จดหมายรำลึก นที ถึง มหานที ๒๕๕๔ ย้อนจดหมาย เปิดผนึก แล้วนึกหวั่น เรื่องน้องน้ำ ที่เขาหนี ไม่กี่วัน กระทบกัน ค่อนเขต ประเทศไทย ก่อนเล่าต่อ ขอไหว้ เทิดไตรรัตน์ ช่วยขจัด สิ่งขัดข้อง แผ้วผ่องใส อีกคุณแม่ คุณพ่อ ก่อเกิดวัย คุณอาจารย์ ผู้มีใจ ใฝ่เมตตา ให้สำเร็จ สมประสงค์ และคงมั่น อยู่กับทุกข์ อย่างสุขสันต์ และหรรษา ให้เรียงร้อย อรรถรส พจนา ประทับจินต์ วิญญาณ์ ชื่นอารมณ์ โอ้ว่าน้ำ สำคัญค่า มาแต่แรก ต่อเติมแตก ชีวี ที่เหมาะสม โบราณว่า สิ่งทั้งผอง มีสองคม น้ำก็จม กลืนกิน สิ้นที่มี แปดตุลา ห้าสี่ นทีประชิด เข้าเกาะติด คันดิน ถิ่นกรุงศรี ตรงวัดราษฎร์ เทศบาล หาญต่อตี ก็เกินที่ จะต้าน และทานทน น้ำประชิด ติดเกาะ เขื่อนเปราะนัก น้ำทะลัก บ่ายกว่ากว่า โกลาหล เคยเป็นเกาะ ก็มากลาย เป็นสายชล หลากหลายคน ยกโขยง เข้าโรงฯบาล เอาอยู่ เขื่อนของเรา ต้องเอาอยู่ ไหนช่องรู ปิดปัก สร้างหลักฐาน เชิญพญานาค สูบน้ำ ให้สำราญ โรงพยาบาล เราต้องรอด และปลอดภัย แลเห็นคน หนีน้ำ เดินย่ำเท้า หลากกระเป๋า ลากเข้ามา เพื่ออาศัย ความอบอุ่น แนบชิด สนิทใจ ก็ใช่ใคร ทั้งนั้นนี่ พี่น้องกัน บ่ายศึกน้ำ ตามติด ประชิดเขต คันศูนย์เวชฯ เริ่มทลาย ชักไหวหวั่น ไอ้เสือถอย อพยพ หลบหลีกพลัน สู่ที่มั่น โรงพยาบาล ต้านวารี เสียงประชา สัมพันธ์ กระชั้นชิด ว่ามิ่งมิตร เชิญกรอกทราย อย่าหน่ายหนี รวมสรรพ -กำลัง เรายังมี ว่าที่นี่ แกร่งสุด ในยุดยา มีเขื่อนรอบ ขอบชิด สนิทนัก ต่างร่วมแรง พร้อมพรัก ช่วยรักษา ที่ไหนรั่ว กระสอบทราย โยกย้ายมา ซ้ายและขวา หน้าและหลัง ระวังระไว กับมหา อุทกภัย แม้ใจสู้ คนหรืออยู่ ต้านธรรมชาติ ย่อมหวาดไหว เมื่อเย็นลง ก็ยิ่งเย็น ลำเค็ญใจ อุทักภัย ครั้งนี้ ยากหนีแล้ว รู้อะไร ก็ไม่สู้ เท่ารู้งี้ ยกของหนี เสียทีแรก ไม่แตกแถว สี่ทุ่มกว่า น้ำกร้ำกลาย ทลายแนว กำแพงหลัง พังแล้ว โอ้...เพื่อนรัก ผึ้งแตกรัง สับสน คนแตกตื่น ยามค่อนคืน สติยั้ง ได้ตั้งหลัก หม้อแปลงเปรี๊ยะ ระเบิดปุ้ง ยุ่งยึกยัก วี๊ดว๊ายหนัก มืดมน อนธกาล หลากชีวิต ยังรอ ต่อชีวิต หมออุทิศ แรงกายใจ ใฝ่ประสาน พยาบาล ที่ยิ่งกว่า พยาบาล เจ้าหน้าที่ ทุกท่าน อุทิศตน ในความมืด สะท้อนค่า นัยย์ตาหมอง ใจร่ำร้อง ห่วงบ้าน ค้านสับสน ขอคุณงาม ความดี มีในตน ช่วยนำผล บุญมอบ คุ้มครอบครัว ตะวันรุ่ง เห็นแสง เริ่มแจ้งชัด ระดับวัด น้ำโดยรวม เกือบท่วมหัว เริ่มอพยพ คนไข้ ใจระรัว ให้เรียงตัว ตรงชั้นสอง ต้องตามโซน ผู้ป่วย ญาติ เดินลง ตรงไปก่อน เรือรับผ่อน กลางบันได ไม่ผาดโผน บ้างใจร้อน ลุยดะ กึ่งกระโจน เรือก็โอน เอนเอียง เสียงอื้ออึง เรือทหาร โอ้ทหาร ท่านน่ารัก ช่วยพร้อมพรัก เคลื่อนย้าย ได้ทั่วถึง บันไดสู่ ประตูหน้า ฝ่าน้ำตึง ทหารจึง มีอีกชุด คอยฉุดมือ เตรียมรถจี เอ็มซี รี่รอรับ ส่งสำหรับ ผู้หลบภัย ด้วยใจซื่อ สู่ศูนย์พัก ชั่วคราว ที่เขาลือ นั่นก็คือ ศาลากลางฯ พักร่างกาย ผู้ป่วยเด็กสตรี คนชรา เขาพาส่ง รถแล่นตรง ออกวรเชษฐ์ เขตจุดหมาย สะพานปรีดี รถฝ่าฟัน อันตราย คุณผู้ชาย ให้ลุยน้ำ ย่ำเอาเอง เพราะว่าคน รอช่วย ด้วยมีมาก จึงจำพราก ภรรยาไกล ใช่ข่มเหง ไว้ไปเจอ กันข้างหน้า เธออย่าเกรง แล้วกระเตง หอบลังผ้า ฝ่าน้ำไป ออกแยกทาง ตอนที่ สี่โมงเช้า มีแรงเร้า จากข้าวต้ม โรงบาลให้ ผ่านราชภัฏ อยุธยา มหาลัย เดินทางไกล สะพานปรีดีฯ ที่หมายปอง เดินเลาะล่อง ท่องย่ำ น้ำท่วมอก สะท้านสะทก เสียงแว่วไว ใจสยอง หน้าจวนผู้ว่า ไฟฟ้ารั่ว ขนหัวพอง กระโดดหย่อง ย้ายฝั่ง กันทั้งบาง ยิ่งเดินไป ใจนึก ระทึกขวัญ คราวครั้งนั้น กรุงศรีพ่าย คงไม่ต่าง ลูกและเมีย กระเซ็นกระสาย แทบวายวาง ตลอดทาง คนลอยคอ เขารอคอย เรือกู้ภัย กวักมือเรียก เพรียกมารับ เดี๋ยวขากลับ มาใหม่ ให้ใช้สอย แล้วจนรอด ไม่มีสักลำ ใช่สำออย ก็ต้องลอย คอไป ให้หวั่นทรวง คนเขาจ้อ จระเข้ หันเหหก ว่ายวนวก ในเกาะ เลาะเลยล่วง อยู่บนบก ไม่สะท้าน ขานคำลวง อยู่ในน้ำ คำทั้งปวง น่าจะจริง กว่าจะถึง สะพานฯ ผ่านบ่ายสาม แล้วเดินข้าม สะพานต่อ รอรถวิ่ง รถหกล้อ อัดกันไป ยากไหวติง ศูนย์พักพิง ล่วงเวลา ห้าโมงเย็น เมื่อน้ำขึ้น ให้รีบตัก ชักไม่ใช่ เมื่อน้ำขึ้น มาใหม่ ให้รีบเผ่น เมื่อน้ำมา ปลากินมด กฎกรรมเวร เมื่อน้ำลด เราก็เกณฑ์ ล้างพื้นกัน พอน้ำแห้ง ร่วมแรงใจ กู้ภัยน้ำ เช็ด ถู ทำ หน้าที่ ขมีขมัน ทุกชีวิต ยิ่งทุกข์ ยิ่งผูกพัน รับรู้ได้ น้ำใจนั้น สำคัญ...เอย วาสุกรี
29 ธันวาคม 2554 15:43 น. - comment id 1219252
เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเลยค่ะ สวัสดีนะคะ
29 ธันวาคม 2554 16:34 น. - comment id 1219271
อ้าวคนยุดยาเหมือนกันเหรอครับ ดีใจจังเลยหายไปนานเลยนะครับท่าน
29 ธันวาคม 2554 20:23 น. - comment id 1219313
น้ำยังคงเป็นน้ำที่มีคุณมหันต์ โทษของน้ำมาจากน้ำมือมนุษย์ เราจะโทษใครไม่ได้ต้องโทษตัวเอง ที่มีส่วนทำให้เกิดเหตุการณ์ แวะมาเยื่ยมเยียนและขอเป็นกำลังใจ
29 ธันวาคม 2554 20:53 น. - comment id 1219318
วันก่อนเข้า กทม. เหงซากฟามเสียหายเยอะมากค่ะ เปงกำลังใจให้นะคะ
30 ธันวาคม 2554 08:23 น. - comment id 1219331
หวัดดีขอรับ ท่านวาสุกรี โดนอ่วมมาเรยยย...นะท่าน... มีหลายแง่ที่เข้าใจเปรียบขอรับ... ยิ่งตรง...ที่ว่า...ไม่ต่างกับเหตุการณ์กรุงพ่าย... เห็นภาพเลยท่าน... ท่าทางคำโบราณ...ต้องเปลี่ยนไปจริงๆแล้วกระมั่ง... ว่าแต่...ปกติ...มาทีละบท... ครานี้มาเป็นชุดใหญ่ แถมทรงเครื่องอีกต่างหาก...อิอิ ยังไงๆ...หลังน้ำไป...ยังมีงานรออยู่อีกเพียบ... สู้สู้นะท่านวาฯ... เยี่ยมจอร์ช จอร์ชเยี่ยม จริงๆขอรับ...อิอิ
30 ธันวาคม 2554 12:04 น. - comment id 1219351
น้ำท่วมบ่า น้ำตาหลั่งชีพยังไหว อึด ฮึด สู้ ต้องอยู่ได้ใคร่ย้ำสอน ประสบการณ์ครั้งนี้ มีบทตอน ปัดภัยร้อน ผ่อนภัยหนักจักจดจำ ! อุทาหรณ์สอนใจ..ในครั้งนี้ หลายสิบปีที่บรรจบพบภัยน้ำ เมื่อมันเกิดต้องเปิดใจในเคราะห์กรรม อยู่กับน้ำ อยู่กับเขา ..อย่างเข้าใจ ! เขาใช่ใคร.. คือหนึ่งซึ่งธาตุทั้งสี่... งานงามหลาย..
30 ธันวาคม 2554 13:47 น. - comment id 1219387
งดงามค่ะ คุณวาสุกรี
30 ธันวาคม 2554 17:10 น. - comment id 1219403
แทนคำขอบคุณ คุณ กทก. คุณอิสรชัย รัตน คุณเฌอมาลย์ คุณศรีสมภพ คุณhathaikkarn ...ทุกบทกลอนที่ให้กำลังใจ....สวัสดีปีใหม่คับ
30 ธันวาคม 2554 17:13 น. - comment id 1219404
คุณสุริยันต์ อยู่ยุดยาแถวไหนครับ อยากเจอตัวนะ แหม..คนยุดยาเหมือนกัน
30 ธันวาคม 2554 17:18 น. - comment id 1219405
คุณกีรติครับ ...ขอบคุณนะที่ทักทาย ผมถนัดกลอนสั้นๆๆ ครับ ที่แต่งยาวๆไฟล์บังคับ ของหน่วยงานนะครับ พออ่านได้ก็ดีใจแล้ว ปีใหม่เที่วไหน ...สวัสดีปีใหม่นะคับ
30 ธันวาคม 2554 17:19 น. - comment id 1219407
คุณกีรติครับ ...ขอบคุณนะที่ทักทาย ผมถนัดกลอนสั้นๆๆ ครับ ที่แต่งยาวๆไฟล์บังคับ ของหน่วยงานนะครับ พออ่านได้ก็ดีใจแล้ว ปีใหม่เที่วไหน ...สวัสดีปีใหม่นะคับ
30 ธันวาคม 2554 18:26 น. - comment id 1219415
สวัสดีปีใหม่ค่ะคุณวาสุกรี
13 มกราคม 2555 08:37 น. - comment id 1220621
ขอบคุณ คุณอนงค์ที่มาทักทาย