๐ ปีกแห่งรัก ๐ ..๏ ปีกรักยากหักแล้ว.......เหลี่ยมลา หลบแฮ ราตรีสิเน่หา.....................ห่อนคว้าง ซ่านเสียงผ่านรุจา............ห่มห่อ ฝากเนาว์ โลมลูบไล้ซ่านสล้าง........ม่วนแต้วาบไหว๚ะ๛ ..๏ ปีกรักยากหักแล้ว สุดผ่องแผ้วลับลาไกล หวานซึ้งทั้งนอกใน พลิกวาบหวามตะลึงแล หนทางใช่ร้างเหตุ มณฑลเขตยังเผยแผ่ ฝันใฝ่ครั้งมวลแล โชควาสนามาเชยชม ฤดูเปลี่ยนรสสร้าง สู่เลือนลางที่เสพย์สม กลิ่นหอมอวลภิรมย์ อุ่นอิงไว้ไล้ลูบเชย อาหารทิพย์ส่งกลิ่น ย่อมถวิลใคร่พึงเสวย บ่วงฝากรักล่วงเลย สิ่งแดนฟ้ามาสู่ครวญ วิมานรักสล้างจิต ล้วนสถิตย์คิดใคร่หวน พักตร์เจ้างามเย้ายวน ปานอัปสรอมรเทวี แม้นจากยังฝากรัก สวามิภักดิ์แม่มารศรี สาวสวยทุกกรณีย์ มิอาจล้างสิ่งอาวรณ์ พิลาสเหม่อมองฟ้า ปวงเมฆาล่องลอยจร ห่วงหาแสนอาทร ห้วงฉะนี้มิอาจเลือน สำเนียงถ้อยตรึงใฝ่ รำลึกใจมิได้เฝื่อน คิดถึงม่านดาวเดือน สิ้นแลลับยังนับคอย ดุจต่ายน้อยแหงนฟ้า แลจันทราสุดละห้อย นวลเอ๋ยรักมิลอย ผูกพันไว้ใฝ่คำนึง ปีกแห่งรักผุดผ่อง ดุจละอองยองใยถึง พันผูกสุดตราตรึง ดวงใจน้อยคอยเวลา กานต์เอ๋ยเจ้ากานดา บุญนำพาใคร่มาหา ซึ้งโฉมลุ่มลึกมา เงาโลมรักประจักษ์ใจ๚ะ๛ ..๏ กานต์เอ๋ยเจ้ากานดาของข้าเอ๋ย ดวงจันทร์เผยลำยองสุดผ่องใส ผ่านนุ่มเนื้อผุดผ่องเป็นยองใย จนคลั่งไว้ห้วงจิตยากคิดเลือน ..๏ พักตร์น้องเจ้างามเด่นเช่นฟากฟ้า ครวญใฝ่หาพลิกพริบระยิบเฉือน ห้วงแห่งรักโหยหวนปั่นป่วนเยือน ใจข้าเสมือนเหี่ยวร้างอยู่กลางนภา ..๏ สบม่านเมฆหมอกอวลป่วนดำคล้ำ ฝากลมพร่ำผ่านช่วยระทวยหา ปีกแห่งรักหลากล้นยามพ้นมา ซ่านกานดาค่ำเช้าแสนเฝ้าปอง ..๏ รักเจ้าเอ๋ยอย่าเป็นดุจเช่นนี้ กาลนาทีสร้างไว้ฝากให้หมอง ทุกอย่างผันเปลี่ยนเวียนใยยอง ความเรืองรองสีสรรอย่าผ่านไกล ..๏ ประสบการณ์ที่เห็นมักเช่นนี้ ล้วนมากมีหลงใหลมิคว้าไขว่ จะอวลอบรอบข้างเพื่อสร้างใน ความสดใสหวนคิดยากบิดเบือน ..๏ ยิ่งมองฟ้ายามเพ็ญที่เด่นสล้าง สมสู่สร้างซ่านไว้ดุจคล้ายเฉือน สิ่งไหวหวั่นฝากให้ดูคล้ายเลือน อย่าให้เหมือนดวงจันทร์ดั้นเมฆา ..๏ ปีกแห่งรักห้วงนี้พลีเพื่อเจ้า ทุกค่ำเช้าครวญคร่ำเฝ้าพร่ำหา หวั่นจะหักแรมร้างเลือนลางมา เป็นบ่วงผวาร้อนรุ่มดังสุมเพลิง ..๏ ลมเจ้าเอ๋ยเผยรักฝากผ่านเคล้า สิ่งคลอเย้าจากใครอย่าใฝ่เหลิง มิผันเปลี่ยนเผื่อไว้อย่าได้เถกิง หลงระเริงมากนักจากคนไกล๚ะ๛ แก้วประเสริฐ. (ภาพนี้ขอจากคุณ ครูกระดาษทราย ขอรับท่านที่รัก)
7 เมษายน 2554 19:18 น. - comment id 1189889
คุณ กุหลาบขาว ดีใจที่มาเยี่ยมอีกจ้า การเล่นกลอนแปด หากได้แปดคำไว้ก่อนต่อไปก็เอาคำกล้ำ มาประสานกับคำนั้นแต่ต้องให้สอดคล้องไว้ ดังที่เธอเล่นมาส่วนมากนั้นเขาจะเล่นกัน แบบคำต่อคำกล้ำกันจึงกลายเป็นกลอน ตลาดไปจ้า หากเราฝึกไว้จนคล่องแล้ว ก็จะตัดกลอนที่เขาเรียกว่ากลอนพาไป จ้า นี่รักดอกเห็นว่าพยายามเล่นนักแต่ คงจะติดกลอนตลาดทำให้เกิดความยาก แต่หากหัดเล่นจนชืินจะเกิดทักษะเรา ให้คิดค้นหาอักษรมาเล่นเท่ากับเป็นการ ยิงนกทีเดียวได้สองตัวกลอนก็จะพลิ้วไหว และยังสามารถนำไปเล่นอย่างอื่นได้ ไม่ยากจ้า นี่รักดอกจึงบอกให้อย่าว่ากัน นะจ๊ะแม่กุหลาบขาวแสนสวย รักมากเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
7 เมษายน 2554 19:20 น. - comment id 1189890
คุณ กุหลาบขาว แม่กุหลาบแสนสวย ผิดถือว่าเป็นครู หากรู้ก็ควรแก้ไขจ้า ผมเองเล่นมาพอสมควร ยังผิดพลาดได้ ยิ่งสายตาไม่ค่อยจะดีด้วย แล้ว ใจไปก่อนมือมักจะพิมพ์ผิดเสมอๆจ้า แต่พอรู้ก็จะรีบแก้ไขเหมือนกันนะ หากไม่รู้ ก็แล้วไป อิอิ กลอนของเรานี่นาเน๊อะๆๆๆ รักเสมอๆจ้า แก้วประเสริฐ.
7 เมษายน 2554 14:57 น. - comment id 1189906
เมื่อปีกรักโบยบินถึงปูนนี้ ขนปีกล่วงไม่มีสิ่งใดเหลือ จะโบยบินแต่ละครั้งดั่งเรือเกลือ คงเป็นเหยื่อเวรกรรมที่ตามทัน ฝันเท่านั้นที่ยังสดใส อิอิ มาเย้าป๋าแก้ง่วงน่ะครับ
7 เมษายน 2554 14:58 น. - comment id 1189907
ปีกแห่งรัก...จะโบยบิน...ในจินตนาการ สบายดีนะคะ คุณแก้วฯ รักษาสุขภาพด้วย อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย
7 เมษายน 2554 15:05 น. - comment id 1189909
คุณ ฤกษ์ รูปหล่อ แม้จะแก่ถึงวัยในปูนนี้ แต่ยังมีร่างกายที่สดใส แม้เป็นหนุ่มเห็นแล้วแผ่วดวงใจ โอ้โหใยเปล่งปลั่งดั่งมณีกาญจน์. ฮ่าๆๆๆขอบใจมากพ่อรูปหล่อ ใครเล่าจะรู้ เห็นแล้วอย่าร้องก็แล้วกัน ฮ่าๆๆๆๆ รักมากเสมอๆจ้า แก้วประเสริฐ.
7 เมษายน 2554 15:15 น. - comment id 1189916
คุณ มะกรูด แม่มะกรูดสาวงามแดนอีสาณ ดั่งวิมานแก้วพร่างสร้างผุดผ่อง ดุจอัปสรสวยเด่นเป็นลำยอง เพียงละอองแลเห็นเป็นเบิกบาน กลิ่นเย้ายวนโชยเด่นเช่นมัณฑนา เป็นวาสนาคนเคียงเยีี่ยงประสาน ขอขอบคุณห่วงใยในเจือจาน สร้างใจซ่านคิดถึงตรึงอาวรณ์. ขอบคุณมากครับแม่มะกรูดแสนสวย ผมเลยเย้าเล่นนิดหน่อยคงไม่ว่ากันนะ ครับในฐานะคนเก่าคนแก่ด้วยกัน ฮ่าๆๆๆ รักมากเสมอๆจ้า แก้วประเสริฐ.
7 เมษายน 2554 15:34 น. - comment id 1189922
7 เมษายน 2554 15:49 น. - comment id 1189928
คุณ น้ำตาลหวาน ขอบคุณจ้าแม่น้ำตาลคนสวย อิือิ ก็สวย จริงๆนี่นา แก้วประเสริฐ.
7 เมษายน 2554 16:18 น. - comment id 1189932
หัวใจรัก..ติดปีก..บินหลีกหลบ มาสยบ..แด่เธอ..ละเมอหา ภูเขาสูง..กั้นกลาง..หว่างเมฆา มิอาจมา..ฃาวงกั้น..รักดั้นไป...
7 เมษายน 2554 16:19 น. - comment id 1189933
แก้ไขจ้า... หัวใจรัก..ติดปีก..บินหลีกหลบ มาสยบ..แด่เธอ..ละเมอหา ภูเขาสูง..กั้นกลาง..หว่างเมฆา มิอาจมา..ฃวางกั้น..รักดั้นไป...
7 เมษายน 2554 16:36 น. - comment id 1189935
รักร่วมสร้างหว่างภพมิจบสิ้น จึงถวิลร่ำไห้ดวงใจผวา ด้วยปีกรักถักทอต่ออุรา ยอดปรารถนาคือเธอใช่เพ้อครวญ ^ ^ หวัดดีค่ะครู ขอแจมสักบทค่ะ..ครูสบายดีนะคะ รักษาสุขภาพด้วยค่ะครู
7 เมษายน 2554 19:24 น. - comment id 1189942
คุณ เทียนหยด ดีแล้วล่ะจ้าฝึกหัดแต่งกลอนสดๆไว้ จะทำให้จิตเราเป็นกลอนได้อีกแบบหนึ่งนะ เขียนมาเถอะครูจะได้ตรวจสอบให้ด้วยนะ แต่บอกตรงๆไม่อยากจะบอกทางนี้ด้วยจะ ทำให้ศิษย์รักเราเสียหน้าไป อิอิ แต่ดีแล้ว ล่ะ พยายามฝึกที่ครูบอกให้ได้นะ จะเล่น แต่งสดๆได้อย่างดี จิตเป็นกลอน กลอนเป็น จิตให้รวมตัวเป็นหนึ่งเดียวนะจ๊ะ เดี๋ยวนี้เก่งขึ้นมากๆแล้วล่ะจ้ารู้จัก การหลบหลีกคำหาคำมาเสริม ดีมากจ้า รักศิษย์เรามากๆๆเสมอจ้า แก้วประเสริฐ.
7 เมษายน 2554 23:52 น. - comment id 1189970
เห็นแหวนเพชรเม็ดวาวพราวพริบพลิ้ว มองดูนิ้วว่างเปล่าเศร้าใจแสน เพราะพรุ่งนี้ต้องเดินทางไปต่างแดน จำจากแหวนดวงใจไห้ระทม... ราตรีสวัสดิ์ค่ะคุณครู
8 เมษายน 2554 07:58 น. - comment id 1189983
สวัสดีครับคุณครู ผมกำลังจัดการกับความไม่ลงตัวของชีวิตอยู่ครับ...มาอ่านงานคุณครูแล้วมีความสุขดีครับ
8 เมษายน 2554 10:24 น. - comment id 1189994
๐ ขยับโยกโบกป่ายรำพายปีก ร่อนซ้อนหลีกเมฆราวพลิ้วเบาไหว ดุจระเริงเทิงชั้นอันอำไพ ระริกรอบยอบใยเส้นระโยง ๐ บุหรงเริงเวิ้งท่ามเวหาถ้วน หลงรัญจวนแรมถิ่นอินทร์โอ่โถง อิสระเกษมสันต์ร่ำจรรโลง จำเรียงโก่งร้องกานท์ผสานกลืน ๐ บุหรงรำว่ายเวิ้ง......เวหน อิสระกรุ่นสกนธ์.....กลั่นซ้อน ระบำร่ำบ่าบน...... บรรจบ สถิตย์ทั่วสะท้อน.....ท่วมรั้งรักโถม ฯ แวะมาเยี่ยมครูแก้วครับ
8 เมษายน 2554 12:58 น. - comment id 1190030
คุณ ครูกระดาษทราย แหวนวงนี้ท่านได้แต่ใดมา อ้ออ้อจาก สาวสวยกานดา มอบให้ ฮ่าๆๆๆ ขอให้เดิน ทางไปกลับโดยสวัสดิภาพนะ เที่ยวให้สนุก สงกรานต์แล้ว แต่ให้เตรียมเสื้อหนาวไป ด้วยนะ ด้วยอุตุบอกว่าเมย.นี้จะหนาวมาก รักครูมากเสมอ แก้วประเสริฐ.
8 เมษายน 2554 13:05 น. - comment id 1190031
คุณ อินสวน อย่าว่ากันนะครับปัจจัยแห่งความสุข คือการรู้จักละวางด้วยจิตใจเรานี่แหละ ก่อนจะมองคนอื่น ควรมองตัวเราไว้ก่อน เสมอๆ ให้คิดเสมอๆว่า อันกายเรามันเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตาแล้ว สิ่งบที่เราประสงค์ นั้นย่อมเหมือนๆกัน ย่อมจะทำให้เกิดการ ละวางได้ เมื่อเราสามารถมองออกแล้วก็จะเกิด ปัญญาถ่องแท้คิดในสิ่งที่ควรหรือไม่ ความลงตัวหรือไม่ลงตัวนั้นจึงจะเป็น เพียงแค่วัตถุอย่างหนึ่งไป ย่อมจะละวาง ได้ ด้วยสติของเราตั้งมั่นไว้ทำในสิ่งที่ เราทำได้ วางในในสิ่งที่คิดว่าทำไม่ได้ ความทุกข์ก็ย่อมเบาบางลง นอกจากเรา จะทิฏฐิมากๆอันก่อซ้อนเนื่องจากอดีต ของเราทำให้บังในสิ่งที่เราคิดทำไว้นั่น แหละจึงเป็นบ่อเกิดแห่งทุกข์ฝังไว้ทั้ง มวลครับ ลองปฏิบัติดูซิครับทำใจเรา ให้ว่างๆไว้ คิดเสมอว่าทุกอย่างมันต้อง เปลี่ยนไปทุกขณะจิตนั้นเอง ครับ ขอบคุณที่เผยให้ผมทราบและ เรียกผมเช่นนั้น จึงขอเพียงแนะนำ ทดลองก่อนแล้วค่อยเชื่อนะครับ รักเสมอครับ แก้วประเสริฐ.
8 เมษายน 2554 13:18 น. - comment id 1190032
แม้ยามแดดแผดเผากายเราร้อน จงพักผ่อนเกาะกิ่งอิงพฤกษา อยู่ใต้ร่มเงาไม้ก่อนไลลา ค่อยบินหาความรักประจักษ์กัน แวะมาสวัสดีคะครูฯ ทำงานต่อก่อนนะคะ
8 เมษายน 2554 13:25 น. - comment id 1190033
คุณ กิ่งโศก ครูอ่านงานเธอทั้งกลอนโคลงสมแล้ว ที่ครูมองคนไม่ผิดหรอกตั้งแต่เห็นเธอวัน แรก ก็อ่านใจเธอออกเพียงแค่สนทนากัน ครูรู้ทันทีว่า สิ่้งที่ครูหวังไว้ได้บังเกิดแก่ครู แล้ว จะวิจารณ์ดังนี้ กลอนนั้นเป็นกลอนเล่นสำนวนคำซ่อน รูปได้อย่างเนียน โคลงก็เช่นเดียวกัน การเล่นสำนวนคำซ่อนรูปนั้นหากเล่นมาก ไปอย่างคนอื่นเล่นคือแต่ละบทนั้นจะ แยกกันแล้วเอามารวมกัน ความนุ่มลึก เนียนของอักษรสำนวนจะเกิดขึ้นเพียง แค่วูบเดียวหายไป แต่นี่เธอเล่นในทำ นองเดียวกับครูเพียงแต่ครูจะซ่อนรูปไว้ แค่เบาบางเท่านั้น แต่เธอซ่อนทุกวรรค ตอนแต่ก็ไม่ทำให้เกิดการขัดแย้งกัน ทำให้เกิดความเนียนต่อเนื่องกันนับได้ ว่าเธอค้นพบหนทางการเล่นได้แยบยล ดีแล้ว ชอบแล้วครูบังเกิดคามภาคภูมิ ใจมาก ทุกๆอย่างการจะเล่นแบบนี้ใช่ว่า ง่ายๆเสียเมื่อไหร่ หากแยกวรรคแล้วบรรจบ มันจะง่ายกว่าการเล่นต่อเนื่องกันซึ่งยาก ในการหาคำมาเรียงร้อยอักษรกับทำนอง ให้อ่านแล้วดูง่ายแต่ยากคือลักษณะของ การซ่อนรูปลักษณ์เอาไว้ อ่านได้หลายๆ แง่มุมของการอ่าน หมายความว่าอ่านได้ ทุกระดับชั้นตามภูมิปัญญาของแต่ละ บุคคล พูดถึงความสวยงานจะงดงามกว่า ที่ครูผ่านมาเสียอีก พยายามรักษาระดับ นี้เอาไว้และเพิ่มให้ แต่การเพิ่มนั้นมัน จะเกิดขึ้นให้แก่เราเองแหละไม่ต้องตั้ง ใจมากนัก เพียงแค่รักษาทรงไว้เท่านั้น การผันเปลี่ยนจะเกิดขึ้นแก่เราทีละน้อย และมั่นคง จำคำครูไว้ด้วยอีกคงจะไม่ นานหรอกนะ ที่จะมาคอยแนะนำ การที่ ครูไม่แนะนำทีเดียวมาแนะนำตอนหลัง ก็หวังให้ทดลองฝึกหัดแล้วค่อยขัดเกลา ดีกว่าจะสอนทีเดียวจะัสลัีบซับซ้อน นี่คือลักษณะการแนะนำสั่งสอนของ ครู ด้วยการติดตามผลงานชี้แนะที่ละเล็ก ละน้อยไว้ก็ย่อมจะเกิดการฝังใจมากกว่า การสอนทีเดียว ด้วยงานร้อยกรองเป็น งานที่ละเอียดอ่อนมาก และขาดง่ายๆ เอาเสียด้วย ดังนั้นแนวการสอนครูแรก จะเพียงแนวทางสำคัญเท่านั้น ต่อไปใน อนาคตเมื่อนานๆจะมีคนมาให้แนะนำก็ ดำเนินแนวทางครูไว้ ผลจะได้มากกว่า เสีย และงานเด็กๆนั้นจะไปได้อย่างรวด เร็วกว่าธรรมดาก็ด้วยรู้จักการปรับปรุงตัว ให้เข้าตามสถานะการณ์ จนเขาจับหลัก ได้แล้วนั่นแหละ แนะแนวจุดอ่อนเขาไว้ ให้มากๆแล้ว ด้วยทุกๆคนจะมีทิฏฐิที่ฝัง ลึกไว้เป็นนิสัยจึงค่อยๆขัดเกลา หาก มองแบบผิวเผินว่าไม่มีอะไรเลย แต่ใน ความไม่มีนั้นคือมีมากที่เขาไม่รู้ ดังนั้น การสอนของครูที่ทำไมศิษย์ครูจึงก้าว หน้าไปได้อย่างรวดเร็วกว่าธรรมดา ก็ คือความไม่มีคือความมีนั่นแหละศิษย์เอย สิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญมากเมื่อเขารู้ด้วยตัวเอง แล้วว่าร้อยกรองเขาทำไมจึงไปได้รวด เร็วนัก ก็จะนึกถึงเราทันทีว่าด้วยเหตุ อันใดนะ รักศิษย์เรามากๆเสมอจ้า แก้วประเสริฐ.
8 เมษายน 2554 13:42 น. - comment id 1190035
คุณ แก้วประภัสสร แก้วแบมเอ๋ย จงอ่านที่ครูแนะนำแก่ เจ้ากิ่งไว้นะเพื่อประกอบการเขียนของเรา ไว้ โดยยึดถือหลักความอ่อนไหวย่อมชนะ แข็งกระด้าง โน้มน้าวจิตให้เพลิดเพลินและ ไม่ลืมลาไป ดีกว่าอ่านครั้งเดียวแล้วก็ลืม เสียสนิท เธอส่งกลอนมานั้นดีแล้วครูจะ ได้ตรวจสอบด้วย กลอนเธอนั้นบางครั้ง จะใช้วรรคที่สามลงท้ายด้วย เสียง เอก โท ซึ่งครูห้ามไว้ การที่ทำนี้เป็นในลักษณะ ของการแต่งเพลงร้องกันย่อมไปตาม ลักษณะของโน๊ตทำนองเพลงจ๊ะ ที่เธอ เขียนมานั้นควรคำนึงถึงคำแปลด้วยนะ เช่น ก่อนไลลา คำไล นั้นไม่มีความหมาย แต่ครูคิดว่าคงจะเป็นในลักษณะ ไป หรือ ใคร่ เสียมากว่าหากคำอื่นจะไม่ผสานกับ ทำนองจ้า รักศิษย์เรามากเสมอ ทุกอย่างอยู่ ที่การทดลอง ซึ่งครูก็คิดเช่นนั้นเธอคง เห็นคนอื่นที่เขามีชื่อเสียงเล่นเธอก็คล้อย ตามไป อันที่จริงผิดมาก แต่หากใช้ดังที่ ครูกล่าวมาแม้จะเป็นกลอนแปดในลักษณะ กลอนตลาดที่ถือเอาโน๊ตทำนองเพลง เป็นหลักก็ไม่ผิดหรอกจ้า รักศิษย์เรามาก เสมอๆจ้า แก้วประเสริฐ.
8 เมษายน 2554 15:23 น. - comment id 1190044
........... แจมด้วยนะจ๊ะครู ถ้าหัวใจฉันนั้นมันมีปีก จะบินหลีกลัดฟ้ามาหาขวัญ ข้ามทะเล....ภูผา....ข้ามฐานันดร์ เพื่อจะดั้นด้นใจไปรักเธอ .....................
8 เมษายน 2554 15:26 น. - comment id 1190045
....ผมถูกหักปีกลงตรงรอยปีก แม้อีกซีกรู้สึกลึกถูกหัก แสนแปลบแสบทรวงถูกลวงรัก ถึงปีกหักรักลวงยังห่วงเธอ..... เฮ้ย...คาระวะค่ะ คุณชาย... เคารพในความสามรถเป็นอย่างยิ่ง....
8 เมษายน 2554 15:29 น. - comment id 1190046
....ความสามารถ ...ไม่ได้มาแก้คับ.... มาบอกกล่าวว่าตกหล่น...
8 เมษายน 2554 15:42 น. - comment id 1190048
ใช่แล้ว บทนี้ดีสุด ถามหน่อยดิ ทำไมทุกคนต้องมีความรักด้วยละ หากรักคือทุกข์ แล้วสุขคืออะไร หากรักคือความเสียใจ แล้ว ทำไมใจต้องการ
8 เมษายน 2554 16:01 น. - comment id 1190056
หอบเอามาฝากแล้วกันค่ะ
8 เมษายน 2554 16:16 น. - comment id 1190057
คุณ ดิน ศิษย์เอ๋ย...แม้ว่าเราเขียนต้องนึกถึงเสียง และทำนองคำไว้ด้วย ที่เธอเขียนนั้น หาก ไม่สังเกตุก็ไม่รู้ว่ามัี้นผิดเสียงทำนองออก ขัดกันเอง ทั้งๆที่ความหมายดีมาก แต่การ ใช้อักษรนั้น ควรจะไม่ซ้ำกันหากไม่จำเป็น เน้นนัก จึงทำให้กลอนขัดกันไม่เกิดความ อ่อนไหวต่ออารมณ์ คนอ่านจะชะงักไปไม่ เร้าอารมณ์คล้อยตาม เดี๋ยวครูจะนำของเธอ มาอธิบายให้ฟังนะ ถ้าหัวใจฉันนั้นมันมีปีก จะบินหลีกลัดฟ้ามาหาขวัญ ข้ามทะเล....ภูผา....ข้ามฐานันดร์ เพื่อจะดั้นด้นใจไปรักเธอ สองวรรคสอดรับคล้องจองกันดีแล้วล่ะ ส่งสองบทหลังมันจะขัดกันไม่อ่อนไหว ข้ามนั้นเองที่ทำให้เกิดขัดกันเองหาก เป็น ข้ามทะเลภูผาผ่านฐานันดร์ อักษรผ่านกับคำว่า ภูผานั้ันออกแนว เสียงสูงแต่เธอเน้น ข้ามก็จะเห็นว่าคำ ระหว่าง ผา กับ ข้าม มันจะขัดกันในตัว เสียงของอักษร ควรหาคำอื่นที่สอดคล้อง มาแทน แล้วไปรับกับคำลงท้ายไว้ด้วย ดังที่ครูสร้างไว้ให้ สำนวนคำจะสอดคล้อง และกระชับอารมณ์ คำว่า ข้าม กับ ผ่าน จะมีความหมายใกล้เคียงแทบจะเหมือน กันเลย แต่เสียงมันจะตรงกันข้ามไปจ้า อีกวรรค เพื่อจะคั้นด้นใจไปรักเธอ เธอต้องการที่จะนำคำว่า คั้นมารับกับ นันดร์ แต่คำว่าคั้นดัน คำว่า คั้น ขัดกับ คำว่าด้น มันขัดและไม่ไพเราะนะ ทำไมละจะเมื่อรักเขาแล้วต้องมีอาการ อย่างนี้หรือ มันจะขัดกับสองท่อนแรก อีกประการหนึ่ง คำคั้นเสียงสูง ด้น ก็เสียง สูง แต่เป็นเสียงสูงตัวช่วยจะออกแนว เสียงจัตวาพบกับจัตวา มันซ้ำกันจะไม่งาม เพื่อจะคั้้นดวงใจไปรักเธอ. คำว่าคั้น จะออกแนวเสียงสูงแล้วไล่ลง เสียกลางต่ำค่อนข้างกลาง ฉะนั้นทำนองเสียงในตัวอักษรกับทำนอง ของกลอนต้องประสานกันด้วยนะ ความหมายจะงดงามกว่า หรือเธออาจจะค้นหาอักษรที่ดีกว่านี้ได้ ครูเอง เพียงเอา คำที่เธอต้องการ คือ คั้น มาหาอักษรเสียงทำนองไว้ให้ดูจ้า พยายามต่อไปดีแล้วล่ะเขียนไว้ให้ครู เพื่อจะได้แนะนำสิ่งเล็กๆน้อยๆไว้ให้เธอ ได้พิจารณานะ รักศิษย์เราเสมอ แก้วประเสริฐ.
8 เมษายน 2554 16:21 น. - comment id 1190060
คุณ ทางแสงดาว เก่งมากครับเป็นกลอนสำนวนซ่อนรูป แฝงคำคมไว้อีกด้วย เก่งเหมือนคนเขียน เน๊อะ ฮ่าๆๆๆๆ รักมากเสมอจ้า แก้วประเสริฐ.
8 เมษายน 2554 16:22 น. - comment id 1190061
คุณ ทางแสงดาว ฮ่าๆๆๆผมเองก็พิมพ์ผิดบ่อยเหมือนกัน ด้วยใจมันเร็วกว่ามือ ไปไม่ใช่แก้ด้วยนะ ขอชมอีกครั้งกลอนนี้แม้ว่าจะซ้ำคำกันแต่ ไม่น่าเกียจครับ ผิดคือครู อิอิ รักมากเสมอ แก้วประเสริฐ.
8 เมษายน 2554 16:37 น. - comment id 1190063
ปีกแห่งรักจักบินไม่สิ้นแรง พลังแฝงเพราะมีรักมากนักหนา กางปีกพลิ้วอยู่เหนือกาลเวลา นามธรรมนำพาให้รื่นรมย์ สวัสดีค่ะคุณแก้วประเสริฐ
8 เมษายน 2554 16:38 น. - comment id 1190065
คุณ อ้อม เป็นคำถามที่ดีมากๆครับ บางคนแก่แล้ว ยังไม่ทราบเลยว่ารักคืออะไรครับ รักเป็น ตัณหา ในทางพุทธศาสนา ที่ติดมา จากกรรมต่อเนื่องสืบทอดกันมา พอเกิดมา ก็เกิดแล้วด้วย สัญญาสร้างไว้แก่วิญญาณซึ่ง รวมถึง จิต เจตสิก ใจ ไว้เรียกว่าธาตุชนิด หนึ่ง ที่เป็นอมตะเกิดก่อนโลกจะมีแผ่นดิน เสียอีกครับ อันนี่ว่าตามอรรสธรรมชาดก นะครับ ปัจจุบัน ความรักเกิดเริ่มแรกที่รู้ตัว จะบังเกิดกับคนใกล้ชิดก่อน อันได้แก่ บิดา มารดา ต่อมาก็พี่น้องญาติต่อสืบ เนื่องกันไป พอโตขึ้นก็จะพบกับคนที่เกิดความชอบ ขึ้น เริ่มแรกจากเพื่อน คนรู้จักกันก่อน แล้วจนมาถึงสิ่งนี้ แต่สิ่งนี้ก็จะมีทั้งสุข และทุกข์ผสมผสานกันในตัวเองเสร็จ สิ่งใดที่ขอบไม่ถูกขวางกั้นเบิกบาน สมัยนี้เรียกว่า สุข สิ่งใดที่ไม่ถูกใจเบื่อหน่าย รังเกียจสิ่งนี้ เรียกว่า ทุกข์ รักนี้ผมเคยจัดนิยามไว้จากประสบการณ์ ให้กระชับเข้า จะเรียกว่ารักแท้ก็ได้ ซึ่ง ต้องมีทั้งสองฝ่ายด้วยกันมีเจตนาอันเดียว กันใจรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน คือ รัก คือ การเข้าใจ รู้ใจ เห็นใจ ซึ้งใจ ช่วยเหลือและัให้เกียรติกัน จึงเป็นความ รักที่สมบูรณ์ หากขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปทั้ง สองฝ่ายก็จะเกิดความทุกข์ขึ้นทันทีครับ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดทั้งสิ้น คนที่อยู่ด้วย กันจนแก่เฒ่านั้นล้วนแล้วอยู่หลักเกณฑ์ นี้ทั้้งนั้น เราโกรธเขานิ่ง เขาโกรธเรานิ่ง ด้วยอารมณ์จิตใจแปรปรวนเสมอๆมา ครับ ผมก็อธิบายให้แล้วนะครับ ทำไมต้องการ ก็ผมบอกแต่ต้นแล้ว ว่ามันเกิดจากกระแสกรรมที่สืบเนื่อง กันมาเรื่อยๆ เกิดๆดับๆทุกภพทุกชาติ หากกรรมนั้นไม่ใกล้เคียงกัน และเกิด จากอธิษฐานจิตกันแล้ว ก็ย่อมเป็นคู่ครอง กัน จะมากน้อยแล้วแต่กรรมเป็นตัวกำหนด คุณสังเกตุไหมว่าคนใกล้เคียงคุณ หรือคนที่คุณพบ บางครั้งก็เกิดความอยาก รู้จักสนิทสนมขึ้นในใจ แต่บางคนที่พอ พบหน้ากันไม่รู้จักกัน คุณก็เกิดไม่ชอบ หน้าเขาทันที อะไรล่ะ ก็ดังที่บอกไว้คือ กรรมเป็นตัวเกิดที่สืบเนื่องกันมาครับ เอาเท่านี้ก่อนนะครับทุกๆอย่างเดี๋ยว เขาจะหาว่าผมบ้า อันที่จริงผมก็เป็นคน บ้าๆบอๆบีองส์ อยู่แล้วล่ะครับ ขอบคุณ ในคำถามที่ดีมากครับ แก้วประเสริฐ.
8 เมษายน 2554 16:41 น. - comment id 1190066
คุณ ผู้หญิงไร้เงา ขอบคุณมากครับกับช่อไม้ที่งดงามนี้ เราต่างก็คบหากันมามากแล้ว ดีใจและรำลึก อยู่เสมอครับ ขอบคุณรักเสมอๆครับ แก้วประเสริฐ.
8 เมษายน 2554 16:44 น. - comment id 1190068
คุณ ดอกแก้ว สวัสดีครับและดีใจอย่างยิ่งที่คนที่ผม ยกย่องเสมอมาว่า เป็นยอดหญิงแห่งธรรมะ เป็นกลอนที่งดงาม ขอขอบคุณอีกครั้งนะ ครับ ในโคลง กาพย์ กลอนนี้ผมจะแฝงไว้ ในธรรมไว้ด้วยจะเห็นหรือไม่ก็ไม่รู้เหมือน กันครับ ถึงความเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไว้ครับ ขอบคุณมากครับ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
8 เมษายน 2554 18:12 น. - comment id 1190084
เพราะมากครับอาจารย์ อยากเขียนแบบนี้บทยาว ๆ ได้บ้างแต่ความสามารถไม่ถึงครับ
8 เมษายน 2554 18:25 น. - comment id 1190093
คุณ สุริยันต์ฯ อย่าคิดว่าแนะนำนำเดี๋ยวคนอื่นจะหมั่นไส้ เอาครับ ผมยิ่งโง่ๆอยู่แล้วก็เล่นไปแบบโง่ๆๆ นี่แหละ การเขียนแบบยาวๆคุณทำได้เสมอๆ ผม เชื่อเช่นนั้น ประโยชน์ถ้าหากเราเขียนได้ ยาวๆแล้ว ร้อยกรองเช่น นิราศ บทลคร บทเห่เรือ สักวา เรื่องราวที่เป็นแบบนิยาย เช่นผมเคยเขียน เรื่องนางกากี มาแล้ว ย่อมไม่เป็นอุปสรรคใดๆเป็นต้น ฉะนั้นผมเริ่มจากแปดบทก่อนด้วยผม รักในกลอนแปดเพราะเป็นบทครูนั่นเอง จึงสามารถเขียนให้สั้นหรือยาวๆอย่างไร ก็ได้ตามใจปราถนา เพียงแต่มีข้อแม้ว่า ต้องฝึกใจกลอนให้เป็นหนึ่งเดียวกันได้ ก็ย่อมไม่เป็นปัญหาหรอกครับ พอนานๆ คุณก็จะรู้หลักเกณฑ์เองแหละครับ รักเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
9 เมษายน 2554 11:26 น. - comment id 1190178
เหมือนปีกนี้อยู่ใกล้ๆตัวเลยค่ะคุณลุง
9 เมษายน 2554 13:19 น. - comment id 1190199
คุณ เพียงพลิ้ว ทึ่จริงลุงเขียนเรื่อยๆเปื่อยๆไปอย่างนั้น แหละไม่มีอะไรหรอก หาเรื่องเขียนเท่านั้น เองจ้าหลานรัก รักหลานมากเสมอ แก้วประเสริฐ
9 เมษายน 2554 13:29 น. - comment id 1190200
คุณ เพียงพลิ้ว ที่จริงลุงเขียนสนุกๆนั่นแหละไม่มีอะไร หรอกจ้า ไปเรื่อยๆเปื่อยๆนั่นแหละจ้า รักหลานเรามากๆๆๆเสมอจ้า แก้วประเสริฐ.
9 เมษายน 2554 13:32 น. - comment id 1190201
คุณ เพียงพลิ้ว วุ่นวายกับคอมฯตั้งแนานนึกว่าคีร์บอร์ด สรุปจับได้เป็นที่เม้าท์เองแหละจ้า ส่งไป กับซ้อนกันนะ แก้วประเสริฐ.
9 เมษายน 2554 14:38 น. - comment id 1190218
ฝนเอาปีกแห่งรักมาฝากค่า
9 เมษายน 2554 14:51 น. - comment id 1190221
คุณ โคลอน ดีใจมากครับ ปีกนี้เป็นปีกที่ผมซาบซึ้ง แก่ใจมากๆครับ ขอบคุณ รักฝนมากเสมอ แก้วประเสริฐ.
10 เมษายน 2554 14:16 น. - comment id 1190500
ระวังด้วยนะคะช่วงนี้ฝนตกบ่อยๆระวังปีกจะเปียก อิอิ ชอบภาพแหวนจังเลยค่ะ ขอสักวงได้คงจะดี
10 เมษายน 2554 14:30 น. - comment id 1190505
คุณ เฌอมาลย์ อือืิ...เจ้าหญิงครับไม่ใช่ของผมหรอก ครับ ของคุณครูกระดาษทรายเขาโน่น ผมมีแค่แหวนทองเหลืองพระเท่านั้นเอง ครับ หากมี อิอิ จะรีบนำไปส่งมอบให้ที่ บ้านเชียวครับ รักมากเสมอ แก้วประเสริฐ.
11 เมษายน 2554 10:17 น. - comment id 1190602
....... ขอบคุณมากจ๊ะครู เม้นท์ของครูมีประโยชน์มาก จริงๆแล้วดินคิดว่าคำว่า "ดั้น" กับ "ด้น" มันสัมผัสกันด้วยตัวอักษรแล้วนะ ไหงมันมาขัดกันด้วยเสียงวรรณยุกต์เสียอีก คงมีอะไรที่จะต้องเรียนรู้อีกมากมาย กราบของพระคุณครูมากจ้า ..................
11 เมษายน 2554 11:47 น. - comment id 1190627
คุณ ดิน เมื่อสมัยก่อนครูก็คิดแบบเดียวกับเธอ นั่นแหละด้วยมันคล้องจองกัน แต่พอศึกษา ไปถึงรู้ว่าเสียงมันจะโดดข้ามไปนะ อ้อ อีกเรื่องหนึ่งครูตามดูงานเธอเสมอๆ เธอ เล่นกลอนตลาดนะ ไม่ใช่กลอนแปด หรือ กลอนอื่นๆด้วย เหตุที่เธอคิดว่าถูกนี่แหละ งานร้อยกรองเป็นงานละเอียดอ่อนมาก หากไม่ค้นคว้าศึกษาจริงๆ จะไม่รู้หรอกจ้า การรับสัมผัสก็เหมือนกันต้องใช้เสียง ที่เหมือนกันหรือคล้ายคลึงมากที่สุด แต่ก็ต้องระวังคำด้วยจะผิดสัญลักษณ์ หรือไม่ของวรรคสองทั้งรับส่งวรรคสาม และวรรคสี่ที่ใช้รับก็เหมือนกันแหละนะ การเล่นกลอนแปดเธอเป็นกลอนตลาด โดยจะผิดง่ายครูสังเกตุว่าเป็นทำนองพา อักษรไปเสียส่วนมาก ดังนั้นครูจึงกำหนด ไว้แก่ศิษย์ทั้งหลายด้วยว่า กลอนแปด นั้น ต้องมีแปดคำรวมทำนองเท่านั้นจะ ยกเว้นคำกล้ำที่ไม่สามารถแยกกันได้จึง อนุโลมหากคำกล้ำนั้นเมื่อแยกคำแล้ว จะมีความหมายในตัวของมันเองนั่นแหละ หากแยกแล้วความหมายมีหนึ่งตัวขาดไป หนึ่งตัวก็ใช้ไม่ได้ ฉนั้นจึงจำเป็นต้อง นำมาผสานกันหากนับทำนองจะเกินไป หนึ่งตัว หากนับคำจะลงตัวพอดี คำแบบ นี้ครูเรียกว่าคำกล้ำ่จึงอนุโลมให้จ๊ะ การเล่นกลอนแปดโดยมีแปดคำนั้น หมายถึงรวมทำนองและเหตุดังต้นที่แจ้ง ไว้นั่นแหละ การเล่นแบบนี้จะไม่มีวันที่ กลอนจะพาไปได้เลยเพราะเราต้องบังคับ อักษรไว้ นี่ขนาดเป็นกลอนธรรมดานะ หากเป็นกลอนเล่นสำนวนคำซ่อนรูปจะ ยากกว่านี้ขึ้นไปอีกจ๊ะ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.