ปุยเมฆหมอกลอยเยือนเคลื่อนคลอเคล้า ปลุกภาพแห่งวันเก่าให้ลุกตื่น แม้เนิ่นนานกาลผันผ่านวันคืน บรรยากาศปลุกฟื้นรื้อวานวัน แม้คอนกรีตตึกสูงไร้ยูงทอง ไร้ทิวเขาคาดคล้องลำธารสั้น ช่างแตกต่างจากผืนพนาพรรณ แต่ความคิดถึงนั้นพอบรรเทา ลายละเอียดเอ่ยอ้างอย่างมากมาย บางทรงจำหนีหายผลัดกันเล่า เพียงสายเมฆกลายหมอกมาหยอกเย้า หรืออาจเป็นความเหงาเข้าทักทาย เราไม่อาจหยุดวันให้ผันผ่าน ในทุกฤดูกาลมากความหมาย อาจเป็นความคิดถึงที่ทักทาย ก่อนซีดจางจนหายจากทรงจำ เรายังหลับและตื่นฟื้นวันใหม่ ดอกไม้บานผลัดใบให้ดื่มด่ำ ต่างภาระรับผิดชอบใครมอบทำ กลับทุกยามงามล้ำกำลังใจ จวบมาจนวันนี้กี่ปีผ่าน จนวสันต์สิ้นกาลสู่วารใหม่ อาจคิมหันต์หอบหิ้วปลิวดอกใบ ความทรงจำหวามไหวให้หลงลืม หากหัวใจเราคงคิดถึงกัน ผลัดเล่าขวัญเรื่องราวคราวปลาบปลื้ม เสียงหัวเราะเปื้อนยิ้มให้หยิบยืม ต่างยกความทรงจำขึ้นดื่ม...ยากลืมเลือน
30 พฤศจิกายน 2555 13:06 น. - comment id 1251900
หากใจคิดถึงกันวันละนิด ในดวงจิตปลาบปลื้มมิลืมหลง ในเส้นสายความจำยังดำรง ความมั่นคงทรงไว้ในดวงจินต์
30 พฤศจิกายน 2555 14:28 น. - comment id 1251908
บทสุดท้ายนี่โดนใจนะคะ
30 พฤศจิกายน 2555 17:07 น. - comment id 1251928
วันใดท้อขอพักใจที่ตรงนี้ วันใดดีโปรดรักษาเยียวยาผู้อื่น วันใดยิ้มจงแบ่งยิ้มให้ทุกข์ลืม วันใดปลื้มจงบอกเพื่อนอย่าเชือนแช
1 ธันวาคม 2555 14:42 น. - comment id 1251950
ชอบบทสุดท้าย ราวกับเป็นวรรคทอง
5 ธันวาคม 2555 20:27 น. - comment id 1252110
เยี่ยมจริง ๆ
8 ธันวาคม 2555 21:19 น. - comment id 1252309