ซากกองสุม คลุ้มคลั่งหลังเรื่องยุ่ง กลิ่นสาบคลุ้ง ควันชังหลังเผาผลาญ เสียงสวดส่ง ปลงผู้สิ้นสืบวิญญาณ ร่ำไห้กัน.. กลั้นสะอื้น ฝืนบรรเทา ข้างสองฟาก..ซากเคยอยู่ของผู้แพ้ เหลือเพียงแค่ แลร้างความว่างเปล่า บ้านร่วมอยู่ อู่อิงอุ่นนอนหนุนเกล้า ถูกสองเรา เผาผลาญคืนผ่านมา ไฟโกรธา.. แผดเผาเราน้องพี่ โหมความดี ที่เราเฝ้าก่อกล้า เคยเกี่ยวก้อย คอยช่วยกันฝ่าฟันมา สร้างหลังคา คลุมดินถิ่นแม่พ่อ ไฟโลภหลง..ปลงปลด หมดสายเยื่อ ไม่มีเหลือ เชื้อตระกูลคุณเคยก่อ เป็นศัตรูไม่รู้ตัว กลัวไม่พอ ซ้ำเติมต่อ พ่อแม่ยั้ง..ไม่ฟังกัน ! ช่างน่าเศร้า.. ต่างเผาบ้านอนันต์อนาถ เข้าฟันฟาดประกาศศึก ฮึกเหิมลั่น เลือดพี่น้องผองเผ่า เราขาดกัน ! ต่อนี้นั้น บ้านจะพังช่างหัวใคร รวมเพื่อนกล้า.. ถาโถมโรมรันสู้ ถ้ากูอยู่ มึงอย่าอยู่ ..จงรู้ไว้ เร็วพวกเรา ! เผาเข้าไป ให้วอดวาย เอาให้ตาย ต้องชนะ ฉะพวกมัน ! เห็นกองซากยากกอบกู้..จะอยู่อย่างไร ? เหลือเศษไฟไหม้ดำ ช้ำโศกศัลย์ เหลือเเต่เราและเถ้ากลบ หลบตากัน พร่ำรำพัน ฝันหรือจริง นิ่งงงงวย ใครชนะ..หรือใครแพ้.. ก็แค่นี้ หลงตนดี หลงตัวไปใครจะช่วย บ้านมอดไหม้ ใครหลายคนก็มอดม้วย หวังใครช่วย ร่วมด้วยกันเผาบ้านเอง.. เป็นซากเศร้าแห่งเราสอง เคยมองแย้ง ก่อนแยกแบ่งอุดมการณ์ ..รานข่มเหง ชิงความใหญ่ ชัยชนะ ฉะกันเอง หลงบรรเลง บทเพลงพ่าย ..ให้กันฟัง !
25 พฤศจิกายน 2554 02:22 น. - comment id 1215890
ใช่ค่ะบางทีทำทุกอย่างเพื่อชัยชนะก็ไม่เหลือคนข้างกายเลย
25 พฤศจิกายน 2554 11:34 น. - comment id 1215900
มองตัว มองตน ค้นให้พบ ดีและชั่วกลั้วกลบอาจหลบเร้น ตั้งสติ ผลิปัญญา จักพาเห็น ชั่วละเว้น ดีต้องทำ..จะกำชัย ชนะอย่างยั่งยืน และยิ่งใหญ่ไปชั่วกาล เด็กน้อยเอ๋ย..เจ้าเผยเห็นประเด็นนี้ ขอบคุณๆ
25 พฤศจิกายน 2554 21:12 น. - comment id 1216017
เขียนซะยาวอย่างนี้ เอาเวลาที่ไหนเขียนครับ
26 พฤศจิกายน 2554 00:53 น. - comment id 1216033
เป็นคำถาม ที่ต้องย้อนสุนทรวิทย์ กว่าลิขิตใช้เวลา หาที่ไหน มองตัวท่านนั่นกูรู ผู้ยิ่งใหญ่ แต่งหลากหลาย ตามไม่ทัน..สนั่นเว็บ ขอชูฮก ยกท่านอาจารย์เจ้า มองตัวเรา เท่านี้ แค่ขี้เล็บ คารวะ ทุกบทกลอนทุกคอนเซ็บ ต้องขอเสพ ผลงานท่าน ..มันท้าทาย ตามสไตล์ หลายหลาก ..ยังรักกัน ! (นะ) ขอบคุณๆ
26 พฤศจิกายน 2554 01:12 น. - comment id 1216039
26 พฤศจิกายน 2554 12:20 น. - comment id 1216109
งานงามสมคมคายสไตล์พี่ รื่นฤดีกระผมชมความหมาย ผู้ชนะคือผู้แพ้แค่ผู้ตาย เมื่อต้องยืนเดียวดายซากก่ายกอง อุปมาว่าแพ้แลชนะ สุดเกณฑ์กะชนะ-แพ้แค่สมอง ไม่ใช้จิตพินิจใจเข้าไตร่ตรอง แพ้-ชนะผิดครรลองต้องตรอมตรม ..................................... สวัสดีครับพี่ศรีสมภพ............. เข้ามาอ่านงานงามครับ
26 พฤศจิกายน 2554 23:45 น. - comment id 1216217
มีคำตอบ แต่หาทางไปมิเจอ
27 พฤศจิกายน 2554 10:58 น. - comment id 1216263
รู้สึก.. รู้ซึ้ง ณ กึ่งกลาง สองทางที่ขนาน ที่ผ่านเห็น จุดหมายปลายสุดดุจเฉกเช่น ใช่ลับเร้น ประเด็นเกี่ยว..ทางเดียวกัน เหมือนดวงจันทร์ ..บรรยายได้เความคม ขอบคุณๆ
27 พฤศจิกายน 2554 11:13 น. - comment id 1216264
แทนคุณแทนไท แขกหลายนะท่าน ลูกค้าแน่นร้าน ผ่านไปได้เห็น สงสารบทกวี ถูกห่าผีขี่เข่น จับจ้องจองเวร มันเป็นเช่นนั้นเอง มารบ่มี บารมีบ่เกิด ..แก่กล้า ฟ้าคงเห็น ขอบคุณๆ