ขุนรองปลัดชู

ศรีสมภพ

 ขุนรองปลัดชู  ถามใครดูไม่รู้จัก
ประวัติไม่ชัดนัก  แต่ปกปักรักษาเมือง
คงรู้จัก นคเรศวิเศษไชยชาญ
เมืองอ่างทอง คล้องตำนานขานราวเรื่อง
สี่ร้อยชาย ใจฉกรรจ์ร่วมฟันเฟือง
 อาทมาต  ปัดป้องเมืองคือเรื่องราว
ขุนรองปลัดชู หนึ่งผู้กล้า
นำอาสาอาทมาต สกัดด้าว
หนึ่งคืนกับครึ่งวัน รบฟันระนาว
พม่าเข้า ราวแปดพันด่านสะเทือน
แล้วน้ำน้อยก็แพ้ไฟ ในที่สุด
ร่างล้มทรุด..ถูกกุดหัวทั่วผองเพื่อน
แลกชีวิตอุทิศหน่วง ถ่วงศึกเยือน
ทานการเคลื่อน ตีทัพใหญ่ใกล้พารา
รองปลัด ประวัติงาม เช่นความถ้อย
 วัดสี่ร้อย  ชะรอยเด่นเป็นอาสา
อาทมาต ปลัดชู คือผู้กล้า
ปกป้องถิ่นสิ้นชีวา น่าเชิดชู
อนุสรณ์ย้อนเห็น เป็นประจักษ์
แห่งความรักสามัคคีที่รวมหมู่
รำลึกคุณ ท่านขุนรองปลัดชู
ทองหลังพระ ละร่วงสู่ ..รู้จักนาม
๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
 
ขุนรองปลัดชูมีชื่อตัวว่า "ชู" เป็นครูดาบอาทมาตผู้มี
 ฝีมือในเขตเมืองวิเศษไชยชาญ มีลูกศิษย์จำนวนมาก
และเป็นที่เคารพนับถือโดยทั่วไปในแถบนั้น นายชูได้รับ
การแต่งตั้งให้เป็นกรมการเมืองวิเศษไชยชาญตำแหน่ง
"ปลัดเมือง" ในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ
ชาวบ้านจึงเรียกชื่อคนผู้นี้โดยทั่วไปว่า "ขุนรองปลัดชู"
ผู้นำอาสาสมัครกองอาทมาต 400 คนสกัดทัพ ได้ปะทะกับ
กองทัพพม่าซึ่งมีกำลังราว 8,000 คน ตั้งแต่เช้าจรดเที่ยง
ก็ยังไม่แพ้ชนะ แต่ด้วยจำนวนที่น้อยกว่าและไม่ได้รับกำลัง 
เสริมจากทัพใหญ่ กองอาทมาตจึงตกอยู่ในสภาพเสียเปรียบ 
เพราะความอ่อนล้า  และถูกฝ่ายตรงข้ามฆ่าฟันจนเสียชีวิต 
ทั้งหมดในวันนั้น   ชาววิเศษไชยชาญ เมื่อทราบข่าวก็โศกเศร้าเสียใจ
 จึงได้แต่ภาวนาขอบุญกุศลที่ได้สร้างสมไว้จงเป็นปัจจัยส่งผล
ให้ดวงวิญญาณของทหารกล้าได้ไปสู่สุคติ  จึงร่วมกันสร้างสิ่งต่างๆ
 ไว้เป็นที่ระลึกถึงผู้พลีชีพด้วยการสร้างวัดสี่ร้อย ในปี พ.ศ.๒๓๑๓
 ใช้ชื่อสี่ร้อยตามจำนวนกองอาทมาตสี่ร้อยคนที่ไม่ได้กลับมา
เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่อนุชน รุ่นหลังของชาวเมืองวิเศษไชยชาญ 
เพื่อเป็นการย้ำเตือนความทรงจำให้ระลึกถึงบรรพบุรุษที่พลีชีพ 
เพื่อปกป้องปฐพีถึงกับเสียชีวิต โดยชื่อว่า วัดสี่ร้อย ให้เป็นที่ประจักษ์ 
แก่สายตาประชาชนทั่วไป   นับแต่นั้นมา