เพราะไม่เคยรู้สึกนึกข้ามขั้น
ลำพังฝันยังประหม่านิจจาเอ๋ย
หากสัมพันธ์ทั้งปวงคล้ายล่วงเลย
คนอาจเย้ยเยาะยันอัลมิตรา
ก็แค่อยากมีเพื่อนเหมือนอย่างก่อน
เพียรเขียนกลอนบากบั่นเพ้อฝันหา
หวังอาศัยนัยกลอนหย่อนอุรา
เผื่อสร้างค่าบังเกิดผลพจน์ดลใจ
" .. ดุจเด็กน้อยคอยเพื่อน ณ เรือนเก่า
ทุกวันเฝ้าชะเง้อมองหน้าผ่องใส
เพื่อนมาแล้วแก้วเกลอ..เออ ทักไป
ชวนวิ่งไล่รอบลานหน้าบ้านตน
จวบเมื่อเพื่อนห่างหายคล้ายห่างเหิน
เด็กน้อยเดินเสาะไปไม่พบผล
เพื่อนอยู่ไหน ? ไปไหน ? ให้ทุกข์ทน
เพื่อนไม่สนหรือไร ? ไม่เห็นมา
เฝ้าคอยแล้วคอยเล่าเฝ้าแต่คอย
เจ้าเด็กน้อยชะเง้อมองจ้องเบื้องหน้า
เช้าจรดค่ำ ค่ำจรดเช้า เศร้าวิญญาณ์
จนน้ำตาพรั่งพร้อยร่องรอยมี
จวบวันหนึ่งแจ่มใสได้ยินเสียง
จึงมองเมียงก็ประจักษ์เป็นสักขี
โอ้ ! เด็กน้อย คอยท่ามาแรมปี
เพื่อนคนดีกลับอยู่อู้อีกเรือน
เสียงหัวร่อล้อเล่นคล้ายเข่นฆ่า
ยังอุตส่าห์ลอบดูผู้เป็นเพื่อน
หากเทียบความสำคัญมันสะเทือน
เพื่อนไม่เยือนแสดงว่าปราศค่าใด
กลับถึงบ้านพาลป่วยด้วยใจเจ็บ
แต่ก็เก็บความทุรนทุกข์หม่นไหม้
ใช่เรื่องเล็กเด็กน้อยแสนน้อยใจ
สะอื้นถาม .. ทำไมเพื่อนไม่มา ? .. "
ฉันก็เหมือนเด็กน้อยคอยทุกวัน
ในโลกฝันเสมือนจริงอิงเทียบค่า
ฤๅ สำคัญฉันน้อยพลอยเวทนา
เขาไม่มาเยี่ยงเคยเลยระทม