สุดอาลัยอาวรณ์เกินถอนภาพ ที่เอิบอาบแนบชิดจนจิตเหลือ เพียงเงาหวานจารอยู่เพื่อจุนเจือ กอปรเลือดเนื้อหัวใจให้หยัดยืน อยู่ในความเป็นจริงอิงรันทด ไม่ให้หมดแรงใจในวันขื่น รินน้ำตาก่อนหลับนับแรมคืน รอวันฟื้นจากหล่มที่ตรมตรอม เก็บซ่อนความคำนึงอันตรึงจิต ด้วยแรงฤทธิ์พิศวาสมาตรถนอม ท้ายก็ปลิดปลิวลงอย่างจำยอม จากไปพร้อมหนึ่งใครในพริบตา จนดาวเดือนคล้อยเคลื่อนลงเลือนลับ ยากจักนับเดือนปีคะนึงหา มโนภาพสองเราเฝ้าเวียนมา พันธนาเกินบั่นให้บรรลัย อาจเพราะกรรมเก่าก่อนมาย้อนผล ตราบหลุดพ้นนานนับอสงไขย ยินยอมรับวิบากอย่างเต็มใจ พร้อมอภัยให้หมดเพื่อปลดกรรม
14 พฤษภาคม 2555 23:55 น. - comment id 1233530
** จะขอเป็น กำลังใจ ให้ต่อสู้ มุ่งมั่นสู่ ความสำเร็จ แห่งความฝัน รักเปรียบเป็น ดั่งเช่น แสงตะวัน สว่างพลัน กระจ่าง ณ. กลางใจ ** หากคราใด ใจเรา เฝ้าคิดถึง เพ้อรำพึง ร่ำหา อย่าหวั่นไหว จงมองดาว พราวพร่าง กลางฟ้าไกล รักส่งไป ให้พบกัน ฉันและเธอ.......ฯ มาเป็นกำลังใจให้ค่ะ
14 พฤษภาคม 2555 00:26 น. - comment id 1233702
ไพเราะอีกเช่นเคยครับท่าน เศร้านะครับวิบากรัก
15 พฤษภาคม 2555 13:18 น. - comment id 1233778
.......... อย่าให้วิบากนักนะจ๊ะ...มันรันทด .......................
15 พฤษภาคม 2555 15:32 น. - comment id 1233795
ตุณสีเมจิก ขอบคุณครับ ใครเจอวิบากรักคงจะเศร้าทุกคนนะครับ
15 พฤษภาคม 2555 15:34 น. - comment id 1233797
คุณครูกระดาษาทราย ยินดีที่แวะมาทักทายครับ ตอนนี้ฝนใกล้ตกเต็มทีแล้วละครับหลังจากร้อนมาหลายวัน
15 พฤษภาคม 2555 15:34 น. - comment id 1233800
คุณราชิกา ขอบคุณสำหรับกำลังใจครับ
15 พฤษภาคม 2555 15:36 น. - comment id 1233803
คุณdin พยายามจะเขียนกลอนสองด้าน คือ สมหวังกับผิดหวังครับ อิอิ
15 พฤษภาคม 2555 16:15 น. - comment id 1233822
คือรอยกรรมกัลยามายาภาพ เคยก้มกราบกรานธรรมอันพร่ำบ่ม จากวงพักตร์เพราะพริ้มนิยมชม เผยดวงเนตรปร่าขมสุดตรมตรอม เก็บซ่อนความคิดถึง อันตรึงจิต ด้วยเกรงพิษเกินใจไถ่ถนอม จากบ่วงร้ายพ่ายรักสะบักสะบอม อันหล่อหลอมโอบเอื้อเป็นเนื้อเดียว