๐........ ค่ำคินนั้น....... คืนที่แสง แห่งจันทร์ อำพันฉาย ทอแสงงาม ท่ามฟ้า ดาราราย หนึ่ง หญิง-ชาย หมายมั่น สานฝัน เรา ๐ สัญญาใจ ให้กัน ผูกพันคล้อง จะประคอง สองใจ มิให้เฉา สานรักอยู่ คู่กาล ตราบนานเนา จะเป็นเงา เฝ้าเคียง เพียงกมล ๐........ ค่ำคืนนี้....... ในราตรี ที่ฟ้า นภาหม่น จันทร์สลัว มัวดับ ใจอับจน ให้ทุกข์ทน วนคว้าง สิ้นทางจร ๐ ทุกความฝัน พลันหาย มลายสิ้น ทุกความหวัง พังภิณฑ์ จนจินต์หลอน ทุกนิยาม ความหมาย ก็คลายคลอน สิ้นอาวรณ์ ก่อนใจ มีให้กัน ๐ ทิ้งให้เรา เศร้าโศก ในโลกเหงา ทิ้งให้เรา เศร้าใจ ในโลกฝัน ทิ้งให้เรา เฝ้าหา ด้วยจาบัลย์ ทิ้งให้เรา เศร้าศัลย์ เกินบรรเทา ๐ รอยอาลัย ในยาม สิ้นความหมาย บทสุดท้าย คล้ายอยู่ เคียงคู่เหงา ถึงอยู่ใกล้ ได้เคียง ก็เพียงเงา กับความเศร้า เร้ารุม เข้าสุมใจ ๐ เหมือนตอกย้ำ ค่ำคืน อันขื่นนัก เธอตัดรัก หักจน ใจหม่นไหม้ สิ่งสวยงาม ความหลัง กลบฝังไป ทิ้งฉันไว้ ให้รับ ซึมซับลวง...... ๐ จวบรุ่งสาง พร่างพราย แดดฉายสาด ยังหมายมาด วาดหวัง ถึงฝั่งสรวง จึงบนบาน สานคำ มาบำบวง ปลุกปลอบห้วง ดวงมาน อันรานร้าว ๐ อย่าทิ้งใจ ให้คว้าง บนทางฝัน อย่าผลักไส ในวัน อันเหน็บหนาว ให้รักบาน สานก่อ เป็นช่อพราว นำรักสร้าง ทางยาว ให้ก้าวเดิน..........
29 เมษายน 2554 03:39 น. - comment id 1192040
แนะ แนะ สงสัยอยากให้เล่านิทานต่ออีกสักเรื่อง ได้ๆ... เด่วบ่ายๆมาเผา...เอ้ย..เล่าใหม่...
29 เมษายน 2554 08:43 น. - comment id 1192043
ยัยอ้วน... ที่หนึ่งอีกแระ... ว่าแต่เมื่อคืนร้องคาราโอเกะเพลงไรอ่ะ. ฉันเมาเพราะเขาเมินป่ะ.. อิอิ
29 เมษายน 2554 11:50 น. - comment id 1192075
อุษาสางเคลื่อนแสงเข้าแต่งคาบ กวาดกลบภาพราตรีลับลี้หาย ดวงจันทร์งามเลือนลับดับแสงพราย ดารารายผันล่วงจากสรวงแดน งามภาพงามแห่งฝันก็พลันจบ ทิวาลบร่องรอยของร้อยแสน- จินตภาพเลือนหมดถูกทดแทน ด้วยเปลือกแก่นทั้งผองของโลกจริง มิอยากพบความจริงทุกสิ่งสรรค์ ด้วยวารวันโหดร้ายทำลายสิ่ง- ที่ถักทอก่อรักหวังพักพิง กลับถูกทิ้งถูกขว้างเพราะวางใจ ว่าดวงมานสองเราที่เฝ้าสร้าง จักมิร้างลากันแม้นวันไหน ตราบสูรย์สิ้นดินหายสลายไป จักมั่นในวาจาสัญญารัก มาดแม้นใครผิดคำจงช้ำชอก ปฎักตอกทิ่มทรวงให้หน่วงหนัก อยู่ท่ามความมืดมนร้างคนภักดิ์ จึ่งสลักคำมั่นหมายสัญญา แต่ยามนี้ใครเล่าต้องเศร้าสร้อย รักจางรอยเลือนไปเกินไขว่หา ใครกันหนอผิดคำจำนรรจา สัตย์สัญญาลอยหายกับสายลม คนผิดคำมั่นหมายลับหายสิ้น ผลักชีวินคนอยู่คู่ขื่นขม ดวงฤทัยห้อมล้อมด้วยตรอมตรม เกินจักข่มล่มเจ็บที่เหน็บทรวง คงได้แต่รอคอยวันคล้อยแสง ราตรีแปลงคาบจับประดับสรวง คอยดาราพร่างพรายเรียงรายดวง เพื่อผันช่วงวันโศกของโลกจริง คงได้แต่รอคอยวันคล้อยแสง เพื่อทอนแรงโศกเศร้าที่เข้าสิง หวังดวงมานล้าหนักได้พักพิง และหยุดนิ่งในฝันอนันต์กาล ...แวะมาอ่าน..ผ่านมาแจม...
29 เมษายน 2554 14:51 น. - comment id 1192091
บทกลอนไพเราะมากค่ะ แต่ปนเศร้านิดๆเนาะ
30 เมษายน 2554 10:50 น. - comment id 1192206
น้าๆวันนี้พี่ๆน้องๆเขาไปเที่ยวกาญจน์กัง พี่สาวไปมนต์เสน่ห์ริเวอร์แคว ส่วนพี่ชายไปตกปลาที่แพเขื่อนศรี ส่วนคุงหลานเปงปู่โสมเฝ้าทรัพย์ พรุ่งนี้ไปพัทยาจ้าคุงน้า เปงไงทางใครทางมังป่ะคะคุงน้า
30 เมษายน 2554 12:44 น. - comment id 1192241
เพราะมาก ผมอินมากโดนผมสุดๆ