สูงตระหง่านลิบลิ่วเทียมทิวเมฆ เหมือนเทพเสกสรรค์สร้างจากกลางหาว ยอดทอดถึงสถานวิมานดาว เด่นสกาวภูผาหิมาลัย เป็นหลังคาของดินแดนชมพูทวีป หล่อเลี้ยงชีพชาวชนจนเติบใหญ่ รุ่นต่อรุ่นเกินนับอัประไมย ล้วนอาศัยสุขศานต์เนิ่นนานมา แล้ววันหนึ่งเหตุร้ายไม่คาดคิด เข้าประชิดจุดเพลิงถึงเชิงผา หิมาลัยไขคำร่ำน้ำตา ช้ำเพราะว่าเป็นผลเพราะคนทำ ข้ายืนยงตระหง่านมานานแล้ว ไร้วี่แววโลกร้อนรอนกระหน่ำ ครั้นพอมีโรงงานปล่อยม่านดำ คนเหยียบย่ำธรรมชาติพินาศไป ข้าก็ยิ่งถอนใจให้รันทด อนาคตไม่รู้อยู่ที่ไหน แม้หิมะบนมหาหิมาลัย หวั่นหวาดภัยละลายหลากมากทุกที อีกผองภัยธรรมชาติฉกาจกล้า ยิ่งสำแดงฤทธาบ่อยเหลือที่ ข้าหมายช่วยอย่างไรก็ไม่มี ทางต่อตีหยุดยั้งกำลังมัน แม้แต่ว่าหิมาลัยในยามนี้ ภัยเริ่มปรี่รอเวลาจักอาสัญ เมื่อน้ำตาหิมาลัยไหลนองพลัน นั่นคือวันล่มสลายหลายล้านคน ......................................................... ภาวะโลกร้อนในปัจจุบัน ส่งผลกระทบต่อภูเขาหิมาลัย หิมะที่ปกคลุมยอดเขา เริ่มมีการละลายอย่างรวดเร็ว และเกิดทะเลสาบ จำนวนมากมายหลายแห่ง โดยสิ่งเหล่านี้ล้วนมาจาก อุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้น เชื่อว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ อาจเกิดผลกระทบต่อทุกชีวิต ที่ต้องพึ่งพามหาหิมาลัยแห่งนี้ อย่างแน่นอน
7 มีนาคม 2556 22:29 น. - comment id 1256326
เศร้านะ ธรรมชาติอยู่ดี ๆ ก็ทำลายมัน โดยไม่มีทางต่อสู้
8 มีนาคม 2556 07:49 น. - comment id 1256333
แม้หิมะบนมหาหิมาลัย ................................................... ชอบครับท่อนนี้......น้ำตาหิมาลัย ไม่รู้สิครับว่าเราจะพอทำอะไรได้บ้าง
10 มีนาคม 2556 12:45 น. - comment id 1256474
นับวันโลกจะร้อนขึ้นๆๆๆ ผมอยู่ภูเก็ต ได้ไม่กี่เดือน ผิวจะเกรียมแล้ววว ไม่ใช่ ต้นไม้เขาไม่มีนะครับ แต่แรงโกรธจาก สาวอาทิตย์รุนแรงมาก ผมจะทนมะไหวแย้ววว
10 มีนาคม 2556 14:29 น. - comment id 1256491
น้ำมือคนทัี้งนั้นเลยนะค่ะที่ทำให้โลกร้อน แถมร้อนขึ้น ๆ ทุกวันเลยค่ะ