ช่างงามหน้าอภิสิทธิ์คิดออกมา ว่าโครงการนาซ่าแลกวีซ่า ให้ทักษินเข้าประเทศอเมริกา ยังไม่ทันเข้าสภาเขายกเลิก หาลุงแซมมุ่งหมายขยายฐานทัพ กล่าวสำทับขนอาวุธเอิกเกริก รัฐบาลทำไปก่อนไม่รอฤกษ์ ขนเข้ามาบานเบิกอู่ตะเภา กองทัพเรือชี้แจงไม่ยอมฟัง สายล่อฟ้ามานั่งช่วยกันเม้า วิทยาศาสตร์การเมืองรวมกันเข้า รัฐมนตรีเงาโจมตีไม่รีรอ ถึงตอนนี้มีใครรับผิดชอบ อภิสิทธิ์ออกมาตอบอย่างหัวหมอ รัฐบาลผิดเองไม่กล้าพอ ไม่พูดต่อเรื่องนาซ่าแลกวีซ่า
30 มิถุนายน 2555 10:21 น. - comment id 1233483
คำตอบ "ใครฆ่า-ใครเผา" อยู่ในคำถาม เปลว สีเงิน 21 June 2554 - 00:00 การที่ประชาธิปัตย์ปิ๊งไอเดียตั้งเวทีปราศรัยสี่แยกราชประสงค์ ๒๓ มิ.ย. คือวันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้ กลายเป็นเดินเหยียบหางบางคน-บางพวกโดยไม่ตั้งใจอย่างแรง แรง...ชนิดเต็มหางแน่ๆ เพราะร้องกันเสียงขรมทั้งตัวผู้-ตัวเมีย ลามถึงนักวิชาการบางสำนัก จะด้วยขวัญอ่อน หรือ "แอบฝันไว้" ก็ไม่ทราบ ออกมาสวมสูทค้าน จะเป็นการยั่วยุบ้าง เป็นการตอกย้ำบ้าง เหมือนสมัยอยุธยาก่อนกรุงแตก ทหารจะยิงปืนใหญ่ก็ไม่ได้ เดี๋ยวสนมนางในจะตกใจ ก็เลยปล่อยให้พม่ามัน "ปิดประตูตีแมว" เงียบๆ ซะเรียบไปเลย! นางธิดาหัวหน้าแดงพูดวันก่อนว่า การไปเปิดเวทีปราศรัยราชประสงค์ของนายกฯ อภิสิทธิ์ เท่ากับเป็นการย่ำยีเกียรติของวีรบุรุษ-วีรชนเสื้อแดง ก็เอาเหอะ เธอเป็นหัวหน้า นปช. ถือซะว่าคนละส่วนกับพรรคเพื่อไทย ฉะนั้น เธอพูดอะไรก็ยกประโยชน์ให้ "คนแก่อารมณ์ค้าง" แต่สำหรับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ คุณต้องทำตาที่โปนเหลือกอยู่แล้วให้มันเป็นตาวาวเหมือนอีกาเจอธนูจากนายพรานไปทำไม หือ...กะอีแค่อภิสิทธิ์จะไปปราศรัยราชประสงค์เท่านั้น จะต้องออกมาประดิษฐ์โวหารต้านต่อแบบร้อนเนื้อ-ร้อนใจ ทำให้เห็นไต๋ว่า ที่ทำอะไรกันไว้ในที่ลับ กลัวถูกจับออกมาแฉ? ไม่ใช่อะไรหรอก คุณณัฐวุฒิ เหตุการณ์ยึดราชประสงค์ก็ดี บุกโรงพยาบาลจุฬาฯ จนต้องย้ายคนไข้ กระทั่ง "สมเด็จพระสังฆราชฯ" ที่ประชวร ก็ต้องย้ายพระองค์หนีภัยแดงไปประทับรักษาชั่วคราวอยู่ รพ.ศิริราชก็ดี การยิง M ๗๙ ถล่มก็ดี ยึดสวนลุมฯ เป็นกองบัญชาการก่อการร้ายยิง-ระเบิดใส่เจ้าพนักงานก็ดี เผาอาคารร้านค้า ฉกชิงทรัพย์สินตามห้างร้านก็ดี ฆ่าทหาร ฆ่าชาวบ้าน เผาบ้าน-เผาเมือง ก็ดี..... ทั้งหลาย-ทั้งปวงนั้น ส.ส.และแกนนำเพื่อไทยเขาบอกว่า "พรรคไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย" เป็นเรื่องของนปช. ของพวกโม่งแดง-โม่งดำ กระทั่งเมื่อจนแต้ม-จนตรอก ณัฐวุฒิเองนั่นแหละ ไถลจนตาเหลือกอยู่บ่อยๆ ว่า "เป็นพวกแดงเทียม" มันทำ สรุปว่า เหตุการณ์เผาบ้าน-เผาเมือง เหตุการณ์ชุมนุมสี่แยกราชประสงค์ เหตุการณ์นำไปสู่การมีคนตายทั้งทหารและชาวบ้านรวม ๙๑ ศพ พรรคเพื่อไทย รวมทั้งทักษิณ ต่างปฏิเสธมาตลอดว่า....ไม่มีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย! ก็ในเมื่อพรรคเพื่อไทยไม่มีส่วน ไม่เกี่ยว-ไม่ข้องใดๆ เลย แล้วนายณัฐวุฒิ หรือใครในเพื่อไทย จะต้องแสบเนื้อ-แสบหนังจนทนไม่ไหว ต้องออกมาร้องโวยวายเหมือนผีเจอด้ายสายสิญจน์ไปทำไมกัน? หรือว่าเนื้อแท้แล้ว เพื่อไทยก็คือสาขา นปช.เสื้อแดง เพียงแยกบริษัท-แยกบัญชี แต่เป็นคอมปานี "ทักษิณ โฮลดิ้ง" ด้วยกัน? และอีกอย่าง ก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ประชาธิปัตย์เขาจะจัดเวทีปราศรัยแบบไหน-ตรงไหน แบบบ้าป่าเถื่อน ยึดแม่งมันกลางถนน-กลางสี่แยก ตั้งเวทีปลุกระดมอย่างที่พวกคุณมึงทำกัน หรือว่าเขาจะตั้งเวทีเป็นที่-เป็นทางอย่างที่มนุษย์มนาผู้มีอารยะเขาทำกัน ไม่ไปรบกวนผิวการจราจร และการปราศรัยหาเสียง ยังไม่รู้เลยว่านายกฯ อภิสิทธิ์ หรือใครจะพูดเรื่องอะไรบ้าง และว่าอย่างไรบ้าง แต่นี่...พวกวัวสันหลังหวะร้องกันโอ๊กอ๊ากว่า อภิสิทธิ์จะมากระชากหลังด้วยเรื่องใครเผา..ใครฆ่า ๙๑ ศพ? เรื่องใครเผา ไม่สำคัญเท่า...ใครสั่งเผา! เพราะตอนเผา เผาตอนกลางวัน เผากลางบ้าน-กลางเมือง เป็นเหตุประจักษ์ตากับชาวโลก รับรู้ได้ด้วยสามัญสำนึกของความเป็นมนุษย์อยู่แล้ว ซ้ำในยุคเทคโนโลยีครองโลก ภาพเหตุการณ์ที่บันทึกโดย "คนต่างชาติ" ซึ่งไม่เข้าใคร-ออกใคร แพร่หลายเป็นหลักฐานยืนยันได้ดีว่า คนเผาเป็นใคร-พวกไหน? และต้นเหตุมาจากใคร? ใช่แกนนำ นปช.หลายๆ คนที่ไปเป็นผู้สมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เพื่อไทยขณะนี้หรือไม่ ที่ยืนตะโกนปลุกเร้า-สั่งการอยู่บนเวที ทั้งที่สี่แยกราชประสงค์ และที่ราชดำเนิน จนเกิดการเผาบ้าน-เผาเมือง เป็นจลาจลเมืองขึ้น และมีชายชุดดำ มีกองกำลังไม่ทราบฝ่าย มีอาวุธสงครามครบมือ ออกมาปะทะกับตำรวจ-ทหารที่ทำหน้าที่รักษาบ้าน-รักษาเมืองทั้งเมื่อ ๑๐ เมษา และเมื่อ ๑๙ พฤษภา ๕๓ จนบาดเจ็บล้มตาย! สอดรับกับใครก็ไม่รู้ เปิดดูจากคลิปวิดีโอที่แพร่หลายตามเน็ตเยอะแยะไปจะเห็นหน้าเองว่าใคร และเสียงคล้ายเสียงกี้ปูตะโกนว่า.... "พี่น้องเสื้อแดง ผมจะบอกข่าวดีว่า เดิมนั้น คนเสื้อแดงมีแค่พรรคการเมืองและมวลชนสนับสนุน แต่วันนี้ แก้วอีกประการหนึ่งที่เรารอ นั่นก็คือ 'กองกำลังไม่ทราบฝ่าย' เขาพร้อมปกป้องสนับสนุนเสื้อแดง...." นั่นคือความจริงที่เปิดเผยตัวมันเองอยู่แล้วว่า...ใครเผา-ใครฆ่า ทหารและประชาชน รวม ๙๑ ศพ แต่ประเด็น ใครล่ะ...สั่งเผา? ตรงนี้ผมไม่รู้.... แต่ทั้งท่านและผมก็ได้ยินกะหูมาแล้วจาก วิดีโอลิงค์-โฟนอิน ที่ไปถึงวงชุมนุมเสื้อแดงบ้าง จากแกนนำเสื้อแดงบนเวทีตะโกนบ้าง ตะโกนด้วยเสียงดัง-ฟังชัด ถนัดคาหูจนถึงทุกวันนี้ เช่นจากวิดีโอลิงค์ว่า.... "ผมอยากจะฝากบอกคนเสื้อแดงทั่วประเทศว่า ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นรุนแรงกับพี่น้องเสื้อแดงที่กรุงเทพฯ พี่น้องเสื้อแดงต่างจังหวัดให้ไปที่หน้าศาลากลางกันให้เต็มที่....." จากแกนนำบนเวทีว่า.... "ขอให้เสื้อแดงทุกจังหวัดฟังภารกิจดังต่อไปนี้ ให้ไปรวมตัวที่ศาลากลาง รอเวลามีการปราบเมื่อไหร่ ตัดสินใจได้ทันที ทุกจังหวัดให้ไปศาลากลาง ฟังสัญญาณจากที่นี่....จอมืดเมื่อไหร่ แปลว่าได้มีการปราบแล้ว พี่น้องใช้ดุลยพินิจ จัดการกันได้เต็มที่...." "....ไม่ต้องเตรียมอะไรมาก มาด้วยกัน ขวดแก้วคนละใบ มาเติมน้ำมันเอาข้างหน้า บรรจุให้ได้ ๗๕ ซีซี ถึง ๑ ลิตร ถ้าเรามา ๑ ล้านคน ในกรุงเทพมหานครมีน้ำมัน ๑ ล้านลิตร รับรองว่ากทม.เป็นทะเลเพลิงอย่างแน่นอน...บอกให้ทหารสุนัขรับใช้อำมาตย์ได้รู้ว่า ถ้าพวกคุณทำร้ายคนเสื้อแดง กรุงเทพฯ จะเป็นทะเลเพลิงทันที...." "พวกคุณยึดอำนาจ พวกผมเผา....เผาทั่วประเทศ เผาไปเลยพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง แล้วใครจะจับมาเอากะผมนี่..ถ้าคุณยึดอำนาจ....เผา ...อย่างที่ผมบอก คนเสื้อแดงเขาขี้ตกใจ พอยิงตูมๆ เสื้อแดงบางคนวิ่งเข้าเกษรฯ บางคนวิ่งเข้าเซ็นทรัลเวิลด์ บางคนวิ่งเข้าพารากอน วิ่งเข้าโรงแรมแถวนี้ อาการตกใจมีหลายอาการ บางคนตกใจวิ่งหากระเป๋าแบรนด์เนมก็มี บางคนตกใจชอบวิ่งไปร้านเครื่องประดับ เครื่องทอง-เครื่องเพชรก็มี บางคนตกใจชอบขับรถเข้าไปในห้างเลยก็มี....... บางคนเวลาตกใจ จุดไฟขึ้นมาดื้อๆ ก็มี!" เอ้อ....คุณณัฐวุฒิพอจำอะไรๆ ทำนองนี้ได้บ้างมั้ยครับว่าเป็นวาทะพระเอกเสื้อแดงคนไหน และเนี่ย..ผมว่าในวันที่ ๒๓ มิ.ย. นายกฯ อภิสิทธิ์ไปเล่าแจ้งแถลงไขข้อข้องใจที่พวกเสื้อแดงตามยกป้าย หรือตะโกนถามเกือบทุกแห่งที่ไปหาเสียงด้วยอยากรู้ว่า... ใครสั่งฆ่า ๙๑ ศพ? ใครเผาบ้าน-เผาเมือง? การอธิบายเพื่อให้คนเข้าใจในเรื่องเหล่านี้ของอภิสิทธิ์ มันไม่สร้างสรรค์ มันไม่สร้างบรรยากาศปรองดองตรงไหน มันเป็นการเข้าฮอส เป็นการเสริมบทดาวพระศุกร์อย่างไร และการอธิบายเรื่องเผาบ้าน-เผาเมือง เรื่องกองกำลังไม่ทราบฝ่ายฆ่าทหาร-ประชาชน ๙๑ ศพ มันเกี่ยวกับเพื่อไทยตรงไหน อย่างไร ในเมื่อ นปช.เสื้อแดงไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย? แล้วทำไมมันถึงได้พล่านนนน..กันจัง!? ทีเรื่องถึงตัวเอง เป็นเหมือนนักเลงส้นเกือก สนิมสร้อย เอะอะ...ฟ้อง ร่างหนังสือให้ไอ้วอกพอกหน้าขาวไปยื่นหน่วยงานนั้น-นี้ ทีใครไม่รู้ ตัดต่อคำพูดทำเป็นเทปลับปรักปรำเขาบ้าง สมคบกับคนริยำทำคลิปลับศาลรัฐธรรมนูญบ้าง ถูกฟ้องเข้าบ้าง ร้องเหมือนวัวถูกทุบไข่! กรุงเทพฯ วันนี้ ไม่ใช่กรุงเทพฯ ๒๔๙๙ ที่จะมาเล่นบทอันธพาลคุกคามกันทั้งการบ้าน-ทั้งการเมืองอยู่ร่ำไป ตอนนี้พวกแดงคงจะ "บ้าโพล" จนเคลิ้มว่า ปูกี้ที่พูดเป็น ๒ คำ "ไม่แก้แค้น แต่จะแก้ไข" จะได้เป็นนายกฯ จริงๆ กระมัง ถึงได้กร่างกันจัง คนไทยชอบ "คนสู้คน" เมื่ออภิสิทธิ์จิกหัวแม่เท้ากลางเวทีเช่นนี้ "มีน็อก" นะ...พี่น้อง!.
2 กรกฎาคม 2555 10:21 น. - comment id 1236154
ช่วยนาซ่า ด้วยค๊าฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ
2 กรกฎาคม 2555 20:19 น. - comment id 1236260
ความคิดเห็นที่ 28 มรึงรีบไปติดต่อท่านอานันท์มาช่วยพวกมรึงด่วนเลยนะเว่ย
2 กรกฎาคม 2555 15:15 น. - comment id 1236411
ขอบคุณนักวิชาการ ที่เหลือไว้สำหรับประเทศไทย กลุ่มนักวิชาการ อาจารย์ อาทิคุณอัษฎาง ปาณิบุตร และท่านอื่นๆ แสดงความคิดเห็นในฐานะนักวิชาการได้เที่ยงตรง และคุณธรรมสูง เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานแก่ลูกหลานในภายภาคหน้า ตลก สมควรดูซะ.... และอาจารย์ได้ชี้หลักนิติธรรม นิติรัฐ ให้แล้ว นี่คือเจตนารมณ์ของกฎหมายรัฐธรรมนูญ เพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง สมควรพิจารณาตัวเองได้แล้ว ตลก..... เพราะเล่นชงกันมา เป็นเพ็คเก็จ ตามใบสั่ง ของคนที่คิดว่าเป็นเจ้า..... ที่แท้.......อีแอบ เปิดหมดทุกคน คำว่าละอายใจตัวเอง มีไหม? เยาวชนของประเทศเขาฝากถาม ระวังนะกรรมติดจรวด.......นะจ๊ะ....นะจ๊ะ....ขอบคุณข่าวไทยรัฐ
2 กรกฎาคม 2555 14:04 น. - comment id 1236459
ระหว่างกระเบื้องตราช้างกับคนพวกนี้ ใครขนะ ตลก.รธน.หน้าแหกแล้วครับ/ อานันท์ ปัดไม่รู้เรื่องไปมีชื่อเป้นพยานได้อย่างไร/ศาลและสมเจตน์ ไม่เคยติดต่อ เอาแล้วครับ กระแสสังคม เล่นหนัก จนต้องออกมาโวยว่า ไม่ได้รู้เรื่องด้วย ไม่มีหมายศาลเรียกให้ไปเป้นพยาน /ไม่เคยติดต่อสมเจตน์/ ตกใจมาก ที่มีชื่อ 555555555
2 กรกฎาคม 2555 14:06 น. - comment id 1236460
ความคิดเห็นที่ 28 พวกปากคาบโกเต็กซ์รู้จักควายป่ะ
2 กรกฎาคม 2555 14:10 น. - comment id 1236461
ความคิดเห็นที่ 28 ทำเท่ด่านาซ่าน่ะ ตอนนี้ไอ้พรรคประชาวิบัติ ถนัดกู้จังไรนั่น มันท้องอืดไปแล้ว อาจารย์ดีๆๆในมหาลัยเขาสาปแช่งกันกระหน่ำ
29 มิถุนายน 2555 14:17 น. - comment id 1236582
เมื่อทุกอย่าง 'ประจักษ์แจ้ง' แดงชัด เปลว สีเงิน 25 June 2555 - 00:00 เอากันให้สบายไปเลยนะ...รัฐบาลก็ของเรา ตำรวจก็ของเรา ทหารก็ของเรา อัยการก็ของเรา วิทยุ-โทรทัศน์-หนังสือพิมพ์ก็ของเรา เหลือแต่ศาลเท่านั้นไม่ยอมเป็นของเรา อย่างนี้ก็ต้องถอนนนน...ว่าแล้ว คณะพรรคเพื่อไทยเมื่อไม่ชนะในรัฐสภา ก็มาในปาง "คนเสื้อแดง" หวังชนะด้วยกองกำลังนอกสภาฯ ชุมนุมปลุกปั่นผู้คนให้เกลียดชังศาล-องค์กรอิสระ หมดความเคารพเกรงกลัว ชี้หน้ากันดื้อๆ ไปเลยว่า...เป็นขบวนการร่วมหวังล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์! เห็นแล้วผมก็ทุเรศ อเนจอนาถตัวเอง เกิดเป็นคนไทย ถึงไม่เนรคุณแผ่นดินไทยก็เหมือนเนรคุณ เพราะเห็นบ้านเมืองถูกย่ำยีทั้งจากคนไทยด้วยกัน และทั้งจากคนนอกชาติที่ทยอยย่องกันเข้ามาหวังยึดครองด้วยรูปแบบต่างๆ แต่ผมก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ ช่วยไม่ได้ด้วยเหตุผลเดียวคือ "ผมเห็นแก่ประโยชน์ตัวผมเองมากกว่าจะเห็นแก่ประโยชน์ชาติ"! มันก็เท่านั้น....! ความจริง "ในทุกเรื่อง" คำตอบไม่ยาวหรอก แต่ด้วยลีลาแห่งมารยาสาไถยของชนชั้นผู้มากด้วยปัญญาในวิชาความรู้ขั้นปราชญ์ราชบัณฑิตทั้งหลาย ย่อมวิลาส-วิไลทำเรื่องสั้นให้ยาวด้วยสร้อย แต่กับเรื่องยาว สามารถทำให้สั้นเหลือ ๔ คำ ผม-ไม่-อยาก-ยุ่ง!? เมื่อพลูโต ดาวเปลี่ยนโครงสร้างโลก ซึ่งปกครองอยู่ในขุมนรกอันร้อนรุ่มด้วยเปลวเพลิง และรักความยุติธรรมในการตัดสินเริ่มทำงานเต็มตัว สถานการณ์ที่มันจะเป็นต่อไป มันก็ต้อง Let It Be คืออะไรมันจะเกิด ก็ต้องให้มันเกิด สถาบันตุลาการ พูดกันชัดๆ "องค์กรผู้ใช้กฎหมาย" นั่นคือ ๑ ในตัวแทนพลูโต และบัดนี้...เมื่อเทพแห่งศุภเคราะห์ขี้ขลาดส่วนใหญ่ ส่วนหนึ่งนิ่งดูดาย ดูจังหวะ ฝ่ายไหนชนะก็เข้าด้วยช่วยกระพือ และอีกส่วนหนึ่ง "ซื้ออนาคตใหม่" ตัดสินใจเลือกนับญาติกับโจรแล้ว อนาคตบ้านเมืองบนเส้นทางสายเปลี่ยนนี้ ก็มาถึง "ชุมทางแห่งดุลยธรรม" แล้ว จะแยกไปทางไหน ก็เหมือนดั่งหลวงจีนรูปหนึ่งที่ท่านระบายลมหายใจจนหนวดเคราขาวโพลนพลิ้ว พลางรำพึงยามแผ่นดินคับขันว่า "ถ้าอาตมาไม่ลงนรก แล้วใครล่ะ จะลงนรก"? ฉันใด ยามนี้ ก็ฉันนั้น แหละครับ ถ้าตุลาการแห่งศาลสถิตยุติธรรมทั้งหลาย "ไม่คัดท้ายประเทศ" ด้วยดุลยธรรม แล้วใครที่ไหนในยามนี้ล่ะ ที่จะทำหน้าที่ "คัดท้าย"!? เอาเลย นางธิดาและคณะรัฐบาลเพื่อไทย ที่ส่งตัวแทนไปทำหน้าที่ในปางแกนนำ นปช.ทั้งหลาย ล่ามา...รายชื่อถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญน่ะ จะเอามากี่ล้านก็เอามา ในโลกนี้ก็เพิ่งเห็น-เพิ่งมีที่ประเทศไทยนี่แหละ ผู้ต้องหาใช้อำนาจนอกระบบฟ้องตุลาการผู้สั่งคดีบ้าง ไปล่ารายชื่อมาถอดถอนบ้าง แล้วอ้าง ๘๐ ปี ประเทศไทยไม่เคยมีประชาธิปไตย ก็ที่พวกคุณท่านทั้งหลายทำอยู่นี่ มันไม่ใช่เพราะประเทศไทยร่ำรวยประชาธิปไตยจนล้นเหลือดอกหรือ เสียงข่มขู่-คุกคามทำให้ผู้คน "หดหัว" กันไปหมดทั้งประเทศ ไม่มีใครกล้าออกมาใช้สิทธิ์ประชาธิปไตยแข่งกับคณะ ฯพณฯ โจรทั้งหลาย ขนาดนี้แล้วยังจะว่าบ้านเมืองไม่มีประชาธิปไตยอีกหรือ? กลับไปถามไอ้พวกอังดรัวต์ อังด่วยในพรรคดูซิว่า ที่ฝรั่งเศส-อังกฤษ-สหรัฐ เขาบริโภคประชาธิปไตยด้วยการใช้สิทธิเสรีภาพถ่อยเถื่อนอย่างที่ทำกันอยู่ในประเทศไทยเวอร์ชั่น "ทักษิณแผ่นดินแดง" อย่างนี้มั้ย? โหนเพื่อยกมาเป็นปัญหาปลุกปั่น-บั่นทอนเสถียรภาพบ้านเมืองมันไปได้ทุกเรื่อง ตอนแรกก็โหนประชาธิปไตยทักษิณ "รวยแล้วไม่โกง" ต่อมาก็โหนศพประชาธิปไตยลุงนวมทอง ต่อมาก็โหนลัทธิแดงท่านประธานเหมา คิดการใหญ่เปลี่ยนระบอบ-ล้มสถาบันให้เป็น "แดงทั้งแผ่นดิน" แล้วก็โหนเรื่องไพร่-เรื่องอำมาตย์ เรื่อง ๒ มาตรฐาน เรื่องต้านรัฐประหาร พอตัวเองเขยิบชั้นเป็นอำมาตย์ไพร่ ได้ครองอำนาจ-ครองเมืองระดับหนึ่ง ก็ถึงเวลาที่คดีความต่างๆ อันอยู่ในกระบวนการพิจารณาศาลยุติธรรมบ้าง ศาลรัฐธรรมนูญบ้าง ป.ป.ช.บ้าง มีผลทางคดีออกมา เมื่อไม่เป็นที่พอใจ ก็เปลี่ยนแนวโหนใหม่ไปเป็น "มีขบวนการอำมาตย์หวังโค่นล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์"! พอถึงวัน ๑๔ ตุลา ๖ ตุลา วันรัฐธรรมนูญ ก็ไปโหนมาปลุกระดม เมื่อวาน ๒๔ มิถุนา วันเปลี่ยนแปลงการปกครอง ๒๔๗๕ ก็ไปโหนคณะราษฎรให้เขาเสื่อม เพราะคนรุ่นใหม่ ยิ่งกับระดับรากหญ้า ได้ศึกษาถึงเนื้อหาจริงจังซักเท่าไหร่ พอไอ้พวกไพร่ไปโหนเขาแบบนี้ พลอยให้คนรุ่นใหม่ที่ไร้ราก หลงเข้าใจในเนื้อหาและเจตนารมณ์ของคณะราษฎรผิดไปหมด วิธีการ-รูปแบบ-เจตนารมณ์ที่ "คณะราษฎร" ทำ ไม่ต่ำทรามเหมือนที่ "คณะกเฬวราก" ทำหรอกครับ! เหมือนกับที่จีน เขาก็ไม่พอใจที่ไปดึงเอาแดง-คอมมิวนิสต์ "ลัทธิเหมา" มาเป็นสัญลักษณ์โจรปล้นบ้าน-เผาเมือง ซึ่งทำให้คนดิบทางประวัติศาสตร์การต่อสู้หลงเข้าใจผิดๆ ว่า ในการเปลี่ยนแปลงประเทศจีน "แดง-ลัทธิเหมา" ก็ถ่อยเถื่อน ไร้อุดมการณ์ มีแต่อุดมโกงแล้วเอามาแบ่งปัน อย่างที่สรรเสริญกันอยู่ ยิ่งไปเอานามนิสิต-นักศึกษา มาร่วมทำบ้าๆ บอๆ เป็นคณะราษฎร สวมรอยเป็นชุดที่สอง-ที่สามอะไรนั่น มันยิ่งเป็นยี่เกหลังตลาดมากขึ้น แต่กลับทำให้ผมภูมิใจในความโง่เขลาของตัวผมเองมากขึ้น ที่ผมโง่บริสุทธิ์...โดยโชคดีที่ไม่ได้เรียนมหาวิทยาลัยชื่อโก้ของสยามประเทศ! "ท่านวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์" และคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง ๙ ท่านครับ...ผมฝากกราบมายังแทบเท้าท่านด้วยความเคารพในการทำหน้าที่พิทักษ์บ้านเมืองด้วยดุลยธรรมอันปราศจากความกลัว และความกดดันใดๆ ในยามนี้ ถ้าศาลรัฐธรรมนูญ ศาลยุติธรรม ศาลปกครอง และองค์กรอิสระอย่าง ป.ป.ช. กกต.เป็นต้น ทำหน้าที่ปราศจากเสียซึ่งความกลัว-ความกดดัน จากภัยกองกำลังนอกระบบรัฐ ยึดดุลยธรรมเป็นที่ตั้ง อุปมาดั่งเปาบุ้นจิ้น ถ้าเป็นดั่งนั้นแล้ว เครื่องตัดหัวทั้ง ๓ ที่วางเรียงอยู่ในศาลไคฟง หัวราชสีห์ สำหรับตัดหัวคนทำผิดผู้สูงศักดิ์ หัวสิงโต สำหรับตัดหัวขุนนาง-อำมาตย์ ผู้กังฉินกินเมือง และหัวสุนัข สำหรับตัดหัวไพร่สถุล ผู้เห็นแต่อามิสสินจ้าง ไม่รู้จักแยกแยะ ผิด-ถูก-ชั่ว-ดี ประพฤติตนเยี่ยงอัปรีย์กินเมือง ก็คงได้บั่นหัว "บูชาดุลยธรรม" พิทักษ์แผ่นดิน! "เดือนหน้า นปช.จะเปิดโรงเรียนแดงทั้งแผ่นดินทั่วประเทศ ก็น่าจะเป็นโอกาสที่จะได้รายชื่อเพิ่มขึ้น แต่เราก็เป็นห่วงว่าจะเอาไม่อยู่ เอาไม่อยู่ในที่นี้คือเอาสถานการณ์ไม่อยู่ คนอื่นอาจจะมองว่าเอาอยู่ แต่อาจารย์ธิดาห่วงสถานการณ์ ถ้าศาลรัฐธรรมนูญเกิดตัดสินยุบพรรคเพื่อไทย หรือเกิดตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคขึ้นมา สถานการณ์อาจจะน่าเป็นห่วง" ครับ...นางธิดา ถาวรเศรษฐ หัวหน้า นปช.เขาประกาศเชิงข่มขู่ผ่านพวกที่มาชุมนุมเมื่อวานอย่างนี้ ท่านก็นำคำพูดไปพิจารณาก็แล้วกันว่า สิ่งที่พวกนี้เขาทำกับบ้านเมืองตลอดมา เพื่อประชาธิปไตย หรือเพื่อตัวเอง หรือว่า แค่เป็นข้ออ้างเพื่อปลุกปั่นระดมคน "ล้างระบอบ-ล้มสถาบัน" สถาปนา "ทักษิณ-แผ่นดินแดง"? คุยเท่านี้ละครับ พอดีเห็นคุณ Noppanan Arunvongse Na Ayudhaya อีเมล์ข้อความนี้มาให้ผมอ่าน ก็ขอนำมาตบท้ายไปเลย ดังนี้ หนังสือพิมพ์ทรงอิทธิพลที่สุดของสหรัฐอย่างวอชิงตันโพสต์ ออกมาแฉว่า การขอใช้ประเทศไทยเพื่อเป็นศูนย์บรรเทาภัยพิบัติโดยสหรัฐนั้น เป็นเพียงข้ออ้าง แท้จริงแล้วมีเป้าเหมาย "ทางทหารเพื่อสกัดกั้นจีน" นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อ่านกันบ้างหรือยังครับ? "As the Obama administration revamps its Asian strategy in response to a rising China, the U.S. military is eyeing a return to some familiar bases from its last conflict in the region-the Vietnam War. In recent weeks, the Pentagon has intensified discussions with Thailand about creating a regional disaster-relief hub at an American-built airfield that housed B-52 bombers during the 1960s and 1970s. U.S. officials said they are also interested in more naval visits to Thai ports and joint surveillance flights to monitor trade routes and military movements." "As part of the Obama administration's strategic 'pivot' to Asia, the U.S. military is seeking to regain access to foreign bases that it was forced to leave decades ago." U.S. eyes return to some Southeast Asia military bases http://www.washingtonpost.com/world/national-security/us-seeks-return-to... A new U.S. military strategy, old bases near the South China Sea http://www.washingtonpost.com/world/national-security/a-new-us-military-... - กับ Kanchana Plangrat ครับ..ผมแกะๆ ดูบางคำในแผนที่ประกอบข่าว ชอบประโยคท้ายๆ ที่ว่า...U.S. and Thailand now considering a joint millitary center to respond to natural disasters in the region. ก็ขอให้จบอยู่แค่ Considering ก็แล้วกันนะ.
29 มิถุนายน 2555 14:13 น. - comment id 1236583
'นาซาไม่เกี่ยวโยงกองทัพสหรัฐ?' เปลว สีเงิน 26 June 2555 - 00:00 เอ้า....นวลนางแถวๆ พัทยาก็เตรียมไปยืนชูป้าย BUNGALOW ปั่มปั๊ม แถวๆ หน้าสนามบินอู่ตะเภากันได้แล้ว เพราะ YANKEE ที่ GO HOME ไปแล้ว ทำท่าจะเป็น YANKEE ฮี้ๆ กั้บๆ COMEBACK HERE อีกครั้ง เมื่อกฤษฎีกาก็ดี ฝ่ายมั่นคงก็ดี กองทัพก็ดี นักวิชาการก็ดี เป็นปี่-เป็นขลุ่ยว่า "นาซาไม่เกี่ยวการทหาร" วิชาการล้วนๆ ฉะนั้น วันนี้ (๒๖ มิ.ย.๕๕) ก็ดูกันว่า ครม.แม่งามงอนเธอจะเอาไง? สรุปประเด็นเรื่องนี้ให้ชัดก่อน ไม่มีฝ่ายไหนรังเกียจที่นาซามาขอใช้อู่ตะเภาดูลม แต่อยากให้รัฐบาลนำเรื่องเข้ารัฐสภาเพื่อให้สมาชิกได้ช่วยตรวจสอบ เพราะกองทัพสหรัฐเพิ่งประกาศหยกๆ จะเคลื่อนพลกลับเข้ามาคุมเชิงจีนในภูมิภาคของมิตรเก่าอีกครั้ง แต่รัฐบาล ทั้งไปประชุมร่วมพลเอกมาร์ติน เดมป์ซีย์ ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมสหรัฐที่สิงคโปร์หมาดๆ แถมผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ "นายแอนดรู แชปิโร" ก็บินมาไทยไล่หลังกันติดๆ เข้าคุยทั้งนายกฯ ทั้งรัฐมนตรีกลาโหม ไม่รู้มีเรื่องสำคัญอะไรถึงได้ตามนัวเนียกันหลายขั้นหลายตอนแบบนี้? ในฐานะประเทศเล็ก เขาก็ห่วงกันว่ารัฐบาลจะให้น้ำหนัก "สหรัฐ-ไทย-จีน" ขาดสมดุล จึงกระแอม-กระไอ ไม่ได้ห้าม แต่อยากให้รอบคอบ-รอบด้าน อย่าให้กลายเป็น "ชักน้ำเข้าลึก-ชักศึกเข้าบ้าน" ผ่านข้อข้องใจที่ว่า "แค่นาซามาศึกษาดินฟ้าอากาศ ทำไมบิ๊กๆ ของสหรัฐ โดยเฉพาะฝ่ายทหารจึงต้องมากันผิดสังเกต มันน่าจะมีอะไรแอบซ่อนอยู่ในฉากหน้าของการดูลมก็ได้ และไม่เพียงคนไทยอยากรู้ ฝ่ายจีนเองเขาก็อยากรู้ ขนาดส่งพลเอกจิ้งจื้อหยวน ผบ.กองบัญชาการทหารปืนใหญ่ที่ ๒ ของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนมาคุยเลยทีเดียวนั่น เห็นมั้ย?" และไม่เท่านั้น "นางฟู่หยิง" รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศของจีน ก็ไล่หลังมาอีก แต่ก็น่าแปลก ระดับ "รมช.ต่างประเทศจีน" มาขนาดนี้ ฝ่ายรัฐบาลกลับเงียบเชียบ ตรงข้ามกับที่แค่ระดับ "ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ" มา โอ้โฮ...ยังกะรัฐมนตรีตัวจริงมาเอง พินอบพิเทาครึกโครมกันไปหมด ซึ่งจริงๆ แล้ว ตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีก็แค่ตำแหน่ง "ที่ปรึกษา" อดีตนายกฯ คึกฤทธิ์ท่านเรียกว่า "ตำแหน่งเทกระโถน"! ส่วนตำแหน่ง รมช.ต่างประเทศของนางฟู่หยิง พูดให้เห็นชัดก็เบอร์ ๒ ของกระทรวงต่างประเทศ แต่ได้พบแค่ "ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ" ไม่ได้ข่าวว่าทางรัฐบาลให้การต้อนรับในการมาเยือนอย่างไร? แต่รัฐบาลนี้ คงสนใจคนเทกระโถนมากกว่าคนเป็นรัฐมนตรีจริงๆ ด้วยแหละ เหมือนที่ตั้งพวกเสื้อแดงเข้าไปเป็น "ผู้ช่วยรัฐมนตรี" กันเต็มกระทรวง-เต็มทำเนียบฯ อยู่ตอนนี้ และยิ่งสื่อมวลชนสหรัฐออกมาแฉว่า มีความสงสัยที่จะน่าเป็นสหรัฐใช้นาซามาบังหน้าในภารกิจทางทหาร ทางความมั่นคง คนรักบ้าน-รักเมืองก็เลยยิ่งห่วงว่า "สำรวจอากาศ" มันแค่แผนลวง จริงๆ แล้วมันเป็น "แผนล้วง" ความลับด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารมากกว่า โดยใช้นาซาออกหน้าให้ดูเนียนๆ เพื่อขจัดข้อเคลือบแคลง ก็ขอย้ำเป็นครั้งที่ร้อย ไม่มีใครปฏิเสธโครงการนี้ แต่อยากให้รอบคอบ เอาเรื่องเข้ารัฐสภาเพื่อให้หลายหู-หลายตาได้ช่วยกันตรวจสอบ ไม่ดีกว่าแค่ ๓๕+๑ คน ในนาม ครม.ตัวแทนทักษิณตรวจสอบดอกหรือ? แต่รัฐบาลก็ไม่ยอม จะมุบมิบอนุมัติในชั้น ครม.ท่าเดียว!? ยิ่งทำให้สงสัยยกกำลัง ๒ ....แบบนี้มันต้อง "มีเบื้องหลัง" แน่ๆ ไม่งั้นจะต้องเกี่ยงงอนและกลัวทำไม กะอีแค่โยนใส่รัฐสภา ซึ่งตัวเองก็ "เสียงมาก" ลากเอาได้ทุกเรื่องอยู่แล้ว!? วันนี้-๒๖ มิ.ย.ท่าทาง "ตรายาง ครม.ทักษิณ" จะประทับ เพราะได้ยินทั้งคณะกรรมการกฤษฎีกาทักษิณ ทั้งสภามั่นคงทักษิณบอกว่า ไม่เข้าข่ายมาตรา ๑๙๐ ครม.อนุมัติได้เลย เพราะเชื่อตามตัวหนังสือ ไม่มีเรื่องการทหาร มีแต่วิชาการล้วนๆ นักวิชาการไทยที่ร่วมโครงการนี้กับนาซาแต่ปี ๒๕๔๘ "ดร.เสริม จันทร์ฉาย" ภาควิชาฟิสิกส์ ศิลปากร ก็ยืนยันด้วยมาตรฐานดอกเตอร์ "วิชาการล้วนๆ" ไม่มีการทหารปน เมื่อวาน นางคริสตี เคนนีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำไทยก็เข้าพบนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล เธอก็ย้ำกับนักข่าวที่ถามถึงประเด็น เครื่องบิน อีอาร์-2 ของนาซา ที่นำมาใช้ในโครงการนี้ว่า แอบแฝงทางการทหารหรือเปล่า? เธอตอบว่า........ "เครื่องบินที่นำมาใช้เป็นเครื่องบินที่ใช้ในโครงการวิทยาศาสตร์ ซึ่ง นาซาเป็นองค์กรพลเรือน ไม่มีความเกี่ยวข้องกับทางทหาร และข้อมูลที่ได้จากการศึกษาวิจัยทั้งหมดจะนำเผยแพร่สู่สาธารณะ รัฐบาลทุกรัฐบาลทั่วโลก แม้แต่ประชาชนก็สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ เพราะการศึกษาวิจัยเป็นเรื่องปริมาณน้ำฝนและรูปแบบของฝน" ฝ่ายนายสุรพงษ์ ก็ผึ่งผายสมมาดทาสทักษิณบอกว่า "....ผมจึงได้เชิญเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทยมาพบอย่างเป็นทางการ เพื่อแจ้งให้ทราบว่า ขณะนี้ปัญหากรณีนาซาเป็นข่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก ทั้งจากสื่อมวลชนไทยและต่างประเทศ ซึ่งนางคริสตีรับทราบข้อมูลแล้ว และเห็นสอดคล้องกันว่ามีความไม่เข้าใจในเรื่องนี้ โดยเอาไปรวมกับ เอชเอดีอาร์ มาโยงกัน เพราะ นาซาเป็นองค์กรพลเรือน ไม่เกี่ยวกับฝ่ายทหาร อย่างที่มีความสับสนเกิดขึ้น" โอ้โฮ...ไปทางไหนมีแต่คนไทย-คนอเมริกันยัน "นาซาเป็นองค์กรพลเรือน" ไม่เกี่ยวกับฝ่ายทหาร เอ้า...งั้นมาฟังทางฝ่ายทหารตัวจริง-เสียงจริงบ้าง เขาจะว่าไง? พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม ฟันธงช้งเช้งทันที "......ยืนยันว่า องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (นาซา) สหรัฐ เป็นองค์กรภาคพลเรือน ไม่ได้เกี่ยวข้องโยงใยกองทัพสหรัฐ ที่สำคัญนาซาได้ส่งข้อมูลแผนงานชี้แจงมายังกระทรวงการต่างประเทศและผ่านมากระทรวงกลาโหม จะเน้นในเรื่องการปฏิบัติการวิจัยชั้นบรรยากาศ โดยประเทศไทยมีพื้นที่อยู่ศูนย์กลางในการตั้งฐานวิจัยง่าย ทั้งนี้อากาศยานที่จะใช้ทำงาน อาทิ เครื่องบิน ER-2 เป็นอากาศยานถูกออกแบบสำรวจชั้นบรรยากาศระยะสูงประมาณ 6 หมื่นกว่าฟุต เพื่อเก็บข้อมูลชั้นบรรยากาศและเมฆ ส่วนเครื่องบิน DC-8 เป็นอากาศยานโดยสารรุ่นเก่า gulfsteam เป็นอากาศยานโดยสารโดยดัดแปลงให้นักวิทยาศาสตร์ได้มาปฏิบัติหน้าที่ อย่างไรก็ตาม ทางไทยสามารถตรวจสอบเครื่องบินทุกเที่ยวบินได้ทุกครั้งก่อนออกสำรวจชั้นบรรยากาศ" สรุปแล้ว พวกที่ห่วงนาซานำร่องหน่วยหน้า "ฐานทัพตามมา" หน่วยหลัง อย่างที่ทั้งโอบามา เพนตากอนประกาศ จะส่งกองเรือรบ ๖๐% กลับเข้ามาประจำการในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ในถิ่นสหายเก่า ก็ต้องหน้าตาแหกไปตามๆ กัน รวมทั้งผม กลายเป็นพวกไม่รักชาติอย่างที่สุกำโผล่เค้าว่าจริงๆ ด้วย เพราะทุกคน-ทุกฝ่าย ยืนยันตรงกันหมดว่า "นาซาเป็นองค์กรพลเรือน" ไม่เกี่ยวโยงฝ่ายทหาร ผมก็เคยไปนาซา แต่เป็น "นาซาอาบนวด" จึงไม่กล้าฟันธงอย่างผู้หลัก-ผู้ใหญ่ทั้งหลายท่านยัน "นาซาไม่เกี่ยวกับทหาร" แต่บังเอิญมีคนที่ขลุกขลุ่ยกิน-อยู่-หลับ-นอน กับนาซา "ตัวจริง-เสียงจริง" เขาคุยมาให้ฟัง ความจริงเขาคุยให้คุณ Somchai Kokkamaeng ฟัง แล้วไหลมาถึงผม มันก็อย่างนี้ครับ นาสา ณ อู่ตะเภา เมื่อวาน เพื่อนพ้องสมาชิกในการประชุมริมอ่าวภูเก็ต เสนอในที่ประชุมว่า ผมเคยทำงานอยู่กับนาสา สรอ.หลายสิบปี ก็เลยตอกหน้าถามผมกลางที่ประชุมว่า "ขอให้ช่วยวิจารณ์หน่อยว่ามันเป็นงัย?" ธ่อ...ผมแม้เคยทำงานกะนาสา แต่ผมเป็นวิศวะฯ นะ ไม่ได้เป็นพหูสูตรู้เรื่องนโยบายนาสาไปเสียหมด เหมือนใครบางคน แต่ผมเลยถือโอกาสยืดคอโอ่ซะเลยว่า (นานๆ มีโอกาสดังที อิอิ) ".... แต่ก่อนอื่นผมขอแก้คำผิดก่อนนะครับ คือผมเองก็ไม่ได้มีอายุหลายสิบปีหรอกนะ (ยัง "หนุ่ม" อยู่มาก) แต่ก็ไปทำงานมากปีอยู่ อีกทั้งไม่ได้ทำเฉยแบบรับเงินเดือนไปวันๆ แต่ทำด้วยการสังเกตอย่างละเอียดแบบคนถางทางไทยๆ ผมไปทำงานที่ "ศูนย์วิจัยนาสา" มา ๒ ศูนย์ ส่วนใหญ่ที่อ้างกันว่าทำงานกะนาสาก็ทำกันศูนย์เดียว หลายคนที่อ้างว่าทำงานนาสา ก็ไม่ได้ทำสักศูนย์ แต่ทำงานผ่าน อจ.ที่ปรึกษาที่รับทุนจากนาสา โดยทำงานวิจัยอยู่ที่มหาวิทยาลัยของตนนั่นแหละ แต่ผมทำงานนั้น....ไปนั่งทำงานกะพวกเขาในออฟฟิศแบบพนักงานประจำนะจ๊ะ ๑๒ ปี ศูนย์แรกทำ ๗ ปี ศูนย์สองอีก ๕ ปี ก็ ๑๒ ปีพอดี (อยากไปอีกศูนย์ ซึ่งเป็นเพียงหนึ่งใน ๓ ศูนย์วิจัย แต่ก็หมดเวลาเสียก่อน)! ดังนั้นผมทำงานสิบปีกว่าครับ ไม่ได้เก่งทำนานหลายสิบปีหรอกครับ แค่นั้นก็เหงาจะตายแล้ว ก็คิดถึงเมืองไทย ก็เลยลาออกกลับเมืองไทย มาเป็นครูบ้านนอกต๊อกต๋อยไปตามเรื่อง ไม่ได้มีโอกาสถือร่วมยา เครื่องคิดเลขตามนักการเมืองหรือนายทุน จึงมีเวลาหันมาสนใจบั้งไฟ ตะไล เทคโนรากหญ้าต่างๆ หลากหลาย จนตั้ง "พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีไทยโบราณ" ขึ้นมา เมื่อสองวันก่อน ผมได้มีโอกาสดู-ฟังการให้สัมภาษณ์ของเอ็กซเปิร์ตบางท่านทางทีวี ...ให้การเสียดังแบบมั่นใจว่า "โอ๊ย...นาสาเขาองค์กรพลเรือน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทหารแต่อย่างใดหรอก อู่ตะเภาก็แค่มาศึกษาทางวิชาการอุตุฯ เป็นประโยชน์กะเมืองไทยด้วยซ้ำไป" สำหรับผมเคยนำบทความวิจัยที่ทำร่วมกับเพื่อนพ้องพนักงานนาสาไปเสนอในการประชุม JANNAF (Joint Army Navy Nasa Air force) อยู่บ่อยๆ ไม่เชื่อลองค้น "JANNAF Chitsomboon" ดูสิครับ จะเห็นบทความผมหราอยู่จนวันนี้ (สมัยประมาณ ค.ศ.๑๙๘๗) องค์กรแจนแนฟนี้ เป็นองค์กรทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงกลาโหม และนาสาครับ แล้วไอ้-อีพวก x สะปิด มันไปนั่งเทียนที่ไหนมาว่า "นาสาไม่เกี่ยวกะทหาร?" องค์กรแจนแนฟนี้เขาใหญ่ขนาดออก Index งานวิจัยของตัวเอง มีงานวิจัยทุกรูปแบบ ตั้งแต่ Space Medicine, Space Agriculture ยันการจรวด ถ่ายภาพอวกาศ ...ส่วนเรื่อง "ราชการลับ" เขามีเพียบอยู่แล้ว แต่เขาไม่เอามาเผยใน index หรอกครับ ขณะทำงานผมเองต้องออกไป "สังคม" กินอาหารกลางวันร่วมกับพวกนักวิชาการจากกองทัพบ่อยๆ พวกนี้เอาเงินมาขอให้เราทำงานวิจัยให้ในหลากหลายประเด็น เผอิญแผนกผมทำงานด้านเครื่องยนต์ขับเคลื่อนยานความเร็วสูง ก็เลยได้รับการปองหมายจากกองทัพเป็นพิเศษ
29 มิถุนายน 2555 11:22 น. - comment id 1236725
อย่านะครับ เป็นผลงานเด่นของพรรค ปชป. และอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เขานะครับ
29 มิถุนายน 2555 12:48 น. - comment id 1236758
บ้านเมืองเรายังขาดความรู้ด้านนี้ ทำไมไม่ยอมเปิดใจ เซ็ง...น้ำก็ทำท่าจะมาอีกรอบแล้ว..
29 มิถุนายน 2555 13:01 น. - comment id 1236759
ก็ว่ากันไป นี่คือเมืองไทย การเมืองก็ต้องเป็นแบบไทยๆ เอาให้สุดๆไปเลยครับ ไม่ต้องเกรงใจ
29 มิถุนายน 2555 13:16 น. - comment id 1236771
12:06 น. Listen เผย"โอบาม่า"ล้มแผนเยือนไทย เมื่อเวลา 9.00 น. ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รศ.ดร.ฐิตินันท์ พงษ์สิทธิรักษ์ ผอ.สถาบันศึกษาความมั่่นคงและนานาชาติ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวในงานเสวนา หัวข้อ ความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐอเมริกา : แนวโน้ม ทิศทางและเป้าหมาย หลังการหารือเชิงยุทธศาสตร์ ว่า ได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่อาวุโสสหรัฐท่านหนึ่ง เปิดเผย นายบารัค โอบาม่า ประธานาธิบดีสหรัฐ จะไม่เดินทางเยือนประเทศไทยแล้ว เดิมมีแผนเยือนไทย หลังร่วมประชุมกรอบเออาร์เอฟ ในการประชุมอาเซียนซัมมิท ที่กัมพูชา โดยขณะนี้ สหรัฐกำลังพิจารณาลดระดับสัมพันธ์ไทย เหตุไทยปัดร่วมมือนาซ่าขอสำรวจสภาพอากาศพื้นที่ในไทย เนื่องจากการเมืองไทยเข้าแทรก "มาถึงตอนนี้เราจะเลิกขัดแย้ง และหันมาพูดคุย และคำนึงผลประโยชน์ของประเทศได้แล้วหรือยัง"รศ.ดร.ฐิตินันท์ กล่าว http://breakingnews.nationchannel.com/ho...ang=T&cat=
29 มิถุนายน 2555 13:32 น. - comment id 1236774
ถอยๆๆๆ ดีก่า ม่ายเอาดีก่าๆๆๆ คำของ นางหนูไม่รู้
29 มิถุนายน 2555 14:09 น. - comment id 1236779
รัฐบาล-ทหาร-สภาฯ และฐานทัพ"? เปลว สีเงิน 19 June 2555 - 00:00 พวกเราจะเชื่อใคร ระหว่าง "ยิ่งลักษณ์-สุรพงษ์-สุกำพล-ปลอดประสพ" ที่บอกนาซาจะขอใช้อู่ตะเภาขึ้นบินดูลม ๒ เดือนเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับการทหาร กับที่ "นายลีออน พาเนตตา" รมว.กลาโหมสหรัฐ ประกาศที่สิงคโปร์...สหรัฐจะจัดสมดุลอำนาจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกนี้ใหม่ ด้วยการย้ายที่ตั้งกองกำลังทหาร และกองทัพเรือ ๖๐% กลับมาประจำการในภูมิภาคของเพื่อนเก่าอีกครั้ง! เพียงไม่ได้ระบุให้ชัดลงไปเท่านั้นว่า ที่จะกลับเข้ามาตั้งฐานทัพในภูมิภาคนี้นั้น ก็เพื่อ "คานอำนาจ" กับจีน เพราะถ้าขืนปล่อยให้จีนเป็น "ขาใหญ่" คุมภูมิภาคนี้ สหรัฐมีโอกาส...เดี้ยง! เพราะไทยเป็น "จุดยุทธศาสตร์" การขนส่งน้ำมันและสินค้าทางทะเลจากฝั่งมหาสมุทรอินเดียทะลุสู่มหาสมุทรแปซิฟิก เป็นตัว "ย่นโลก" ในการขนส่งจากตะวันออกกลางสู่ประเทศแถบแปซิฟิกทั้งหมด โดยเฉพาะสหรัฐ ก็ตรง "ช่องแคบมะละกา" ปลายติ่งที่เชื่อมไทย-มาเลย์-สิงคโปร์ นั่นไง! การลำเลียงน้ำมันจากอ่าวเปอร์เซีย ผ่านช่องแคบฮอร์มุซ มหาสมุทรอินเดียนั้น การจะไปสู่ปลายทางของประเทศของอีกฝั่งมหาสมุทรหนึ่งคือ แปซิฟิกและคาบสมุทรอินโดจีนทั้งหมด ต้องมา "ลอดช่องแคบ" จากตรงนี้ และถ้าวันไหน "จีน-สหรัฐ" เกิดงัดข้อกันขึ้นมา แค่จีน "คุมเชิง" ไม่ให้เรือบรรทุกน้ำมันสหรัฐผ่านช่องแคบมะละกาแค่นั้น ถ้าเรือรบ-เรือบินสหรัฐ ใช้น้ำทะเลแทนน้ำมันได้ นั่นก็แล้วไป! นี่คือสาเหตุที่ทั้งนาซา-เพนตากอน ต้องมาเสนอเงื่อนไขกับรัฐบาลทักษิณ ขอใช้อู่ตะเภา เพราะคุณสมบัติพิเศษของอู่ตะเภาเป็น ๒ เพศ เป็นท่าจอดเรือรบก็ได้ เป็นสนามบินที่เครื่องเล็ก-ใหญ่ขึ้นลงได้ทั้งนั้น นาซามาในมาดนักวิจัยลม ส่วนเพนตากอนมาในมาดปิศาจคราบนักบุญ อ้างมนุษยธรรม ฝนตก-น้ำท่วมที่ไหนจะได้แจวเรือรบไปช่วย! รัฐบาลน้องสาวทักษิณเขาเชื่อ สุกำพลรัฐมนตรีกลาโหมเพื่อทักษิณ เขาก็เชื่อ แต่ดูเหมือนเหล่าทัพทั้งหลาย "ไม่อยากจะเชื่อ" รวมทั้ง ส.ส.และ ส.ว.ที่ไม่ใช่ทาสระบอบทักษิณ เขาอยากให้รัฐบาลนำเรื่องเข้ารัฐสภาพิจารณาตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๙๐ แต่รัฐบาล โดยนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศเพื่อทักษิณ บ่ายเบี่ยง อ้างว่ากฤษฎีกาดูแล้วบอก ไม่เข้าข่าย ๑๙๐ วรรค ๒ คือไม่ต้องให้รัฐสภาพิจารณา แค่ให้ ครม.ทักษิณเห็นชอบวันนี้ (๑๙ มิ.ย.๕๕) ก็พอแล้ว!? เอาล่ะ...อาจแค่ให้ใช้ดูลมตาที่รัฐบาลบอกก็ได้ แต่ก็นั่นแหละ รัฐบาลที่ไม่มีเครดิตให้ประชาชนเชื่อถือ พูดอะไร ใครก็ไม่เชื่อ ผมอยากให้ติดตามอ่านที่ท่านอาจารย์ "เขียน ธีรวิทย์" แจงประเด็นไว้ที่หน้า ๔ ไทยโพสต์ มีทั้งหมด ๕ ตอน อย่าพลาดเชียว และพอดี คุณ thanong khanthong (thanongkhanthong@gmail.com) ได้สรุปประเด็นเป็นการ "ขมวดปัญหาโลก" ในเรื่อง "ไม่รู้ผู้ก่อการร้ายมาฝังตัวบ้านเราหรือยัง สถานการณ์น่าวิตกเป็นอย่างยิ่ง" มาให้อ่านตั้งแต่วันเสาร์ เพื่อเห็นโลก-เห็นปัญหากว้างขึ้น ขออนุญาตนำเผยแพร่ ดังนี้ "Panel to discuss use of U-Tapao - The Nation" เอาจนได้ ประวัติศาสตร์กำลังจะย้อนรอย ขณะนี้ซีเรียกำลังจะเป็นสมรภูมิแล้ว เพราะว่ากองกำลังทหารต่างชาติหมื่นกว่านายได้แทรกซึมเข้าไปในประเทศเรียบร้อยแล้ว กองกำลังทหารต่างชาติและกบฏภายในประเทศพยายามจะล้มประธานาธิบดีอาซัด โดมิโนตัวสำคัญ ก่อนที่จะลุยอิหร่านเป็นรายต่อไป เหมือนๆ กับที่ได้ล้ม ลิเบีย อิรัก อัฟกานิสถาน มาแล้ว แต่จะล้มซีเรียคงจะไม่ง่าย เพราะว่าจีนและรัสเซียได้ออกมาเตือนว่า ถ้าซีเรียถูกรุกรานจากภายนอก จะส่งกองกำลังไปช่วย ความตึงเครียดในตะวันออกกลางกำลังพุ่งสู่จุดอันตราย เพราะมีโอกาสมากที่สงครามจะขยายวงกว้าง กระทบมาถึงประเทศไทยด้วย อิหร่านจะต้องช่วยยันซีเรียให้ถึงที่สุด ก่อนที่ตัวเองจะเป็นเป้ารายต่อไปของอภิมหาสงครามที่กำลังก่อตัวทะมึนอยู่ข้างหน้า ซีเรียสนับสนุนกลุ่มฮิซบุลเลาะห์ มุสลิมปีกหัวรุนแรงที่เลบานอน ซึ่งเป็นศัตรูหลักของอิสราเอล ฮิซบุลเลาะห์ต้องการทำลายยิวให้สิ้นซาก ยิวก็อยากจะบุกบอมบ์อิหร่านให้รู้แล้วรู้รอด ที่ระเบิดขาขาดก่อการร้ายในซอยปรีดี สุขุมวิท 71 เมื่อต้นปีนี้ ยิวบอกว่าเป็นพวกฮิซบุลเลาะห์ต้องการทำลายยิวในไทย สุดท้ายเรื่องก็เงียบไปเหมือนเป่าสาก ทั้งยิว ซีเรีย อิหร่าน ต่างกำลังเผชิญหน้ากันอย่างตึงเครียด โดยมีมหาอำนาจคอยหนุน แบ่งฝ่ายกันอย่างชัดเจน ใครดี-ใครอยู่ คงได้เห็นกันในเร็ววันนี้ แต่ประเด็นที่สำคัญ ถ้าสหรัฐและพันธมิตรบุกซีเรีย ไทยจะถูกดึงเข้าไปร่วมวงด้วย เพราะว่าสหรัฐจำต้องใช้อู่ตะเภาเป็นฐานบำรุงกำลัง โลจิสติกส์ เป็นที่เติมน้ำมัน ใช้ดาวเทียมเพื่อบังคับเครื่องบินไร้คนขับ เชื่อมโยงกับสงครามอิหร่านที่จะตามมา และการปิดล้อมจีนในภูมิภาคนี้ ประเทศไทยกำลังเป็นจุดศูนย์กลางที่สำคัญในภูมิภาคนี้ ในอภิสงครามที่กำลังก่อตัวขึ้น Thai-US Panel to discuss use of U-Tapao - The Nation ข่าวนี้เป็นข่าวสำคัญที่กำลังจะตัดสินความเป็นความตายของประเทศไทย เพราะดูเหมือนรัฐบาลยิ่งลักษณ์กำลังยอมให้สหรัฐใช้อู่ตะเภาเป็นฐานในการทำอภิมหาสงคราม เรื่องความร่วมมือป้องกันภัยพิบัติธรรมชาติระหว่างไทยและสหรัฐที่อู่ตะเภาเป็นนิทานหลอกเด็ก ขณะนี้ได้ข่าวว่า ทางสหรัฐอเมริกาเริ่มขนคน อุปกรณ์ทางทหารเข้ามาประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว โดยไม่มีการตรวจสอบ ผู้นำอิหร่านได้ประกาศก้องว่า "มือผู้ใดที่ทำร้ายมุสลิม มือผู้นั้นจะถูกตัดให้ขาด" ไม่รู้ว่าคนที่เซ็น MOU เรื่องอู่ตะเภากับสหรัฐ รู้เรื่องนี้หรือเปล่า จีนก็ออกมาเตือนไทยอย่างลับๆ ว่า "ไทยยังคงเป็นมิตรกับจีนหรือเปล่า?" รัฐบาลยิ่งลักษณ์กำลังนำพาประเทศไทยเข้าสู่มหันตภัย เพราะว่าเรากำลังเลือกข้าง แทนที่จะวางตัวเป็นกลางในอภิมหาสงครามที่กำลังจะเกิดขึ้น เขมรฉลาดกว่าไทยเยอะ มือซ้ายรับความช่วยเหลือจากจีน มือขวาก็รับจากสหรัฐ เล่นได้ทั้งนั้น อินเดียบอกกับสหรัฐอย่างไม่เกรงใจว่า "ยูอยากจะรบกับจีนก็เรื่องของยู แต่อย่าเอาไอไปเกี่ยวข้องด้วย" แถมบอกด้วยว่า "ห้ามเอาดินแดนหรือทะเลของไอเป็นฐานของยูในการรบกับจีน"! สหรัฐถึงกับใบ้รับประทาน! แต่ไทยกำลังทำตัวไร้เดียงสา ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ช้างสารกำลังจะฟัดกัน เราเป็นมด ต้องรู้จักหลบหลีกในหญ้าแพรก ได้ข่าวว่า ทหารกลุ่มหนึ่งได้เข้าพบยิ่งลักษณ์เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วย ที่เราจะยอมให้สหรัฐใช้อู่ตะเภาเป็นฐานทัพ แต่คงจะไม่มีผลอะไรมาก เพราะว่าน้องสาวทักษิณคนนี้ได้ตัดสินใจแล้ว เป็นเรื่องประโยชน์เฉพาะตนทั้งนั้น คือ 1.อยู่ฝ่ายสหรัฐได้ประโยชน์ 2. มีสหรัฐหนุนเสถียรภาพของรัฐบาล คอบราโกลด์ที่เราจะฝึกทหารร่วมกับสหรัฐและพันธมิตรเพื่อนบ้านที่เมืองไทย จะเป็นจุด "หัวเลี้ยวหัวต่อ" ที่สำคัญ เพราะสหรัฐจะส่งทหารเข้าร่วมฝึกเต็มพิกัด รวมทั้งขนอาวุธเข้ามาอู่ตะเภาด้วย @paisalvision : การฝึกคอบราโกลด์ที่ภาคเหนือเที่ยวนี้มาแปลก สหรัฐขนทหารเข้ามากที่สุดจาก ๕,ooo คน เป็น ๓๐,๐๐๐ คน และมีทหารยิวอีก ๕,ooo คน อาวุธหนักเพียบ มาแล้วคงจะอยู่ยาวเลย? ตอนที่ไทยอนุมัติให้สหรัฐใช้ฐานทัพอู่ตะเภาสมัยรัฐบาลถนอม ก็ตกลงกันแค่กระดาษแผ่นเดียว ไปๆ มาๆ ประเทศไทยกลายเป็นฐานทัพของสหรัฐในการถล่มอินโดจีน มีเครื่องบิน B-52 สามารถบรรทุกระเบิดได้ 300 ตัน มาลงเติมน้ำมัน ตอนนั้นเราไม่มีอำนาจอธิปไตย เป็นเมืองขึ้นทางทหาร เพราะเครื่องบินเขาจะขึ้นจะลง จะขนอาวุธอะไรมา เขาไม่แจ้งให้เราทราบ ตอนนี้คงไม่ต่างกันมาก ถ้าเรายอมให้สหรัฐใช้อู่ตะเภาเป็นฐานภัยพิบัติ ต่อไปอู่ตะเภาจะเป็นฐานทัพสหรัฐอย่างสมบูรณ์แบบโดยที่เราไม่ทันตั้งตัว!!! ถึงตอนนั้นจะสายเกินไป เพราะว่าจีนจะทยอยลดระดับความสัมพันธ์ทางการค้า การทูตกับไทย ประเทศมุสลิมทั้งหลายที่กำลังรวมตัวกันต่อต้านสหรัฐและพันธมิตร ก็จะถือว่าเราเป็นศัตรูกับเขาไปด้วย ประเทศมุสลิมทั้งหลายที่กำลังรวมตัวกันต่อต้านสหรัฐและพันธมิตร ก็จะถือว่าเราเป็นศัตรูกับเขาไปด้วย ตอนนี้สถานการณ์ไม่เหมือนกับตอนสงครามเวียดนาม ตอนนั้นเป็นสงครามจำกัดวงเฉพาะในอินโดจีน ไม่ได้ขยายวงกว้าง แต่ตอนนี้สงครามจะขยายวงกว้าง มีความเป็นไปได้สูงที่จะพัฒนาเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 ที่จริงเรื่องอู่ตะเภาเป็นเรื่องใหญ่ เป็นความเป็นความตายของประเทศ จำต้องได้รับการถกเถียงกันในสภาฯ ท้ายที่สุดแล้ว จะเข้าเงื่อนไขรัฐธรรมนูญตามมาตรา 190 หมายความว่ารัฐสภาจะเป็นผู้อนุมัติหรือไม่อนุมัติเรื่องอู่ตะเภา เพราะเป็นเรื่องสนธิสัญญาระหว่างประเทศ พูดกันอย่างกว้างๆ ตะวันออกและตะวันตกกำลังจะเผชิญหน้ากัน เพื่อตัดสินว่าใครจะเป็นผู้นำโลกในหลายๆ ร้อยปีที่จะตามมา ที่ผ่านมา 400-500 ปี ตะวันตกครองโลกผ่านวิทยาการที่ก้าวหน้ากว่า การทหารที่เข้มแข็งกว่า อันนำมาสู่ลัทธิล่าอาณานิคม - ผู้นำโลกตะวันตกหรือโลกเสรีขณะนี้คือ อังกฤษ สหรัฐ ผู้นำโลกตะวันออกคือ จีน และรัสเซีย - ฝ่ายแรกมีอาวุธทันสมัยกว่า มีแสนยานุภาพที่น่าสะพรึงกลัว - ฝ่ายหลังได้เปรียบที่ประชากรมากกว่าหลายเท่า อาวุธเทคโนโลยีไม่ห่างกันมาก ฝ่ายตะวันออกหลักจะมี จีน รัสเซีย ประเทศในกลุ่มโซเวียตเดิม อินเดีย ปากีสถาน อิหร่าน อัฟกานิสถาน และมุสลิมหลักๆ ฝ่ายตะวันตกคือ อังกฤษ สหรัฐ ยิว ซาอุฯ พันธมิตตะวันออกกลาง และนาโต ดูกันดีๆ เหมือนกับเป็น "สงครามครูเสด" สมัยใหม่!? ถ้าเราดำเนินนโยบายต่างประเทศผิด ประเทศไทยจะล่มจมทันที เพราะฉะนั้น เราต้องต้านการใช้อู่ตะเภาเป็นฐานทัพสหรัฐ ถ้าเรา "ชักศึกเข้าบ้าน" การก่อการร้ายจะตามมา ไม่รู้ว่า "ผู้ก่อการร้าย" มาฝังตัวกันแล้วหรือยัง สถานการณ์น่าวิตกเป็นอย่างยิ่ง?.
29 มิถุนายน 2555 14:27 น. - comment id 1237062
สื่อล้มละลาย ยังมีคนเชื่อ ตลกโคตร นายกปูถอยน่ะดีแล้ว เลือกอีก 100 ครั้งก็ชนะ สู้กับพวกอันธพาล ทำลายชาติ ต้องอดทนนะท่านนายกปู
29 มิถุนายน 2555 15:29 น. - comment id 1237069
เอ.....ถ้าท่านนายกทักษิน ชินวัตร ท่านเข้าอเมริกาได้ ไอ้คนพวกนั้น มันจะรู้สึกอายบ้างไหม แต่คนพวกมากจริยธรรม เขาอายกันไม่เป็น ดูสิอมภูเขา อมรถราขการ อมบ้านหลวง อมเมียเพื่อน ตั้งเมียตัวเองมาเป็นที่ปรึกษากินเงินหลวง พวกมันอายกันเสียทีไหนล่ะ
29 มิถุนายน 2555 16:43 น. - comment id 1237079
แล้วที่ตายไป98ศพบาดเจ็บ2000 มีอะไรที่เกี่ยวข้องด้วยล่ะครับท่าน
29 มิถุนายน 2555 18:14 น. - comment id 1237086
ก็ไอ้มาก ม ๗ และไอ้เทือกหน้าดำแขนคอก ฆาตกรสั่งฆ่า มันก็ต้องรับผืดชอบทั้งชาตินี้และในนรกครับ คอยดูไป มันจะรักษาสมบัติที่มันโกงมาได้ครบในชาตินี้ไหม
29 มิถุนายน 2555 18:35 น. - comment id 1237091
ตั้งใจมาบ้านนี้...ดันไปโผล่บ้านพี่บุญพร้อมได้งัยหว่า...บร้าจริง กิกิ..
29 มิถุนายน 2555 19:20 น. - comment id 1237093
ผมหมายถึง ที่อ้างในบทความยาวๆต่า่งหากครับท่าน
30 มิถุนายน 2555 08:23 น. - comment id 1237120
ความคิดเห็นที่ 13 ถูกตบหัวจนหงายเงิบ...ไปผิดไปถูก จะไปบอกเขารึว่า แปรพักษ์.. keybord...เขียนยังงัยน่ะเร้อะ
30 มิถุนายน 2555 11:11 น. - comment id 1237126
สรุปว่า พวกที่เลือกเพื่อไทย และคนเสื้อแดง มีอาการน่าเป็นห่วง แลัวก็มีมากเสียด้วยเอาไงดีครับ
30 มิถุนายน 2555 12:36 น. - comment id 1237134
ย้อนกลับไปที่การชุมนุมคนเสื้อแดง เมื่อปี 2553 สถานการณ์การชุมนุมคนเสื้อแดง ถูกโหมกระพือความรุนแรงขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยจุดเริ่มต้นจากการลอบสังหารพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 13 พฤษภาคม จนสร้างปมสงสัยมากมายถึงปริศนาผู้ลงมือด้วยความต่างของเหตุผล เงื่อนไข และผู้ที่ได้ผลประโยชน์จากสถานการณ์นี้ รัฐบาลโดยศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินหรือศอฉ.ในขณะนั้น กลายเป็นเป้าหมายของแกนนำเสื้อแดงที่จะใช้เป็นเครื่องมือปลุกระดมมวลชนเพื่อ ขยายความเกลียดชังต่อรัฐบาล ดั่ง คำปราศรัยของจตุพร พรหมพันธ์ ให้หลังการลั่นไกสังหารเสธแดงเพียงไม่กี่ชั่วโมงเอาไว้แบบนี้ "รัฐบาลคิดว่า การยิงเสธ.แดง จะทำให้ นปช.ยุติการชุมนุม ถือว่าคิดผิด หากรัฐบาลจะยิงใครก็ยิงได้ตามสบาย พวกเราจะไม่มีทางหนี" รวมถึงการทวิตของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม "ผมขอประณามการใช้กำลังทหารและการใช้อาวุธหนักกับพี่น้องผู้ชุมนุมอย่าง สันติ จนเสียชีวิตไปหลายคน อีกครั้งหนึ่งของรัฐบาลที่อ้างว่าเป็นประชาธิปไตย" ที่ผ่านมาแม้จุดยืนและบทบาทหลายๆเรื่องของเสธ.แดง จะอยู่ตรงข้ามกับรัฐบาล โดยเฉพาะกองทัพ ที่มีผู้บัญชาการทหารบกชื่อพล.อ.อนุพงษ์เผ่าจินดา และ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จนถูกสั่งพักราชการตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม2553 กระทั่งเมื่อกลางดึกของวันที่ 14 มกราคม ห้องทำงานของพล.อ.อนุพงษ์ ถูกโจมตีด้วยอาวุธสงคราม M 79 ที่แม้จะมีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการตอบโต้ของเสธ.แดงจนนำไปสู่การบุกค้น บ้านพัก ย่านเกียกกาย เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม และพบอาวุธสงครามจำนวนมาก แต่เสธ.แดงก็ได้ออกมาปฏิเสธ พร้อมกับแสดงความเป็นห่วงพล.อ.อนุพงษ์เอาไว้ว่าในฐานะที่ตนเป็นเพื่อนรักของ พล.อ.อนุพงษ์ แม้จะถูกพักราชการโดยไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่ตนก็ยังไม่ลืมความเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน และขอเตือนว่าให้พล.อ.อนุพงษ์ย้ายครอบครัวออกจากบ้านพัก เพราะเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย ถามว่าความบาดหมางในระดับดังกล่าว จะลุกลามไปถึงการสังหารเสธ.แดงเลยหรือไม่ ประกอบกับคำยืนยันจากพ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ในฐานะโฆษกศอฉ. ที่ระบุว่า ด้วยระเบียบกองทัพก็สามารถเอาผิดเสธ.แดงได้ตลอดเวลา และจนถึงวันนี้กระบวนการพิจารณาความผิดทางวินัยต่อเสธ.แดงก็ยังเป็นไปตาม ขั้นตอนโดยไม่มีการเร่งรัด ขณะที่นายอภิสิทธิ์ แม้จะยืนยันว่าเสธ.แดงเป็นปัญหาต่อแผนปรองดอง แต่การแก้ปัญหาโดยวิธีสังหาร ผลที่ได้รับจะคุ้มเสียหรือไม่ เนื่องจากรู้อยู่แล้วว่าเสธ.แดงเป็นเพียงไพ่ใบหนึ่งของผู้บงการ และที่สำคัญเสธ.แดงไม่ใช่ตัวชี้ขาดสถานการณ์ อย่างไรก็ตามอาจมีข้อสงสัยต่อกรณีการสูญเสียของกองทัพ ในเหตุการณ์มิคสัญญี 10เมษายน โดยเฉพาะนายทหารแห่งบูรพาพยัคฆ์ อย่าง พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรมว่า จะเป็นการสุมแรงแค้นให้ฝ่ายของทหารตัดสินใจดำเนินการสังหารเสธ.แดงเอง แต่ก็ยังเกิดคำถามตามมาเช่นกันว่าใครจะเป็นผู้สั่งการ เพราะจะมีความเสี่ยงต่อบุคคลผู้นั้นอย่างยิ่ง จากองค์ประกอบที่ได้นำเสนอไปนั้น ก็ให้พิจารณาว่ารัฐบาล และกองทัพ จะได้รับประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งหรือไม่หากจะเป็นฝ่ายลงมือสังหารเสธ.แดง แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องไม่ลืมว่า ภายหลังจากการลั่นไกสังหารเสธ.แดง สถานการณ์ก็ดูจะมีความเลวร้ายมากยิ่งขึ้น ซึ่งนั่นเองจะถือเป็นเป้าประสงค์ของผู้ที่อยู่เบื้องหลังหรือไม่ โดยเฉพาะหากย้อนกลับไปดูรายละเอียดของนาทีสังหาร ก็จะพบว่า เกิดขึ้นขณะที่เสธ.แดงกำลังให้สัมภาษณ์โทมัส ฟุลเลอร์ ผู้สื่อข่าวต่างประเทศ จากหนังสือพิมพ์ อินเตอร์เนชั่นแนล เฮรัลด์ ทริบูน สหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นประสงค์ของคนร้าย ที่ต้องการใช้การรายงานข่าวของผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ขยายผลสถานการณ์ความรุนแรงไปสู่เวทีสากล เพราะในระยะหลังของการชุมนุม เสธ.แดงถือว่ายกระดับความสำคัญของตัวเองในฐานะการนำมวลชน ขึ้นมาแทนที่แกนนำ 3 เกลอมาเป็นลำดับ แม้ว่าครั้งหนึ่งจะเคยถูก 3 เกลอ อับเปหิ ออกจากการ เคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง เนื่องจากไม่พอใจบทบาทที่ผาดโผนของเสธ.แดง ดั่งที่สะท้อนมาจากการงัดข้อกับมติของ 3 เกลอที่ได้สั่งให้รื้อบังเกอร์ด้านหน้าโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และก็เป็น การ์ดต่างจังหวัดในสังกัดของเสธ.แดง ที่ออกมาขวาง จนเกือบมีการปะทะ ดั่งคำให้สัมภาษณ์ของเสธ.แดงแบบนี้ "คืนนั้นเกือบจะยิงกันระหว่างการ์ดต่างจังหวัดกับการ์ดส่วนกลางเพราะมันไม่ พอใจที่อริสมันต์แย่งขึ้นเวที พวกมันไม่มีอะไรหรอกอยู่แต่หลังเวที กินกันจนอ้วนตาปิดเกือบหมดแล้ว วีระไม่เคยมาดูแถวชายแดนมีแต่เสธ.แดงลงตรวจทุกวัน ทุกคืน ผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงเองก็มีส่วนหนึ่งที่ไม่พึงพอใจในบทบาทของเสธ.แดงที่ ประกาศตัวเป็นหัวหน้าการ์ดต่างจังหวัด" ต่อเนื่องกับคำกล่าวอ้างของเสธ.แดงว่าพ.ต.ท.ทักษิณได้ต่อสายตรงถึงตน เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม สั่งการแต่งตั้งแกนนำ นปช. ชุด 2 ประกอบด้วยนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ นายขวัญชัย ไพรพณา และ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัต ขึ้นมาแทนใครก็ตามที่ไม่สู้ก็ให้กลับบ้านไป ย้ำให้เห็นถึงบทบาทการนำของเสธ.แดงที่ยกระดับขึ้นมาทุกขณะ และหากการกล่าวอ้างของเสธ.แดงเป็นเรื่องจริง ก็จะเท่ากับว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ยังคงอยู่เบื้องหลังการกำหนดยุทธวิธีต่อสู้ของกลุ่มคนเสื้อแดงอย่างชัดเจน ซึ่งนั่นจะสร้างความไม่พอใจให้กับแกนนำบางกลุ่มจนนำไปสู่การรอบสังหารเส ธ.แดงหรือไม่ก็ต้องนำมาพิจารณาเช่นกัน จะสังเกตเห็นได้ว่าความสัมพันธ์ของเสธ.แดง และพ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ในระดับที่แน่นแฟ้นมาโดยตลอด และหากยังจำกันได้ก็เป็นการเดินทางไปพบพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ดูไบ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ที่ถือเป็นการเปิดตัวหลักแก้ว 3 ประการ โดยเฉพาะในส่วนของกองกำลังติดอาวุธ ดั่งที่ปรากฏจากคำให้สัมภาษณ์ของเสธ.แดง ให้หลังจากการเดินทางกลับประเทศไทยเอาไว้แบบนี้ "ก่อนนี้เราไม่รู้จักหรอก นปช. นปก. ไม่รู้คนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ แต่วันนี้รู้หมด และจนกระทั่งมาแตะมือกับกลุ่มฮาร์ดคอร์ อริสมันต์ เจ๋ง ดอกจิก พายัพ และก็เข้าไปชนกับ 3 เกลอขุนพล ซึ่งเป็นส่วนประท้วงปราศรัย โดยไม่ใช้ความรุนแรรง แต่วันนี้มันชนครบแล้ว ทั้ง แนวร่วม พรรคเพื่อไทย และ กองกำลังติดอาวุธซึ่งเขาคึกอยู่นานแล้ว" จะมีความเป็นไปได้หรือไม่ว่า เสธ.แดงคือมากที่ถูกวางเอาไว้สำหรับเปิดประเด็นเรื่องกองกำลังติดอาวุธ โดยผู้บงการได้อาศัยความ กล้าได้กล้าเสีย ของเสธ.แดงเป็นตัวชูโรง 2 ธันวาคม 2552 เสธ.แดงระบุว่าทหารพรานค่ายปักธงชัย สปก.315 มีการเตรียมอาวุธหนักพร้อมรบกับรัฐบาลว่า "ขณะนี้ทหารพรานค่ายปักธงชัยที่ถูกยุบกำลังรวมตัวออกมาเป็น 1,000 คน มีการเตรียมอาวุธหนักพร้อมรบ โดยเวลามีการชุมนุมคนเสื้อแดง ทหารพรานเหล่านี้ก็จะเข้าไปแฝงตัว ดังนั้น จึงขอเตือนว่าทหารอย่าออกมา เพราะอาจทำให้เกิดสงครามกลางเมืองได้ ที่สำคัญทหารพรานเหล่านี้ใช้อาร์พีจีเก่งกว่าทหารหลัก" ซึ่งจะด้วยเหตุบังเอิญ หรือว่าได้เข้าไปเกี่ยวโยงกับสถานการณ์จริงๆ ถึงทำให้เสธ. แดงสามารถคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ได้อย่างแม่นยำเมื่อการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงตลอดระยะเวลา 2 เดือน มีกลุ่มผู้ไม่ประสงค์ดีออกปฏิบัติการโดยใช้อาวุธสงครามอย่างเอ็ม79 เอ็ม67 และอาร์พีจี มาแล้วถึงกว่า 90 ครั้ง ที่เห็นกันจะจะกับการปรากฏตัวของไอ้โม่งชุดดำพร้อมอาวุธสงครามครบมือ ที่บริเวณสี่แยกคอกวัว ในคืนมิคสัญญี 10 เมษา จนนำมาซึ่งความสูญเสียทั้งในส่วนของทหารและมวลชนเสื้อแดงถึง 26 ศพและอีกกว่า 800 รายที่ได้รับบาดเจ็บ และก็เป็นสถานการณ์เดียวกัน ก่อนที่จะเกิดเหตุปะทะในช่วงค่ำ ได้มีการเคลื่อนไหวในเว็ปบอร์ดของเสธแดง โดยบุคคลที่ใช้ชื่อว่าเสธ.แดง รหัสอาชา โพสต์กระทู้ไว้เวลา 16.13 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุมิคสัญญีสี่แยกคอกวัวไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมงว่า "ต้องขอบใจที่ทหารเริ่มยิงประชาชนด้วยเอ็ม16...เกมส์อาจจะเปลี่ยนด้วย ประวัติศาสตร์...ของนักรบพระเจ้าตาก ที่ทนไม่ไหว ต้องเอากระบี่เสียบเอว...พวกมึงอยู่ไหนกันหมด ไปช่วยประชาชนด้วยโว๊ย ...บอกว่า..กูสั่ง น่าสังเกตว่าทำไมบุคคลที่ใช้ชื่อว่าเสธ.แดง รหัสอาชา ถึงรู้ล่วงหน้าว่าจะมีการยิงเอ็ม16จากฝั่งทหารเข้าใส่ประชาชนทั้งที่ในช่วง นั้นปฏิบัติการเข้าขอคืนพื้นที่แยกผ่านฟ้าเพิ่งเริ่มต้นขึ้นและภาพที่ปราก ฎต่อสาธารณะก็คือการใช้กำลังทหารเข้าผลักดันมวลชน สลับการใช้กระสุนยางและแก๊สน้ำตาเพื่อลดแรงปะทะจากอีกฝ่าย น่าสนใจว่าชื่อที่โพสต์บนเว็ปไซต์ว่า เสธ.แดงรหัสอาชานั้น คือใคร แล้วทำไมถึงต้องใช้คำว่าเสธ.แดง ที่จะทำให้ผู้อ่านอาจเชื่อได้ว่าเป็นเสธ.แดงตัวจริงเสียงจริง จะใช่หรือไม่ก็ตาม ที่การเคลื่อนไหวและคำให้สัมภาษณ์ที่ผ่านมาของเสธ.แดง จะเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการก่อการร้าย แต่จากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ก็น่าที่จะเชื่อได้ว่ากลุ่มกองกำลังติดอาวุธเหล่านี้ ไม่ได้เกิดขึ้นแบบบังเอิญ หากแต่ได้เตรียมการและวางแผนมาเป็นอย่างดี และเมื่อเสธ.แดงได้ทำหน้าที่เปิดตัวกองกำลังติดอาวุธ ตามหลักของแก้ว 3 ประการ ให้สังคมได้ประจักษ์ อย่างสมบูรณ์แล้วหน้าที่ที่ไม่อาจล่วงรู้ต่อมาก็คือ การถูกนำเอาชีวิตมาเป็นเครื่องมือ เพื่อยกระดับสถานการณ์ให้มีความเข้มข้นขึ้น อันจะถือเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ของผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังหรือไม่ ก็ชวนให้พิจารณาไม่น้อยเพราะประจักษ์ชัดแล้วว่า ในวันที่ไม่มีเสธ.แดงประจำการอยู่ กองกำลังติดอาวุธยังสามารถทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างหนักแน่นและดุดัน แสดงให้เห็นว่าเสธ.แดงไม่ใช่ผู้บงการกองกำลังติดอาวุธที่แท้จริง เพียงแต่เป็นถูกหยิบเป็นตัวเปิดประเด็นเท่านั้นส่วนตัวผู้บงการคนอื่นๆที่ ไม่เปิดเผยตัว ก็ยังชักใยอยู่เบื้องหลังเหมือนเดิม http://www.oknation.net/blog/home/user_data/file_data/201204/21/48165e7e4.jpg และกับสถานการณ์ที่ได้ปะทุขึ้นอีกครั้ง ให้หลังจากการสังหารเสธ.แดง บุคคลที่จะได้รับผลประโยชน์ภายใต้สถานการณ์ความวุ่นวาย ก็ดูจะสอดประสานกับความต้องการของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่สะท้อนมาจากเหตุการณ์ความวุ่นวายเมื่อเดือนเมษา2552 ที่ต้องการให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวลงมาคลี่คลายสถานการณ์และหากเป็น เช่นนั้นจริง ก็เท่ากับว่าการสังหารเสธ.แดง ได้นำพาสถานการณ์ให้สำเร็จไปแล้วกึ่งหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่าหากการเลือกเล่นไพ่ใบนี้ของผู้บงการตัวจริง ไม่ประสบความสำเร็จ ไพ่ใบต่อไปก็จะถูกหยิบขึ้นเล่นต่อทันที แต่นั่นจะหมายถึงชีวิตของแกนนำคนที่เหลือหรือไม่ จากการยิงสังหารเสธ.แดงโดยมือสังหารระดับมืออาชีพ แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยของเรามีมือปืนระดับพระกาฬที่พร้อมถูกเรียกใช้ใน สถานการณ์ที่ผู้สั่งการต้องการทุกเมื่อ ซึ่งนี่เองที่เป็นเงื่อนไขที่พ.ต.ท.ทักษิณไม่อาจไว้วางใจ สำนักข่าวทีนิวส์ ----------------------------------- บทความนี้ ผมอ่านแล้ว วิเคราะห์ได้อย่างแยบยลทีเดียว น่าสนใจนะครับ เหมือนกับว่าจะมีอีกคนหนึ่งที่ต้องการเปลี่ยนแปลง แต่ไม่เิปิดเผยตัวออกมา และพร้อมที่จะหยิบยื่นความตายให้แก่ทุกฝ่่าย ไม่ว่าฝ่ายตรงข้าม หรือฝ่ายเดียวกันเอง เพื่อไปให้ถึงเส้นทางที่จะเปลี่ยนทิศทาง ตามที่ต้องการ ลำพังทักษิณนั้น จุดมุ่งหมายแน่ๆ ก็คือ กลับบ้าน ล้มเลิกความผิด โดยใช้ตัวช่วย องค์ประกอบ กองกำลังมวลชน ลิ่วล้อหิวเงิน อำนาจรัฐ-นิติบัญญัติ มาดำเนินการ แต่คล้ายๆกับว่าคนอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นไอ้โม่งนั้น ต้องการอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น และหากสั่งตายให้แก่ทักษิณได้ อะไรจะเกิดขึ้น เหมือนกับว่าพร้อมทำให้สถานการณ์เลวร้ายขึ้นอีก เปรี้ยงเดียว ตัดขั้วหัวใจ ตัวอย่างก็มีให้เห็นแล้ว น่าสนใจว่า สารเลวคนนั้น เป็นใคร ไอ้โม่ง ผู้บงการความตาย
30 มิถุนายน 2555 12:38 น. - comment id 1237135
30 มิถุนายน 2555 13:27 น. - comment id 1237136
ขอบคุณที่แจงได้ ละเอียดยิบ ข้อมูลแต่ละค่ายแต่ ละฝ่าย ชวนให้คิด ถึงความเป็นไปได้ สมกับที่ เขาขนานนาม ว่าลับ ลวง พราง เห็นจะจริง ขอบคุณครับ
30 มิถุนายน 2555 15:13 น. - comment id 1237141
ความคิดเห็นที่ 17 : อย่าเพื่อไทย และคนเสื้อแดง เลย พวกเขาปกติดีทุกอย่างคนไม่ปกติใกล้บ้านน่ะไอ้มากฆาตกร ๙๘ ศพ และพวกสมุนไอ้พรรคสารเลวประชาวิบัติ ถนัดกู้ และไอ้พวกพันทมารชั่วทำลายชาติ รู้ไว้ว่าพวกมันมีอาการน่าเป็นห่วง แลัวก็มีมากเสียด้วย เอาไงดีน่ะรึ ก็ให้พวกมันไปฆ่าตัวตายซะ จบ
30 มิถุนายน 2555 16:21 น. - comment id 1237145
แค่เห็นชื่อสื่อว่าเปลว สีเงิน และสำนักข่าวทีนิวส์ ก็ฟันธงได้เลยว่า ความน่าเชื่อข่าวเป็นศูนย์ ทั้งหมดคือการยกเมฆ ปั้นน้ำเป็นตัวครับ
30 มิถุนายน 2555 20:47 น. - comment id 1237155
รัฐบาลขี้ขลาดมากครับ กลัวติดคุกปล่อยนาซ่ากลับไป แต่โทษฝ่ายค้าน ทั้งๆที่รัฐบาลมีสิทธิ์เต็มที่ ฝ่ายค้านเขาเตื่อที่ดันกลัวขี้หดตดหาย 55555555 ถ้านาซ่าดีจริง ปล่อยเขาไปทำไมครับ ปูมีขามากมายแต่ทำไมหัวปูไม่มี ก๊ากกกก
30 มิถุนายน 2555 20:49 น. - comment id 1237156
ถ้านาซ่าแน่จริง อย่าปล่อยให้พายุถล่มเมกาอีกนะครับ 5555 อย่าปล่อยให้น้ำท่วมเมกานะครับ 5555 โง่จ๊าดนั๊ก
30 มิถุนายน 2555 21:18 น. - comment id 1237161
ความคิดเห็นที่ 23 : ความคิดเห็นที่ 24 : ขำพวกประชาธิเปรตแอบเช็ดเมียเพื่อน ปากคาบโกเต็กซ์ว่ะ ไอ้มากฆาตกร ๙๘ ศพ หวังเต็มที่เป็นนายกเมืองตอแหลแลนด์ หงายเงิบไปแล้ว นายกปูถวายการต้อนรับกษัตริย์บรูไน ที่ทำเนียบ ไอ้มาก ฆาตกร ๙๘ศพ คนรังเกียจ ก๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
30 มิถุนายน 2555 21:20 น. - comment id 1237162
ความคิดเห็นที่ 23 : ความคิดเห็นที่ 24 : นายกปู ของพวกกรูรากหญ้า หากเหนื่อยกรูจะให้ท่านหยุด แล้ว กรูก็ให้ท่านเพรียวพันธ์ มาเป็นเป็นเว่ย ก๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ พวกมรึงไปแอบเช็ดเมียชาวบ้าน และโกงภูเขา ต่อไปนะ
1 กรกฎาคม 2555 08:20 น. - comment id 1237178
เอาความหลัง..มาตั้งขวางทางข้างหน้า ยากจะฝ่า หาอนาคตที่สดใส หนึ่งก้าวย่างหลังก้าวถอย คอยอะไร ? เล่นสงครามน้ำลาย สาดใส่กัน ! ลับลวง..พัง ! ต่างตั้งแง่เป็นหลายง่าม ข้าอยากถาม สติรู้อยู่ไหมนั่น ? บ้าเป็นดี ศรีธัญญารักษาทัน ลับลวงกัน จนบ้านหมุน ..ข้างุนงง !