๐ เดือนดวงเดิม ๐ ๐ งามล้ำเหลื่อมจรดพลิ้ว.........พรรณราย แขเพ็ญส่องพริ้มขจาย..............ยลฟ้า นวลผ่องเพริศย่ำฉาย................เวียนพร่าง สาดทอส่องแหล่งหล้า..............เพริศพริ้งปฐพีฯ ๐ เย้ายวนชวนคร่ำครื้น...........แลอนงค์ วอนลึกซ่อนมิปลง..................อาจเอื้อม ลมสะบัดพลิ้วดรงค์.................ซ่านสุด เย็นเยือกสุดยากเงื้อม.............ใส่ซึ้งทรวงอนงค์ฯ ๐ หวานเอยหวานรักซึ้ง........แขเอย ใยพี่หมั่นชดเชย...................ต่อเจ้า ตกคืนค่ำมิเคย.....................พรากห่าง อยากคิดเอื้อมมาเคล้า........แนบน้องเคียงแลฯ ๐ นี่นะหรือรักแท้................ใฝ่ปอง หวนพลิกสิ่งเรืองรอง..........แด่น้อง แหงนเชยสิ่งใยยอง.............ซ่านสุด ฝากผลึกแดแขต้อง.............ทรุดแล้วจริงแฮฯ ๐ อกเอ๋ยใยช่างร้าง..............มองนวล พรายพร่างสุดใฝ่ชวน...........แนบข้าง ยุงริ้นเหลือบใฝ่หวน.............ต่อสิ่ง เจ้าซิกลับเมินร้าง................เหลือไว้เดียวดายฯ ๐ เพ็ญงามกระจ่างฟ้า......ชวนชม จิตพี่แสนเศร้าตรม...........สอดสร้อย เพียงคิดแค่เป็นปม...........ผูกมัด สิ้นสุดแสงยามคล้อย.......ส่งไว้คนึงหวน.๐ ๐ แก้วประเสริฐ. ๐
15 กันยายน 2554 18:58 น. - comment id 1208175
เดือนเดิมดวงแจ่มฟ้า ลอยงาม หวนคิดจิตวาบหวาม อุ่นซึ้ง ฝันใฝ่ทุกโมงยาม จริงแม่ มองเพ็ญหนักอกอึ้ง ห่วงน้องสุขไฉน มาเยี่ยมป๋า อิอิ บางคราวเผลอเย้าหนักเบาป๋าไม่ถือสาอยู่แล้ว อิอิ
15 กันยายน 2554 19:27 น. - comment id 1208181
15 กันยายน 2554 20:00 น. - comment id 1208182
กราบครูครับ เอ่ยสั้นๆ "กินใจ" ไม่อยากเอ่ยอันใดยาวกว่านี้ ผู้น้อยคิดแต่เดิมว่ากลอนปกติน่าจะหวานกว่าโคลง ด้วยสัมผัสที่มากกว่า ครูทำให้เห็นลงลึก ระดับจิตบริสุทธิ์มาเรียงร้อย ให้เกิดของผสมแห่งรูปในใจ ด้วยความเคารพ ครูหาใช่เพียงกวี แต่ภูมิใจที่ท่านเป็นปราชญ์ครับ ขอบพระคุณอีกครั้งครับ
15 กันยายน 2554 20:07 น. - comment id 1208184
จันทร์งามยามล่องห้วง.......คืนเพ็ญ คาบค่ำถึงหนาวเย็น.............ซ่านเนื้อ พิจจันทร์ดั่งเหมือนเป็น......อกอุ่น นางเอย รานไล่หนาวรกเรื้อ..............ลับพ้นทรวงชาย แม้นเพียงกระต่ายเต้น...........ชมจันทร์ คราล่วงคาบวารวัน.................ร่างไร้ มองเมียงฝ่าแสงอัน...............โชนแห่ง สุรีย์ หวังจักชมชื่นได้....................ดั่งห้วงราตรี ...มึน..ไปหละนะลุงแก้วฯ...
16 กันยายน 2554 06:47 น. - comment id 1208207
ไพเราะมากครับ อ่านแล้วคล้อยตามเลย
16 กันยายน 2554 09:45 น. - comment id 1208210
มาเยี่ยมครูครับ.. ชอบบทนี้ครับครู...ลมุนใจยิ่งนักครับ ๐ หวานเอยหวานรักซึ้ง........แขเอย ใยพี่หมั่นชดเชย...................ต่อเจ้า ตกคืนค่ำมิเคย.....................พรากห่าง อยากคิดเอื้อมมาเคล้า........แนบน้องเคียงแลฯ .......................................................... แจมครูด้วยนะครับ ๐ พรูพรูใจพร่างพร้อย.......ด่ำพราว สวาทแสวงสาว.......สอดไว้- เจียรจันทร์จวบจบคราว.....คำรบ หายเฮย อกห่อเหี่ยวหวนไห้.....หับห้องนางหายฯ
16 กันยายน 2554 15:02 น. - comment id 1208224
17 กันยายน 2554 09:15 น. - comment id 1208270
กราบขอบพระคุณท่านพี่ ข้าพเจ้าปิติยิ่งนักแล้ว ด้วยจิตคารวะ
17 กันยายน 2554 17:22 น. - comment id 1208298
คุณ ฤกษ์ (รูปหล่อ) มิเป็นไรดอก เราคนกันเองก็ต้องมีเย้า แหย่กันบ้างตามประสาคนรักชอบกันเน๊อะ รักมากเสมอจ้า แก้วประเสริฐ.
17 กันยายน 2554 17:25 น. - comment id 1208299
คุณ กลั่นแก้ว ขอบใจมากจ้า ร้องกรองกับร้องแก้ว สนุกไหมล่ะ ร้อยแก้วใช้่สมองมากกว่า ร้อยกรอง แต่ความไพเราะร้อยกรองมากกว่า ร้อยแก้ว เท่านั้นเองจ้า รักเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
17 กันยายน 2554 17:38 น. - comment id 1208300
คุณ สุญญะกาศ ศิษย์เราอันที่จริงครูก็แต่งไปเรื่อยๆนะ มิได้คิดอะไรมาก เหตุที่ให้เล่นกลอนแปด ก่อนก็เป็นดังนี้แหละ กลอนนะมีหลากหลาย รูปแบบ ธรรมดา การเล่นคำ การเล่นสำนวน การเล่นซ่อนรูป โอ้ยอีกแยะหากทำได้ให้ เป็นกลอนที่อ่อนไหวพลิ้วสกดอารมณ์คน ได้นั่นแหละถึงจะเรียกว่าสำเร็จไปขั้นหนึ่ง แล้ว กลอนเป็นแม่บทของร้อยกรองทั้ง หมดนั่นเองแหละ กลอนนั้นหากทำตาม รูปลักษณ์แล้วก็เล่นได้ทุกๆคนแหละแต่ หากจะทำให้อักษรเสียงนำทำนองเล่นยาก มิฉะนั้นทำนองจะพากลอนไปจ๊ะยังมีสิ่ง มากกว่านักที่สำคัญทำให้อ่อนไหวหวาน พลิ้วนั้นจะทำได้ยากที่สุึดนะ รักศิษย์เสมอ แก้วประเสริฐ.
17 กันยายน 2554 17:39 น. - comment id 1208301
คุณ บินเดี่ยวหมื่นลี้ ไม่เหมือนท่านเวนไตยนี่นาที่บินตะลอนๆ ไปเรื่อยๆ ผมบินอย่างท่านไม่ไหวแล้วล่ะ ถึงบินไหวก็หมดสิทธิ์เสียแล้ว รักมากๆเสมอ แก้วประเสริฐ.
17 กันยายน 2554 17:42 น. - comment id 1208302
คุณ พจนนาฯ ขอบใจมากจ้า ผมเล่นก็มักจะแนวนี้เอง เพราะแนวทางหวานๆกึ่งโศกไปพร้อมๆกัน นะ รักเสมอจ้า แก้วประเสริฐ.
17 กันยายน 2554 17:46 น. - comment id 1208303
คุณ กิ่งโศก เจ้าเป็นคนที่ครูภาคภูมิใจมากนะที่จะ ฝากความหวังไว้แด่เจ้าแหละ ฉนั้นควรหา ทางคิดเองค้นคว้าคำสำเนียงต่างๆให้ออก แนวอ่อนไหวหวานซาบซึ้งไว้เป็นหลัีกเกณฑ์ ไม่ว่าจะเล่นอย่างไรก็ตาม ร้อยแก้วครูเข้า ไปอ่านนับว่าเขียนได้ดีมากๆเสียด้วยซิ ฉะนั้นทุกๆอย่างสิ่งเล็กๆน้อยๆนั้นอย่าคิด ว่าไม่สำคัญ สิ่งเล็กๆน้อยๆนี่แหละสำคัญ มากกว่าสิ่งที่คนเขาคิดว่าสำคัญเสียอีก หากเราให้ความรักความเข้าใจเขาก็จะได้ ในสิ่งที่คาดคิดไม่ถึง การเล่นย่อมแหวก แนวไปแต่ไม่เกินไปและไม่เหมือนใคร อีกด้วย จำเอาไว้นะ รักศิษย์มากเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
17 กันยายน 2554 17:50 น. - comment id 1208304
คุณ อนงค์นาง เมื่อเข้่ามาก็ควรอ่านกระทู้ที่ครูมัีกจะ ตอบแก่ศิษย์เสมอนะอย่าลืม ด้วยบางครั้งจะ ไม่มีในตำราไว้ การเล่นไม่ว่าจะร้อยแก้วหรือ ร้องกรองก็ดีล้วนแล้วสำคัญทั้งสิ้นควรหมั่น ศึกษาหาความรู้เพราะเป็นหนังสือ ไม่เหมือน กับการฝึกด้านฝีมืออย่างอื่นที่จะลงตัวเสมอๆ แต่ร้อยแก้วร้อยกรองก็ดีจะหมุนเวียนไป เรื่อยๆ แต่อย่าลืมข้อปลึกย่อยที่คนเขา มักจะไม่ค่อยมองกันนี่แหละคือสิ่งสำคัญ มากๆแหละ เขาทำได้ เราทำไมถึงทำไม่ ได้ ให้คิดข้อนี้เอาไว้นะ รักศิษย์ครูเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
17 กันยายน 2554 17:52 น. - comment id 1208305
คุณ เดือนดวงเดิม สิ่งใดที่ผมกล่าวไว้มักจะทำเสมอๆ ผมเป็นคนรักสัจจะมาก เพียงรอเวลาจะช้า หรือเร็วเท่านั้นแหละ ไม่เป็นไรหรอกนะ เมื่อเคยกล่าวแล้วก็ต้องทำนี่คือความคิด ของผมเองแหละ รักมากเสมอจ้า แก้วประเสริฐ.
18 กันยายน 2554 18:51 น. - comment id 1208350
เป็นโคลงที่ชื่นชอบและไพเราะที่สุด ขอเก็บประทับไว้ในดวงจิต ขอบคุณอีกครั้ง ขอบคุณจริงๆ จาก รัก เคารพ ห่วงใยเสมอ นอนดึกอย่าลืมดูแลสุขภาพด้วย
18 กันยายน 2554 21:13 น. - comment id 1208361
คุณ เดือนดวงดิม นี่เป็นโคลงสี่สุัภาพล้วนๆของบรมครู ท่านศรีปราชญ์ชอบเล่นมาเสมอๆจนเป็น ที่โปรดปรานของล้นเกล้าพระนารายณ์มหาราช จะเห็นได้ว่าจะไม่คำสร้อยเลยในทั้งหก บทลยครับ ตามใจคุณเธอครับผมแต่งไว้ให้ คุณโดยเฉพาะครับ รักมากเสมอ แก้วประเสริฐ.