๐ อิทธิ์ฤทธิ์หนุมาน ๐ ๐.................................บัดนั้น...........ลูกพระพายฤทธิ์ไกรเรืองศรี เสร็จศึกอสูรร้ายสุดเปรมปรีดิ์..........ขนกุณฑีลุกสั่นรื่นรม แลสายเดี่ยวสาวน้อยทาบใจ..............ห้วงภายในไหวหวั่นเสพย์สม หวิวซึ้งให้อยากได้เชยชม..................ยอกรบ่มร่ายมนต์ดลนาง ๐...โอมเจ้าเอ๋ยพระเวทย์มนต์กู.........จงสิงสู่ห้วงใจทุกข้าง ให้นางหลงใหลไม่จืดจาง...................ห้วงรักวางจิตใจร้อนไว้ นางสายเดี่ยวถูกต้องมนต์ดลมา.........ร้อนภายในจนสุดผลักไส เข้าสวมกอดวายุทันใด.......................ผ้าผ่อนไร้อาภรณ์หลุดกาย ๐.หนุมานเต้นเร่าเคล้าสวมกอด..จูบอ้อนออดพลิกแพลงโฉมฉาย ปทุมมาศพุ่มพวงแทบละลาย............นางสิ้นอายเลิศล้ำเอวองค์ โหนกหนั่นนุ่มผากนิ่มเอกอุ...............มุทะลุคลึงเคล้าประสงค์ ดอมดมกลิ่นมิอาจลืมลง....................รีบนำส่งนางสั่นลั่นวอน ๐................เมื่อเอยเมื่อนั้น...............ลูกพระอาทิตย์ให้ทอดถอน พระสี่กรตรัสหาร้าวรอน..................มิกราบวอนเผ่นจรออกมา ให้กลัดกลุ้มอุราลุ่มลึก......................รำพึงนึกหลานรักยากหา ลุกจากพระโรงตามหลานยา............หรือจะมาหลงเสน่ห์เล่ห์ใด ๐...พอพบหลานอลวนผลักถลำ.......สาวคะมำตามฤทธิ์ผลักไส หนุมานเต้นเร่านางเร้าใจ.................เมื่อแลไปน้าชายให้กังวล จึ่งอ้อนออดวิ่งเข้าสวมกอด.............น้าจ๋ายอดเยี่ยมหรือไม่สน สาวสายเดี่ยวอวบอัดเหลือทน........ดังหมูปนพริกไทยเผ็ดนาน ๐...ครั้นลูกพระอาทิตย์ฟังไว้.........เหลือบแลไปสาวสั่นเรียกขาน ชิชะดูเจ้าซิเบิกบาน........................งามตระการมาจับสายเอ็น ลูกพระพายครั้นเห็นเปรมปริดิ์......ด้วยนารีนวดเส้นยากเข็น สงสัยนางมิต้องประเด็น................เหลือบมองเห็นน้าสั่นกายี... ๐...............บัดเอ๋ยบัดนั้น...............วายุภักดิ์ฤทธิ์ไกรเรืองศรี มองน้าชายกอดสาวได้ที................ขุนกระบี่เหาะผ่านบัญชร ครั้นถึงขอเฝ้าองค์นารายณ์............พระวุ่นวายตีด้วยคันศร ขุนกระบี่ยากหนีจากจร..................พระสี่กรรับสั่งทันใด ๐...เจ้าจงไปทูลองค์สีดา.................แม่กัลยานวลอนงค์สดใส มาขัดสีฉวีวรรณนอกใน.................ป่วนดวงใจข้านั้นสุดทน ด้วยเสร็จศึกยักษ์นี้แสนไกล............สีดาไซร้กลับไม่มาสน หลงเต้นรำกับสาวปะปน.................จนเป็นผลหดเหี่ยวสิ้นรัก ๐...หนุมานยิ้มเมื่อฟังแก้มตุ่ย.......ทรงเป่าขลุ่ยน้อยไปไม่หัน นุ่งผ้าขาวม้าเหม็นทั้งวัน...............ไม่เหหันนางนั้นคร่ำครวญ เต้นเร่าทดลองมาดอมดม...............แทบเป็นลมฉุนกึกกลั้นสรวล หลายวันไม่อาบน้ำเนื้อนวล...........เหม็นอบอวลยากใครใคร่ชม ๐...........เมื่อเอยเมื่อนั้น.................พระภูมินทร์สงสัยยากข่ม เห็นลิงขาวทีท่าเป็นลม..................สงสัยดมกายหอมละมุน ทรงยิ่งพิศหนุมานที่เฝ้า.................กลิ่นอวลเคล้าผิวกายหอมฉุน เห็นทหารเอกดมดอมละมุน..........คงเป็นบุญได้พรอดนารี ๐...ทรงหันซ้ายแลขวาระริก.........ดุจใครจิกท้องน้อยเจ็บปี๋ กลิ่นเราคล้ายบุปผามาลี.................สามภพนี้ใครเทียบเปรียบนา ลิงตาหล๊อกแล๊คแล้วทูลเอ่ย...........แม่ทรามเชยต้องกลิ่นเสน่หา ย่อมปลาบปลื้มพระองค์นำมา......กลิ่นกายาแม่นางคลั่งใจ ๐...องค์พระรามทรงฟังมิหมอง.......ฟุ้งละอองโปรยรินกลิ่นไล้ วงพระพักตร์ล้วนงามอำไพ..............ด้วยโชยไอสะท้านวังเวง ทรงยกพระหัตถ์ขึ้นดอมดม.............ต้องโอตถิ์ชมดุจบุปผาเผง กล่าวมธุรสกังวานผ่านเพลง.............เจ้าชมเก่งดมปากข้าที... ๐...หนุมานตีลังกาสามรอบ..............แทบตกขอบตาเหลือกหมดสี หงายหลังควานจะหาพัดวี..............พระทรงศรีเอ่ยย้ำตั้งนาน เวรเอ๋ยเวรของกูซะแล้ว..............เหม็นโชยแผ่วยากกล่าวขับขาน กุนฑีขนตั้งชันเนิ่นนาน..................ทูลวันวานเป็นหวัดมากโลม ๐...ขอพระองค์ทรงใช้นิลพัฒน์.........เขาเก่งจัดผ่านมาหักโหม พอสิ้นคำเสียงดังโครมโครม..........หนุมานโน้มเบี่ยงถีบจากลิงดำ นิลพัฒน์กราบองค์พระสี่กร..............พระแม่อรชรชอบสิ่งขำ ให้หนุมานนั่นแหละตัวนำ..................เคยถวายรำแก้ผ้าน่าลอง ๐...พระนารายณ์ได้ฟังยั้งพิโรธ..........ด้วยไม่โกรธเจ้าลิงทั้งสอง นิลพัฒน์เจ้าดมจักแร้ลอง...................พระเนตรจ้องหนุมานยิ้มไป หนุมานมองหัวไวไม่หลบ..................ร่ายมนต์จบแยกร่างกันได้ จำแลงเต่าซ้ายแสร้งชื่นใจ..................นิลพัฒน์ใช้จมูกดมล้มครืน ๐...ขุนกระบี่ฤทธืไกรใจหาญ.........ล้วนชำนาญเล่ห์กลสะอื้น ยอกรทูลนารายณ์กลับคืน.............กลัวลิงฟื้นแสร้งมาพาจร นำนิลพัฒน์จากพระโรงพลัน........ก็เหลือบหันเห็นหมู่สิงขร เหาะทะยานผ่านฟ้าฤทธิ์กร...........มิอาวรณ์กลับสู่พระภูมี ๐...ครั้นถึงวางไว้ใต้ขุนเขา.........แต่ไม่เฝ้าเผ่นหามารศรี เห็นน้าชายไล่ปล้ำนารี................สายเดี่ยวนี้สิ้นผ้าอาภรณ์ อกหนออกกูอดสูนัก....................ที่นำชักอิสตรีอัปสร มิอาจคิดหทัยให้จร......................ห่างสิงขรปาตี้มีงาน ๐...จีบได้แล้วรีบหนีนิเวศน์.....ดั้นสู่เขตป่าใหญ่ไพศาล เนรมิตเรียกนางหานาน..........จูบล้วงถันผ่านสุขซ่าส์ใจ พอฟ้าสางตาเหลืองซีดย้ำ........ดูชอกช้ำแต่สุขสดใส ถึงเคหาเจ็บปวดกระไร............กู่เจี๊ยกไปใยหนองพุ่งปี๋ ๐............เมื่อเอยเมื่อนั้น..........ลูกพระอาทิตย์ฤทธิ์เรืองศรี เสร็จศึกสายเดี่ยวเสียวชีวี.......ตัวสั่นริกรี้ปวดซ่านทวารมา เหลือวซ้ายแลขวาเพื่อหาหลาน....สุดทรมานเจ็บปวดรุมหา แลเห็นหนุมานเหาะผ่านเมฆา.....กู่เจี๊ยกหาเรียกหลานเข้ามา ๐...เห็นน้าชายกู่ก้องร้องเรียก......ร้องเจี๊ยกเจี๊ยกทยานมาหา มือซ้ายกุมร่างตีลังกา...................รีบเข้ามาเอ่ยถามทันใด ทำไมน้าท่านมิสีแดง....................หรือโดนแรงนารีผลักไส สีกายร่างจึงเปลี่ยนผิดไป.............หรือสายใยนุ่มนวลลุ่มลึก ๐...ฝ่ายสุครีพได้ฟังหลานกล่าว....ความปวดร้าวรุ่มร้อนเต้นนึก ดู๋ดูสายเดี่ยวฝากเป็นปึก................มันเต้นกึกกึกสะท้านเอา หนุมานได้ฟังหน้าเหยเก...............มิหันเหบอกกล่าวเรื่องเขา ทั้งน้าหลานร้องไห้เบาเบา.............พาเข้าเฝ้าองค์พระภูมี ๐...................เมื่อเอยเมื่อนั้น.........องค์พระรามฤทธิไกรเรืองศรี ทอดพระเนตรลิงกุมของดี...........พระทรงศรีทรงสรวลลำพอง พลางล้วงจักแร้ปั้นขี้ไคล..............ปั้นเม็ดได้มอบลิงทั้งสอง มึงจงกินเข้าจงลอง.......................ยาทั้งสองหายปวดทันใด ๐............เหม็นเอยเหม็นแท้.........จักแร้โชยกลิ่นหอมสดใส ลิงทั้งสองรีบกินเข้าไป.................หนองก็ไหลหายปวดทันที นิลพัฒน์ได้เห็นหัวร่อก๊าก...........ยั่วเย้าฝากหอมกลิ่นมารศรี แน๊ะแน๊ะนางเข้ามาพอดี..............ขุนกระบี่ตาเหลือกเลือกจร. ๐ แก้วประเสริฐ. ๐
7 มีนาคม 2554 05:54 น. - comment id 1186789
มาหัวเราะค่ะ สวัสดีค่ะครู
6 มีนาคม 2554 23:33 น. - comment id 1186895
หนุมานหาวเป็นดกาวเดือน หนูหาวเปื้อนน้ำตาพาไหล คุณครูแก้วแต่งกลอนเก่งกระไร Oh good night my teacher and good dream..
7 มีนาคม 2554 14:15 น. - comment id 1186951
คุณ ครูกระดาษทราย ไม่เก่งหรอกเรื่อยเปื่อยแล้วเฉื่อยแฉะ บทละครแกะเจ็ดคำนำสนอง สนานสนุกปลุกใจให้ได้ครอง คล้ายกาพย์ต้องบวกฉันท์สรรค์สนุกจริง. ผมจะตอบเมื่อคืนก็หาวเหมือนกันครับ คุณครู อิอิ ไม่มีเดือนดาวหรอก มีแต่ตาลาย ฮ่าๆๆๆ คล้ายครูเปี๊ยบเลยครับ ขอบคุณรัก มากเสมอ แก้วประเสริฐ.
7 มีนาคม 2554 14:18 น. - comment id 1186952
คุณ ช่อฯ ศิษย์เอ๋ยครูเล่นเอาคนแต่งรามเกียรติ์ ปวดขมับเชียวล่ะ อิอิ การแต่งบทละคร นั้นสนุกจริงๆจ้า ที่เอามาลงแต่งเพิ่มเติม จากเก่า หามาอีกก็แต่งเพิ่มอีกจ้า หัดแต่งซิ สนุกจริงๆนะ ฉีกออกจากแนวเดินตามทางจ๊ะ รักศิษย์เรามากเสมอ แ้ก้วประเสริฐ.
8 มีนาคม 2554 12:41 น. - comment id 1186996
คุณ เพียงพลิ้ว หลานรัก ลุงเขียนบทลครไว้ในแนว สนุกทลึ่งนิดหน่อยเรียกว่าหากคนแต่งเก่า ฟื้นมาอ่านหงายหลังตีลัีงกาเหมือนหนุมาน เชียวล่ะจ้า ฮ่าๆๆๆ รักหลานเรามากเสมอ แก้วประเสริฐ.
8 มีนาคม 2554 08:05 น. - comment id 1187003
หนุมานชาญสมรเก่งจังเลยนะคะคุณลุง
13 มีนาคม 2554 09:03 น. - comment id 1187590
แวะมาอ่านๆๆ
13 มีนาคม 2554 14:09 น. - comment id 1187654
คุณ แมวคลาน การเขียนบทลครนั้นสนุกสนานดีหากคน หัดเขียนไว้ แต่คนสมัยนี้ไม่นิยมผมเลย แผลงฤทธิ์ดัดแปลงเก่าใหม่ให้เฮฮาขึ้น ครับ การเขียนก็ไม่ยากหากเล่นแบบกาพย์ ได้ก็เขียนได้ครับ เพียงหน้าเจ็ดหลังเจ็ด เท่านั้นเองรวมทั้งทำนองในตัวด้วยครับ ขอบคุณจ้า แก้วประเสริฐ.