หมอกคลี่ม่านผ่านป่าเป็นฝ้าขาว เร้นเรื่องราวลึกลับและสับสน ชีวิตป่ากล้ากร้านการดิ้นรน ด้วยเหตุผลผูกพันสัญชาตญาณ อวลอาถรรพณ์อันแทรกหว่างแมกไม้ เหมือนทำให้ป่ามีปาฏิหาริย์ ธรรมชาติกำหนดปรากฎการณ์ เป็นตำนานแห่งป่าน่าหวาดกลัว ป่าทั้งป่าเป็นลานการฆ่าเข่น ใต้หลืบเร้นรกร้างลางสลัว ความอับชื้นน่าสะพรึงซึ่งโรยตัว หว่านความชั่วฉลโฉดโหดทารุณ สัตว์ถูกสอนให้ฆ่าเพื่ออาหาร โดยสันดานก้าวร้าวราวแรงหนุน ทุกเขี้ยวเล็บหยาดเหงื่อเพื่อลงทุน เพียงเจือจุนต่อวัยไปอีกวัน หมอกแผ่ความหวาดกลัวคลุมทั่วป่า เริงลีลาเลวระยำการห้ำหั่น ป่าคอนกรีตปกคลุมโดยกลุ่มควัน รับอาถรรพณ์การฆ่าจากป่าดง คนถูกสอนให้ฆ่าอย่างบ้าคลั่ง เพื่อบัลลังก์ทรราชทาสความหลง ทุ่มเรี่ยวแรงแย่งชิงความยิ่งยง จนเสริมส่งสงครามให้ลามดิน คนเดินทางห่างมากมาจากป่า เปลืองเวลาดิ้นรนพ้นยุคหิน สันดานเดิมเริ่มเผยความเคยชิน ยุคทมิฬก็ย้อนกลับทับเส้นทาง
7 เมษายน 2546 10:07 น. - comment id 123268
เอมก็เคยมีนะคะสมุดรวมกลอน ------- แต่ว่า เพื่อน ๆ เอมน่ารักค่ะ -- ยืมไปแล้วไม่ยอมเอามาคืนอ่ะ -- อยากเจอเพื่อนเหมือนกานอ่ะ -- จาได้ทวงสมุดสุดหวงคืนอ่ะ ---
7 เมษายน 2546 11:05 น. - comment id 123290
น้อมเรียนรู้ครับ
7 เมษายน 2546 11:51 น. - comment id 123313
เอม...เหมือนกันเลย ดีแต่บางชิ้นยังพอจำได้น่ะ น้ำ...เรียนรู้จากความผิดพลาดของคนแก่เหรอ อิอิ
7 เมษายน 2546 12:16 น. - comment id 123321
คนแก่ที่ความจำดี ... :) อะแฮ่ม ...
7 เมษายน 2546 12:58 น. - comment id 123329
สุภาษิตบอกว่า สูงสุดสู่สามัญ ไม่ทราบว่าจริงเท็จแค่ไหน ในวันนี้กับวันที่มนุษย์เรากำลังย้อนกลับในทางที่เคยเดินมาในหลายๆ เรื่องราว ลุงเวทย์นำปรัชามาให้ขบคิดเสมอนะครับ ประทับใจครับ ลุงเวทย์
7 เมษายน 2546 13:40 น. - comment id 123338
ลุงจ๋าลุงเวทย์ แสดงเหตุใด แลทำไม แลเมื่อไร แก้ไข้ทุกที มีคุณภาพ คุณประโยชน์ คุณธรรม ล้ำในใจ คล้ายลอยคลาไคร ไรไรไป ไม่เห็นลอยเท้า ทางท่าทีทำแต่ฝังใจจำ จนจดจารขานกลอนนอนหลับมิลงนิ
7 เมษายน 2546 16:11 น. - comment id 123373
อ่ะโห... แจมพึ่งจะเกิดอ่ะค่ะ ปีนั้น.. ท่าทาง ลุงเวทย์จะมีอีก แล้วเอามาให้อ่านอีกนะคะ
7 เมษายน 2546 18:10 น. - comment id 123423
ชอบมากค่ะ..กับคำว่า..ยุคทมิฬก็ย้อนกลับทับเส้นทาง..คุณลุงเวทย์สื่อได้ชัดเจนมากค่ะ...มองเห็นภาพได้เลย...เยี่ยมมากค่ะ..
7 เมษายน 2546 19:55 น. - comment id 123469
ยังไม่เกิดเลยค่ะ (*_*)
7 เมษายน 2546 20:46 น. - comment id 123482
คงพูดอะไรไม่ได้นอกจากบอกว่างานชิ้นนี้เขียนเท่าที่ความสามารถในขณะอายุ 20 ปีมีอยู่ แต่ตอนนี้ก็ทำไม่ได้ดีกว่านั้นนักหรอก..แหะๆ หลังจากนั้นไม่นานก็ร้างลาวงการไป ก่อนจะแวะมาที่นี่เมื่อปลาย กย.45 และคงทำตามที่สีน้ำฟ้าขอลำบาก เพราะไม่ได้เก็บไว้แล้ว บางทีจะลองขอยืมหนังสือรวมกลอนที่รวมกับเพื่อนๆจากเพื่อนคนหนึ่งได้ แต่ไม่รับปากนะ
7 เมษายน 2546 21:27 น. - comment id 123486
อันความโลภมิเคยลาจากโลก สร้างความโศกความเศร้าอยู่มิหาย เห็นแก่ตัวเกลียดแค้นจนชีพวาย รู้เมื่อสายก็สิ้นคนคบหาเอย
7 เมษายน 2546 21:51 น. - comment id 123495
หรูมาก กลอน เลิศลอย เพรื่อมพราย สละสลวย
7 เมษายน 2546 22:03 น. - comment id 123500
เดินอย่างไรให้ย้อนกลับครับลุงเวทย์ เดินสุดเขตเทศขัณฑ์ในวันนี้ เดินไปมาสับสนให้ตนดี เดินดีดีระวังตกหมกส้วมตาย อิอิ
7 เมษายน 2546 22:13 น. - comment id 123502
ยังทันสมัยทันเหตุการ ย้อนกลับมาได้จริง
7 เมษายน 2546 22:43 น. - comment id 123527
2515...อืม...ยังเป็นฟ้าเป็นฝนอยู่เลยค่ะตอนนั้น :p อ่านกลอนลุงเวทย์แล้วลื่นไหลดีจังค่ะ อ่านไปก็คิดตามทีละบรรทัด...ซูฮกค่ะ...
8 เมษายน 2546 09:00 น. - comment id 123704
skyman...เห็นด้วยนะ และขอเสริมว่าไม่มีใครทำลายเราได้เท่าตัวเราเอง ใครก็ทำร้ายร่างกายเราได้ แต่เราเท่านั้นที่ทำร้ายจิตใจตัวเองได้ ม้าก้านกล้วย...นี่ถ้าชมตอนเพิ่งเขียนงานชิ้นนี้หมาดๆ มีหวังลอยเหลิงไปเลย ฮี่ฮี่ ลม+ฤกษ์...วงจรอุบาทย์ คืออีกสิ่งที่เป็นสัจจธรรม โคลอน...ตอนนี้ก็ยังเป็นฝนอยู่ไม่ใช่เหรอ อิอิ
9 เมษายน 2546 23:07 น. - comment id 124645
สุดยอดเลยลุง ชอบเนื้อหา ครับ
10 เมษายน 2546 01:14 น. - comment id 124725
:)
10 เมษายน 2546 01:46 น. - comment id 124726
อ่านแล้วชอบค่ะ กินใจในทุกถ้อยคำค่ะ
10 เมษายน 2546 17:19 น. - comment id 124961
เชษ,ไข่เจียว.สเลเต : :)
10 เมษายน 2546 20:03 น. - comment id 125014
:).. ยิ้ม...แบบไข่เจียว.. ...... .. แอบมุมห้อง.. ((((มอง)))))...
11 เมษายน 2546 00:29 น. - comment id 125201
วกวนวงเวียนโลกโศกสุขสันต์ คืนและวันกลับวนคนจนหวั่นไหว เกิดมาแล้วพบพุทธศาสนาน้อมนำใจ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ทางพักใจไม่วนกรรมย้ำรอยเดิม..
26 เมษายน 2546 21:22 น. - comment id 131726
เหมือนจะมาช้าไป ......