๏ เมื่อสิ้นช่วงห่วงใยโลมไล้ฝัน ทุกจำนรรจ์เลือนลบเกลื่อนกลบฝัง เหลือเศษซากครองจินต์จนภินท์พัง เจ็บประดังถั่งโถมประโลมใจ ในเศษเสี้ยวความเศร้าที่เข้าสุม รายล้อมรุมดวงมานเกินต้านไหว มืดมนทิศเถินทางดูห่างไกล ตรอมตรมในชอกช้ำด้วยจำยอม มวลผกาบานงามเมื่อยามฝน ภู่ผึ้งวนโบยบินดอมกลิ่นหอม หวานเอยหวานมธุรสที่อดออม กลับถูกย้อมรอยขื่นมิชื่นทรวง รอยอาลัยกลายกลับสิ้นลับจาก- สองฝั่งฟากดินแดนเคยแหนหวง หลากความคำงดงามมิตามทวง ปล่อยลับล่วงทุกเมื่อเลิกเกื้อกูล **จึงกอบกำส่ำโศกในโลกเศร้า เพลิงทุกข์เผาผลาญจินต์ผู้สิ้นสูญ เต็มด้วยคราบน้ำตา..ความอาดูร ราวกองกูณฑ์พอกอกวิตกตรอม** ย่างย่ำบนเศษซากวิบากรัก ที่หาญหักใจกายจนผ่ายผอม อันหวานชื่นสุขสมเคยดมดอม ก็จำยอมลืมสิ้นมิยินยล เมื่อม่านหมอกโมงยามของความช้ำ เข้าแอบอำซ่อนซุกอยู่ทุกหน สิ้นแล้วแสงพโยมไล้โลมมน เลิกดิ้นรนเสาะแสวงทางแสงจันทร์ ยอมสาหัสดวงมานให้ผลาญเผา หากบรรเทาอนธการลับผ่านผัน แม้หนึ่งน้อยรอยคำมิรำพัน จักกลืนกลั้นตราบสิ้นชีวินเรา
2 กรกฎาคม 2555 22:16 น. - comment id 1236029
รออ่านต่อภาคสอง
3 กรกฎาคม 2555 20:38 น. - comment id 1236135
สวัสดีค่ะ คุณบินเดี่ยว แวะมาอ่านในม่านหมอกค่ะ ไพเราะเหมือนเดิม วลีเปิดบ้านแล้วนะคะ ม่านฝนก็มีกลอนที่แล้วมั้ง
2 กรกฎาคม 2555 18:10 น. - comment id 1236251
คอนเสปต์นี้ตลอดเลยนะครับพี่นกเดี่ยว อกหักสินะช่วงนี้ สบายดีนะครับ
4 กรกฎาคม 2555 11:11 น. - comment id 1237305
เอสน้ำใบบัวบกมาฝากคนช้ำ ช้ำอะไรไม่เท่าช้ำรักเนาะ
4 กรกฎาคม 2555 12:51 น. - comment id 1237323
ภาคแรกช้ำ ภาคสองหวานซึ้งนะ