ปัญหาเรื้อรังบนเขาค้อ หลังสงครามสมรภูมินามเขาค้อ รอส.ได้ที่ดินทรัพย์สินหลวง สิบห้าไร่ต่อคนผลพลอยดวง เวลาล่วงผ่านไปให้นายทุน กองทัพขอมาจากกรมป่าไม้ เหตุไฉนเปลี่ยนมือคือสถุล สร้างรีสอร์ตบ้านพักตักตวงคุณ ป่าเขาขุนพงไพรให้ตนเอง เพชรบูรณ์ - ทหารกองพล ม. 1 ค่ายพ่อขุนผาเมือง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ลุยจัดที่ดินเขาค้อให้เข้าสู่ระบบหลังจากเรื้อรังมานาน 30 ปี ปัญหาเรื้อรังกรณีที่ดินที่ทางทหารขอใช้จากกรมป่าไม้ จัดเป็นที่ดินทำกินให้ ราษฎรอาสาสมัคร (รอส.) บริเวณ เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ หลังสงครามสิ้นสุดลง เพื่อพัฒนาอาชีพให้กลุ่มราษฎรที่ไปช่วยรบ แต่ปรากฏว่า กลับมีกลุ่มนายทุนเข้ามาซื้อต่อจาก รอส.ด้วยช่องทางต่างๆ มาสร้างรีสอร์ทหรูและบ้านพักตากอากาศ ขยายอาณาเขตไปเรื่อยๆ ถึงปัจจุบันมีรีสรอ์ทหรูกว่า 80 ราย แม้ว่าทางทหารจะดำเนินการกับกลุ่มผู้บุกรุกไปแล้วบางส่วน และพลเอกพิจิตร กุลละวนิชย์ องคมนตรี ได้ติดตามกรณีดังกล่าวอย่างใกล้ชิด แต่ปัญหาก็ยังคาราคาซังมาจนถึงปัจจุบัน ล่าสุดทางกองพลทหารม้าที่ 1 โดย พ.อ.สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล รอง ผบ.พล. ม.1 ทำการแทน ผู้บัญชาการกองพล ม.1 ได้ลงคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุด มี พ.ท.บันเทิง บุญชู จร. พล ม.1 เป็นหัวหน้า ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีการร้องเรียนสิทธิครอบครองที่ดินและการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน ของ รอส. เขาค้อ โดยคณะทำงานได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่ามีการบุกรุกพื้นที่ตามแนวที่ดินของทหารในเขต อ. เขาค้อ แทบทั้งสิ้น ต่อมา พ.ท.เอกพล นิโลดม นายทหารพระธรรมนูญ กองพลทหารม้าที่ 1 คณะทำงานได้รายงานและแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และได้ออกหนังสือด่วนมาก ที่ กห 0483.2/ ธน. 35 ลงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2552 ให้ผู้บุกรุกจำนวน 8 ราย ซึ่งรวมทั้งรีสอร์หรูบางแห่งในพื้นที่ด้วย ให้ขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกจากพื้นที่ภายใน 30 วัน หลังจากที่ได้รับหนังสือ หากไม่ปฏิบัติตามจะดำเนินการทั้งทางแพ่ง ทางอาญาอย่างเด็ดขาด เนื่องจากมีการบุกรุกเข้ามาก่อสร้างรีสอร์ท ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ เป็นการใช้ที่ดินผิดวัตถุประสงค์ ของกองทัพภาคที่ 3 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 3 ที่ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (โดยความเห็นชอบจากกรมป่าไม้) เพื่อจัดให้เป็นที่อยู่อาศัยและทำการเกษตรเฉพาะแก่ราษฎรอาสาสมัคร (รอส) ในโครงการพัฒนาลุ่มน้ำเข็ก อ. เขาค้อ จ. เพชรบูรณ์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเกษตรกรรม ดูแลรักษาสภาพป่าไม้ให้สมบูรณ์เพื่อเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารเท่านั้น ในส่วนผู้ที่ถูกแจ้งเตือน รายหนึ่งกล่าวว่า การแก้ไขปัญหาของทหาร บางครั้งอาจทำไปไม่ครบถ้วนเพราะยังมีความเกรงใจเพราะผู้บุกรุก บางคนเคยมีอำนาจ หากต้องการเอาผิดกับผู้บุกรุกจริงๆ ต้องดำเนินการทั้งหมดโดยไม่ยกเว้น เพราะเท่าที่สังเกตุมีรีสอร์ทบางแห่งที่มีทหารเป็นนายหน้าขายที่ดินให้และรับเป็นผู้ดูแล กลับไม่ถูกแจ้งเตือนให้ย้ายออก ทั้งที่มีการบุกรุกสร้างรีสอร์ทเช่นกัน รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ผ่านมาได้มีผู้ใหญ่บ้านหมู่1 ตำบลหนองแม่นา อ. เขาค้อ จ. เพชรบูรณ์ เคยร้องกับ นายกษิต ภิรมย์ รมว. ว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่มาในพื้นที่และได้ร่วมประชุมกับผู้นำส่วนต่างๆที่ อ. เขาค้อว่า ทุกวันนี้สับสนและหากเป็นไปได้ขอให้ทางการหรือรัฐบาลได้ออกเอกสารสิทธิในที่ดินทำกินให้กับราษฎรด้วย เพราะต้องการมีหลักฐานในการครอบครอง และเมื่อมีโฉนดจะได้เอาไปจำนำหรือกู้เงินจากแหล่งการเงินเพื่อที่จะได้เงินมาส่งลูกเรียนหนังสือ แต่เนื่องด้วยนายกษิต ยังไม่ได้รับเรื่องและรายละเอียดในเรื่องนี้ นายกองเอกวิลาศ จุริวัฒนพงศ์ ผู้ว่าราชการ ที่เข้าร่วมประชุมเพื่อรับทราบปัญหา ได้มอบให้ พ.อ. ชัยณรงค์ แกล้วกล้า เสธ กองพล ม. 1 ชี้แจงในเรื่องที่ดินเขาค้อ แทน นายกษิต ภิรมย์ รมว. ต่างประเทศ พ.อ. ชัยณรงค์ แกล้วกล้า ชี้แจงว่า เรื่องที่ดินเขาค้อส่วนหนึ่งอยู่ในการควบคุมดูแลของกองทัพบก เพราะขอใช้พื้นที่และนำพื้นที่ส่วนหนึ่งมาจัดสรรให้กับ รอส. เขาค้อ และยังถือว่าพื้นที่เขาค้อนั้นเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารและยังเป็นเขตของทหาร จึงไม่สามารถที่จะอนุญาตให้ใครเข้ามาอาศัยโดยการบุกรุกเพราะพื้นที่ดังกล่าวทหารยังดูแลอยู่ ส่วนอนาคตจะเป็นอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับทางกรมป่าไม้ หรือรัฐบาลที่จะดำเนินการแต่ขณะนี้พื้นที่ยังอยู่ในการควบคุมดูแลของทหารขอใช้ ในส่วน พลเอกหาญ เพไทย ประธานทหารผ่านศึก เขาค้อ เรือนร่มเกล้า กล่าวว่า เรื่องที่ดินและการแก้ไขปัญหาเขาค้อนั้น ตนเองนั้นในอดีตที่ผ่านมาได้ร่วมบุกเบิกและทำการต่อสู้กับ ผกค. ในพื้นที่แห่งนี้มาในยุคของพลเอก พิจิตร กุลละวนิชย์ และนายทหารระดับสูงหลายๆนาย ซึ่งได้พยายามรักษาผืนป่าให้ดีที่สุด ในการจัดสรรมอบที่ดินให้กับราษฎรอาสาสมัคร ก็มีคำสั่งห้ามซื้อขายใดๆและให้ทายาทของ อาสาสมัครรับช่วงเป็นมรดกได้ แต่ทุกวันนี้ที่ดิน ของ รอส. เขาค้อถูกนายทุนยึดครองไปเกือบทั้งหมดแล้ว พลเอก หาญ กล่าวว่า ทุกครั้งที่พลเอกพิจิตร เดินทางมาที่ อ. เขาค้อ จะซักถามเรื่องการรุกพื้นที่เขาค้อว่าทหารของ กองพล ม. 1ทำงานคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว ซึ่งตนไม่สามารถตอบได้ น่าละอายใจอย่างยิ่งเพราะไม่สามารถดูแลพื้นที่ดังกล่าวตามพระราชกระแสรับสั่งของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระราชินินาถ ฯ ที่ทั้งสองพระองค์สั่งเสมอเรื่องที่ดินเขาค้อ เพราะทรงเป็นห่วงใยราษฎรอาสาสมัครเขาค้อเรื่องที่ทำกิน
31 สิงหาคม 2555 10:53 น. - comment id 1243886
รอส คือราษฎรอาสาสมัครที่ช่วยกองทัพภาคที่สามรบในสมรภูมิเขาค้อ น่าอนาถใจที่ที่ดินของรอสคนละ 15ไร่มีการซื้อขายหลายทอดจนนายทุนได้เข้าครองไปเกือบหมดแล้ว เขตอำเภอเขาค้อเกือบทั้งหมดเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ ยกเว้นบางส่วนของสามตำบลที่เป็นเขตสีชมพู ซึ่งไม่ได้อยู่ในเขตป่าสงวน มีราษฎรจับจองเป็นเจ้าของก่อนมีการประกาศเป็นป่าสงวนแห่งชาติ พิษณุโลก - ป่าไม้เดินเครื่องยึดรีสอร์ต เขาค้อ ต่อ ดำเนินคคดีเพิ่มอีก 6 แห่ง จับผู้ต้องหา 4 ราย ขณะที่ก่อสร้าง รีสอร์ตไร่ภูเพรียงฟ้า แถมรุกพื้นที่ปลุกป่าตามพระราชเสาวนีย์ร่วม 100 ไร่ พร้อมรอข้อมูลจัดสรรที่ดิน รอส.จากทัพภาค 3 ก่อนจัดระเบียบรีสอร์ตใหม่ทั้งหมด หลังกรมป่าไม้ กรมอุทยานฯ และทหารทัพภาค 3 เปิดยุทธการทวงคืน เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ตามคำสั่งของอธิบดีกรมป่าไม้ โดยมุ่งเน้นตรวจสอบพื้นที่ตลอดริมถนน 25 กิโลเมตร ตั้งแต่สามแยกแคมป์สน จนถึงตำหนักเขาค้อ ซึ่งเป็นพื้นที่ของกรมป่าไม้ จำนวน 1 แสนไร่ เว้นเพียง 5 หมื่นไร่ ที่รอกองทัพส่งข้อมูลตรวจสอบพื้นที่ขอใช้จากกรมป่าไม้ และได้จัดสรรให้ราษฎรอาสาสมัคร (รอส.) ว่า เหลืออยู่จริงอยู่เท่าใด เท่ากับว่า พื้นที่ป่าสงวนที่อยู่ในความดูแลของกรมป่าไม้ 5 หมื่นไร่ ถูกตรวจยึดจับกุมเป็นอันดับแรกก่อน เพราะเป็นการก่อสร้างรีสอร์ตในเขตป่าสงวนแห่งชาติ โดยปฏิบัติการครั้งนี้ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 (นครสวรรค์) ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้บุกจับคนงานเฝ้ารีสอร์ตไปแล้ว 13 คดี หรือ 13 ราย ใน 2 แปลงขนาดใหญ่ ล่าสุด วันนี้ (26 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ป่าไม้ สามารถจับจับกุมรีสอร์ตเพิ่มอีก 6 คดี หรือ 6 แห่ง สามารถจับผู้ต้องหา 4 คนในรีสอร์ต ไร่ภูเพรียงฟ้า ระหว่างกำลังสร้างรีสอร์ต และถือว่าบุกรุกพื้นที่ปลูกป่า ตามพระราชเสาวนีย์ร่วม 100 ไร่ ในบริเวณหมู่ที่ 1 ตำบลหนองแม่นา อำเภอเขาค้อ ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาปางก่อและป่าวังชมพู นายจำเนียร หนูแย้ม ผอ.ส่วนป้องกันสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 เปิดเผยว่า วันนี้ได้จับกุมผู้บุกรุกก่อสร้างรีสอร์ต ไร่ภูเพรียงฟ้า ได้ผู้ต้องหาจำนวน 4 ราย ขณะที่ก่อสร้างรีสอร์ต นอกจากนี้ ยังจับกุมรีสอร์ตบริเวณใกล้เคียง รวมทั้งหมดเป็น 6 คดี หรือจำนวน 6 รีสอร์ต การจับกุมครั้งนี้ได้ทำบันทึกจับกุมคดี เพื่อดำเนินดคี ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 และ พ.ร.บ.ป่างสงวนแห่งชาติ ในข้อหา ร่วมกันยึดถือครอบครองป่าสงวนแห่งชาติ นับจากนี้ต่อไปจะดำเนินการตรวจสอบรีสอร์ตที่อยู่ในเขตป่าสงวนทั้งหมด แต่กำลังรอข้อมูลจากกองทัพภาคที่ 3 ว่า ราษฎรอาสมัครที่นำที่ดินของกรมป่าไม้ ไปทำกินนั้น เหลืออยู่เท่าใด และถ้าหากผิดเงื่อนไขก็ดำเนินการจับกุมเช่นกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พื้นที่ก่อสร้างรีสอร์ตที่ถูกจับกุมในเฟสแรก ถือเป็นพื้นที่ของกลุ่มของนายทุน ที่ซื้อที่ดินต่อจากชาวบ้านเดิม ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนฯ ลักษณะเปลี่ยนมือ อาจเข้าข่ายไม่ใช่ผู้ครอบครองที่ดินก่อนมติ ครม.30 มิ.ย.40 ทว่าพื้นที่ขอใช้ของกองทัพภาคที่ 3 ยังถือว่า เป็นพื้นที่ ที่รอการตรวจสอบจากกองทัพภาคที่ 3 ว่า ผิดเงื่อนไขหรือเปลี่ยนมือหรือไม่ ก่อนส่งถึงมือสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 (นครสวรรค์) แหล่งข่าวจากกองทัพภาคที่ 3 เปิดเผยว่า พื้นที่อำเภอเขาค้อ เคยมีการจัดทำข้อมูลที่ดินจัดสรรแก่ราษฎรอาสาสมัคร (รอส.) ไปแล้วช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่เรื่องกลับเงียบ ทำให้วันนี้ พื้นที่บนส้นทางขึ้นพระตำหนักเขาค้อ เต็มไปด้วยบ้านพักและรีสอร์ตผุดขึ้นใหม่เป็นดอกเห็ด โดยเฉพาะตำบลสะเดาะพง ตำบลหนองแม่นา และที่ผ่านมา ชุดทำงานกองทัพภาคที่ 3 เคยเรียกราษฎรอาสาสมัคร ให้มารายงานพบว่า มีจำนวนไม่เกิน 169 ราย ซึ่งแต่ละคนได้รับการจัดสรรที่ดินคนละ 15 ไร่ ในระยะ 1-2 กิโลเมตรจากถนนใหญ่ แต่ ณ วันนี้ มีการบุกรุกแผ้วถางเพิ่มขึ้นมาก สำหรับสัญญาการขอใช้ประโยชน์ที่ดินจากกรมป่าไม้ของกองทัพภาค 3 ได้สิ้นสุดลงแล้วในบางแปลง และยืนยันว่า ไม่มีแม่ทัพภาคที่ 3 คนใด กล้าต่อสัญญากับกรมป่าไม้ เพราะรู้ดีว่า ผิดเงื่อนไข! เนื่องจากที่ดินเดิมของ รอส. ถูกเปลี่ยนมือไปอยู่กับนายทุนหมดแล้ว ล่าสุด กองทัพภาคที่ 3 ตรวจสอบพบ รีสอร์ทริมถนน มีจำนวน 39 ราย มีการเปลี่ยนมือไปแล้ว 29 ราย และถูกกองทัพภาคที่ 3 ดำเนินคดีและรื้อถอนไปเพียง 3 คดี ขณะที่ 10 รีสอร์ต ก็มีการบุกรุกเพื่อขยายพื้นที่รีสอร์ตลักษณะแผ้วถางป่าสงวน ข้อมูลที่ดิน รอส.ทั้งหมดกำลังรอการตรวจสอบและส่งให้สำนักจัดการป่าไม้ 4 นครสวรรค์ดำเนินการ หลังจากจัดการบ้านพักหรือรีสอร์ทหรู จำนวน 300-400 แห่งที่กรมป่าไม้ระบุว่าเข้าข่ายรุกป่าสงวนชัดเจน และถือว่าผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้และ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ หากไม่ใช่เป็นผู้ครอบครองดั้งเดิม
31 สิงหาคม 2555 11:05 น. - comment id 1243887
31 สิงหาคม 2555 11:09 น. - comment id 1243888
สามตำบลคือเข็กน้อย แคมป์สน และทุ่งสมอ ในแผนที่ที่เป็นสีชมพูคือเขตที่ไม่ใช่ป่าสงวนค่ะ
31 สิงหาคม 2555 11:23 น. - comment id 1243889
คนไทยที่อยู่ต่างแดนจำนวนมากที่มิใช่นายทุน ไม่มีกิจการเป็นของตน หาเช้ากินค่ำธรรมดา แม้จะไร้แผ่นดินใม่ได้อยู่ในบ้านเกิดเมืองนอน มีแค่วัดไทยที่เป็นศูนย์รวมได้มาพบปะกันตามประเพณีทำบุญของพุทธศาสนิกชน มิใช่พุุทธพาณิชย์ แต่เราไม่เคยแม้แต่จะคิดครอบครองสมบัติของแผ่นดิน แม้จะมีรายได้มีเงินสะสมส่งไปให้ทางบ้านได้อยู่กิน ได้รักษาพยาบาลจากหยาดเหงื่อแรงงานของเราที่มีภาระต่อครอบครัว
31 สิงหาคม 2555 18:25 น. - comment id 1243902
คงจะแก้ไขอะไรไม่ได้แน่ เพราะที่หมู่บ้านในกรุงเทพฯของพลเอกพิจิตร กุลละวนิชย์ เอง ก็ยังมีข่าวว่ามีผู้มีอิธิพลยึดที่สาธารณะบ่อน้ำและทางเดินได้จัดการแก้ไขไปไม่ได้หรืออย่างไร นับประสาอะไรกับที่เขาค้อ
31 สิงหาคม 2555 22:17 น. - comment id 1243907
สวัสดีค่ะคุณฤกษ์ แก้ไขได้หรือไม่ ต้องฝากความหวังไว้กับรัฐบาลหรือฝ่ายค้านนะคะ เงินนั้นมีอิทธิพลเหนืออะไรๆมากมาย ความโลภของมนุษย์ยากที่จะหยุดได้ค่ะ แต่เช่ือในกฏแห่งกรรม ใครทำอะไรไว้ก็จะได้รับกรรมไม่ช้าก็เร็วค่ะ
1 กันยายน 2555 11:11 น. - comment id 1243932
ไร่พี่พุดอยู่ทุ่งสมอใกล้แคมป์สนโล่งใจ ที่ไม่ฬช่ป่าสงวน และพี่พุดมีโฉนดค่ะ
1 กันยายน 2555 12:01 น. - comment id 1243935
สวัสดีค่ะพี่พุด พี่พุดเป็นสถาปนิกสาวที่มีชือเสียง มีผลงานมากมาย ทั้งที่เมืองไทยและสิงคโปร์ รายได้ของพี่พุดนั้นไม่ต้องพูดถึง ชื่อจริงของพี่พุดน้องก็ทราบค่ะ มีอยู่ในบัญชีของสถาปนิกที่ขอสอบต่อใบอนุญาตประกอบอาชีพ พี่พุดคงไม่ทำอะไรที่ผิดกฏหมายแน่นอน ที่ดินทุกผืนที่คนไทยเป็นเจ้าของแม้จะมีโฉนดถูกต้อง ทางการมีสิทธิขอเวรคืนเพื่อผลประโยชน์ของชาติได้ทุกตารางนิ้ว แม้แต่ที่นาของน้องก็มีโฉนด นส3กทั้ง4ใบ จะถูกเวนคืนเมือไหร่ก็ได้ ทางการก็จะชดใช้ค่าเสียหายให้เจ้าของที่ทุกคน แต่ที่ดินนั้นควรเป็นของทายาทที่ได้รับมรดกตกทอดมาดั้งเดิมเพราะคนในครอบครัวได้จับจองกันมาหลายรุ่น เพราะอำนาจเงินของนายทุนที่เข้าไปซื้อเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน ทำให้ทายาทที่เห็นแก่เงินพากันขายต่อ ไม่มีการรักษาให้ลูกหลานรุ่นต่อไป พี่พุดไม่ใช่คนพื้นที่แต่มีเงินก็สามารถซื้อได้แม้จะไม่อยู่ในเขตป่าสงวน น้องเป็นคนที่พูดอะไรตรงๆมากพี่พุดอย่าโกรธเลยนะคะ ถ้าพี่พุดไม่มีทายาทรับมรดกรุ่นต่อไป ที่ดินจะตกเป็นของใครคะ อาจเป็นคนในครอบครัวญาติพี่น้อง หรือนายทุนรุ่นใหม่ซึ่งคงไม่ใช่ของเจ้าของดั้งเดิมคนพื้นที่แน่นอน เสียดายอาชีพของราษฎรแถวนั้นค่ะที่ไม่สามารถรักษาให้เป็นของทายาทรุ่นหลังได้ เพราะความเห็นแก่เม็ดเงินตัวเดียว บางทีเอาไปจำนำจำนอง ไม่มีเงินไปไถ่คืนก็โดนยึดโฉนดไป เพราะหนี้สินเกินตัว เพราะเงินตัวเดียว แต่ไม่ว่าใครจะเป็นเจ้าของก็ตาม ทุกคนต้องคืนให้รัฐถ้ามีการเวนคืน ก็ได้เงินชดใช้ค่าเสียหายไปตามราคาที่รัฐกำหนด อยากให้ทุกคนที่เป็นทายาทตัวจริงรักษาที่ดินกันไว้ให้รุ่นลูกหลานได้ทำกินกันต่อไปค่ะ
1 กันยายน 2555 12:31 น. - comment id 1243938
รักเมืองไทย แผ่นดินไทยร่มเย็นเป็นเพราะพระบารมี ปกเกล้าเหนือชีวีไทยถ้วนหน้า องค์พระมหากษัตริย์ขัตติยา ปวงประชาน้อมเกล้าเฝ้าเทิดทูน รักผืนดินผืนป่าที่อาศัย อย่าให้ใครรุกครองจับจองสูญ บรรพบุรุษสร้างมาน่าอาดูร ลูกหลานสูญเงินทองต้องขายกิน ตกเป็นของนายทุนคนรุ่นใหม่ มีเงินไว้ครอบครองจองทรัพย์สิน ลูกหลานไม่เห็นค่าทำหากิน น้ำตารินร่วงหยดรดพสุธา แม้ฉันอยู่ไกลนาเพราะหน้าที่ ยังคงมีทรัพย์สินทำกินหนา ปลูกข้าวได้ขายกินถิ่นชาวนา ยังรักษามรดกตกทอดนาน
3 กันยายน 2555 23:52 น. - comment id 1244065
แค่เพียงในเวลาไม่กี่วัน การปั่นราคาที่ดิน จาก4900 บาทเพิ่มเป็น 5500 บาทต่อตารางวา รูปถ่ายไม่มีแล้ว โอ นักปั่นสุดยอด
4 กันยายน 2555 08:06 น. - comment id 1244084
ฟังน้องพูดก็ถูกค่ะ พีพุดไม่ได้คิดมากแบบนั้น และ ยังเศร้าใจแบบน้องเลย ใครสร้างบ้านใหญ่เกินยังคิด ไม่สวยเลยกลัวธรรมชาติหายไป บ้านพี่พุดธรรมชาติมาก ใช้ไม้ไผ่เป็นรั้ว เพียงใช้ความรักความฝันไปสร้าง ยังอยากได้ที่ถูกๆราคาเท่าราคาประเมิน แบบน้องว่าเลย พี่พุดแค่คิดว่า ไปทำบ้านเล็กๆอยู่ไปปลูกต้นไม้ กำลังจะให้คนที่เป็นชาวม้งปลูกข้าว ต่อไปในที่เหลือ ไม่ได้ไปทำลายธรรมชาติอะไร และ ที่เหลือหากไม่เดือดร้อนก็คงไม่ขายค่ะ เก็บไว้ให้ทายาท และ พี่พุดก็เสียภาษีถูกต้องตามกฏหมายค่ะ ส่วนที่ต้องแบ่งให้น้องๆนั้นเขาเดือดร้อน แล้วไม่ใช่ ราคาอย่างที่น้องคิดค่ะ ที่น้องเห็น พี่พุดไม่รู้ด้วยว่า เขาไปปั่นต่อกันยังไง แต่โลกนี้เราไปบังคับอะไรไม่ได้ นอกจากในส่วนของเรา เรารู้ว่าเราทำอะไรอยู่ พี่พุดทำบุญก่อนหน้านี้แล้วค่ะ ไม่ได้ทำเพราะมีตังค์จากตรงนี้ น้องคิดผิดว่าได้ตังค์มากมาย ก็ไม่ใช่อีกค่ะ ชีวิตก็ทำมาตลอด ก่อนมาอยู่เขาค้อค่ะ เรื่องไปเมืองนอกพี่พุดมีตั๋วฟรีค่ะ เพราะคนที่พี่พุดรักทำงานสายการบิน พี่พุด ยังไม่ไปเลย นานๆจะไป ไม่ชอบเมืองนอก ชอบบ้านนอก น้องนาง พี่พุดผิดอะไรมากมายคะ กับการจะมีบ้านเล็กๆสักหลัง อยู่กับธรรมชาติ อย่างสงบสุข น้องจะไปว่านายทุนไหนก็ได้ พี่พุดไม่ได้คนรวยไร้สมอง หรือมีเงินมากมาย ที่จะไปกว๊านซื้อที่ดิน มาครอบครองค่ะ แค่ขอแบ่งเขามานิดเดียว เพื่อความสุขเล็กๆ น้องเลิกคิดมากกับเรื่องพี่พุดได้แล้วค่ะ ทำใจร่มร่ม และ มองโลกตามความเป็นจริง พี่พุดอยากให้น้องมาเป็นนายกรัฐมนตรี ประเทศเรามากเลย ทัศนคติน้องตรงใจ โดนใจพี่พุด ชื่นชมค่ะ รักน้องเสมอ
4 กันยายน 2555 06:44 น. - comment id 1244088
การซื้อขายที่ดินที่สูงกว่าราคาประเมินกลางจากกรมที่ดินของแต่ละอำเภอ ถือว่าเป็นการหลักเลี่ยงภาษีรายได้ ขายราคาหนึ่งแต่แจ้งเสียภาษีอีกราคาหนึ่ง เป็นการปันราคาที่ดินให้สูงขึ้นเรื่อย กว่าจะถึงรุ่นลูกหลานต่อไปแทบจะไม่มีปัญญาซื้อกันเพราะโดยกว้านซื้อไปหมดแล้ว ราษฎรไม่มีที่ทำกิน จะอ้างว่าเอาเงินไปช่วยเหลือชาวบ้านเอาไปทำบุญ แต่เป็นการทำเพื่อบังหน้าเพราะตนเองเป็นเจ้าของ แทนที่จะช่วยให้เขามีที่ทำกินตกทอดให้ลูกหลาน กลับไปสร้างบ้าน ให้คนไปพักฟรีเพราะใจบุญ ไม่ได้ทำรีสอร์ท ให้คนไปวัดทำบุญ แต่ปั่นราคาไปหลายเท่า เงินจากกำไรไมใช่เงินบริสุทธิ์เพราะโกงภาษีที่ต้องจ่ายให้รัฐ แล้วอ้างว่าคนซื้อคนขายต่างพอใจ ใครอยากไปพักฟรีไปชมดาวชมเดือน ไปทำบุญก็ขอเชิญท่านตามสะดวก แต่ดิฉันนั้นขอไปแบบจ่ายเองดีกว่า ราคาประเมินที่ดินเขตเทศบาลในอำเภอเขาค้อสูงสุดตารางวาละ 1500บาทในปี2555 แต่มีการปั่นไป 5500 บาท คงไม่มีใครแจ้งขายตามจริงแน่นอน จะเอาเงินไปทำอะไรก็ช่าง ขอให้ธรณีนี้นี่เป็นพยาน ใครที่โกงภาษีบ้านเมืองคงได้รับกรรมตามสนองในเร็ววัน ใครที่สนับสนุนเห็นดีด้วย เพราะหวังผลประโยชน์เล็กๆน้อยๆ แค่มีที่พักฟรีเวลาไปเที่ยว คงได้รับกรรมไปด้วย คนที่เอาความจริงมาพูดกลายเป็นมารขวางบารมีเพราะเป็นคนที่ตนชื่นชอบ ถ้าเป็นนักการเมืองคงพากันด่าและแฉไปแล้ว ที่ดินทุกตารางนิ้วเป็นของแผ่นดินไทย อย่าว่าแค่สี่ไร่ จะถูกเวนคืนเมื่อไหร่ก็ได้ ขอให้ทำให้ถูกกฏหมาย ซื้อขายกันตามระเบียบ เสียภาษีตามจริง หยุดปั่นราคา แล้วบอกว่าได้กำไรเท่าตัวเอาเงินไปทำบุญปิดทองหลังพระ บางคนเอาเงินไปต่างประเทศ เพราะคุณเป็นคนเริ่มปั่นราคา� ถ้าตายไปที่ดินตกเป็นของใครถ้าไม่มีทายาท ถ้ามีทายาทก็พากันปั่นต่อๆไปอีก ความโลภของมนุษย์ไม่เคยสิินสุด การทำบุญด้วยใจที่ศรัทธาบริสุทธิ์แค่บาทเดียวก็ได้บุญค่ะ ไม่ต้องหากำไรมากมายแบบไม่ฤูกต้อง แล้วเอาเงินไปทำบุญหรือช่วยคนอื่น ขนาดบนเขายังปั่นราคากันขนาดนี้ วิวทิวทัศน์ที่งดงามตามธรรมชาติถูกทำลายเป็นวัดบ้าน เป็นรีสอร์ท ทั้งที่ถ้าใครอยากไปเที่ยว กรมป่าไม้มีที่พักให้เช่าในเขตป่าสงวน เป็นการช่วยเงินเข้ารัฐ แต่เพราะความโลภอยากเป็นเจ้าของแม้จะมีโฉนดถูกต้อง คนขายก็อยากได้เงิน คนซื้อก็อยากครอบครอง พากันไปสร้างบ้านออกแบบสวยงามไว้ให้เพื่อนฝูงไปเยี่ยมชมดาว ถ้าคิดแบบนี้เหมือนกันหมด เขาในประเทศไทยจะมีแต่สีสันของบ้าน ของห้องน้ำกลางแจ้ง มีสระว่ายน้ำ แบ่งขายเป็นแปลงปลูกกันคนละหลัง อนิจจาธรรมชาติป่าเขาที่งดงามได้ถูกทำลายเพราะน้ำมือของมนุษย์ ดิฉันขอหลั่งน้ำตาให้พสุธาของชาติไทย ถ้าการพูดความจริงเป็นคนชั่ว ขอให้ฟ้าลงทัณฑ์คนที่กล่าวหาดิฉัน การบำเพ็ญบุญไม่จำเป็นต้องไปปลูกบ้านใกล้วัดเพราะวัดมีเนื้อที่บันจวบเกือบร้อยไร่ มีที่พักให้ปฏิบัติธรรมพอเพียง จะหนีน้ำท่วมไปไหนถ้าถึงคราวตายก็ไม่รอดค่ะ�
4 กันยายน 2555 23:05 น. - comment id 1244277
ความคิดเห็นที่ 9 : หมายเลข 1277451 สนม บุญจันทึก / รายงาน / เพชรบูรณ์ สองผัวเมียเกษตรกรที่อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ พลิกชีวิตจากการปลูกพืชหลายชนิดไม่ได้ผลหัน มาปลูกพลิกไทย จนประสบความสำเร็จสร้างรายได้งามกว่า 2 แสนบาทต่อเดือน หลังจาก คม ชัด ลึก ลงในหน้าเกษตร หนักเอา เบาสู้ ทำให้มีผุสนใจติดต่อสอบถามและพากันมามาชมแปลงพริกไทยไม่ขาดสาย ล่าสุด ผผู้สื่อข่าว เนชั่นทีวี ย้อนกลับมาอีกครั้งเพื่อเอาความจริงที่เกิดขึ้นมาเผยแผร่พร้อมนำภาพมาเสนออย่างจุใจกับผู้ที่กำลังสนใจปลูกพริกไทยขายเพราะรายได้มั่นคงเป็นแสนต่อเดือน และให้ข้อมูลการปลูก และวิธีการดูแล อย่างไม่ปิดบัง นายประมาณ สายโสภา อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64 หมู่ 2 ตำบลหนองแม่นา อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นเกษตรกร ผู้หนึ่งที่พลิกชีวิตจากการปลูกพืชหลายอย่างแต่ล้มเหลวหันมาปลูกต้นพริกไทย จนประสบความสำเร็จสร้างรายได้งามกว่า 2 แสนบาทต่อเดือน จากการสอบถามนายประมาณ เล่าว่าเดิมทีตนเองปลูกต้นเสวรส หรือแฟชั่นฟรุ๊ต เพื่อจำหน่ายลูกแต่เนื่องจากปัญหาของการปลูกต้นเสาวรส คือต้องใช้พื้นที่เพาะปลูกค่อนข้างมาก และต้องใช้แรงงานเยอะ อีกทั้งลงทุนก็สูง นอกจากนั้นร่างกายต้องเสี่ยงต่อการได้รับสารเคมีจากยาฆ่าแมลง เพราะต้นเสวรส หรือแฟชั่นฟรุ๊ต มีศัตรูทางธรรมชาติค่อนข้างมาก ตนเองจึงได้หันมาลองปลูกต้นพริกไทย เพื่อจำหน่าย บนเนื้อที่ราว 2 ไร่เศษ โดยปีนี้เป็นปีที่ 4 แล้วที่ตนเองทำการปลูกมา ซึ่งต้นพริกไทยนั้นมีศัตรูทางธรรมน้อยมาก ที่สำคัญไม่ต้องใช้สารเคมีหรือยาฆ่าแมลงฉีดพ่น จะมีก็เพียงแค่ให้ปุ๋ยชีวะภาพ หรือปุ๋ยขี้ไก่ เพื่อเพิ่มคุณภาพให้กับดินเท่านั้น ส่วนผลผลิตพริกไทยอ่อนตนเองจะสามารถเก็บส่งตลาดได้ เดือนละ 4 ครั้ง หรือทำการเก็บผลผลิตได้ทุกสัปดาห์ โดยช่วงนี้ราคาพริกไทยอ่อนจะมีราคาสูง เนื่องจากปัญหาของภัยแล้ง ที่ผ่านมาทำให้เกิดผลกระทบต่อปริมาณการออกผลผลิตของพริกไทยอ่อนในหลายจังหวัด โดยเฉพาะแถบภาคตะวันออก ซึ่งการจำหน่ายพริกไทยอ่อนตนเองจะมีรายได้ประมาณ 220,000- 240,000 บาท ต่อเดือน โดยจะมีพ่อค้าขับรถมารับซื้อผลผลิตถึงในไร่ ในราคากิโลกรัมละ 220-250 บาท นายประมาณ ยังเล่าต่ออีกว่า ขณะนี้ได้ขยายแปลงออกจากสองไร่เพิ่มอีก 4 ไร่ในที่ดินของตนเอง ที่เป็นที่ ดิน ของ รอส. ที่ได้มาจากการตกทอดเพราะคนเองนั้นเป็นทายาทและพ่อที่เป็น รอส. นั้นเสียชีวิตลงที่ดินจึงตกลงมาอยู่กับทายาทและได้แบ่งปันกันไปตามระเบียบของทางทหารที่กำหนดให้ หลังจากที่ทำไร่พรอกไทยประสบผลสำเร็จแล้วนอกจากจะ ขายพริกอ่อน แล้ว ยังทำการตอนกิ่งต้นพริกไทยขายเป็นรายได้เสริมอีกปีหนึ่งเป็น แสนต้นๆ ต้นละประมาณ 20 บาท ข้อสำคัญหลังจากที่ คม ชัด ลึก นำเสนอข่าวนี้ไป ทำให้มีลูกค้าและผุสนใจเดินทางมาดูแปลงพริกไทยวันไม่น้อยกว่า 30 รายทั่วประเทศ นอกจากนั้นยังมีการเขียน จดหมายมาสอบถามอีกเป็นพันๆฉบับวันๆหลังจากว่างงานทำไร่ พริกไทย ต้องมาตอบจดหมายให้กับผุที่สนใจอีกเป็นจำนวนมาก ทำไร่พริกไทยนั้นหลังจากปลูกต้นได้สองปี สามารถเก็บเกี่ยวพริกไทยอ่อนส่งตลาดได้ และหากรักษาต้นดี ต้นพริกไทยมีอายุไม่น้อยกว่า 10-15 ปีที่เก็บเกี่ยวได้ทุกสัปดาห์ ตนเองหันจากเอาไม้มาทำร้านค้างมาใช้เสาปืนแทนแม้นว่าจะลงทุนสูงแต่ก็คุ้มเพราะเสาค้างหากเป็นไม้นั้นปลวกจะขึ้นมาและทำลายรากเหง้าพริกไทย 1 ไร่ ปลูกได้ประมาณ 400 ต้นหากลงทุนนำเสาปูนมาใช้ต้นทุนตกอยู่ไร่ละประมาณ 1 แสนบาทส่วน อายุการเก็บเกี่ยว 10-15ปี สนใจหรือ จะสอบถาม มาทางโทรศัพท์ เบอร์โทร คือ 089-5685242 แต่ต้องทำใจหน่อยเพราะบางครั้งสัญญาณไม่ค่อยดีครับ /////// Catagory : ภูมิภาค Tags : ทายาท รอส.เขาค้อ ทำไร่พริกไทยประสบผลสำเร็จขายรายได้สองแสนบาท.wmv URL : Embed : นี่คือข่าวที่น่ายินดีและสนับสนุนให้คนในพื้นที่ทำมาหากิน ใครที่มีที่โฉนดถูกต้องไม่ใช่เขตรอส.หรือเขตป่าสงวน ขอให้รักษาไว้ให้ทายาทตัวจริงได้รักษาสภาพป่าและทำกินแนวอนุรักษ์ธรรมชาติ อย่าขายให้ใครเพราะเห็นแก่เงินเล็กๆน้อยๆ เพราะคุณขายให้เขาไร่ละห้าแสนห้า เขาเอาไปขายต่อตอนนี้แปลงที่เจ็ดตารางวาลเ 5500 ในประกาศล่าสุดที่เขาเอารูปออกไป ตกไร่ละสองล้านสอง กำไรสี่เท่าตัว ถ้าเก็บไว้ให้ลูกหลาน ในอนาคตจะมีค่ามากมาย นี่คือเกมการปั่นราคาที่ดินของคนต่างถิ่น
5 กันยายน 2555 09:45 น. - comment id 1244348
น้องนางคะ ที่ดินแปลงนั้นเป็นของน้องยาที่มาขอแบ่ง หนีน้ำค่ะ เขาเดือดร้อน ตั้งราคาเผื่อต่อ ทั้งๆที่พี่พุดขายน้องแค่2900เฉลี่ยนะคะ และ ที่ดูว่าจะแพงไปนิดนึงเพราะ จริงๆแล้ว ที่ดินอยู่ใกล้ถนนมากค่ะ ตรงนี้เป็นชุมชน และมีสาธารณูธปโภคพร้อม ด้านหลังไม่นานจะเปิดศูนย์โอทอป น้องเค้าคงบวกค่าใช้จ่าย และค่าเดินทางรวมทั้งการไถที่ คงไม่มีกำไรอะไรค่ะ และ ที่ดินที่จะมาแบ่งขายได้นั้น ต้องมีการ ตัดที่ออก แบ่งถนนให้ทุกแปลงทำถนน ไถที่ ทำน้ำไฟ ประปา และเสียค่าแบ่งโฉนดให้รัฐ ค่าใช้จ่ายรวมค่ะ หากไม่ใกล้ถนน ชุมชน ราคานี้ไม่มีใครซื้อค่ะ ความจริงขายไม่ได้ไร่ละสองล้าน อย่างน้องคิดค่ะ น้องจะรอเวลา ในเขาค้อที่โฉนดจะแพง แต่ก็ไม่มีใครขายได้ไร่ละสองล้านตอนนี้ และ ประเทศเราทุกที่ที่ดินก็ขึ้นแบบนี้หมดค่ะ อยู่เฉยๆก็ขึ้นเอง เพราะที่ดินน้อยคนเยอะ รักน้องนะคะ
5 กันยายน 2555 10:12 น. - comment id 1244352
พี่พุดคะ ขอให้พี่พุดโชคดีนะคะ น้องจะไม่กลับมาอีกค่ะ
5 กันยายน 2555 10:19 น. - comment id 1244356
พี่พุดจะมาเล่าเรื่องที่ดินพะงันให้ฟังนะคะ รุ่นคุณพ่อพี่พุดอยากให้พี่พุดพี่ๆน้องๆได้เรียนหนังสือ เลยขายสวนมะพร้าว สมัยนั้นไม่มีฝรั่งนักท่องเที่ยวค่ะ ต่อมาไม่นานพี่พุดกลับจากไปทำงานเมืองนอก มีเงินก็มาซื้อที่ค่ะ กลัวนายทุนคนต่างถิ่นมาซื้อหมด ใจพี่พุดซื้อที่ที่ไหน ด้วยรักธรรมชาติ ซื้อแล้วไม่ขายค่ะ และ พี่พุดไม่กลับพะงันเลย เบื่อสังคมที่วายวุ่นค่ะ เราไปบอกให้คนที่นั่นเก็บที่ไว้ไม่ได้ กระแสการท่องเที่ยวบ่าโหมค่ะ เชื่อไหมพี่พุดยังเก็บไว้เลย ทั้งๆมีคนมาให้ราคา ที่เล่าคือแค่ได้แบ่งทางให้วัด กับให้น้องพี่พุดนิดนึง ไปเขาค้อ พี่พุดกะไปตั้งรกราก ไม่ใช่ไปเสพสุข อธิษฐานจิตจะมาทำสิ่งดีดี พี่พุดกราบแผ่นดินทุกครั้งที่ไปถึง ด้วยสำนึกในแผ่นดิน ที่ทำให้พี่พุดได้มาใช้ชีวิตที่สงบสุข เจ้าของที่เก่าเขามีไร่พริกใกล้บ้าน เค้าบอกเย็นๆวันพระจันทร์เต็มดวง จะเห็นเจ้าที่สวยมากมาเฝ้าให้ พี่พุดต้องทำบุญอุทิศให้ค่ะ และ สร้างแต่กุศล เพราะเชื่อว่าความดีจะคุ้มครองปกป้องเรา ไม่ว่าอยู่ที่ไหน ที่เขาค้อไม่เคยอยากซื้อเยอะค่ะ แค่มีความสุขที่ได้ไปปลูกดอกไม้ อยู่กับธรรมชาติ แต่มันมีเหตุปัจจัย เหมือนบังเอิญ แล้วเลยต้องแบ่ง เพราะไม่มีเงินซื้อไว้ทั้งสี่ไร่ และ ขายในราคายุติธรรมมากค่ะ เนื่องจากต้องเสียค่าใช้จ่ายเดินทาง ต้องทำน้ำไฟให้น้องๆถนนด้วย ปรับที่ ถมที่ และ ตรงนี้ไม่ใช่ภูเขาค่ะ เป็นชุมชน มีเนินแค่นั้น ที่พี่พุดแทบติดถนนใหญ่ค่ะ ถึงว่าไม่ใช่ที่ป่าไงคะ ที่นั่นจะใช้น้ำบาดาลค่ะ ของพี่พุดอยู่ใกล้ เลยมีประปาแต่เราต้องต่อ มิเตอร์ เฉพาะค่าไฟหลายหมื่นค่ะน้องรัก เรื่องพวกนี้ต้องมาดูเองค่ะ บางทีที่คิดก็ไม่ใช่นะคะ พี่พุดไปไหน ก็รำคาญตึกใหญ่ๆที่มาสร้างค่ะ เพราะรักธรรมชาติเหมือนน้อง แต่เราไปบังคับใจใครไม่ได้ เหมือนพะงัน ภูเก็ต เชียงใหม่ ทุกที่เลยในแผ่นดินเรานะ แต่กฏหมายก็มีแล้วเขตอุทยาน เขตป่าส่วนเขตเมือง ก็ต้องให้อิสระคนไทย มาตั้งบ้านตั้งเรือนค่ะ เรื่องภาษีที่ดินนั้น พี่พุดเสียถูกต้องที่พะงันก็จ่ายทุกปี ขนาดไม่ไปอยู่นะคะ และ กฏหมายกำหนดอย่างไรก็ทำตามค่ะ เรื่องที่ดินเขาค้อ พี่พุดคงเก็บไว้ค่ะ และ หากไปที่ไหนก็บอกคนพื้นบ้านอย่าขาย เหมือนที่น้องเตือน หากจะแบ่งนิดหน่อย เมตตาให้เพื่อนมนุษย์ได้อาศัย ก็เพราะเราคนไทยเหมือนกัน หนีร้อนมาพึ่งเย็น ชีวิตก็เมตตากรุณากันค่ะ พี่พุดหวังใจน้องคงเข้าใจมากขึ้นนะคะ พีพุดมีความสุขสงบสมถะ และ จะทำแต่ความดีค่ะ รักน้องเสมอ
5 กันยายน 2555 10:26 น. - comment id 1244359
ไปไหนคะน้องรัก พีพุดเข้าใจน้องนะคะ นิสัยน้องก็เหมือนพี่พุด รักความยุติธรรม พูดออกมาด้วยความรักชาติแผ่นดิน แม้นจะให้พี่พุดร้องไห้แต่ก็อภัย และรอน้องเข้าใจ ให้น้องมาเห็นกับตาทุกเรื่องค่ะ ไม่อยากคุยแบบนี้ สักวันเราจะได้พบกัน พี่พุดจะกอดน้องสายน้ำผึ้งคนนี้ ที่ขวานผ่าซากซะไม่มี วัดเพิ่งโทรมาให้ไปรับพระพุทธรูปห้าพระองค์ บุญนี้แค่ขอ สวดทุกคืนให้น้องรักพี่พุด เมตตาเข้าใจสักนิดนึงนะ
6 กันยายน 2555 09:57 น. - comment id 1244460
น้องรัก กลับมาเขียนงาน มาเล่าถึงครอบครัวน่ารักๆของน้อง ทำใจให้เย็นผ่องใส หาก กลับมาเมืองไทยค่อยมาเป็น*หมาเฝ้าบ้าน* คือโครงการคอยต่อต้านการคอรัปชั่น พี่พุดจะร่วมด้วยช่วยกันค่ะ เลิกประเด็นเขาค้อนะคะ ไปดูกับตาค่อยมาว่ากัน ในแผ่นดินนี้เป็นทุกที่ ขนาดรัฐบาลยังตามล้างตามเช็ดไม่หมด โลกมันไม่สวยงามเลยน้องรัก แต่เราเองทำหน้าที่เราให้ดีที่สุด สิ่งที่น้องมาว่าพี่พุดแรงๆ พี่พุดก็นำมาทบทวน พิจารณาจะได้ระมัดระวังมากๆ มีอะไรพุดกับพี่พุดดีดี ไม่ต้องทำเหมือนเราไม่เคยรักกันนะ แนะนำ อย่าประชดประชัน ไอ้ห้องน้ำดาวเดือนชมดาวนะ มันก็สมมุติทั้งนั้นค่ะ ไม่ยึดมั่นเลย แต่พี่พุด อยู่ไหน กระท่อมยังทำให้สวย บรรยายเสียสวยเลยอิอิ อารมณ์ดีได้แล้วนะคะ ลดมานะอัตตา หันหน้ามารักัน มาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หุนหันก็ใจเราเร่าร้อน พี่พุดสุขภาพไม่ดีนะ ให้ชีวิตพี่พุดสุนทรีย์ทำงานที่รักดีกว่า อุตส่าห์อยู่ที่นี่มานาน น้องก็เหมือนกัน กลับมานะ คำว่ากิเลสมารคือมารโทสะในใจเราค่ะ อย่าตีความผิด คุณศรีสมภพเค้าอยากให้ใจเย็นๆ หันมารักกันเมตตาปรารถนาดีกัน มีอะไรได้หันมาช่วยเหลือกัน คนเราไม่มีใครสมบูรณ์แบบ โลกก็เป็นธรรมดาเช่นนั้นเอง ค่อยๆคิดค่อยๆทำ หลวงพ่อบอกกรรม คือเจตนาเกิดเวทนาอารมณ์ ทำใจใสใสและ เราทุกคนค่อยๆแก้ไขในสิ่งผิด เริ่มต้นใหม่ค่ะน้องรัก รักและรัก
6 กันยายน 2555 13:27 น. - comment id 1244480
โครงการพัฒนาที่ดินบริเวณลุ่มน้ำเข็ก อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งอยู่ที่ ตำบลสะเดาะพง 6 หมู่บ้าน ตำบลริมสีม่วง 5 หมู่บ้าน ตำบลเขาค้อ 14 หมู่บ้าน ตำบลหนองแม่นา 10 หมู่บ้าน อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์และพื้นที่ชาวเขาเผ่าม้ง ตำบลเข็กน้อย ตั้งอยู่ระหว่างค่าพิกัด X= 702976 713760 และระหว่างค่าพิกัด Y = 1829234 - 1835827 ในระบบ WGS84 บนแผนที่ประเทศไทย ลำดับชุดที่ 5142 II 5242 III มีพื้นที่ทั้งหมดของโครงการ 140,000 ไร่ ทิศเหนือ ติดต่อกับ เขาค้อ ทิศใต้ ติดต่อกับ เขาตะเคียนโงะ ทิศตะวันออก ติดต่อกับ บ้านทานตะวัน ทิศตะวันตก ติดต่อกับ บ้านริมสีม่วง จากความขัดแย้งทางด้านอุดมการณ์ทางการเมืองในประเทศไทย จึงทำให้เกิดสงครามก่อการร้ายขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2508 โดยเฉพาะในบริเวณเขตพื้นที่รอยต่อ 3 จังหวัด คือ เพชรบูรณ์ พิษณุโลก และเลย ซึ่งฝ่ายต่อต้านรัฐบาลพิจารณาแล้วเห็นว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เหมาะสม สภาพทั่วไปเป็นป่าเขาสลับซับซ้อนยากที่ฝ่ายรัฐบาลจะปราบปรามได้ โดยใช้เขาค้อเป็นศูนย์กลาง ต่อมากองทัพบกได้มอบหมายให้กองทัพภาคที่ 3 รับผิดชอบในการต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ โดยจัดตั้งกองบัญชาการผสม 394 ขึ้นที่ สนามบินอำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2511 ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งของชุดควบคุมที่ 33 และได้ดำเนินการต่อสู้อย่างต่อเนื่องกันมา โดยผ่านยุทธการที่สำคัญๆ รวม 13 ครั้ง เช่น ยุทธการภูขี้เถ้า ยุทธการรามสูร ยุทธการผาเมืองเผด็จศึก 1-3 ยุทธการผาเมืองเกรียงไกร ฯลฯ เป็นต้น ในปี พ.ศ. 2518 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมกองรบพิเศษค่ายสฤษดิ์เสนา จังหวัดพิษณุโลก และทรงมีพระราชดำริให้ใช้ แผนยุทธศาสตร์พัฒนา เพื่อยุติสถานการณ์สู้รบ โดยใช้พื้นที่ทั้งสองข้างเป็นประโยชน์กับราษฎรทั่วๆ ไป มิใช่เฉพาะทหารเท่านั้น กองทัพภาคที่ 3 จึงได้จัดหมู่บ้านยุทธศาสตร์พัฒนาขึ้น โดยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวนหนึ่ง เป็นทุนในการดำเนินงานครั้งแรกโดยตั้งเป็น กองอำนวยการโครงการพัฒนาลุ่มน้ำเข็ก โดยมีงานหลักในการก่อสร้างทางเป็นทางลาดยางสายทุ่งสมอ-เขาค้อ ตลอดสาย การฝึกราษฎรอาสาสมัคร การจัดสรรที่ดินที่ทำกินให้กับราษฎร การจัดหาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรและเรียกโครงการนี้ว่า โครงการพัฒนาลุ่มน้ำเข็ก โดยเริ่มดำเนินการเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2520 เป็นต้นมา 1. เพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 2. เพื่อความมั่นคง หลังจากเกิดเหตุการณ์สู้รบเพื่อเอาชนะคอมมิวนิสต์ 3. เพื่อให้ราษฎรและผู้หลงผิด กลับมาพัฒนาชาติไทย โดยจัดสรรที่ทำกินและพัฒนาพื้นที่การเกษตรรวมทั้งการจัดหาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร เพื่อให้ราษฎรสามารถดำรงชีพอยู่ได้ 4. เพื่อพัฒนาที่ดินให้มีความอุดมสมบูรณ์และป้องกันการชะล้างของดิน 5. เพื่อเป็นการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ เช่น ทรัพยากรป่าไม้ ทรัพยากรดิน และทรัพยากรน้ำ ให้คงอยู่และมี - กิจกรรม งานจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ - กิจกรรม สาธิตการทำและการใช้ปุ๋ยหมัก-ปุ๋ยอินทรีย์น้ำ - กิจกรรม สาธิตการใช้ปุ๋ยพืชสด - กิจกรรม สถานที่ฝึกอบรมเยี่ยมชมและศึกษาดูงานโครงการพัฒนาที่ดินบริเวณลุ่มน้ำเข็ก คูรับน้ำรอบเขา บ่อดักตะกอนดิน แปลงสาธิตการใช้ปุ๋ยพืชสด ทางลำเลียง ในขณะที่คนหลายกลุ่มพากันเข้าไปทำลายเขาค้อ ไม่ว่าจะบุกรุกป่าสงวน ซื้อที่ดินที่มีโฉนดต่อจากชาวบ้านเพื่อทำรีสอร์ทหรือปลูกบ้านพักส่วนตัว การปั่นราคาที่ดินเพราะกลุ่มคนที่อยากพากันอพยพหนีน้ำท่วม ปากก็ว่าจะเดินทางสู่นิพพาน แต่การกระทำตรงกันข้าม แสวงหาครอบครองอสังหาริมทรัพย์ไม่สิ้นสุด พอได้ที่จากชาวบ้านก็นำมาหั่นเป็นแปลง นำสาธารณูปโภคเข้าไปเพื่อเพิ่มมูลค่า ชักชวนพรรคพวกกันมาลงทุน เมื่อได้กำไรตามต้องการก็อ้างว่าเดือดร้อนอยากขายที่ต่อ ที่ว่าหนีน้ำท่วมนั้น พอมีเงินบางรายก็หนีไปที่อื่น คนริเร่ิมเท่ากับรู้เห็นเป็นใจกัน สิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นมีจริง แค่ดิฉันแต่งกลอนได้ไม่นาน บังเอิญได้พบเห็นการกระทำของคนกลุ่มหนึ่งที่พากันอ้างว่าหนีน้ำท่วม ลงประกาศขายที่ในราคาสูงกว่าเดิมมากมาย พอมีคนรู้ความจริงก็ยกสรรพคุณความดีความเป็นนักบุญมาอวดอ้างสารพัด มีเงินมีที่ดินมากมายแล้วยังไม่พอ อยากไปนิพพานโดยการหามาครอบครองเพิ่ม มีเหตุผลมากมายมาแก้ข่าว ทำเพื่อครอบครัว ดูแลคนป่วย อยากอยู่ใกล้วัด คนป่วยควรจะอยู่ใกล้โรงพยาบาลมากกว่าใกล้วัดหรืออยู่บนเขา ที่ราบไม่ใชป่าแต่นั่นก็เป็นเขามาก่อน อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลมากมาย บนเขาเคยเป็นป่าเป็นน้ำ ที่ราบหน่อยราษฎรก็ทำไร่ทำนา เงินนั้นซื้อได้ทุกอย่าง ไม่ละอายแก่ใจว่าพระองค์ทรงเป็นผู้ริเริ่มโครงการ การซื้อขายที่ดินมีการเสียภาษีทุกราย แต่มีใครบ้างที่แจ้งราคาซื้อขายตามความจริง เสียภาษีตามจริง เพราะราคาประเมินกลางนั้นกรมที่ดินได้กำหนดไว้แล้ว จะต่อสาธารณูประโภคเข้าไป บวกค่าน้ำมันเดินทางเข้าไป มันเป็นการลงทุนเพื่อหากำไรมาทดแทนทุนที่ลงไป อยากแบ่งปันกับเจ้าของเพื่อเหตุผลต่างๆนานาของนักบุญ รู้เห็นเป็นใจในการปันราคาที่ดินของพรรคพวกตนเองที่ดึงกันมาซื้อที่แล้วมาลงประกกาศขายต่อ เป็นการทำกำไรหลายเท่าตัว ธรณีนี่นี้เป็นพยาน ฟ้าจะลงทัณฑ์คนที่หาผลกำไรในไม่ช้าก็เร็ว ดิฉันไม่ได้ทุกข์อะไรเพราะไม่ใช่ผู้กระทำ แค่เป็นผู้ได้พบเห็นการกระทำ นำมาเปิดเผยเพื่อเตือนสติชาวบ้านที่มีที่ทำกินให้พัฒนาปรับปรุง มีโครงการต่างๆของรัฐมากมายที่ช่วยเหลือให้ความรู้ด้านการเกษตร อย่าเห็นแก่เงินเพราะต้องส่งลูกเรียน มีโฉนดไม่จำเป็นต้องขายขาด ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์มีให้กู้เพื่อลงทุน แต่ไมใช่เพื่อเอาไปใช้จ่ายอย่างอื่น ลงทุนเพื่ออาชีพระยะยาว เช่นตัวอย่างของเกษตรกรที่ทำไร่พริกไทยดำ มีรายได้เดือนละสองแสน ดีกว่าการเอาเงินไปช่วยเหลือเขาอย่างอื่นเพราะเขาไม่มีทางช่วยเหลือตนเองเป็น ตนเองเป็นแม่พระบริจาคช่วยคนมากมาย ในขณะเดียวกันก็แสวงหาการครอบครองเป็นของตนเพิ่มไปอีก มารจะเข้าหรือจะผ่านใครคงไม่ใช่ดิฉัน เพราะดิฉันไม่ครอบครอง ยกที่นา ที่ดิน บ้าน เงินให้ทายาทไว้ตามพินัยกรรมแล้ว มีแค่รถเก่าๆหนึ่งคัน กับจักรยานอีกหนึ่งคัน มีแม่ที่ยังต้องดูแลเพราะโรคภัยไข้เจ็บ งานบุญของดิฉันไม่ต้องลงทุนมากมายแค่ขับรถไปเป็นครูอาสาที่วัด ช่วยงานวัดตามอัตภาพ บริจาคน้อยมากได้บุญเหมือนกันถ้าใจบริสุทธิ์ ไม่จำเป็นต้องมาไล่มารที่ไหน เพราะมันไม่ได้อยู่ในใจ ไม่ได้โกรธใคร ชีวิตใครชีวิตมัน แค่คิดเห็นต่างกันเท่านั้นเอง ขอปิดกลอนนี้ ไม่จำเป็นต้องมาอธิบายอะไรต่อไปอีกเลยค่ะ ถ้าทำดีแล้วจงเชื่อมั่นในตนเอง จะบังคับให้ทุกคนคิดเหมือนกันคงยากค่ะ
6 กันยายน 2555 14:12 น. - comment id 1244484
น้ำพระทัยพระองค์ทรงเมตตา รักษาป่าของไทยไม่ให้สูญ ข้าพระพุทธเจ้าเฝ้าเทิดทูน ทรงเพิ่มพูนป่าไม้ชาติไทยเจริญ ลูกหลานไทยช่วยกันรักษาป่า พัฒนาโครงการงานสรรเสริญ แสวงหาส่วนตัวมัวพาเพลิน ครอบครองเดินตามกันป่าบรรลัย ทรัพย์สมบัติที่ดินถิ่นชาวบ้าน ใช้เงินหว่านกันเข้าเอาครองใหม่ หนีอะไรไม่พ้นบนจิตใจ กลัวทำไมความตายได้แน่นอน
6 กันยายน 2555 14:17 น. - comment id 1244485
พี่พุดมีที่ดินหลายที่ เพราะ บอกแล้วซื้อไว้ที่บ้านเกิด และไม่กี่ไร่ จะทำเป็นที่ปฏิบัติธรรม หากคนในครอบครัวเห็นชอบ ส่วน ที่แก่งกระจาน ไม่ได้สะสม เพื่อนรักยกให้ เราก็กะไม่นานจะทำที่ปฏิบัติธรรม รอมีเงินสร้างศาลา ส่วนเขาค้อ พรรคพวกพี่พุดไม่ได้มาแสวงหากำไร เขามาอยู่อาศัย และคนที่น้องเห็นคนเดียวที่เดือดร้อน จะขาย และที่ดินแปลงเขาค้อ แค่หยิบมือเดียว และ ก็อธิษฐานจิต หากทายาทพีพุดไม่เดือดร้อน เราก็ยกให้วัดก็ได้ คนป่วยยังไม่ใกล้ตาย เลยต้องอยู่ไกลโรงพยาบาลก่อน บ้านกรุงเทพจะขาย เลยต้องหาที่อยู่เตรียมไว้ ไม่มีที่ดินมากมายอะไร อย่างที่คิด บอกเพียงว่า หากบ้ารวยคงขายเอากำไรมาคุยให้คนอิจฉายิ่งกว่านี้แล้ว
6 กันยายน 2555 15:21 น. - comment id 1244497
ฟ้าไม่ลงทัณท์พี่พุดหรอก เพราะไม่มีเจตนา และ สุจริตใจเป็นที่ตั้ง ไม่ได้บังคับใคร ไม่ได้ไปหว่านเงิน คนขายเต็มใจขาย เขายังมีที่ทำกิน อย่าคิดแทนเขาเลย ส่วนเรื่องอื่นๆอย่าก้าวล่วงมาตัดสิน ว่าทำไมต้องมาอยู่บนเขาค้อ มีสิทธิเสรีภาพ จะอยู่ที่ไหนก็ได้ หากเป็นคนดีทำถูกกฏหมาย คนเราจะคิดยังไงก็ได้ที่จะว่าร้ายเบียดเบียน คนอื่น ตามใจอันอกุศล ต่อให้พูดดียังไง ก็หาเรื่องไปต่อจนได้ น่าเบื่อหน่ายจริงๆ
9 กันยายน 2555 07:40 น. - comment id 1244949
ในวงการค้าที่ดินเต็มไปด้วยการเก็งกำไรที่ดิน และ การปั่นราคาที่ดิน อยู่มาก ความจริงแล้ว การปั่นราคาที่ดิน เป็นการเก็งกำไรที่ดินวิธีหนึ่ง ที่มีเทคนิคชั้นสูง ขอย้ำว่าเป็นเทคนิคที่สูงมากกก และมักจะเป็นการสมคบคิดกันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายที่ต้องการสร้างภาพลวงตาขึ้น นักค้าที่ดินอาจปั่นราคาที่ดิน โดยใช้บริษัทในเครือที่มีไปกว้านซื้อที่ดินกว้างใหญ่ไว้จำนวนหนึ่ง จากนั้นก็ปล่อยที่ดินเป็นแปลงย่อยสู่ตลาด โดยตั้งราคาให้สูงขึ้นจนผู้ซื้อไม่อาจซื้อได้ และก็ส่งให้บริษัทในเครือเข้าไปซื้อมาไว้แทน โดยโอนถ่ายซื้อต่อกันไปมาถึงสองสามมือ จากนั้นก็ปล่อยที่ดินออกสู่ตลาดผู้ซื้อที่แท้จริงด้วยราคาที่แพงอย่างมาก แต่เพราะผู้ซื้อเกิดความโลภและหลงในภาพลวงตา คิดว่าที่ดินนี้สามารถขายได้ราคาดีและขายได้เร็ว จึงตัดสินใจซื้อที่ดินในที่สุด หรือ โดนหลอกสำเร็จในที่สุด ขอเตือนว่ามีคนตกหลุมพรางวิธีมานักต่อนักแล้ว ดังนั้นหากคิดกำลังจะหลงทุนซื้อที่ดิน ท่านควรจะตรวจสอบและระมัดระวังให้ดี ว่าที่ดินนั้นเป็นที่ซึ่งควรจะลงทุนจริงหรือไม่ มีศักยภาพที่จะมีคุณค่าในการใช้ประโยชน์เพิ่มขึ้นจริงหรือเปล่า มิเช่นนั้น ท่านอาจจะโดนหลอกและมีสภาพเหมือนแมงเม่าบินเข้ากองไฟ อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าวิธีการนี้ก็ทำให้คนที่มีที่ดินอยู่ใกล้เคียงโชคดีมาก เพราะที่ดินรอบเหล่านั้นมักได้รับอานิสงค์หรือมีราคาที่ขยับขึ้นสูงตามอย่างรวดเร็ว แต่ถึงกระนั้น ถ้าที่ดินไม่มีศักยภาพจริง ราคาก็ล่วงลงมาสู่มูลค่าที่ควรจะเป็นจริงอยู่ดี อีกวิธีหนึ่งที่นักปั่นราคาที่ดินแบบมืออาชีพสูงนิยมใช้ ก็คือ การประโคมข่าวโดยมักจะปล่อยข่าวว่า ที่ดินนี้จะมีชาวต่างชาติต้องการซื้อเพื่อสร้างโรงงานมีนักลงทุนต้องการซื้อเพื่อทำโครงการจัดสรร หรือรัฐบาลมีโครงการจะเข้ามาลงทุนสร้างถนนหรือสถานที่ราชการขึ้น ซึ่งแท้จริงอาจจะไม่ได้เป็นเช่นนั้น หรือ เป็นแค่เพียงข่าวลือ แต่ผู้ซื้อก็มักจะเชื่อนักค้าหรือนักปั่นแบบมืออาชีพเหล่านั้น เพราะเขาเหล่านั้นมักจะมีเส้นสายกว้างขวาง รู้ข่าวสารต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งข่าวลับเฉพาะของทางการ และมักจะสนิทสนมเป็นอย่างมากกับพวกนักการเมืองและสถาบันการเงิน สำหรับคนที่กำลังคิดจะซื้อที่ดินอยู่ในขณะนี้ ข้อมูลนี้คงจะเป็นประโยชน์ได้บ้างไม่มากก็น้อย แต่สำหรับคนที่ไม่ได้คิดไว้ ก็ถือสักว่า รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหามล่ะกันนะคะ เรื่องเล่าอสังหาดีๆ จาก พี่แหวน Italkproperty.com