เขาร้อนท้องเหมือนตุ๊กแกที่กินปูน ชุลมุนต่อต้านค้านกันใหญ่ เงินรางวัลชี้เบาะแสที่เอาไป จะหาเอาที่ไหนมาส่งคืน หากกฏหมายปรองดองผ่านสภา สี่หมื่นล้านมากกว่าของคนอื่น จะไม่เอาเขาก็จะต้องคืน จึงมีคนแตกตื่นคัดค้านกัน เงินรางวัลนำจับชี้เบาะแส ยื่นมือแบรับไปอย่างแข็งขัน ทั้งที่ไม่ออกแรงอะไรทั้งนั้น แต่แบ่งปันเอาไปสี่สิบเปอรเซ็นต์ ต้องตรวจสอบชี้แจงให้ถ้วนถี่ รายชื่อมีประชาชนควรได้เห็น เหตุของการคัดค้านเปิดประเด็น คงจะเป็นเรื่องนี้มีคมนัย ถึงขนาดเดินตลาดแถวสีลม เอกสารทับถมกล่าวหาใส่ อ้างคืนเงินทักษินทำไม่ได้ เขาเห็นชาติคิดอะไรยากปิดบัง คงจะรับรางวัลไปเยอะมาก จึงยอมเดินขาลากไม่มียั้ง ขอวอนให้ประชาชนไปนั่งฟัง ค้านปรองดองให้พังอยู่อย่างเดียว ไม่ต้องคิดทำอะไรอย่างอื่นแล้ว กลัวเรียกคืนเรียงแถวจึงนึกเสียว วาทะกรรมโป้ปดที่ลดเลี้ยว ใครข้องเกี่ยวร้อนท้อง..กลัวต้องคืน
8 มิถุนายน 2555 07:22 น. - comment id 1235561
คงไม่รู้ ของนั้น ฉันไม่ได้ เลยทำให้ ร้อนลน จนต้องดิ้น มีหลายอย่าง ให้เลือก เจือกไปกิน เห็นจะสิ้น หมดลาย ไอ้ตุ๊กแก
8 มิถุนายน 2555 07:51 น. - comment id 1235564
ต่างก็มีเหตุผล ต่างคนก็ต่างหวัง ชัยชนะเพื่ออยู่ยัง ใครจะพังช่างปะไร ตั้งแง่เป็นหลายง่าม เค้นความมาขานไข แย่งยึดและยื้อไป ปลุกม็อบใหญ่เข้าใส่กัน นี่แหละความต่าง ก่อนสู่ทางที่ตั้งมั่น สะเด็ดน้ำเมื่อไหร่นั้น ที่ถูกคั้นก็หวานหอม ขอเพียงอย่าเล่นแรง อย่าตะแบงอย่าตะล่อม ใครดีมีความพร้อม ใจต้องยอมอย่างอแง
8 มิถุนายน 2555 09:40 น. - comment id 1235569
ภาษาไทย ยังต้องตีความ ไล่ไปอ่าน ภาษาต่างชาติ คงลืมไปว่าที่นี่ ประเทศไทย
8 มิถุนายน 2555 10:43 น. - comment id 1235573
ความคิดเห็นที่ 3 อย่าไปว่าเขานะ เขายุบมาเยอะแล้ว จตุพร ก็พวกเขานี่ละ เดี๋ยวก้ยุบเพื่อไทยเสียเลยนี่ เห็นๆไหม เขาไมกลุ่ม ไม่หวั่นแม้วันมามาก เขาบอกว่า สีทนได้อ่ะ
8 มิถุนายน 2555 21:01 น. - comment id 1235607
วันนี้ (๓๐ พ.ค.๕๕) สภาเพื่อไทยจะใช้ พ.ร.บ.ปรองดอง ทำพิธีปลุกเสก "กระดูกทักษิณ" ให้ฟื้นขึ้นมาเป็นตัวคน แต่ดูเหมือนจะมีมวลชนกลุ่มต่างๆ มาร่วมแช่งชักหักกระดูกกันจำนวนมาก ทั้งกลุ่มพันธมิตรฯ กลุ่มคนเสื้อหลากสี กลุ่มสยามสามัคคี กระทั่งพรรคประชาธิปัตย์เองก็ประกาศ "ต้าน" ทุกรูปแบบ เรียกว่าเต็มสูบทั้งในและนอกสภาฯ "สุเทพ เทือกสุบรรณ" บอกเลยว่า จะใช้สิทธิ์ส่วนตัวตั้งเวทีปักหลักสู้ แต่งานนี้คงกร่อยไปนิด เพราะ นปช.บอกจะใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหวอยู่ในที่ตั้ง แล้วแบบนี้ เมื่อไหร่จะรู้หมู่-รู้จ่ากันซะทีล่ะ ผมมันพวกช่างกล (สอบตก) เก่า ใจร้อนแฮะ แต่ก็ดีแล้ว ขืนเข็นเสื้อแดงออกมาต้าน ฝ่ายที่จะพังก็คือฝ่ายเพื่อไทย ที่จะปลุกเสกกระดูกทักษิณให้ฟื้นคืนชีพนั่นแหละ! เห็นว่าร่าง พ.ร.บ.เลียไข่ทักษิณแย่งกันยื่นตั้ง ๓-๔ ฉบับ แต่ "ฉบับสับขาหลอก" ของท่านรองฯเฉลิมเพื่อนเลิฟผมไม่ยักเสนอเข้า เท่าที่ฟังนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาฯ บอก วันนี้แค่เลื่อนวาระขึ้นมาจ่อ พรุ่งนี้ ๓๑ พฤษภา ถึงจะบรรเลงกัน! ถึงตอนนี้ ไม่จำเป็นต้องสาธยายแล้วว่า พ.ร.บ.ปรองดองนั้น แท้จริงมันคือ พ.ร.บ.ทำลายความปรองดอง หรือ พ.ร.บ.สร้างความปรองดองกันแน่ เพราะได้พูดกันไปครบถ้วนกระบวนความมา ๒-๓ วันแล้ว เพียงแต่อยากย้ำว่า ฉากหน้า....เพื่อล้างโทษทักษิณ! แต่ "หลังฉาก" ของ พ.ร.บ.นี้คือ การคืบคลานเข้ายึดอำนาจ ๓ สถาบันหลักของชาติคือ "สถาบันบริหาร-สถาบันนิติบัญญัติ และสถาบันตุลาการ" ไปรวมศูนย์อยู่ที่ "ระบอบทักษิณ" เป้าหมายตามเจตนาของมันที่ "คนทั่วไป" มองไม่เห็นและไม่คิด ก็คือ การลิดรอนพระราชอำนาจของสถาบันพระมหากษัตริย์ลงไปเรื่อยๆ นั่นเอง! แผนนี้เขาเรียกว่าแผน "ตัดรากไม้ล้อม" ในป่าใหญ่ ค่อยๆ ตัด แล้วค่อยๆ ล้อม ไม่ให้ต้นตาย รอการเคลื่อนย้ายไปไว้ในฐานะ "ไม้ประดับ" ของพวกอำมาตย์ไพร่ในอนาคต ก็เห็นกันอยู่มิใช่หรือว่า ขณะนี้ "ที่พึ่งสุดท้าย" ของประชาชนที่เหลือตอนนี้คือระบบ "ศาลสถิตยุติธรรม" นอกนั้น ทั้งระบบตำรวจ-ระบบทหาร-ระบบข้าราชการ กระทั่งหน่วยข้าราชบริพารใกล้ชิดบางหน่วย หวังพึ่ง หวังความจริงใจในความซื่อสัตย์-สุจริตได้ซักแค่ไหน? แต่ถ้ารัฐบาล-รัฐสภาเพื่อไทย ฉุดกระชาก พ.ร.บ.ล้างโทษทักษิณให้ประกาศใช้เป็นกฎหมายได้ นั่นก็หมายความว่า "ที่พึ่งสุดท้าย" คือศาลยุติธรรมที่การตัดสินทุกคดีความอยู่ภายใต้พระมหาปรมาภิไธย ถูก "ระบอบทักษิณ" ยึดครองได้สำเร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ขนาดออกกฎหมาย "ล้มล้าง" คำตัดสินศาลที่ตัดสินไปแล้วได้ ล้มเลิกคดีความเก่า-ใหม่ได้ตามใจชอบ แล้วมันจะยังมีอะไรที่ "ระบอบทักษิณ" ต้องการแล้วจะทำไม่ได้เหลืออยู่อีกล่ะ? มันค่อยๆ ขุด ค่อยๆ ตัดราก แล้วล้อมต้น หลอกตาให้ประชาชนเข้าใจว่า "ต้นยังอยู่ดี" แต่เนื้อแท้ เป็นต้นที่ไร้รากยึดดิน สิ้นการเติบโต เขาไม่เพียงใช้ พ.ร.บ.ปรองดองตัดรากอย่างเดียว เงยหน้ามองสำรวจรอบๆ ตัวซิว่า พวกเขามุ่งมั่นกันขนาดไหน ก็ขนาดครูบาอาจารย์มหาวิทยาลัย เผยสันดานจากธาตุแท้แม้แก่เฒ่าปูนนี้ยังหามีสำนึกไม่ นำหน้าไปยื่นขอแก้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒ ต่อประธานสภาฯ เรียกว่า "เปิดหน้ากาก" เล่นเกมล้มเจ้า เป็นศึกกระหนาบ ๓ เส้า กะเอาให้สำเร็จเสร็จศึกกันไปเลย! ถึงสภาฯ จะรับลูกหรือไม่รับลูก แต่นั่นก็เข้าแผน "กัดกร่อน" ที่เขาจะสาดซัดผ่านสงครามข่าวสารด้านสิทธิมนุษยชน ที่จะค่อยๆ ย้ำให้คนโดยเฉพาะ "คนนอกชาติ" ซึ่งไม่เข้าใจด้านวัฒนธรรม ประเพณี และวิถีแห่งห่วงสัมพันธ์ระหว่างชาติ-พระศาสนา-พระมหากษัตริย์ ที่หลอมรวมเป็นชาติไทย ให้หลงเข้าใจว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ทรงอภิสิทธิ์เหนือรัฐ เหนือรัฐธรรมนูญ มีไว้ก็ให้โทษมากกว่าให้คุณสังคม ถ้าสังเกตการเคลื่อนไหวขบวนการระบอบทักษิณแต่ละย่างก้าว จะเห็นว่า พอได้รับสัญญาณ พวกเขาจะเข้าโจมตีพร้อมๆ กันทุกด้าน เรียกว่าทำงานเป็นทีม มาเป็นแพ็กเกจ อย่างขณะนี้-วันนี้ ก็เช่นกัน! ทุกวันนี้ ฝ่ายที่ต้องการยึดประเทศ เปลี่ยนระบอบ-ล้มสถาบัน เขาเปิดหน้าเล่นกันเต็มตัวแล้ว ทั้งทหาร ทั้งตำรวจ ทั้งข้าราชการ ทั้งนักวิชาการ กระทั่งพระ ถามว่า "ลำพังทักษิณ" ด้วยความต้องการ และความเหิมเกริม ต้องทำกับประเทศชาติกันขนาดนี้เชียวหรือ? ผมก็พอรู้จักทักษิณ เคยได้เสพความคิดที่เรียกว่า "คิดใหม่-ทำใหม่" ของทักษิณตั้งแต่เริ่มทำพรรคไทยรักไทย ผมยอมรับว่าทักษิณเป็นคน "คิดการใหญ่" ใหญ่ที่ว่านั้น ไม่ถึงขนาด "ใฝ่สูง" จนเกินศักดิ์ แต่เผอิญทักษิณมีอำนาจในยุคโลกาภิวัตน์ที่เข้าสู่ช่วง "อำนาจเดียวครองโลก" กำลังเข้าโค้งสุดท้าย โดยใช้เทคโนโลยีการสื่อสารและสารสนเทศเป็นอาวุธหลักในการเข้าถึงด้วยกลยุทธ์ "ป้อนข้อมูล" ปรุงแต่งด้วยจริงในเท็จ-เท็จในจริง "สร้างทัศนคติใหม่" ให้สังคมโลก แรกสู่การเมือง ความอยากใหญ่ "หนุนหลัง" ทักษิณให้ทะยานสู่อำนาจผ่านตำแหน่งนายกฯ แต่หลังจากได้อำนาจ คล้ายกับว่า ขบวนการ "อำนาจเดียวครองโลก" หนุนหลังให้ทักษิณปรับสถานะความอยากใหญ่ "มีขอบเขต" ให้ใหญ่ สูงชนิด "ข้ามขอบเขต" ขึ้นไปอีก เพราะแนว "คิดใหม่-ทำใหม่" ของทักษิณ ในสายตากลุ่มอำนาจทุนโลก "สหรัฐ-อังกฤษ-ฝรั่งเศส" มันก็คือแนวคิดทาสภายใต้กากเดนระบบทุนวัตถุของเขาที่กำลังอยู่ในช่วง "หมดอายุ" ถ้าเลี้ยงดูทักษิณให้มีอำนาจไว้ มันจะง่ายที่ระบบทุนโลกจะเข้าครอบงำประเทศไทย ใช้เป็นฐานบัญชาการ "กอบโกย" ทรัพยากร โดยเฉพาะพลังงาน นำกลับไปเลี้ยงดูพวกเขาในฝั่งตะวันตก ที่นับวันทรัพย์สมบัติอันปล้นไปจากภูมิภาคนี้ในยุคล่าอาณานิคม ถูกใช้หมดเกลี้ยงไปทุกขณะ มีอย่างเดียวที่ "กลุ่มทุนโลก" มองว่าเป็นอุปสรรคต่อการขยายเศรษฐกิจระบบทุนเข้าครอบงำไทย คือ "ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง" เพราะนั่นจะทำให้คนไทยพึ่งตัวเองได้ ไม่ต้องพึ่งเงินกู้ ไม่ต้องตกอยู่ใต้อาณัติระบบทุน ระบบเศรษฐกิจ-การเงินโลก ชนิด "ต้องเป็นทาส" ขนาดต้องวางแผนพัฒนาประเทศตามเขาสั่ง ดังที่เป็นอยู่ตั้งแต่ฉบับแรก ยันฉบับปัจจุบัน! ดังนั้น ถ้าผมเป็นมาเฟียโลก ผมก็ต้องเลือกทักษิณ เพราะเศรษฐกิจ "ทักษิโณมิกส์" คือระบบเมืองขึ้นเศรษฐกิจทุนนอกชาติ สามารถแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ได้ดีกว่ายอมให้ "เศรษฐกิจพอเพียง" หยั่งรากเติบโต จะทำให้แผนยึดไทยยากขึ้น ด้วยอย่างนี้กระมัง การเมืองสหรัฐ-อังกฤษกับไทย จึงพลิกจากหน้ามือเป็นหลังพระบาท ตอนทักษิณยังไม่ได้อำนาจบริหารเป็นรัฐบาลเพื่อไทย ทั้งอังกฤษ ทั้งสหรัฐ ไม่ยอมให้ทักษิณเข้าประเทศ แต่วันนี้...ทักษิณปร๋อ ไปดูแมนฯ ซิฯ ให้ปรากฏเป็นข่าว และกำลังบินปร๋อเข้าสหรัฐในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้? ขณะนี้...เข้าสู่ยุค "วิถีบูรพา" ในขณะที่จีนกำลังแผ่อำนาจเข้าอาเซียนและเอเชีย สหรัฐ-อังกฤษ-ฝรั่งเศส ร้อนรนต้องใช้ "อองซาน ซูจี" เป็นฉากประชาธิปไตยปูทางเข้ายึดพื้นที่พม่า ก่อนที่จะถูกจีนครอบงำเบ็ดเสร็จ การจะเอาละครโอเปรามาสู้กับงิ้วในภูมิภาคนี้ มันก็ต้องมีฐาน ไทยนี่แหละ "ฐาน" ที่กลุ่ม ๓ เกลอตะวันตกต้องการใช้! ถ้าไม่ให้ระบอบทักษิณเป็น "ตัวหมาก" ยึดครองอำนาจไทย ๓ เกลอก็ยากใช้ไทยเป็นฐานต่อกรอำนาจจีนได้สะดวก ฉะนั้น ผมจึงเห็นว่าพวกเราคนไทย ไม่ว่าเหลือง ไม่ว่าแดง ไม่ว่าสีไหนทั้งนั้น กำลังถูกหลอกปั่นหัวให้ตีกันเอง-กัดกันเอง ผ่านเกมเลี้ยงทักษิณ แล้วเขย่าสถาบันให้สั่นคลอน "เข้าทาง" จักรวรรดิทุนนิยมทั้งสิ้น! ก็ดูซี เว็บไซต์ต่างๆ ที่หมิ่นสถาบันนั้น ส่วนใหญ่มาจากไหน ก็มาจากระบบการสื่อสารและสารสนเทศจากอังกฤษบ้าง สหรัฐบ้าง ฝรั่งเศสบ้าง มันปั่นหัวคนไทยให้เป็นจิ้งหรีดกัดกันเอง และถ้ายืมมือล้มสถาบันได้สำเร็จด้วย พวกเขาก็สบาย ทั้งได้ใช้ไทยเป็นฐานทางการทหาร "คานจีน" ในภูมิภาคนี้ และทั้งได้เป็นฐานดูดทรัพยากร-พลังงานกลับไปเลี้ยงดูยุโรป-สหรัฐที่กำลังเป็น "ผ้าขี้ริ้วห่อหนี้" อยู่ในเวลานี้! เมื่อกี้ผมฟังข่าว จีนกับญี่ปุ่นทำข้อตกลงแลกเปลี่ยน "เงินหยวนกับเงินเยน" กันโดยตรงแล้ว โดยไม่ต้องพึ่ง ไม่ต้องใช้เงินดอลลาร์สหรัฐเป็นตัวกลางอีกต่อไป จีนมีเศรษฐกิจอยู่อันดับ ๒ โลก ญี่ปุ่นอยู่อันดับ ๓ เมื่ออันดับ ๒ กับอันดับ ๓ ร่วมมือกัน ไม่แยแสเงินดอลลาร์อีกต่อไป นั่นเป็นสัญญาณถึงอะไร ไม่ตกใจ เพราะถึงขั้น...ช็อก! เติ้งเสี่ยวผิง บอกว่า "แมวสีอะไรไม่สำคัญ ขอให้จับหนูได้" ผมก็อยากบอกว่า การจะทำงานใหญ่ อย่าสนใจเรื่องหยุมหยิม ฉะนั้น ไม่ว่าสีเหลือง สีแดง หรือสีไหน เมื่อเข้าใจว่าเรากำลังถูกปั่นหัวจาก "ระบบทุน" ที่หวังยึดประเทศ ฉะนั้น ต้องลืมเรื่องสี และความบาดหมาง แล้ว "ร่วมมือกัน" อย่าปล่อยให้ "พ.ร.บ.ยึด ๓ อำนาจสูงสุดของชาติ" ผ่านการออกเป็นกฎหมายได้เป็นอันขาด.