กลับบ้านเดิม ถิ่นเกิดเถิดน้องพี่ ฟ้ายังงามน้ำยังมีที่ยังรก พลิกพื้นดินถิ่นนี้หนอ มรดก แล้วคลุมปกด้วยรวงเหลืองเรืองตระการ ทิ้งบ้านเก่าหลงเข้าเมืองไม่เฟื่องหรอก มีตึกตรอกคนหลอกคนจนล้นพล่าน ปากต้องกัดตีนต้องถีบรีบลนลาน แม้มีงานได้แค่เงินไม่เกินกิน เงินร้อยพันบ้านเราใช้ไม่มีหมด ค่ามันลดเมื่ออยู่กรุงถลุงสิ้น จะไปไหนใช้เงินนำกว่ากำกิน มันโหดหินกว่าบ้านเก่าที่เจ้าลืม กลับมาเถิดน้องพี่..วิถีทุ่ง จรัสจรุงมุ่งหมายใจยังปลื้ม น้ำมีปลา นาข้าวงามได้ด่ำดื่ม เพียงเจ้าลืมคอนกรีตกรุง..มุ่งสู่นา โอม..มนตราสายรกรั้งยั้งเจ้าไว้ คนเคยไกลให้กลับถิ่นร่วมดินฟ้า แม่โพสพพร้อมขวัญข้าวรอเจ้ามา พลิกผืนนาหน้าหว่านไถฝนใหญ่พรำ หม้อรกฝังใต้ดินกระไดบ้าน ดลบันดาลเจ้าของรกอย่าถลำ กลับคืนสู่บ้านเกิดเถิดเจ้ากรรม วสันต์ย่ำย้ำเยือน.. อย่าเชือนแช ! @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@ ประเพณีการเกิดหรือคลอดบุตรในล้านนามีข้อวัตรปฏิบัติที่ต้องยึดถือกันมานาน เมื่อตัดสายรกแล้ว ก็จะนำเด็กไปอาบน้ำอุ่น ... และนิยมเอารกไปฝังใต้บันไดบ้าน เชื่อว่าเพื่อให้เด็กอยู่กับบ้านกับเรือน รักถิ่นเก่าบ้านเกิดกำเนิดครรภ์..
19 กรกฎาคม 2555 11:43 น. - comment id 1239014
ไม่แน่ใจ...รอตอนเย็นจะลองถามแม่ดู..เอะหรือแม่จะไม่รู้เรื่องเพราะมัวนอนซมอยู่บนบ้านต้องถามพ่อเนาะ..แต่พ่อไม่อยู่แล้ว...จะลองไปถามยายดูดีกว่าครับ..ยายยังอยู่อายุเกือบ 100 แล้วครับ
19 กรกฎาคม 2555 12:29 น. - comment id 1239018
เพิ่งจะรู้เหมือนกันกับเรื่องนี้ แต่สำหรับผู้หญิงไร้เงา สงสัยไม่ได้โดนฝังใต้ถุนบ้านแน่ เพราะเกิดบนเรือ อิอิ
19 กรกฎาคม 2555 17:28 น. - comment id 1239055
ซึ้ง ๆ ไพเราะ
20 กรกฎาคม 2555 05:51 น. - comment id 1239076
มีสองเหตุผลที่คนยังอยู่เมืองหลวง คือ 1 เพื่อสร้างตัว-ทำมาหากิน 2 เพราะหลงไหลแสงสี-ความเจริญ สำหรับผมมีเหตุผลแรก อรุณสวัสดิ์ครับ
20 กรกฎาคม 2555 10:51 น. - comment id 1239089
เคยได้ยินเหมือนกันเรื่องเก็บรกแรกเกิดไว้ บางคนไม่ได้ฝังค่ะเก็บไว้จนแห้ง อัดกรอบคล้องคอ หากเป็นลูกชายได้เกณฑ์ทหารสามารถช่วยคุ้มครอง ให้พ้นภัยอันตรายกลับบ้านอย่างปลอดภัย ประมาณนั้น หากพิมหางานกลับบ้านเกิดไม่ได้ก็ต้อง จำใจต้องทำงานที่กรุงเทพเหมือนกันค่ะ แต่ถือว่าโชคดีค่ะที่ได้กลับบ้าน....
20 กรกฎาคม 2555 10:55 น. - comment id 1239093
20 กรกฎาคม 2555 11:33 น. - comment id 1239101
เป็นลูกผู้หญิงแต่งงานมีครอบครัว ออกเรือนไปแล้ว หัวหน้าครอบครัวไปอยู่ไหนก็ตามกันไปไม่ทิ้งกันค่ะ ไม่ยึดติดว่าต้องอยู่ทีบ้านเกิดตลอดชีวิต อย่างคนที่ทำงานให้กระทรวงต่างประเทศ ก็ต้องโยกย้ายเดินทางตลอด ตำรวจทหาร ก็ไม่ได้อยู่กับที่ เกษตรกรชาวนาถ้ามีที่ทำกินมากมาย ไม่เป็นไร ไม่เดือดร้อน แต่คนที่มีที่ดินทำกินไม่มาก แถมยังติดหนี้ธกส อาจเพราะฝนฟ้า น้ำท่วม ลูกหลานต้องอพยพเข้าเมืองหลวง น่าเห็นใจค่ะ อนงค์นางกับพี่ๆไม่มีใครได้อยู่บ้านเกิดเลย เพราะพ่อเป็นข้าราชการ ไม่มีที่นาเพราะยกให้น้องๆที่เป็นชาวนา แม่ก็่่ป่วยหนักต้องรักษานานหลายสิบปี ต้องเข้าโรงพยาบาลจุฬาฯเพราะมีแพทย์ มีเครื่องมือทุกอย่าง ต้องใช้เงินมาก พี่ชายได้ไปอเมริกาก่อนเพราะพ่อมีเพื่อนสนิท เคยเรียนมาด้วยกันคือ นายแพทย์เกษม แสงพันธุ์ ที่อยู่นิวยอร์คเป็นคนรับรอง ช่วยเหลือ พอพี่ตั้งตัวได้ก็เอาน้องสาวคนสุดท้องไปอยู่ด้วย พี่สาวคนโตแต่งงานกับคนชลบุรี ก็ไมได้ย้ายไปไหน เราพี่น้องช่วยกันรักษาแม่ ออกเงินช่วยกัน ผลัดกันจนแม่หาย ต้องขอบพระคุณ พ.ญ. มาคุ้มครอง โปษยานนท์ แผนกรังสีวิทยา จากจุฬาที่รักษาแม่มาตลอดจนหายจากโรคร้าย ทุกวันนี้แม่ยังต้องไปตรวจร่างกายทุกหกเดือน ต้องกินยาควบคุมธัยรอยด์ แต่ไม่ต้องฉายแสงแล้ว ต้องมีเงินค่ะ จะอยู่บ้านทำนาไม่กี่ไร่จากมรดกของแม่ ไม่อาจช่วยชีวิตแม่ได้ ต่างคนต่างมีเหตุผลของตน เป็นไปตามกฏแห่งกรรม ไม่ขอยึดติดนะคะท่านศรีสมภพ คงไม่ว่ากัน
20 กรกฎาคม 2555 21:11 น. - comment id 1239152
ขอแก้ไขนามสกุลเป็น พ.ญ. มาคุ้มครอง โปษยะจินดาค่ะ ของภัยด้วยนะคะที่พิมพ์่ผิด
21 กรกฎาคม 2555 01:03 น. - comment id 1239192
ความเชื่อ เพื่อให้ดีมีเก่าก่อน ลองผิดถูกทุกขั้นตอนเก่อนตวงชั่ง กุศโลบายให้ทำดีนี้คงยัง อาบน้ำร้อนมาก่อนสั่งให้หลังรู้ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ..ดูเจตนา ขอบคุณทุกๆท่าน ทุกๆความเห็น ประเด็นนี้...
21 กรกฎาคม 2555 01:57 น. - comment id 1239193
มิได้มีเจตนาลบหลู่นะคะท่านศรีสมภพ ทุกสิ่งในโลกล้วนเป็นสิ่งสมมุติ ไม่มีตัวตน ไม่มีของเขาของเรา คนดีนั้นอยู่ที่ไหนก็ทำดีได้ มนุษย์ทุกชาติควรช่วยเหลือกัน แผ่นดินไม่อาจกั้นความเมตตาปราณีต่อผู้อื่นได้ คนที่ได้อยู่บ้านเกิดนั้นดีเลิศประเสริฐยิ่ง แต่ถ้าอยู่แล้วไม่ได้ทำประโยชน์สังคม คิดแต่ห่วงสมบัติ เอาแต่ตัวเองรอดไปวันๆ หนี้สินล้นพ้นตัว ส่วนคนที่ไปทำมาหากินต่างถิ่นเพื่อสร้างตัว กลับเป็นคนที่นำความเจริญให้บ้านเกิด หาเงินมาทอดผ้าป่า ตั้งกองทุนให้ชาวบ้าน สร้างวัดสร้างอะไรช่วยกันในยามที่เขาได้กลับบ้าน หน้านาเขาพากันกลับมาทำนาเกี่ยวข้าว เพราะนานั้นต้องทำตามฤดูกาลตอนฝนตก หาเงินส่งให้ผู้เฒ่าแกพ่อแม่ที่นอนป่วย น่าจะมีคุณค่ากว่าคนที่นอนชมวิว สูบยาใต้ร่มไม้ รอแต่ให้ทางการมาช่วยทุกอย่าง บางคนเอานาไปจำนองกับนายทุน ถ้าลูกหลานไม่เข้าเมือง ก็โดนยึดไป ถ้าไม่แล้งก็น้ำท่วม ข้าวราคาตกต่ำ พ่อค้านายทุนเจ้าของโรงสีรวย จากการขายข้าวกับรับจำนองที่นา ลูกหลานชาวนาต้องมีการศึกษา ทำอย่างไรจะมีโรงสีเอง ขายข้าวส่งออกเองได้ไม่ต้องผ่านนายทุนหน้าเลือด ทำอย่างไรจะให้มีการแพทย์ที่มีพร้อมมีบุคลากรเหมือนในเมือง มีโรงพยาบาลที่ทันสมัยเครื่องมือพร้อม มีลูกหลานเป็นหมอ พยาบาล เป็นเจ้าของกิจการต่างๆ เป็นชาวนาที่มีการพัฒนาช่วยกันสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน คนจะได้ต้องอพยพไปไหน ปีไหนฝนแล้งน้ำท่วมยังมีอาชีพรองรับในท้องถิ่น ถ้าจะกลับไปบ้านจะไม่กลับไปมือเปล่าค่ะ จะไม่ไปเกาะธรรมชาติแผ่นดินกินไปวันๆรอฟ้าฝนอย่างเดียว จะหาทุนไปช่วยพัฒนาหมู่บ้าน ไม่ได้ทำลายธรรมชาติ ไม่มีเงินที่จะไปซื้อที่ดินมาครองเพื่อชมความงามธรรมชาติรอนิพพานไปก่อนใคร มีหนุ่มมากมายตามไปหาแต่จะเอาเงินนั้นไปสร้างโรงพยาบาล ให้ลูกหลานที่ได้เรียนหมอ พยาบาล มาช่วยกันรักษาชาวบ้านจะได้ไม่ต้องเดินทางไกลเข้าเมือง
21 กรกฎาคม 2555 06:03 น. - comment id 1239198
ต้องขออภัย.. ท่านอนงค์นาง กลอนพาไปผิดทางอย่างที่เห็น ใช้คำผิดอาจคิดไปหลายประเด็น แต่ขอเน้นเห็นแนวใหม่ไม่ทิ้งเก่า โลกเปลี่ยนไปคนเปลี่ยนไปไม่น่าแปลก ความผิดแผกอยู่ที่ใจใช่ไหมเล่า ? จะใฝ่ดี หรือชั่วรู้ตัวเรา ใหม่หรือเก่า เศร้าและสุข..มีทุกคน ต้องขออภัยจริงๆ หากทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อน ขอบคุณ และจริงใจไมตรีเสมอ...
21 กรกฎาคม 2555 12:06 น. - comment id 1239229
ยอดเยี่ยมที่สุดครับ
23 กรกฎาคม 2555 23:26 น. - comment id 1239550
แวะมาเยี่ยมจ้า รักมากเสมอ แก้วประเสริฐ.
28 กรกฎาคม 2555 09:34 น. - comment id 1240454
ขอบคุณท่านสุริยันต์ ขอบคุณท่านแก้วประเสริฐ ที่กรุณาแวะมาเยือน...