สายฝนฝากความเสียใจไว้กับฟ้า เพียงสายลมพัดมา-น้ำตาไหล พายุฝากความกล้ำกลืนสะอื้นใจ เพียงแปร่บปราบคราใดดังครืนครืน ฉันขับรถฝ่าสายฝนถนนหลวง บังคับใจไม่เป็นห่วง-เขาคนอื่น วิทยุฉันปรับฟังเพลงบางคลื่น ถนนลื่นบางครั้งต้องตั้งใจ จุดหมายคือห้องหับที่ดับมืด อากาศหนาวเย็นชืด-ชอบร้องไห้ จุดเทียนหอมห้องกลับสว่างไฟ ผ้าเช็ดตัวหยิบใช้เพียงเช็ดตัว นั่งอยู่ริมหน้าต่างข้างเตาผิง แผ่นหลังอิงอุ่นกายไปจนทั่ว กลิ่นกาแฟหอมจางลอยจากครัว อีกหนึ่งความหมองมัวระหว่างวัน อ่านกวีนิพนธ์ของคนเศร้า เปียกปอนความเหงา-คนช่างฝัน สายฝนยังโปรยจางอยู่อย่างนั้น โทรทัศน์ประกาศพลันฝนหยุดแล้ว!
13 กรกฎาคม 2555 07:35 น. - comment id 1238266
น่าเป็นห่วง ไม่หลับไม่นอน
13 กรกฎาคม 2555 08:51 น. - comment id 1238274
13 กรกฎาคม 2555 09:27 น. - comment id 1238280
เปียกปอนป้อนความเหงาเศร้าตลอด เมื่อไหร่หนาม้วยมอดความเหงานี้ สายฝนจางเหงาไม่จางลงสักที จุดไฟเผาเลยคงดีทำลายหลักฐาน จบดื้อๆงี้แหละค่ะ
13 กรกฎาคม 2555 10:28 น. - comment id 1238292
หยุดตกแล้ว หยุดเศร้าได้แล้วจ้ะ
13 กรกฎาคม 2555 10:48 น. - comment id 1238305
อ่านกวีนิพนธ์ของคนเศร้า ทำให้เราเศร้าตามในยามนี้ มีหลายอย่างข้างหน้าถ้าเกิดมี บทกวีแห่งความเศร้า..คงเข้ามา เศร้าหรือสุข/รุกหรือรับ.. ขยับเข้ามาทุกนาทีเลยเน๊าะ..หนุกจัง อิอิ..
13 กรกฎาคม 2555 12:37 น. - comment id 1238313
ความเศร้า-บทกวี มี-ไม่มี ความจริง สิงซุกซ่อน อ่านแล้ว-อิน- ไม่ดี นะกวีปกรณ์ เดี๋ยวอดหลับ-อดนอน จะผอมตาย หมดมุก
13 กรกฎาคม 2555 12:47 น. - comment id 1238314
อ่านกวีนิพนธ์ของคนเศร้า ที่เปียกปอนความเหงาจนร้าวหม่น เพียงสายฝนหมาดฟ้านภาดล ความทุกข์ทน ไม่ยักหาย สลายไป
13 กรกฎาคม 2555 13:33 น. - comment id 1238317
คุณลำยอง: มะคืน smirnof apple 2 ขวดจ้า แล้วก็ฟัง adele - hiding my heart บวกกับบรรยากาศฝนตก ฉะนั้นเรื่องหลับไม่หลับไม่สน ขอทนถ่างตาคว้าอารมณ์นั้นมากลั่นกรองให้จบก่อน
13 กรกฎาคม 2555 13:34 น. - comment id 1238318
คุณHathaikarn: ขอบที่แวะมาครับ
13 กรกฎาคม 2555 13:38 น. - comment id 1238319
คุณ(น้ำตาลหวาน): ใช่ครับ จบซะดื้อๆ นี่แหละ!! ให้ไฟมาทีวีเปิดคั่นอารมณ์ จะได้จบความเศร้าภายนอก คงเหลือไว้แต่ความศร้าในบทกวีครับ
13 กรกฎาคม 2555 13:39 น. - comment id 1238320
พี่เพียงพลิ้ว: ฝนหยุดแล้ว แต่ในบทกวียังตกอยู่ครับ ขอเศร้าอีกสักแป๊บ เด๋วคงดีขึ้นในไม่ช้า
13 กรกฎาคม 2555 13:40 น. - comment id 1238321
คุณศรีสมภพ: แล้วไม่ทราบว่าตอนนี้ สุขหรือทุกข์ รุกหรือรับ อยู่อะครับ ^^ ขอบคุณที่แวะมาเยียนเสมอครับ
13 กรกฎาคม 2555 13:41 น. - comment id 1238322
คุณลำไย: กรขอกินน้ำแข็งไสแกล้มกลอนดีกว่าสับปะรดคงบดขยี้กล่อมแย่แน่ๆเลย ^^
13 กรกฎาคม 2555 13:42 น. - comment id 1238323
คุณdin: ขอบคุณสำหรับบทกวีเพราะๆอีกแล้วฮะ
13 กรกฎาคม 2555 13:54 น. - comment id 1238324
น้ำตาฟ้าหลั่่งหล่นลงเป็นสาย ฝนกระจายพร่างพรมชโลมทั่ว แต่ว่าน้ำจากใจไหลระรัว ท่วมท้นหัวใจเราเศร้าอกตรม ทั้งน้ำฝนน้ำตาพาใจสั่น ทั้งคืนวันเห็นฝนให้ใจขื่นขม ด้วยพายุฝนกระหน่ำซ้ำแรงลม พุ่งถาโถมสู่ใจให้ไร้แรง จุดฟืนไฟโยนใส่เตาเข้าไปผิง หลังนั่งพิงเตาไฟอุ่นไอแสง กายที่หนาวสั่นล้าเริ่มมีแรง ก็เพราะแสงแห่งไฟให้อุ่นอิง หิ้วกาน้ำวางไว้ใกล้ไฟอ่อน เตรียมถือช้อนแก้วจานรองซองน้ำขิง ฉีกซองใส่แก้วแล้วตามน้ำร้อนจริง ดื่มแล้วยิ่งอบอุ่นกายคลายหนาวทรวง มือถือปากกาไว้ใช้จารจด อักษรบทกวีที่ห่วงหวง รำพึงรักล้นใจใช่หลอกลวง จวบลุล่วงฝนซาฟ้าใหม่พลัน *********************************** สวัสดี..กวีปกรณ์ และเพื่อนๆทุกท่านค่ะ
13 กรกฎาคม 2555 13:55 น. - comment id 1238325
น้ำตาฟ้าหลั่งหล่นลงเป็นสาย ฝนกระจายพร่างพรมชโลมทั่ว แต่ว่าน้ำจากใจไหลระรัว ท่วมท้นหัวใจเราเศร้าอกตรม ทั้งน้ำฝนน้ำตาพาใจสั่น ทั้งคืนวันเห็นฝนให้ใจขื่นขม ด้วยพายุฝนกระหน่ำซ้ำแรงลม พุ่งถาโถมสู่ใจให้ไร้แรง จุดฟืนไฟโยนใส่เตาเข้าไปผิง หลังนั่งพิงเตาไฟอุ่นไอแสง กายที่หนาวสั่นล้าเริ่มมีแรง ก็เพราะแสงแห่งไฟให้อุ่นอิง หิ้วกาน้ำวางไว้ใกล้ไฟอ่อน เตรียมถือช้อนแก้วจานรองซองน้ำขิง ฉีกซองใส่แก้วแล้วตามน้ำร้อนจริง ดื่มแล้วยิ่งอบอุ่นกายคลายหนาวทรวง มือถือปากกาไว้ใช้จารจด อักษรบทกวีที่ห่วงหวง รำพึงรักล้นใจใช่หลอกลวง จวบลุล่วงฝนซาฟ้าใหม่พลัน *********************************** สวัสดี..กวีปกรณ์ และเพื่อนๆทุกท่านค่ะ
13 กรกฎาคม 2555 14:51 น. - comment id 1238332
คุณปาหนัน: เพราะมากครับ ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยม มาแจมผลงานครับ
13 กรกฎาคม 2555 14:52 น. - comment id 1238334
แวะมาทักทายค่ะ
13 กรกฎาคม 2555 15:06 น. - comment id 1238337
บทกวีเปียกฝนทนเหน็บหนาว ต้องปวดร้าวทนทุกข์ที่รุกถม ฤาอดีตกรีดเจ็บยังเก็บตรม ยังฝังจมซ่อนเศร้าใต้เหง้าใจ ฤาหมิ่นตนต่ำต้อยเท่ารอยตม ร้าวระบบเกินกว่าจะหาไหน ความโดดเดี่ยวอ้างว้างจองจำใจ ร่ำร้องให้จนหมดหยดน้ำตา กวีปกรณ์นอนดึกคึกร้องไห้ นายฟ้าฟื้นเห็นใจเป็นหนักหนา ด้วยหัวอกเดียวกันร้องผ่านมา จริงไม่จริงหรือว่า ฟ้า คิดเอง ทักทายครับ พี่กวีปกรณ์
13 กรกฎาคม 2555 18:39 น. - comment id 1238345
คุณวงศ์ตะวัน: ต้อนรับเสมอครับ ฟ้าฟื้น: พี่งงอยู่ว่าคำถามคืออะไร แล้วจะตอบยังไงดีอะดิ ^^
13 กรกฎาคม 2555 18:44 น. - comment id 1238346
มีคนเอามะม่วง กะปิหวานมาฝาก มาแจมมั้ย ม่วงเปรี้ยวจี๊ด เข็ดฟันเลย
13 กรกฎาคม 2555 19:20 น. - comment id 1238347
คุณลำไย: เข็ดไปคนเดียวละกันนะ แต่ละอย่างเกินทน ทั้งมะม่วงกะปิ เฮ่อ!!
13 กรกฎาคม 2555 20:06 น. - comment id 1238354
เศร้าคะ
13 กรกฎาคม 2555 20:10 น. - comment id 1238355
โลกจะเศร้าหากเรามองว่าหมองเศร้า โลกจะเหงาหากเราเห็นเป็นหม่นสี โลกจะทุกข์หากเราทุกรุกราวี โลกจะมีแต่น้ำตาถ้าเราตรม ขอมองโลกในแง่ดีย่อมดีแน่ อย่ามองแต่ด้านเศร้าเหงาขื่นขม ราตรีหนึ่งเพียงน้อยนิดติดเศร้าตรม จงชื่นชมแสงงามยามทิวา ..... แวะมาชื่นชมผลงานนะคร้าบบบ
13 กรกฎาคม 2555 20:23 น. - comment id 1238356
โลกจะเศร้าหากเรามองว่าหมองเศร้า โลกจะเหงาหากเราเห็นเป็นหม่นสี โลกจะทุกข์หากเราทุกรุกราวี โลกจะมีแต่น้ำตาถ้าเราตรม ขอมองโลกในแง่ดีย่อมดีแน่ อย่ามองแต่ด้านเศร้าเหงาขื่นขม ราตรีหนึ่งเพียงน้อยนิดติดเศร้าตรม จงชื่นชมแสงงามยามทิวา ..... แวะมาชื่นชมผลงานนะคร้าบบบ
13 กรกฎาคม 2555 20:32 น. - comment id 1238358
คุณHathaikarn: ขอบคุณครับผม พี่หลวงวิจิตร: ขอบคุณมากๆ ครับสำหรับคำแนะนำและกำลังใจ
14 กรกฎาคม 2555 11:08 น. - comment id 1238417
ผ้าเช็ดตัวใช้ห่มได้ยามหนาว เอหรือจะใช้ผ้าขาวม้าดี จะได้ออกแนวท้องทุ่งหน่อยๆ :)
14 กรกฎาคม 2555 16:45 น. - comment id 1238481
แวะมาดูว่าหายเศร้ายัง กลอนไพเราะมากค่ะ