นักกีวีซีไรต์ ท่านหนึ่งได้กล่าวไว้ว่าบทกวีที่มีความไพเราะบางครั้งไม่ต้องตรงตามฉันทลักษณ์จนหลงลืมความรู้สึกที่ใส่ลงไปในบทกวี ฉันอ่านอย่างไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรเพราะว่าฉันเรียนค่อนข้างน้อย และที่สำคัญฉันแต่งบทกลอน โครง อะไรไม่เป็นเลย แต่ด้วยความรู้สึกที่ชอบอ่านและมีความรู้สึกว่าทุกครั้งที่ฉันได้อ่านฉันมีความสุข เหมือนตัวเองได้ล่องลอยไปตามบทกวี จนมาวันนี้ฉันรู้สึกว่าตัวเองหลงรักบทกวี..... บทกวีได้แทรกซึมเข้าไปอยู่ในหัวใจของฉันตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่สามารถบอกได้ ความสุข ความอบอุ่นใจ ทุกครั้งที่อ่าน วันนี้ฉันจะลองแต่งโครง ตามความรู้สึกดู อาจจะไม่เพราะและไม่ถูกต้องตามฉันทลักษณ์แต่มันออกมาจากความรู้สึกของฉัน ทุ่งทางทองส่องหล้า รอยวิถี ทุ่งสักอาศรม บ่มกวี วิหคนกดนตรี เริงรบำ เพลงโลกอิสระ แกร่งกล้า ขอท้าฝัน
31 พฤษภาคม 2554 19:32 น. - comment id 1196505
ความรัก จักนำพาคุณไปยังดินแดนอันสวยวิไล ซึ่งคุณไม่เคยคาดคะเนถึงว่ามีดินแดนนั้นอยู่ ไม่ใช่ความฝัน แต่เป็นความจริง ที่จักต้องมีใจและจะได้สัมผัสด้วยใจ.... "กวีเป็นเส้นประสาทของจักรวาล" คือนิยามที่ชัดที่สุดว่าทำไมทุกอย่างที่กวีเขียน ถึงได้บอกเล่าได้หลายมิติอารมณ์เช่นนนั้น แวะมาสวัสดีครับ
31 พฤษภาคม 2554 20:42 น. - comment id 1196520
ขอบคุณนะค่ะ คุณแทนคุณ แทนไท ที่เข้ามาอ่าน กวีเป็นอะไรที่น่าค้นหามากมาย
1 มิถุนายน 2554 09:02 น. - comment id 1196565
ทุ่งสักอาศรม ..เคยชมนั่น เป็นลูกศิษย์ครูกานท์กระนั้นหรือ? อาศรมนี้กวีเก่าคนเล่าลือ มาถ่อมตนคนมีชื่อ ..คืออย่างไร ? เป็นอาศรมบ่มกวี ..ที่คมคาย !
1 มิถุนายน 2554 10:20 น. - comment id 1196575
บ้างก็ว่าคร่ำครึ ก็แล้วแต่คนชอบน่ะ
1 มิถุนายน 2554 14:10 น. - comment id 1196613
คุณกลั่นแก้วครับ ในฐานะที่มีชื่อว่าแก้ว เหมือนกันนั้น ผมเป็นคนโง่เขลาเหมือนคุณ นั่นแหละครับเล่นกลอนไปก็เพียงแค่สนุก สนานที่คุณกล่าวไว้นั้น โดยอ้างกวีซีไรค์มา นั้นด้วยหากเป็นของไทยเรานั้นจะไม่นิยม กันแต่หากเป็นของชาวต่างประเทศเขานิืยม โดยเรียกว่าเป็นกลอนเหมือนกันโดยไม่อาศัย ฉันทลักษณ์ไว้ๆนั้นคือตำราว่าด้วยการเขียน ร้อยกรองที่ปราชญ์ไทยเราวางกำหนดไว้ ถึงแม้จะเอามาจากประเทศอินเดียเป็น ส่วนมากได้แก่คำฉันท์เป็นต้น จึงเป็นวิธี การแต่ละประเทศ ที่เขากล่าวนั้นคงจะ เป็นของต่างประเทศครับ เขาเรียกว่าเป็น การระบายความรู้สึกออกมาในทำนอง ของเพลงอันมีเสียง โด่ เร มี ฟา ซอล ลา ซิ โด เป็นทำนองเอาความรู้สึกอารมณ์ ใส่ลงไปในการบรรยายธรรมชาติที่พบ เห็นเป็นต้น ซึ่งของไทยเรานั้นจะบังคับ ไว้เลยครับ พูดถึงความไพเราะของไทย เราเสนาะไพเราะมากกว่ามากมายนักครับ การบังคับอักษรก็ดีเสียงก็ดี ทำนองก็ดี นั้นต้องประสานกลมกลืนกันเป็นหลักมี ความหมายซ่อนเร้นในรูปลักษณ์ของ กลอนให้คนอ่านได้คิดซาบซึ้งต่อกลอน ซึ่งได้สอดแทรกอารมณ์ต่างๆไว้ แบ่งออก เป็นสองประเภทคือ กลอนหวานอ่อนช้อย อ่อนไหวไปตามอารมณ์ กลอนอีกประเภทนั้น จะออกแนวดุดันแข็งกระด้าง ก็อยู่ที่ผู้ ฝึกหัดครั้งแรกเป็นหลักใหญ่ แต่ที่ว่า คุณแต่งโคลงไว้นั้น คุณมีความพยามยาม ยิ่งนัก แต่ก็ผิดฉันทลักษณ์ไปครับ ด้วย โคลงยังแบ่งออกเป็นอีกหลายอย่างที่ คุณเขียนเป็นโคลงสี่สุภาพ แต่การใช้ผิด ฉันทลักษณ์ไปฉนั้นจึงทำให้ความสวยงามอ่อนช้อยผิดขัดกันเองครับ ในฐานะเราก็แก้วเหมือนกันจึงใคร่จะ ขอแนะนำสิ่งเชยๆไว้ให้หรือว่าคุณอาจจะ รู้แล้วก็ได้ โคลงนั้นบังคับไว้เลยว่าต้อง วางตำแหน่งเอกเจ็ดโทสี่ในตำแหน่งจะ คลาดเคลื่อนไม่ได้ โทนั้นจะหาสิ่งทด แทนไม่ได้เลย ส่วนเสียงเอกนั้นใช้คำตาย ทดแทนได้โดยอนุโลม หากจะมีเพิ่มเขา จะไม่นับเขาจะนับแค่ตำแหน่งที่บังคับไว้ เท่านั้นเองครับ ด้วยคุณมีความตั้งใจมาก จึงขอเอามะพร้าวมาขายสวนหน่อย โคลงสี่สุภาพ กา กา กา ก่า ก้า กา กา (กา กา)วงเล็บคือคำสร้อยเพื่อจะขยายคำสุดท้ายครับ กา ก่า กา กา กา ก่า ก้า กา กา ก่า กา กา กา ก่า (คำสร้อยสองคำ) กา ก่า กา กา ก้า ก่า ก้า กา กา(สี่คำ หลังนี้ต้องติดกันห้ามแยกกัน และจะมี คำสร้อยได้อีกสองคำครับแต่เขาไม่ค่อย นิยมหมายถึงปิดเรื่องโคลงไว้ครับ ส่วนนอกเหนือนั้นคุณไปค้นหาจากโคลง ที่สัมผัสกันเอาหรือไปดูการเขียนโคลง ขอบคนในเวปฯนี้ที่ล้วนแล้วแต่เก่งๆกัน ทั้งนั้น ยกเว้นผมคนเดียวที่โง่แต่มีน้ำใจ เท่านั้นครับโดยเฉพาะคนที่ใช้นามว่าแก้ว ส่วนที่บอกว่าไม่ต้องคำนึงฉันทลักษณ์ นั้น ทางเมืองเราเรียกว่า กลอนเปล่าโดย เอามาจากต่างประเทศนั่นเ่องมาผสมกับ ผู้ที่นำมาลงไว้ต้นกำเนิดมาจากกวีเมือง เหนือคือจังหวัดเชียงใหม่ครับหากจำไม่ผิด ของไทยเราโดยให้สัมผัสตอนท้ายคำ อย่าหาว่าผมล่วงเกินนะครับ เพราะเห็น ว่าเป็นแก้วด้วยกันครับ ผิดพลาดก็ขอโทษ ด้วยครับ แก้วประเสริฐ.
1 มิถุนายน 2554 22:19 น. - comment id 1196716
คุณแก้วประเสร็ฐ เหมาะแล้วที่จะเป็นครูของใครๆ ถ่อมตน สุภาพ และชี้ทางได้ดีจริง ผมมาชื่นชมครับ
2 มิถุนายน 2554 11:18 น. - comment id 1196840
ขอบคุณศรีสมภพนะค่ะที่เข้ามาอ่าน ขอบคุณนะ..
2 มิถุนายน 2554 11:21 น. - comment id 1196841
คุณกุ้ง ญ สวัสดีนะค่ะ.. กวีเป็นอะไรที่ละเอียดอ่อนจริงๆ จะพยายามศึกษานะค่ะ ยิ่งเก่าคนยิ่งกล่าวถึงค่ะ..
2 มิถุนายน 2554 11:27 น. - comment id 1196842
คุณครูแก้ว ขอบคุณนะค่ะได้ความรู้มากมายเลยทีเดียว จะเก็บเกี่ยวไว้เป็นความรู้นะค่ะ ยังไงครูแก้วช่วยสอนด้วยนะค่ะ ขอสมัครเป็นศิษย์ด้วยคนนะค่ะ เห็นแก่ลูกหมาลูกแมวตัวตาดำๆด้วยนะค่ะ ชี้แนะด้วยนะค่ะ
2 มิถุนายน 2554 12:12 น. - comment id 1196870
2 มิถุนายน 2554 12:37 น. - comment id 1196878
สวัสดีจ้าฉางน้อย...ที่น่ารัก มาแอบยิ้มพร้อมดอกไม้ขอบคุณนะ มาหยิกแก้มหน่อยเร็วๆหมั่นเขี้ยว...
2 มิถุนายน 2554 18:43 น. - comment id 1197058
จ๊ะเอ๋..คุณแทนคุณ แทนไท มาสองรอบเลย% 27%
4 มิถุนายน 2554 11:00 น. - comment id 1197465
แต่งอะไรที่ถูกใจเราและไม่รบกวนคนอื่นก็แต่งไปเถอะครับ ภาษาไทย อ่านรื่นทั้งคำทั้งเสียงก็ดีแล้วครับ นาน ๆ ก็จะดีเองครับผม ผมก็มั่ว ๆ มาตั้งนาน ยังไม่ค่อยจะได้เรื่องเลย อิอิ
22 มิถุนายน 2554 18:20 น. - comment id 1200422
สวัสดีค่ะคุณฤกษ์ ขอบคุณนะค่ะที่สละเวลาเข้ามาอ่าน