ร่างกายใต้บงการ
กวีปกรณ์
ทารกแรกคลอดเจ้าปลอดภัย
ชื่นชมชีวิตได้ห้าเดือนกว่า
มีพ่อและแม่ชุบชีวา
อยู่ใต้หลังคาเรือนเดียวกัน
สุขสันต์หรรษาใช้ชีวิต
พ่อแม่ใกล้ชิดเช่นความฝัน
อิ่มอุ่นปลอดภัยในวารวัน
ความทุกข์ใดนั้นไม่หวั่นกลัว
กาลหนึ่งจึงเร้าเข้าประชิด
อาทิตย์หม่นหมองเมฆสลัว
เสียงร้องก้องดังจากหลังครัว
ฉับพลันลูกตัวพลัดหล่นดิน
แพทย์ผู้รู้กู้ชีพถีบมรณา
คอยยื้อแย้งชีวาจนกว่าสิ้น
แรงกระแทกกระเทือนแทบวายวิญญ์
ผลกระทบดับดิ้นสมองตาย
เหลือแต่เพียงร่างยังหายใจ
ด้วยเครื่องกู้ไว้น่าใจหาย
ชีวิตคงไว้แต่เพียงกาย
ชีวาวอดวายสายเกินยา
มติแพทย์เห็นชอบมอบความตาย
จึงถอดสายโยงยางเลิกรักษา
อัยการแห่งรัฐจึงก้าวมา
รวบสามีภรรยาฆาตรกร
เหตุเพราะร่างกายใต้บงการ
ฆาตรการจึงกลายอุทาหรณ์
ศาลรับฟังจำเลยเอ่ยอุทรณ์
เล่าเหตุการณ์ก่อนในตอนนั้น
พยานปากเอกจึงเสกเรื่อง
คุยเฟื่องได้กลิ่นพิรุจน์นั่น
ผู้เป็นพ่อทำร้ายหมายฆ่ากัน
เสียงแม่ลั่นวอนอย่าโปรดปรานี
ผู้พิพากษาจึงว่าความ
ลงโทษตามกฎหมายใช่ป้ายสี
โดยไม่สนคำค้านว่าไม่ดี
เพราะพ่อนี้หาเลี้ยงแม้เสี่ยงตาย
เพียงชั่ววูบแห่งโมหะประทะจิต
มัจจุราชก็สถิตหื่นกระหาย
กว่าสำนึกก็เกินกว่าเสียดาย
น้ำตาหลั่งเป็นสายลูกวายปราณ