โลกใบหนึ่งสีเทาเขม่าไอเสีย บางใครร้อนอ่อนเพลียเพราะอบอ้าว แม้ท่ามกลางฟ้ามืดไม่เห็นดาว บนทางเท้าเดินเลี่ยงมอเตอร์ไซค์ ยังพอเห็นดวงจันทร์สว่างหม่น ไม่รู้ฝนจะสาดเสียเมื่อไหร่ หากกางร่มเพราะร้อนแสงหลอดไฟ ฤดูฝนชั่วโมงใดใครจะเดา ฉันยืนอยู่บนผืนดินดงป่าปูน หญ้าคอนกรีตโบกพูนเป็นฐานเสา กระจกกั้นผนังแบ่งแยกเขาเรา ชมละครน้ำเน่ายามผ่อนคลาย อาจจะเป็นเพราะฟ้าไร้แสงดาว ความใฝ่ฝันของหนุ่มสาวทั้งหลาย อยากจะเป็นดาราตะเกียกตะกาย ราวกับเป็นความหมายของชีวิต โลกยังคงหม่นเศร้าเขม่าไอเสีย ฝนตกสุดละเหี่ยให้รถติด บางทีก็ชื่นฉ่ำฝนมลพิษ บนโลกที่เบี้ยวบิดสีหม่นเทา
29 กันยายน 2555 14:44 น. - comment id 1247035
สวัสดีคุณกวีปกรณ์ ชิ้นนี้ถูกรสนิยมผมครับ มันคาบเส้นระหว่าง กลอนพาไป กับ พากลอนไป และคุณตัดสินใจให้น้ำหนัก เหมาะเจาะ มากกว่า คล้องจอง ผมชอบแบบนี้ครับ พับผ่า?.
29 กันยายน 2555 15:30 น. - comment id 1247037
เป็นไร หมู่นี้ อารมณ์กลอนเหรอ โพสต์บ่อยนะ
29 กันยายน 2555 16:02 น. - comment id 1247040
ชอบดูละครน้ำเน่านะคะ
29 กันยายน 2555 18:15 น. - comment id 1247053
โลกอีกด้านผ่านแสงแห่งเพ็ญแข สายตาแลแดมองผองขุนเขา แสงนวลทาบอาบร่างอย่างบางเบา นำพาเงาก้าวไปใในราตรี เสียงเพลงไผ่หวีดหวิวพลิ้วรู้สึก น้ำค้างดึกพร่างพรมห่มสุขขี ดอกไม้ป่าดาษดื่นชื่นฤดี ทั้งชีวีพลีอยู่คู่พงไพร
29 กันยายน 2555 19:03 น. - comment id 1247056
ปรัชญายอดเยี่ยม
30 กันยายน 2555 10:52 น. - comment id 1247088
30 กันยายน 2555 13:42 น. - comment id 1247113
มลพิษเยอะค่ะ นั่งรถตอนเช้าๆ ออกจากบ้านอย่างอารมณ์ดี มาเจอคนพ่นควันบุหรี่ใส่ พี่นะอยากจะเขกกะบาลจริงๆ แต่กลัวเขาหันมาชกให้ เพราะไม่รู้จักกัน อิอิ
30 กันยายน 2555 22:25 น. - comment id 1247128
เป็นละครน้ำเน่าที่เราสร้าง หลงละวางทางธรรมนำมาสุม โลกสีเทาไม่เหมาะเพราะร้ายรุม จะกลัดกลุ้มฉันใด ..ใครเล่าทำ !