ใคร...ก็ตามที่ไม่มีความสุขกับชีวิต..

ทรายกะทะเล

ฝึกความไม่มีชีวิตอยู่อย่างเป็นสุข   
 
    
 
         สภาวะข้าวยากหมากแพงมักเกิดขึ้นสลับหมุนเวียนกับสภาวะปรกติอยู่ตลอด ในบางช่วงข้าวของก็มีมาก หาซื้อง่าย จะขายก็คล่อง จึงเป็นแค่สภาพการณ์ในแต่ละเวลาเท่านั้น แต่เวลานี้เราต้องอยู่ในสภาวะที่อะไรก็แพงแถมบางอย่างยังหายากอีก แต่เชื่อว่าต้องมีสิ่งอื่นที่ใช้แทนกันได้โดยไม่จำเป็นต้องไปขวนขวายเอาของแพงมาใช้ เช่น น้ำมันหมูในยุคหนึ่งเคยมีราคาแพง เราก็หาน้ำมันพืชหรือน้ำมันปาล์ม น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันรำข้าว มาใช้แทน ซึ่งมีคุณค่าทางอาหารดีกว่าด้วย
ในเมื่อวันนี้ราคาน้ำมันปาล์มแพงและหาซื้อยาก ถ้าไม่จำเป็นต้องใช้ก็น่าจะลองเลี่ยงการปรุงอาหารด้วยน้ำมัน หันไปทำอย่างอื่นที่ไม่ต้องใช้น้ำมันหรือใช้น้อยๆก็ยังพอช่วยได้ ดีต่อสุขภาพของเราด้วย แต่ถ้าจำเป็นต้องใช้จริงๆก็คงต้องลดปริมาณลงสักนิด
ส่วนสินค้าตัวอื่นที่แพงจนรายจ่ายของเราเพิ่มขึ้นก็ต้องรัดเข็มขัดให้กระชับขึ้น เพราะเหมือนฟางเส้นสุดท้ายในภาวะคับขัน หากใช้เกินขอบเขตเราก็แย่ แนวทางแก้ปัญหาประการแรกต้องช่วยเหลือตัวเองก่อน หากคิดแต่จะรอให้รัฐบาลเข้ามาช่วยคงต้องรอนานหน่อย เพราะไม่มีทางเป็นไปได้ว่าจะเป็นรัฐบาลฮิตาชิ คือเปิดปุ๊บติดปั๊บ
แม้ท่านรองนายกฯฝ่ายความมั่นคงจะบอกว่าหลังจากนี้ชาวบ้านสามารถซื้อได้ไม่อั้น เพราะรัฐบาลนำน้ำมันปาล์มสำรองออกมาขายแล้ว ประเด็นนี้นักข่าวหลายสำนักไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้ เพราะชาวบ้านเดือดร้อนมาตั้งนานรัฐบาลยังไม่คิดทำ แล้วทำไมถึงมาคิดทำเอาตอนนี้
ฉะนั้นเราเตรียมตั้งท่ารับปัญหาเหล่านี้กันไว้เถอะ เรื่องของแพงเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เรื่องสินค้าขาดตลาดไม่มีขายก็มีอยู่เรื่อยๆ เราจะต้องทำตัวให้สามารถอยู่กับความไม่มีให้ได้ ไม่ใช่พอไม่มีนิดเดียวก็นั่งห่อเหี่ยว นั่งทุกข์กันแล้ว ถ้าเป็นอย่างนี้แสดงว่าเรื่องของแพง เรื่องของไม่มี ของหมด ของหายาก สิ่งเหล่านี้เป็นตัวกำหนดชีวิตเราไม่ให้มีความสุขอย่างนั้นหรือ
อาตมากล่าวมาทั้งหมดไม่ได้หมายความว่าอะไรแพงก็ให้เลี่ยงไปเลือกใช้ของถูกเสียอย่างเดียว แต่กำลังจะชี้ให้พวกเรารู้จักอยู่กับสิ่งที่ไม่มีให้ได้ ลองคิดถึงคนที่ต้องทำมาหากินอยู่บนดอย อยู่ในป่าในเขา คนเหล่านั้นขาดแคลนสิ่งต่างๆมากกว่าพวกเราเป็นร้อยเท่าพันเท่า แต่ทำไมพวกเขาถึงอยู่กันได้
อาตมานึกถึงตอนที่ยังเป็นเด็ก ตอนนั้นไม่เคยรู้จักนมกล่อง ไม่รู้จักน้ำขวด เจอน้ำขังบนรอยเท้าควายที่ย้ำทิ้งไว้เป็นแอ่งๆยังเอามือช้อนน้ำขึ้นมาดื่มเพื่อประทังความหิว นั่นก็ทำให้อยู่ได้
ตอนนั้นไม่มีอะไรมาอำนวยความสะดวกให้ชีวิต โทรทัศน์ วิทยุ โทรศัพท์ไม่มีแต่ก็อยู่ได้ ฉะนั้นเราต้องหัดอยู่กับความไม่มีให้ได้ เราต้องฝึกให้ชีวิตของเราอยู่ได้ สมมุติวันหนึ่งอาบน้ำแต่สบู่ไม่มี เราก็ลองฝึกไม่ใช้สบู่แล้วหาวิธีการอื่นดู ไม่ว่าจะใช้มือขัด น้ำถูก หรืออะไรก็แล้วแต่ ลองฝึกดูสัก 6 เดือนว่าเราจะอยู่ได้หรือไม่
หากเราเป็นคนเคยตัว ไม่รู้จักการฝึกตน สบู่หมดวันเดียวก็โวยวาย แสดงอาการทุรนทุราย ถ้าหากอาบน้ำแล้วไม่มีสบู่ใช้เราจะทำอย่างไร จะอยู่ได้หรือไม่
ฉะนั้นเราอย่าให้ความไม่มีมาทำลายตัวเรา
เราต้องหัดฝึกความไม่มีไว้เสียบ้าง ต้องฝึกให้อยู่ได้ บางอย่างไม่มีสักวันสองวันก็น่าจะอยู่ได้ บางอย่างไม่มีสักอาทิตย์หนึ่งก็ควรที่จะอยู่ได้ เราต้องฝึกตั้งท่ารับความไม่มีไว้บ้าง แล้วเราจะอยู่กับความไม่มีได้อย่างไม่ต้องทนทุกข์ทรมาน
แต่ถ้าเราไม่ฝึก คิดแต่จะต้องอยู่อย่างเดิม หากวันใดชีวิตเกิดไม่มีสิ่งนั้นสิ่งนี้แล้วทำให้เราอยู่ไม่ได้ ต้องโมโหโทโส ต้องเครียด ต้องตีอกชกตัวเขกหัวร่ำไห้ อย่างนี้ชีวิตคงไม่ดีแน่ คนเราบางครั้งต้องฝึกซ้อมอยู่บ่อยๆ ขนาดจะเข้ารับปริญญายังต้องฝึกซ้อมกันก่อน พอถึงเวลารับจริงก็ทำได้เป็นขั้นเป็นตอน หรือการรับตำแหน่งอะไรก็คงไม่ต่างกัน เพราะจะต้องมีการฝึกซ้อม
หากเราจะซ้อมรับความจริงของโลกใบนี้ว่ามีทั้งขาขึ้นขาลง มีได้มีเสีย มีบวกมีลบ มีถูกมีแพง มีสมบูรณ์ก็ต้องมีขาดแคลน ฉะนั้นเราจึงควรตั้งท่าฝึกซ้อมรับกันไว้ให้ดี
บางครั้งเราอย่าไปคิดแย่ๆทุกเรื่อง เมื่อข้าวของแพงก็ต้องแพง ปล่อยมัน แต่เราต้องคิดว่าจะทำอย่างไรถึงจะอยู่ได้ ไม่ใช่คิดแต่จะโวยวาย คิดดูว่าเราจะบริโภคอย่างอื่นที่ไม่แพงได้หรือไม่ จะได้ไม่ต้องมานั่งทุกข์ทรมานใจ ยิ้มได้แม้ต้องเจอกับข้าวของที่แพงเหลือเกิน
เราจะไม่ต้องมานั่งอกสั่นขวัญแขวนกับการขึ้นๆลงๆของราคาสินค้า ควรปรับตัวตามมันไปแล้วเราก็จะชำนาญในการปรับตัว ครั้งต่อไปเชื่อว่าเราจะรู้และเข้าใจเพราะเห็นว่าอะไรเป็นปัจจัยเสี่ยงที่นำไปสู่ความขาดแคลน ความไม่มี และจะต้องเจอแน่
วันนี้อยากให้ยืนสู้กับมันด้วยความท้าทายว่าเราจะอยู่ได้ ต่อให้แพงกว่านี้ก็จะอยู่ให้ไหว นั่นแหละถึงจะถือว่าเกิดมาเป็นมนุษย์ผู้ไม่เสียที และโชคดีที่มีหลักพระธรรมคำสอนทางศาสนามาช่วยเยียวยา
เจริญพร
ที่มา : นิตยสารโลกวันนี้วันสุข ปีที่ 6 ฉบับ 300 วันที่ 26 กุมภาพันธ์  4 มีนาคม พ.ศ. 2554 หน้า 25 คอลัมน์ พระพยอมวันนี้ โดย พระพะยอม กัลยาโณ				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน