631
...เข้ามาเยือนครับ... ...และขอประกาศ ณ ที่นี้ครับว่า..ข้าพเจ้าขออนุญาตนำบทกลอนนี้บางช่วง..ไปดัดแปลงแต่งเป็นกลอนในแบบฉบับของผม..นะครับ...หวังว่า..คุณอัลมิตรา...และตลอดจนมิตรในไทยโพเอ็มทุกท่าน..คงไม่ตำนิอะไรผมมากนัก..ในการนำผลงานของคนอื่นไป..(ไม่ทั้งหมดครับ)...แล้วจะนำมาให้อ่านกัน..นะครับ.. .................สวัสดีครับ..........................
20 เมษายน 2546 12:09 น. - comment id 128675
... ดีจัง ... ขอบคุณค่ะ
20 เมษายน 2546 17:08 น. - comment id 128809
เป็นผลงานที่มีคุณค่ามากค่ะ..ควรแก่การเผยแพร่..เพื่อประโยชน์แก่สังคมต่อไปค่ะ..
20 เมษายน 2546 20:49 น. - comment id 128892
ขอบคุณค่ะ ทุกๆคน.. ยินดีค่ะ คุณใบบอนแก้ว เชิญตามสะดวกค่ะ
20 เมษายน 2546 21:05 น. - comment id 128896
WIND OF CHANGE ........Scorpions.... ขณะเมื่อฉันเดินมุ่งหน้าไปยังวิหาร ตามเส้นทางเดินที่มุ่งไปยังสวนสาธารณะ แว่วเสียงลมพัด ในยามค่ำคืนเดือนสิงหาอันอบอุ่น ฉันเดินสวนทางกับทหารเรือคนหนึ่ง ที่เดินผิวปากอย่างสบายอารมณ์ หากโลกสลาย คุณปรารถนาที่จะทำสิ่งใด เมื่อชีวิตแตกดับ วิมานในสายลม ฉันคล้ายดังกับว่าทุกสิ่งนั้นได้สูญสลายไปกับสายลมหมดแล้ว โปรดช่วยฉันหน่อย จงช่วยดลบันดาล ให้ค่ำคืนอันแสนสุขนี้ ที่ซึ่งเป็นแนวทางสร้างฝันให้กับคนรุ่นใหม่ ย้อนเวลากลับไปยังชีวิตในวัยเด็กอันแสนสุข ด้วยสายลมอันอบอุ่นนี้ ตลอดเส้นทางอันยาวไกล ฝังดีตที่ข่มขื่นให้สิ้นไป ทุกถิ่นที่ฉันได้ไปเยือน ได้มลายหายไปกับสายลมผ่าน แบ่งปันความฝันอันบรรเจิด ด้วยเธอกับฉัน วอนสายลมโบก ให้ย่างก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง เฉกเช่นกังหันลมที่หมุนวน สู่อิรภาพที่สดใส ด้วยเสรีภาพในใจฉัน ฝากเสียงเพลงอันไพเราะ มาพร้อมเสียงกีต้าร์คู่กายฉัน โปรดช่วยฉันสร้างความฝันให้บรรเจิด ในค่ำคืนอันแสนสุขนี้ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับเด็กในวันข้างหน้า ด้วยการร่วมใจของเธอและฉัน ทำฝันให้เป็นจริงกับสายลมที่แปรเปลี่ยน ** ฝากให้คุณใบบอนแก้วค่ะ แปลมาคร่าวๆจะเนื้อเพลงwind of change ค่ะ
20 เมษายน 2546 21:59 น. - comment id 128927
....ขอขอบคุณครับ...คุณอัลมิตรา...ผมเขียนไปแล้วนะครับ...แว่วเสียงลม(กลอนกลบท# 18) ....http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_32606.php ...............................สวัสดีครับ.......................
21 เมษายน 2546 02:04 น. - comment id 129085
ต้องเรียกซือแป๋ ได้แล้ว
21 เมษายน 2546 08:18 น. - comment id 129140
ซือแป๋ เป็นผู้ชายนะ สงสัยเรียกคุณใบบอนแก้ว ..
21 เมษายน 2546 11:05 น. - comment id 129213
โห นี่ผู้หญิงรึนี่ เก่งจังเลย รู้งี้กะลิ้มกะเหลี่ยซะนานแล้ว
21 เมษายน 2546 12:45 น. - comment id 129310
:) ไม่มั่นใจตัวเองแล้วแฮะ ..
3 มีนาคม 2554 10:26 น. - comment id 145427
อ่านบทกลอนคำแปลไม่มีวันเบื่อ และอยาก ทราบนะว่ามีแรงดลใจอะไร/เหตุใด/ความรู้สึกลึกๆที่ทำให้ผู้แต่งได้แต่งเพลงนี้ขึ้น
15 กุมภาพันธ์ 2554 15:38 น. - comment id 145457
สุดยอดดดดดดด.........