ตัวตึกรามบ้านช่องทั้งห้องหับ พร้อมเปิดรับแขกเหรื่อเผื่อสังสรรค์ โสตสุ้มเสียงเซ็งสงบและเงียบงัน ผูกสัมพันธ์ผู้คนด้วยกลใด เหล่านกน้อยคล้อยบินไปถิ่นอื่น ต้นหญ้าเหี่ยวแห้งยืนฝืนตนไหว แล้วสายลมแล้งล้างจนจางไป ล้วนผู้คนขวักไขว่ในโลกตน สวมเสื้อผ้าอาภรณ์กันร้อนผิว กระหายหิวเสรีทุกแห่งหน หลากวัตถุแต่งแต้มเติมดวงมน ราวสายชลศักดิ์สิทธิ์แสร้งศรัทธา ความเห็นอกเห็นใจใครเล่ามี เพียงเนื้อความเหล่ากวีวาดไว้ว่า โลกอุดมคติต่างมายา แต่กลับยากเกินกว่าหาได้พบ บนถนนทุกสายระโยงยาง แต่ละคนเดินทางยากบรรจบ ต่างไขว่คว้าสิ่งฝันกันกว่าครบ เพื่อเกลี่ยกลบที่ว่างระหว่างใจ แล้วเอ่ยอ้างความสัมพันธ์ฉันใฝ่หา ระบายเหงาเต็มแววตาจนพร่าไหล ทั้งทั้งที่แวดล้อมด้วยใครใคร กลับหวามไหวเหว่ว้าในอารมณ์ แล้วสร้างโลกเสมือนจริงขึ้นสิงสู่ ผลักหัวใจอาศัยอยู่อย่างสุขสม สายสัมพันธ์ไร้ขอบเขตช่างชื่นชม หลอกตัวเองรื่นรมย์อย่างคมคาย ตัวตึกรามบ้านช่องทั้งห้องหับ จึงปิดรับแขกเหรื่อเหล่าสหาย โทรศัพท์คอมพิวเตอร์ตั้งเคียงกาย ทุกหัวเมืองมากมายกลายเมืองร้าง
14 พฤศจิกายน 2555 16:54 น. - comment id 1250911
ชอบจังค่ะ หลอกตัวเองรื่นรมย์อย่างคมคาย
14 พฤศจิกายน 2555 20:39 น. - comment id 1250936
14 พฤศจิกายน 2555 20:58 น. - comment id 1250940
อือ ทุกอย่างล้วนเป็นจริง ชอบ ๆ เมืองร้าง ใจร้าง ห่างชีวิต มีจิตไร้ดวงใจใช่ไหมหนา เหมือนมีสุุขกลับยิ่่งทุกข์ทุกทิวา ฤาเกิดมาเหมือนเมืองร้างห่างคุณธรรม
16 พฤศจิกายน 2555 18:18 น. - comment id 1251108
ดีจัง เมืองร้างอย่างนี้คงไม่มีองคมนตรีสิท่า