๐ สิ่งลวงฝัน ๐ ๐ ล้วนสิ่งหวังครั้งหนึ่งซึ้งตรึงตรึก ซ่อนแอบผนึกฟุ้งซ่านกาลผ่องใส ร้อนลุ่มลึกแผ่ซ่านล้วนผ่านใน ทดสิ่งไว้พุ่งพราวราวดวงเดือน ๐ ใยซ่อนเร้นแอบลึกนึกย้อนยอก เผยสิ่งบอกเร่งเร้าเฝ้าแอบเฉือน จนหมกไหม้คุกรุ่นละมุนเลือน ผ่านแชเชือนในสิ่งอิงรัญจวน ๐ ครั้นทบทวนมิพบประสบเห็น สิ่งเยือกเย็นคละคลุ้งปรุงโหยหวน แต่สิ่งลึกแปรขจัดผลัดทบทวน สั่นห้วงจวนจะขาดปราศใยยอง ๐ มาบัดนี้สิ่งเร้าพึงเคล้าแนบ ฟุ้งมาแอบหวังไว้ในสิ่งสอง โอ้นี่หรือชีวิตผลิตครรลอง ยากประคองคืนสู่เป็นผู้คน ๐ ฉันเพียงหวังแค่ฝันนั้นพึงสร้าง กลับอ้างว้างพลิกสั่นอันสับสน ร้อนลุ่มลึกแอบพิงอิงวกวน พลิกสู่ปนหนาวสั่นวันแห่งกาล ๐ เท็จลวงจริงอิงเท็จระเห็จผ่าน เนาเนิ่นนานผ่านเคล้าเย้าประสาน คืนสู่ห้วงดุจสิ่งอิงวันวาร ที่เคยจารจรดไว้คล้ายหมองมัว ๐ ที่ผ่านไปกลับย้อนซ่อนสิ่งเร้น ดั่งภาพเช่นแจ่มชัดขจัดสลัว พลิ้วไหวนิ่งลอบเร้นเด่นจนกลัว บางครั้งยั่วดั่งเช่นเน้นหนทาง ๐ แล้วสลับซับซ่อนย้อนงำเยื่อ เหมือนจะเผื่อกลับหายวิไลสาง ความร้อนรุ่มแทรกไว้ให้เจือจาง โดยจัดวางแผ่ไว้ให้วังเวง. ๐ แก้วประเสริฐ. ๐
17 พฤษภาคม 2554 20:52 น. - comment id 1194341
หวัดดีค่ะครู กระจ่างชัดในความหมายจริงๆค่ะ ครูสบายดีนะคะ..รักษาสุขภาพด้วยค่า
17 พฤษภาคม 2554 16:51 น. - comment id 1194345
สวัสดีวันวิสาข์ครับท่าน.. สุขอย่าได้สร่าง
17 พฤษภาคม 2554 17:09 น. - comment id 1194353
คุณ คอนพูทน สวัสดีครับคนภูธร อนุโมทนาด้วยที่เขียน ได้งดงามมากครับ เป็นฉันท์ที่งดงามนัก ครับวันวิสาขะบูชานี้เป็นวันที่มหัศจรรย์ยิ่ง ของมวลชนชาวโลก ศาสนาอื่นจะไม่บรรจบ เช่นศาสนาเราบ่งบอกในเรื่องความ มหัศจรรย์แก่ชาวโลกไว้ครับ คือวันพระประสูติ ทรงตรัสรู้ธรรมอันพ้นทุกข์ทั้งผองและ วันปรินิพาน ซึ่งตรงกันประดุจสวรรค์สร้าง ไว้คือวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 มาจรรจบ กันได้อย่างน่ามหัศจรรย์ยิ่งนัก ไทยเรา จึงเอาวันนี้เป็นวัีนสำคัยประจำชาติไทย เราครับ ขอให้มีสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคล นะครับ ขอบคุณมากครับ แก้วประเสริฐ.
17 พฤษภาคม 2554 18:24 น. - comment id 1194359
สัญญาที่ว่าไว้....................หามี คำมั่นสองชีวี....................ตราบสิ้น กาลวันผ่านผันปี.............เลือนลบ พ่อเฮย ที่เที่ยงกลับแปรดิ้น.........เปลี่ยนได้คือคนฯ สิ่งใดท่านมั่นแล้ว..............เห็นจริง สัมผัสลลุในจริง..................เด่นอ้าง ในนอกบนล่างอิง................ธรรมชาติ จริงนา ท้ายสุดหยุดการสร้าง.........กลบด้วยดินดำฯ ทุกสิ่งในโลกล้วนมีจริงและไม่จริง เพียงแต่เราต้องอยู่ร่วมกับสองสิ่งนี้ได้ ด้วยใจเราเอง กราบครูแก้วฯเจ้าค่ะ ครูสบายดีนะคะ
18 พฤษภาคม 2554 10:41 น. - comment id 1194405
บางครั้งก็แยกไม่ออกว่าลวงหรือจริงค่ะพี่แก้วประเสริฐ
18 พฤษภาคม 2554 13:22 น. - comment id 1194446
คุณ แก้วประภัสสร ศิษย์รักเราระยะนี้สุขภาพแย่มากๆเลย ตัองคอยพยุงไว้ไม่รู้ว่าจะลับล่วงไปเมื่อไหร่ จึงได้เขียนในสิ่งที่รักและปราถนาไว้จ๊ะ ๐ บรรเลงเพลงซ่อนแล้ว เงื่อนงำ กลอนรูปพลิกลำนำ ซ่อนไว้ แฝงในสิ่งถ้อยคำ จึงเกิด แม่เอย หากเล่นได้คลั่งไคล้ สิ่งนี้ย่อมสนอง ๐ ผิืวเผินธรรมดาไว้ อักษรา แนวพลิกป่วนอุรา อ่านแล้ว ใจเย็นย่อมค้นหา สิ่งซ่อน นางเอย จึงเกิดลำนำแพร้ว ซ่อนไว้คนึงหวน. แก้วประเสริฐ.
18 พฤษภาคม 2554 13:24 น. - comment id 1194447
คุณ เทียนหยด สวัสดีจ้าศิษย์รักเรา อย่างที่บอกเจ้าแบม ไว้แล้วนะอ่านข้างบนจ้า อ่านเข้าใจนับว่าศิษย์ เราก้าวหน้าไปอีกขั้นหนึ่งแล้วจ้า ยินดีด้วยนะ รักศิษย์เรามากเสมอๆจ้า แก้วประเสริฐ.
18 พฤษภาคม 2554 13:29 น. - comment id 1194448
คุณ น้ำตาลหวาน น้องรักของพี่อันที่จริงกลอนนี้เป็นกลอน ลวงคนอ่านไว้จ้า หากไม่ตั้งใจอ่านย่อมไม่ เข้าใจความหมายของมัน หรืออ่านผิวเผินไป ก็จะไม่เห็นสิ่งที่ซ่อนเร้นไว้จ้า รักน้องเรามากๆ เสมอๆจ้า แก้วประเสริฐ.
18 พฤษภาคม 2554 18:01 น. - comment id 1194479
........ สวัสดีจ้าครู หยุดยาวหลายวัน ครูสบายดีนะ รักษาสุขภาพด้วยจ้า .................
18 พฤษภาคม 2554 18:59 น. - comment id 1194486
ท่านท้าวฯ..สบายดีนะ... ...ปีนะเข้าพรรษามะ...อบายมุข..ลดเลิกละ...(มีต่อนะ..ยังไม่บอก...)
18 พฤษภาคม 2554 20:14 น. - comment id 1194493
คุณ ดิน สวัสดีจ้าอายุมากแล้วย่อมเป็นไปตาม วัฏฏจักร ผ่านมาจวนจะปลายทางแล้วย่อม หาความสบายไม่ได้หรอกจ้าศิษย์เอ๋ย แต่ ทำไงได้ล่ะก็ต้องทนไปเรื่อยๆจนวันหนึ่งจะ เข้่ามาหาจ๊ะ เจ็บป่วยดีแล้วก็เป็นอีก จึงใช้เวลาว่างๆมาแต่งกลอนบ้าง แต่ง นิยายบ้างเพื่อปลดปล่อยความเหงาที่แอบ แฝงไว้จ้า ขอบใจมากนะรักมากๆเสมอ แก้วประเสริฐ.
18 พฤษภาคม 2554 20:24 น. - comment id 1194496
คุณ บินเดี่ยวหมื่นลี้ ท่านพระยาครุฑย่อมเป็นธรรมดาของ คนที่ล่วงโรยเข้ามาเยี่ยมแล้วล่ะ เรื่องอบาย ต่างๆนั้นผมงดหยุดมาเนิ่นนานแล้วล่ะ จะมี บ้างก็เพียงแค่สังคมเล็กๆน้อยเท่านั้น แต่ นานๆครั้งหนึ่ง การเข้าพรรษานั้นคือการหยุด การออกไปในที่ต่างๆของภิกขุที่พระองค์ได้ บัณญัติไว้เท่านั้น เพื่อไม่สร้างความเดือด ร้อนแก่เหล่าสาสนิกชนคือปัจจัย อีกประการ คือการอยู่รวมกลุ่มเพื่อจะได้สมาทานและ ศึกษาธรรมวินัยไว้ แก้ไขปั้ญหาต่างที่ ที่ขัดข้องจากภิกขุที่อาวุโสที่ลุล่วงผ่าน พ้นทุกข์ทั้งหลายเป็นผู้คอยแนะนำ สำหรับชาวพุทธสาสนิกชนนั้นพึงงด เว้นอบายโดยเป็นกุสโบายของพระพุทธ เจ้าเราแนะแก่บุัคคุลที่นับถือธรรมของ พระองค์เพื่อจะได้เห็นการปฏิบัติของ เหล่าภิกขุไว้เป็นตัวอย่าง ที่จริง ก็มีเพียงเท่านี้แหละท่านพระยาครุฑ หาก บุคคลได้ปฏิบัติได้อย่างดีแล้ว รู้แล้ว แจ้งแล้วผ่านแล้วก็ย่อมอยู่เหนือกฏเกณฑ์ นี้ไปได้ แต่พระองค์ก็กำหนดวันที่ไม่ต้อง พักในที่รวมกันก็ได้นะท่านนะ รักท่าน พระยาครุฑมากเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
20 พฤษภาคม 2554 04:06 น. - comment id 1194667
สวัสดีค่ะครู ดีใจที่ได้กลับมาฝึกเขียนกลอนกับครูอีกค่ะ เมื่อใจพร้อมและเวลาที่พร้อม ด้วยผ่อนคลายจากภาระหน้าที่ประจำ ลูกคนโตเรียนจบแล้วค่ะ หายเหนื่อยเหมือนปลิดทิ้ง เหมือนกับว่าส่งลูกให้ถึงฝั่งดังที่เค้าวาดหวังไว้ แม้จะยังเป็นเพียงหนึ่งก้าว ยังต้องเจออุปสรรคอีกมากมาย แต่ศิษย์ก็ดีใจที่ได้ทำหน้าที่ของแม่ ได้อย่างเต็มที่เป็นเวลา 21 ปีเต็ม ยังเหลือคนเล็กอีกคนค่ะครู เมื่อได้เป็นแม่ ถึงได้เข้าใจความรักของแม่ที่มีต่อลูกค่ะ ขอให้ครูมีความสุข สุขภาพแข็งแรงนะคะ
20 พฤษภาคม 2554 12:24 น. - comment id 1194739
สวัสดีคะคุณครู เจมิไนหายไปนานนิดนะคะคราวนี้ ต้องขอโทษด้วย ระยะเริ่มมีเวลา จะหมั่นกลับมาเยี่ยมคุณครูนะคะ รักมากคะ
20 พฤษภาคม 2554 13:24 น. - comment id 1194748
คุณ อนงค์นาง ศิษย์รัก นี่แหละคือภาระหน้าที่ของคน ที่เป็นพ่อแม่ล่ะ สมัยก่อนครูก็แบกภาระมา จนหลังแอ่น ยามที่เขาสำเร็จได้ดีมีสุขก็ยิน ดี แต่ทว่าความรักหาได้หมดสิ้นไปไม่ยังมี สิ่งที่จะต้องทำอีกคือ การเติมต่อในสิ่งที่เขา ขาดหายไปหมายความถึงการต้องหมั่นคอย ตรวจตราการกระทำเติมในสิ่งที่เขาไม่มีให้ อันนี้เป็นภาระต่อเนื่องจ๊ะ ความรักห่วงใยไม่ มีวันสิ้นสุดหรอกตราบใดที่ตายังลืมอยู่ เว้นเสียจะหลับไปชัวกัลปวสานต์นั่นแหละ ถึงได้หมดหน้าที่เราอย่างแท้จริงจ้า เรื่องกลอนเธอก็บรรลุไปได้ด้วยดี แล้ว ที่ครูเขียนนี้่จะซ่อนรูปลักษณ์แบบ กลอนไว้เพียงเล็กน้อย ดูธรรมดาจะไม่ ธรรมดาหากไม่ตีความให้เข้าใจเสียก่อน ก็จะเห็นเป็นกลอนที่สับสนนัก เรื่องว่า เล่นเรื่อยๆเปื่อยๆหาสาระไม่ได้นั่นเอง แต่หากเข้าใจความหมายที่ซ่อนเร้นไว้ ก็จะพบความหมายอันแท้จริงจ้า ควรหัดเอาไว้นะจ๊ะ รักมากๆเสมอ แก้วประเสริฐ.
20 พฤษภาคม 2554 13:30 น. - comment id 1194749
คุณ เจมิไน58 สวัสดีจ้าศิษย์เราทุกอย่างย่อมมีภาระกัน ืทั้งสิ้นแหละจ้า งานเขียนของครูนั้นออกไป ลักษณะโบราณเก่าๆ แต่ทุกๆคนล้วนแล้วแต่ ความพึงพอใจของแต่ละคน การเล่นก็เหมือน กันย่อมแตกต่างไป แล้วแต่คนชอบ แต่มีที่ เหมือนกันคือการระบายในสิ่งที่เราอัดอั้นตัน ใจให้หลุดออกไปเท่านั้นจ้า ครูเองคิด ถึงทุกๆคนเสมอๆมากๆเสียด้วย แต่ก็มี สิ่งหนึ่งที่เขาไม่เข้ามาก็เป็นไปตามใจเขา เอง ด้วยความรู้ครูน้อยมากต่ำต้อยเกินไป นั่นเอง ดังนั้นหากไม่จำเป็นครูมักจะไม่ ค่อยรับใครๆไว้หรอก และมักจะกำชับไว้ เสมอๆว่า การเล่นของเราให้เพื่อความ สนุกสนานแก่เราก็พอแล้วไม่ต้องจำเป็น ต้องไปโอ้อวดคนอื่น หรือทะเยอทะยาน อยากจะดัง ทรนงตัวเองจนเลิศลอยไป ทำตัวเราให้เตี้ยต่ำไว้ หากรู้มากก็ความ เตี้ยต่ำมากยิ่งดี คนเรานะ หากจะดังขึ้นมา ไม่ต้องไปแสดงออกหรอกผลงานเรานี่ แหละจะเป็นสื่อนำทางแก่เราเองจ้า ในทำนองเดียวกันก็ให้เตี้ยต่ำให้มากๆด้วยนะ ครูรักและคิดถึงเสมอๆจ้า แก้วประเสริฐ.
21 พฤษภาคม 2554 23:33 น. - comment id 1194924
สวัสดีคะคุณครู Its not easy in this world today to keep oneself from worry. I live in such a high-tech world. Im always in a hurry. จริงๆแล้วเจมิไนยังเขียนกลอนอยู่คะ แต่ไม่ได้ส่งเข้ามาเพราะ... เขียนไม่เคยจบ คุณครูอย่า้พิงเตะเจมิไนออกไปไหนนะคะ ขอให้เอ็นดูไว้ก่อนคะ รักคุณครูจิงจิง
22 พฤษภาคม 2554 00:14 น. - comment id 1194927
คุณ เจมิไน สบายใจจ้าเรื่องงานนี้ต้องทำจิตใจเรา ให้ร่าเริงแจ่มใส สร้างอารมณ์เราให้เพริศแพร้ว ไว้ ก็จะเกิดภาพลักษณ์ขึ้นให้แก่เราเองแหละ เมื่อเกิดสิ่งนี้ ก็นำมาเขียนไว้การเขียนก็ ทำตามที่ครูได้ส่งไปให้แล้วหรือข้อปลีกย่อย ที่ครูมักจะตอบไว้ในกระทู้ศิษย์ทั้งหลาย เสมอๆ ลองย้อนงานครูไปอ่านกระทู้ซึ่ง จะมีมากมายที่ตอบไว้จ้า เรื่องที่เกี่ยวกับ เธอและครูนั้นสบายใจได้เลย ครูรักและ เป็นห่วงศิษย์ครูทุกๆคนเสมอจะคอยเฝ้า ติดตามงาน บอกตรงๆหากเป็นเขียนกลอน ฝรั่งนั้นครูไม่สันทัดเกี่ยวกับคำนั้นๆจึงมัก จะเข้าไปแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจาก จะมีผสมกันก็จะดูเฉพาะภาษาไทยเท่านั้น ส่วนภาษาอื่นพยายามแปลก็เห็นว่าดีแต่ เป็นการเขียนลักษณะกลอนเปล่าหรือ กลอนตลาดที่ใช้ในการบรรยายธรรมชาติ อารมณ์ของเราออกมา ที่จริงก็ดีเหมือน กันนะไม่ต้องคำนึงอะไรมาก นึกได้อย่าง ใดก็สร้างมันประกอบกับสิ่งแวดล้อมเรา เท่านั้น ซึ่งตอนนี้การเขียนแบบนี้แพร่หลาย มากไปเกือบทุกๆประเทศแล้วล่ะ และ ยังสามารถผสมเข้ากับทำนองเพลงได้ อีกด้วย เพราะไม่คำนึงถึงฉันทลักษณ์ เป็นเพียงถ้อยคำที่สอดคล้องกับทำนอง ให้บังเกิดเป็นกลอนขึ้นมา มันเหมาะ สำหรับวัยรุ่นมากๆ หากสมัยก่อนที่ครู เรียนมานั้นเราเรียกกันว่า บทอาขยาน หากจำไม่ผิดนะ เวลาสอบต้องท่องกัน ตาหูเหลือกเชียวล่ะ อันกลอนลักษณะนี้เข้ามาในประเทศฯ ไม่กี่ปีนี้หรอก เป็นคนเชียงใหม่นะจำชื่อ ไม่ได้เสียแล้วซิ และเผยแพร่ในเวปฯนี้ ก่อนนั้นก็มีแต่หายไปแล้วจะมีก็เพียงน้อย นิดเท่านั้นจ้า ครูรักศิษย์ครูมากๆนะและ รักเสมอๆจ้า สำหรับเธอเป็นกรณีพิเศษจ้า แก้วประเสริฐ.