แรกลืมตาฟ้าสวยด้วยเมฆขาว ดังเรื่องราวกถามุขอันสุขสันต์ สุดแผ่นดินถิ่นน้ำฉ่ำชีวัน สุดไพรสัณฑ์กว้างไกลสุดสายตา หวานแว่วเพียงเสียงร้องทำนองนก กล่าวสาธกโชยพระพายผ่านชายป่า รินเพลงพรสันติซึ้งอันตรึงตรา ของบินหลาจากวังกำบังไพร จากอดีตซึ่งสลายมาไกลโพ้น เพลงอ่อนโยนกังวานอย่างหวานไหว ภาพแผ่นภพสงบศานต์จารหัวใจ ที่สุดใต้แดนสยามจงรามเรือง แล้ววันนี้เสียงสนั่นดุจฝันร้าย ก็ทำลายความสุขในทุกเรื่อง ควันสีเทา เขม่าปืนเข้ากลืนเมือง และตรงเบื้องหน้าที่พบคือ...ศพคน เพลงบินหลาลาลับไปกับเมฆ กระสุนเสกความตายรายทั่วหน ระเบิดเปรี้ยงเริ่มเวลาจลาจล ท้องถนนนั้นพบว่าทาเลือดแดง เมื่อลืมตารับตะวันในวันนี้ มิอาจมีคำเปรยเอ่ยแถลง ดวงตาฉายประกายขลาด หวาดระแวง นวลแก้มแฝงรอยช้ำของน้ำตา พรุ่งนี้หวังเฝ้ารอท่าบินหลากลับ เพื่อมาขับบทเพลงบรรเลงกล้า แม้วันนี้คำตอบที่ขอบฟ้า สั่นและพร่าว่าอาจเฝ้านานเท่านาน
18 กุมภาพันธ์ 2556 00:39 น. - comment id 864911
เป็นบทกลอนสะท้อนความเป็นจริงที่สะเทือนใจจ้ะ
17 กุมภาพันธ์ 2556 23:36 น. - comment id 1153071
บุหลันเลื่อน เคลื่อนคล้อย ลอยลงต่ำ น้ำค้างพรำ พร่ำพรอด กอดยอดหญ้า หริ่งเรไร แซ่ซ้อง ก้องพนา หมู่ปักษา เกรียวกราว ทั่วราวไพร อีกไม่นาน สุริยน พ้นขอบฟ้า ก็ถึงครา ดวงจันทร์ นั้นหลับไหล วัฎจักร ชีวิต วนเวียนไป รุ่งฟ้าใหม่ เริ่มวัน ตามครรลอง. ***ขอให้บินหลา กลับมา ใช้ท้องฟ้านี้อย่างอิสระเสรี ในเร็ววันนี้ด้วยเทอญ.**
17 กุมภาพันธ์ 2556 15:07 น. - comment id 1153338
นึกถึงเพลง "บินหลา" วงแฮมเมอร์ คะ ขอบคุณบทกลอน คุณเปลวเพลิง นะคะ
20 กุมภาพันธ์ 2556 08:04 น. - comment id 1255548
ขอให้ทุกคนปลอดภัย ห่วงใยเช่นกันครับ