๐ บัวบังใบ ๐ ๐ ปทุมเบ่งหุ้มห่อแก้ว..........เกสร ระริกผ่านลมจร.....................รอบกว้าง ไหวเอนยั่วภมร.....................ใบบัง เชยนา ระเด่นยวนยั่วสล้าง...............ดุจคล้ายนารีฯ ๐ สุรีย์แสงทอทาบแล้ว........พร่างพราย แวววับจับเฉิดฉาย................อวลฟุ้ง หอมหวลกลิ่นเรียงราย.........สู่ซ่าน มากนอ โลมสิ่งเคยแนบคลุ้ง.............กลิ่นแก้มเย้าขจรฯ ๐ ธาราละลอกพลิ้ว.............ละออง ปทุมมาศสิ่งเรืองรอง...........ยลเคล้า เช้าเย็นสวดสู่ครอง..............แนบสนิท ธรรมเฮย มิอาจเลิกแนบเฝ้า................ม่านซึ้งหอมถวิลฯ ๐ ใบบังบัวห่อหุ้ม..............ซ่อนกลีบ เกสรคลุกห้อมจีบ..............พลิกแพร้ว ดุจมองเหม่อนางรีบ..........กลบหลีก กลิ่นแฮ ยลหม่นยากผ่านแล้ว.........ใฝ่ซึ้งหวนถวิลฯ ๐ สีเหลืองสะบัดพลิ้ว........งามตา เดินมุ่งธรรมค้นหา.............ซ่านซึ้ง ข้าซิไขว่กลิ่นมา................กลับพราก นางแม่ สิ่งหมกเร้นจากบึ้ง.............ยากคว้าแนบครองฯ ๐กังสดาลผสานสิ่งก้อง....ลอยลม เสมือนดั่งบัวใบจม............สู่น้ำ สนธยาลับห้วงตรม............มองเหม่อ นวลเอย ปทุมถูกใบบังช้ำ................อกข้ายากไฉน.๐ ๐ แก้วประเสริฐ. ๐
26 มิถุนายน 2554 17:02 น. - comment id 1199209
มาอ่านโคลงงามๆ และทักทายกันครับ ขอให้มีความสุขครับ
26 มิถุนายน 2554 15:26 น. - comment id 1200790
ทุกเย็นสวดท่องเช้า พระธรรม บัวบ่มบังใบถลำ ซ่านฟุ้ง คำพระใส่ใจจำ หรือไม่ บัวเด่นจิตคละคลุ้ง เหม่อแม้นอิสตรี ปลงไม่ตก อิอิ
26 มิถุนายน 2554 15:42 น. - comment id 1200792
คุณ ฤกษ์ (รูปหล่อ) ๐ ในโลกนี้มากแล้ว ตัณหา ยอยกจะนำพา ไป่สิ้น อรหันต์มินำมา ยากก่อ จริงแฮ อบอวลวกสู่ลิ้น จึ่งสร้างไขว่สล้าง. ตราบใดที่ยังไม่บรรลุธรรมอรหันตผล แม้อรหันตมรรคยังอยู่ในโลกียวิสัยนะพ่อรูป หล่อ ผมเพียรสร้างแต่มิอาจได้ก็ต้องรอผล ในโอกาสต่อไปจ้า รักมากเสมอ แก้วประเสริฐ.
26 มิถุนายน 2554 18:02 น. - comment id 1200795
มาอ่านงานค่ะ.... งดงามและไพเราะเหมือนทุกครั้ง... ไม่สบายหายแล้วเหรอค่ะ รักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ
26 มิถุนายน 2554 18:19 น. - comment id 1200798
ทานข้าวแกงสายบัวปลาทูค่ะครู งานมากมายจริง ๆ ค่ะ รอทานข้าค่า
26 มิถุนายน 2554 18:51 น. - comment id 1200805
เย็นย่ำแล้ว.. นำใจมากราบครับครู ยลแล้ว เกิดจินตนาการต่อเนื่องเหมือนน้ำที่ไม่ขาดสาย เรียบง่าย หากแฝงด้วยสิ่งที่ผู้อ่านค้นพบแล้วคัดสรรไปปฎิบัติย่อมเกิดผล ซึ่งล้วนแล้วแต่พื้นฐานธรรมชาติของแต่ละบุคคล อนึ่ง สิ่งที่ครูปฎิบัติ ทำให้หวล ระลึกถึงบทความของท่านพระพุทธทาส ที่กล่าวเกี่ยวกับ มหาเปรียญเก้าประโยคที่ท่องจำได้ทั่วถึงประไตรปิฎก หาได้บรรลุมรรคผลเพียงเท่าคนตัดฟืนผู้ไม่รู้หนังสือ หากเพียงเพราะเขาเข้าใจตนเองหมั่นสังเกต และเรียนรู้จากตนเองธรรมชาตินั่นแล ครูครับ กระผมนั่งอ่านที่ครูตั้งใจเขียนตอบมาอย่างซาบซึ้งหลายเที่ยว จนยกมือพนมใจจริง ครูเป็นครูคนเดียวของกระผมหลังจากที่เข้ามาสนใจเรื่องวรรณกรรมร้อยแก้ว และ ร้อยกรอง อย่างแท้จริง จะน้อมนำไปพัฒนาตนเองควบคู่กับ "พัฒนาจิตใจ" ของตนเอง "บัวบังใบ" กระผมซาบซึ้งใน จิตใจที่ท่านตั้งใจสอดแทรกเนื้อหาที่บ่มเพาะ แฝงในความงามของบัวดอกนั้นครับ ร้อยกรอง กับพุทธศาสนาสามารถควบคู่กันไปได้อย่างละเมียดละไม จริงๆครับ
26 มิถุนายน 2554 20:15 น. - comment id 1200818
งดงามเสมอครับครู
26 มิถุนายน 2554 21:13 น. - comment id 1200844
ดอกบัวบานแบ่งก้าน.....ชูไสว เรืองเรื่อแผ่กิ่งใบ.........สง่าล้ำ กลีบงามดุจเนื้อใน.......บริสุทธิ์ จริงนา หอมกลิ่นเกสรย้ำ.........มัดซึ้งตรึงกมลฯ สวัสดีค่ะครูแก้วฯ
26 มิถุนายน 2554 22:06 น. - comment id 1200854
% ฝนแวะมาเยี่ยมชม บัวบังใบ ค่า
27 มิถุนายน 2554 10:47 น. - comment id 1200911
๐ งามซ่อนซ้อนใช่แสร้ง......หลบใบ กอผุดฉุดโบกไหว......วับป้อง ดอกแซมแทรกซุกไช....เผยอยาก ยิ่งเนอ จึงผาดชัดแจ่มจ้อง......ปกหุ้มสุมฉาย ฯ มาอ่านงานเพราะๆๆ ครับครู
27 มิถุนายน 2554 10:56 น. - comment id 1200914
บัวบังใบ รอที่จะบานสู้แสงตะวันอันละมุน สุขอย่าได้สร่าง
27 มิถุนายน 2554 11:10 น. - comment id 1200916
............. มาชมรูปบัวบังใบ และอ่านโคลงไพเราะจ้ะครู ดูแลสุขภาพด้วยนะจ๊ะ ...............
27 มิถุนายน 2554 14:19 น. - comment id 1200950
คุณ ไร้อันดับ ขอบใจจ้า ผมเขียนไปเรื่อยๆหาความ สนุกคลายเครียดเท่านั้นเอง รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
27 มิถุนายน 2554 14:21 น. - comment id 1200952
คุณ กลั่นแก้ว ยังหรอกครับอยู่ในระยะป่วยอยู่แต่ ไม่รู้จะทำอย่างไรเครียดๆก็เขียนเล่นๆครับ ขอบคุณที่เป็นห่วงมากครับ รักมากเสมอ แก้วประเสริฐ.
27 มิถุนายน 2554 14:24 น. - comment id 1200954
คุณ ครูกระดาษทราย ขอบคุณมากครับครู ที่เชิญไปทานด้วย กันทานก่อนเถอะครับไม่ต้องรอ ผมต้มข้าว ต้มไว้แล้วครับ หากหิวก็ทานส่วนข้าวอื่นทาน ไม่ค่อยจะลง ตอนนี้ไม่ค่อยสบายเลยทาน ข้าวต้มไปพลางๆก่อนอาศัยแบรนด์ช่วยเสริม ครับ ขอบคุณรักมากเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
27 มิถุนายน 2554 14:43 น. - comment id 1200958
คุณ สุญญะกาศ ทุกๆอย่างอยู่ที่ใจเราต้องรัก ควรยืดถือ อิทธิบาท4 เป็นเครื่องนำทางเราคือ ฉันทะ ความพอใจในสิ่งนั้นๆ ด้วยความรัก เขา เขาก็จะรักเราเหมือนกัน วิริยะ ความพากเพียร ขยันหมั่นฝึกปรือไว้ จิตตะ เอาใจใส่ค้นคว้าหาเหตุและผลมา ประกอบงานเขียนของเรา วิมังสา ตรวจสอบค้นหาข้อผิดพลาดอย่าง สม่ำเสมอ หากผิดก็แก้ไขเสีย งานร้อยแก้วก็ดีร้อยกรองก็ดีเกิดขึ้น ดังนี้ เอาแบบง่ายๆนะ สมอง คือส่วนที่ใช้เก็บข้อมูลต่างๆไว้ไม่ ว่าเล็กหรือใหญ่ แต่ไม่ควรให้ข้อมูลนั้นเต็ม ควรจะปล่อยวางลืมไปบ้าง เพราะอีกส่วน หนึ่งจะเก็บไว้ในใต้จิตสำนึกเราที่ผ่านการ ไตร่ตรองมาแล้ิวไว้ทางพระจะเรียกว่า เศษของกิเลสที่ยังเหลืออยู่ ใจคือแหล่งรวมความรู้อันประกอบด้วย จิต คือหน้าที่ต้องค้นคว้าทั้งภายนอกและ ภายในมิอาจจะนิ่งเฉยได้มีความว่องไวมาก จะสอดแทรกสอดส่ายค้นหาเสมอ แต่เมื่อ มันค้นหาได้แล้วจะไม่จำเพียงแค่รู้ไว้เท่านั้น เองจึงต้องเป็นหน้าที่ที่ควบคู่กันไปประดุัจ ดังเงา นั่นและคือ เจตสิก เจตสิกคือผู้ที่จะจดจำบันทึกสิ่งต่างๆของ จิตที่ไปค้นคว้าหามาไว้ทุกเสมือนเงาที่ คอยติดตามกิเลสไปทุกขณะจิต เมื่อค้นหามาได้แล้วก็จะส่งให้ใจ ใจมีหน้าที่เป็นประธานที่จะสั่งการไปยัง ขันธ์ทั้งหลายให้ทำหน้าที่ อันได้แก่ สัญญา คือการรับรู้จากใจแล้วส่งไปให้สังขารเพื่อ จะปรุงแต่งสิ่้งที่จิตเห็นมารู้มา แล้วส่งไป ไปยังวิญญาณอันวิญญาณนี้คือที่อยู่ของ ใจ เจตสิกและจิตนั่นเอง ก็จะส่งไปยัง รูปว่าสิ่งที่เห็นมานั้นก็ด้วยเวทนาที่จะคอย สนองไว้ ว่า ทุกข์ก็ดี ไม่ทุึกข์ก็ดี ไม่ทุกข์ ไม่สุขก็ดีเพื่อจะเสวยอารมณ์นั้นๆ ฉะนั้นใจจึงเป็นประธานของทุกๆอย่าง ในร่างกายของคนเรา เมื่อทราบเหตุดังนี้ แล้วก็ นำมาผสมผสานกับร้องกรองหรือ ร้อยแก้วด้วย อิทธิบาท4 เข้าผสานกัน สร้างเพราะใจจะสร้างอารมณ์ให้เกิดขึ้น หรือที่เรียกว่าจินตนาการนั่นแหละ เมื่อ เรารู้เหตุดังนี้แล้ว ก็ใช้ใจนี่แหละในการ เขียนฝึกปรือสิ่งต่างๆมันจะหมุนเวียน กันไปตามลักษณะงานเขียนของเรา หาใช่ใช้สมองมาคิดเขียนไม่ที่คนเข้าใจ ผิดไป ดังนั้นร้องกรองร้อยแก้วก็ดีต้อง ใช้ใจเขียนทั้งสิ้น เราสามารถจะเลือกได้ ว่าจะให้ยาวหรือสั้นขนาดไหนก็ได้ตาม แต่ใจเราคิดสร้างมันขึ้นมา นี่คือเบื้องต้น ที่ให้ศิษย์เรารู้ไว้ หากเมื่อใจรู้ในกระแส อารมณ์เราแล้ว เราก็สามารถที่จะทำได้ ในทุกขณะที่ต้อการจะทำได้โดยไม่ยาก นัก ด้วยสิ่งต่างๆที่ซ่อนเก็บไว้ในห้วงใต้ จิตสำนึกจะค่อยๆทะยอยออกมาให้เรา เองคัดเลือกเองแหละ นี่คือปฐมบทของ ครูที่คิดขึ้นมาเองจะเชื่อหรือไม่ควรไตร่ ตรองดูก่อนอย่าพึ่งเชื่อนักนะ รักศิษย์เรา มากๆเสมอจ้า แก้วประเสริฐ.
27 มิถุนายน 2554 14:46 น. - comment id 1200959
คุณ อรุโณทัย ขอบใจมากจ้าก็เขียนเพื่อความสนุก คลายเครียดเท่านั้นเองแหละ ให้ย้อนไป อ่านงานที่ครูตอบแก่สุญญะกาศไว้ด้วยนะ รักมากเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
27 มิถุนายน 2554 14:52 น. - comment id 1200961
คุณ แก้วประภัสสร ศิษย์เราที่ครูฝากความหวังไว้ พยายาม หมั่นฝึกปรืออย่างเจ้ากิ่งดูเป็นตัวอย่างไว้นะ ตอนนี้พยายามเล่นโคลงให้อ่อนช้อยไหว ชวนอ่านน่าคิดแทรกสิ่งต่างๆไว้ด้วย เจ้ากิ่ง นั้นเป็นชาวเหนือโดยเฉพาะด้านโคลงแล้ว ย่อมจะไปได้อย่างดี ด้านกลอนเก่งแล้วมา ด้านโคลง ส่วนกาพย์นั้นหากได้กลอนแปด ตามหลักที่ครูพร่ำตักเตือนกาพย์ก็ง่ายกาพย์ นั้นแบ่งออกหลายอย่าง แต่ครูคัดเลือก มาเล่นคือกาพย์ยานี11 ด้วยจะมีความ อ่อนช้อยหวานไพเราะมากกว่ากาพย์อื่น ได้ทั้งสิ้น ควรจะทำให้มากๆ แต่ตอนนี้ ควรจะฝึกโคลงให้ชำนาญยิ่งขึ้นหาข้อผิด พลาดในระดับเสียงไว้ด้วย ให้ไปอ่านงาน ที่ครูตอบกระทู้สุญญะกาศไว้ด้วยนะอาจ จะมีประโยชน์บ้างจ้า รักศิษย์เรามากๆเสมอ แก้วประเสริฐ.
27 มิถุนายน 2554 14:54 น. - comment id 1200962
คุณ โคลอน แค่เห็นชื่อแล้วก็เปรียบเสมือนหยาด น้ำมาชโลมใจจริงๆนะ ฝน กลางหาวที่ใส บริสุทธิ์ผุดผ่องนัก ขอบใจมากผมเขียนเพราะ กำลังเครียดด้วยไม่ค่อยสบายกายนัก หันไป หันมาก็มาระบายทางนี้แหละจ้า รักฝนมาก เสมอๆจ้า แก้วประเสริฐ.
27 มิถุนายน 2554 14:57 น. - comment id 1200964
คุณ กิ่งโศก ศิษย์รักผู้เป็นความหวังของครู ให้ไป อ่านกระทู้ที่ครูตอบเจ้าสุญญะกาศไว้ด้วย เพราะเป็นปฐมบทของงานเขียนทั้งหมดไว้ นะ ส่วนงานเธอครูไม่วิจารณ์หรอกเพราะ งดงามเสมอๆแล้วล่ะ รักศิษย์เรามากๆเสมอ แก้วประเสริฐ.
27 มิถุนายน 2554 14:59 น. - comment id 1200966
คุณ คอนพูทน ดีใจยิ่งที่คนภูธรมาเยี่ยมครับ ผมเขียน ไปในระหว่างยังไม่สบายกายนักด้วยโรคเก่า กำเริบมาก จึงหาทางระบายไปเรื่อยๆครับ ขอบคุณที่มาเยี่ยมครับ รักมากเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
27 มิถุนายน 2554 15:03 น. - comment id 1200968
คุณ ดิน เจ้าดินศิษย์เอ๋ย ย้อนขึ้นไปอ่านงาน ตอบกระทู้เจ้าสุญญะกาศไว้ด้วยนะเพราะ เป็นปฐมบทที่ครูนำมาทำงานด้านนี้และด้าน อื่นๆจนสามารถยืนยงมาได้ทุกวันนี้ และก็จะ จวนจะล่วงลับไปจึงฝากไว้ให้คิด ว่าเหตุใด ครูจึงสามารถเขียนได้ทั้งร้อยกรอและร้อย แก้วได้อย่างไม่ติดขัด ควรอ่านแล้วไตร่ตรอง หาเหตุและผล จะไม่เชื่อก็ได้นะให้ลอง ตรวจสอบทดลองดูก่อนจ้า รักศิืษย์เรา มากเสมอ แก้วประเสริฐ.
27 มิถุนายน 2554 16:10 น. - comment id 1200975
สวัสดีค่ะพ่อแก้ว ... งามทั้งภาพ งามทั้งกลอน ช่วงนี้จินตนาการของเอมมันหายไปไหนก็ไม่รู้ค่ะ พยายามแต่งกลอนมาหลายครั้งแล้วแต่ไม่เป็นผลสำเร็จสักที สงสัย ต้องหาเวลาไปชิมกับข้าวคุณแม่ที่บ้านพ่อแก้วอีกครั้งแล้วมั้งคะเนี่ย รักและเคารพพ่อแก้วเสมอจ้า ลูกเอมจ้า
27 มิถุนายน 2554 16:31 น. - comment id 1200979
่คุณ ทะเลใจ พ่อเองไม่ลืมลูกของพ่อเสมอจ้า ด้วย พ่อเคยบอกแก่ลูกหรือส่งตำราให้ลูกไปหรือ ไม่ก็ไม่รู้นะ เอาอย่างนี้ซิลูกรัก หัดแต่งกลอน แปดอย่าไปเล่นเลยกลอนเปล่าๆนะเขาใช้ สำหรับการแต่งเพลงเท่านั้นเอง กลอนแปดต้องให้แปดคำทั้งทำนองอักษร ใดที่ประกอบสองคำอ่านได้สองเสียงนั้น หากแต่ละคำสามารแปลได้ก็ใช่ได้หาก อีกคำแปลไม่ได้ก็อย่าใช้เช่นประสาน ปะ+สาน ปะการพบเห็น สานคืออาการที่ ใช้ตอกนำมาทำให้เป็นรูปร่าง เขียนเป็น ประสานคือการรวมๆกันไว้ เป็นต้นจึงนับ ตามทำนองได้สองคำนั้นนับได้ ลูกควรหัดแต่งในใจไว้ในเวลายาม ว่างๆให้จิตเป็นกลอน กลอนเป็นจิตรวม กันเป็นหนึ่งเดียว ให้สำเร็จเสียก่อนก็จะ ขจัดสิ่งที่อารมณ์ขาดหายไป แม้ว่าอารมณ์ เราจะไม่ดีหากทำได้เช่นนี้แล้ว ก็สามารถ จะแต่งได้ไม่ยากนักถึงจะไม่มีอารมณ์ก็ ตามด้วยสิ่งต่างๆจะถูกเก็บไว้ในจิตใต้ สำนึกของเราไว้พร้อมที่จะใช้เสมอๆ อีกกลอนแปดยังเป้นแม่บทของร้อย กรองอื่นๆอีกด้วย เมื่อเราทำสำเร็จค่อย ไปเล่นอย่างอื่นนะ ดูที่พ่อตอบสุญญะกาศ ไว้ด้วยนะ หัดเอาไว้นะอย่าลืมส่วนอีก อย่างคือคำกล้ำหมายถึงอักษรสองตัวหาก รวมกันแล้วแปลได้ไม่หมดนั่นแหละถึง อนุโลมใช้ได้จ้า อักษรา เป็นต้นยังมีอีก หลายๆคำเราต้องสังเกตุไว้นะ ลูกพ่อหาก เขียนไม่ได้พ่อจะน้อยใจมากจ้าด้วยเป็น ลูกพ่อเองคนอื่นพ่อยังฝึกจากไม่มีอะไร เลยจนก้าวสู่แนวหน้ากับเขาได้จ้า หาก ตำราไม่มีก็เมล์ที่ให้ไว้ในเวปฯนี้มาหาพ่อ พ่อจะได้ส่งไปให้จ้า รักลูกพ่อมากๆเสมอๆจ้า แก้วประเสริฐ.
28 มิถุนายน 2554 11:12 น. - comment id 1201062
มาแอบเก็บดอกบัวของคุณลุงไปไหว้พระค่ะ
28 มิถุนายน 2554 13:38 น. - comment id 1201097
คุณ เพียงพลิ้ว ลุงขอร่วมอนุโมทนากับหลานรักด้วย เผื่อชาติหน้าจะได้เจอกันใหม่จ้า รักหลาน ลุงมากที่สุดจ้า แก้วประเสริฐ.
28 มิถุนายน 2554 20:02 น. - comment id 1201147
ชอบดอกบัวนะคะ เวลาเลือก ดอกไม้ไปถวายพระจะเลือกดอกบัวก่อนเลย ถ้าไม่มีก็จะเป็นดาวเรืองแทน อิอิ เห็นคุยเรื่องนี้กะสาวเพียงพลิ้วเลยตามน้ำไปด้วย อิอิ ที่บ้านซื้อบัวมาใส่ในอ่าง ตั้งแต่ซื้อมาเห็นออกดอก ครั้งสองครั้งเองค่ะ ตอนนี้เห็นมีแต่ใบ ไม่มีบัว
28 มิถุนายน 2554 21:06 น. - comment id 1201150
ว๊าวววว ขอบคุณสำหรับความรู้ใหม่ค่ะ จะไปทดลองทั้งสองอย่างเลยค่ะ (กะปิ+ ผงชูรส) แล้วจะมารายงานผลนะคะ คืนนี้ ราตรีสวัสดิ์ก่อนค่ะ
28 มิถุนายน 2554 20:25 น. - comment id 1201154
คุณ เฌอมาลย์ เจ้าหญิงครับ อนุโมทนาด้วยเราคงจะ ได้พบกันอีกในชาติหน้านะครับ อ้อจะเล่า อะไรให้ฟังครับ เป็นเรื่องจริงที่เกิดที่บ้านผม เมื่อก่อนนี้ผมเลี้ยงบัวไว้เหมือนคุณนั่นแหละ ซื้อมาแล้วเห็นดอกออกครั้งเดียวที่มันตูม อยู่จะบาน วันหนึ่งทางบ้านเอากะปิไปตาก แดดบนกำแพงเหนืออ่างบัวที่ปลูกไว้หน้าบ้าน พอฝนตกแมวหรืออะไรไม่รู้ทำให้กะปิ ตกลงหา ปรากฏว่าตกไปในอ่างบัวแทบ ไม่น่าเชื่อครับ ตั้งแต่นั้นมาบัวก็ออกดอก มากมายครับ ก่อนนี้ใส่ปุ๋ยบัวก็แล้วทำอย่างไร มันก็ไม่ยอมออกดอกสักที ตอนนี้เวลา อยากจะเห็นดอกบัวก็จะเอากะปิไปละลาย น้ำในอ่าง ไม่เกินอาทิตย์เห็นจะได้บัวนั้น ก็ออกดอก ทดลองดูซิครับที่ที่ทำตกไป นะกะปะแยะด้วยเพราะยังไม่แห้ง บัวนี้ ออกดอกมากมายจริงๆครับ ลองดูนะ ครับ เป็นเหตุบังเอิญจริงๆครับ อีกอย่าง หนึ่งหากปลูกต้นไม้ไม่เห็นดอก ให้เอา ผงชูรสละลายน้ำแล้วรด รับรองว่าจะเห็น ดอกไม้ทันทีครับ ผมเองก็ไม่ทราบเพราะ เหตุใดข้อหลังคนสวนบอกนะครับเขาบอก ว่าเป็นความลับ แต่เขาสนิทกับผมจึงบอก ให้ครับ เขาว่าดีกว่าปุ๋ยเร่งดอกเสียอีก ใบก็ออกสีเขียวสดอีกด้วยครับ ทดลอง มาแล้วครับ รักเจ้าหญิงมากๆเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
28 มิถุนายน 2554 23:06 น. - comment id 1201165
คุณ เฌอมาลย์ ครับทดลองดูซิครับ แต่ควรพอประมาณ นะครับ ผงชูรสนั้นต้องให้เจือจางหน่อยครับ ได้ผลอย่างไรแจ้งให้ทราบด้วยนะครับเจ้าหญิง รักเสมอๆจ้า แก้วประเสริฐ.