ลืมแล้วถิ่นบ้านนาป่าพงไพร หลงแสงสีศิวิไลในบางกอก ลืมมันสิ้นไร่นาที่บ้านนอก เจ้าทิ้งคอกวัวควายไปหลายปี ทิ้งแม่แก่แย่แล้วแถวท้องทุ่ง มุ่งสู่กรุงจรุงกลิ่นถิ่นแสงสี หลงบางกอกร่าเริงใจไม่ใยดี หลายขวบปีที่ไร้เงาแม่เศร้าใจ จากพื้นดินสู่ดาวสกาวฟ้า เธอมุ่งหน้าสู่แสงสีที่สดใส ลืมบ้านป่าลื้มสิ้นแล้วหรือไร ไม่ห่วงใยแม่เฝ้าคอยบนดอยภู ได้นุ่งผ้าห่มแพรเจ้าแน่นัก ลืมความรักไม่สลดน่าอดสู ลืมอ้อมอกของแม่เคยเลี้ยงดู ลืมแล้วบ้านเคยอยู่อู่เคยเนา ได้ยินเสียงเรียกขานกลับบ้านเถิด อย่าเตลิดแม่เฝ้าคอยอย่างหงอยเหงา หรือจะรอ แม่สิ้นใจ ไปก่อนเรา สะใจเจ้า..แน่แล้ว..แก้วลืมดง
25 เมษายน 2554 21:36 น. - comment id 1191736
หยาดน้ำตาผู้แม่ที่แก่เฒ่า เหม่อมองเฝ้าลูกน้อยคอยมาหา ตะวันคล้อยเดือนลับไม่กลับมา หลากปีพาสะท้อนมิผ่อนคลาย เคี้ยวหมากไปคิดย้อนตอนเป็นเด็ก เจ้ายามเล็กซุกซนปนกลัวหาย เที่ยวร้องเรียกร้าวรอนมิผ่อนกาย กลัวลูกตายร้องไห้ใจร้าวรอน สัญญาไว้กับแม่แผ่ความรัก เราสองจักไม่ทิ้งอิงพักผ่อน คอยลูกน้อยจนหลับกลับมินอน โบกพัดตอนไล่ยุงมุ่งเติบโต ครั้นเติบใหญ่ใจเจ้าเฝ้ามุ่งมั่น หวนรำพันรักแม่แผ่อักโข พอเป็นสาวหนุ่มมาพาเฉโก ตะวันโผล่หายลับไม่กลับมา หยาดน้ำตาหลั่งไหลให้หงอยเหงา ใจแสนเศร้าแทบขาดมิอาจหา ด้วยกำลังสูญหายคล้ายลับลา คอยลูกยาขาดใจไร้ลมปราณ. แจมหน่อยนะครับด้วยรักนะ แก้วประเสริฐ.
26 เมษายน 2554 09:31 น. - comment id 1191755
คุณแก้วประเสริฐครับ ขอบคุณครับที่ช่วยเติมเต็ม..กลอนเพราะ มากครับ..เนื้อหากินใจครับ
26 เมษายน 2554 09:47 น. - comment id 1191763
26 เมษายน 2554 18:14 น. - comment id 1191793
.............. วันที่แม่รอรับลูกกลับบ้าน แต่เจ้าปานดวงใจไม่มาหา แม่ขื่นขมตรมเศร้าร้าวอุรา นั่งนับวันเวลาลูกมาเยือน จนวันนี้ดวงใจแม่ไร้หวัง เจ็บเหมือนดังคมมีดมากรีดเฉือน ลูกไปแล้วไปลับไม่กลับเรือน แม่สะเทือน...โอ้อนาถ....แทบขาดใจ ..................
27 เมษายน 2554 04:00 น. - comment id 1191815
วันนี้.... ไม่มีพ่อแล้ว วันนี้.... เหลือแม่คนเดียว วันนี้.... รักแม่ที่สุด วันนี้..... จึงทำทุกอย่างเพื่อแม่ เท่าที่เด็กดอยคนหนึ่งจะทำได้ วันนี้.... จึงหมั่นโทร.หาแม่ วันนี้.... จึงพยายามกลับบ้านทุกช่วงเทศกาล วันนี้....
27 เมษายน 2554 17:15 น. - comment id 1191882
สวัสดีครับแวะมาทักทายครับ