ดินน้ำลมและไฟให้คุณค่า ล้วนพึ่งพาอาศัยไม่สุดสิ้น ก่อกำเนิดเกิดสรรพชีวิน ดั่งศิลปินจารจดโลกงดงาม ประเทศนี้ที่อุดมด้วยสมบัติ เพราะดินขัดน้ำเกลาให้วาวหวาม ลมพรมพัดพาสุขอวลทุกยาม ไฟก็วามความเป็นไทยไปจีรัง เช่นทุกเม็ดกรวดทรายใต้เท้านี้ คือชีวีบรรพชนแต่หนหลัง ที่หลั่งเลือดเสียเนื้อเหลือกำลัง จวบดินฝังร่างตัวลงชั่วกาล น้ำทุกสายห่อนสิ้นซึ่งสินทรัพย์ กุ้งปูจับนำมาปรุงอาหาร สมบูรณ์สุขอักโขแต่โบราณ ปลาเต็มธารข้าวเต็มนาพารื่นรมย์ สดับเสียงพระธรรมค้ำจุนจิต นำชีวิตนำทางอย่างเหมาะสม ลบเคียดแค้นเข่นฆ่าน่าตรอมตรม ด้วยสายลมโอวาทพระศาสดา ไฟอบอุ่นกรุ่นไอคลายหนาวเหน็บ คลายรวดร้าวบาดเจ็บจนแกร่งกล้า โชนแสงทองโชติช่วงสู่ปวงประชา คือกษัตราปกเกศประเทศไทย ดินน้ำลมและไฟยิ่งใหญ่นัก คู่ควรรักถิ่นนี้กว่าที่ไหน จงปรองดองคล้องเกี่ยวเป็นเกลียวใจ อย่าบ่อนไส้ห้ำหั่นฆ่ากันเอง
21 กุมภาพันธ์ 2554 03:43 น. - comment id 1185465
น้องเปลวฯ.. เก่งจัง เขียนได้ดีนะคะ... พี่แซม
21 กุมภาพันธ์ 2554 07:52 น. - comment id 1185468
สวัสดีประเทศไทย ทำงานก่อนจ้ะ
21 กุมภาพันธ์ 2554 09:41 น. - comment id 1185486
อ่านบทความดีๆจบแล้ว..ขอให้ทุกคนรักและมีน้ำใจต่อกันมากๆนะครับ..
21 กุมภาพันธ์ 2554 10:31 น. - comment id 1185491
ถึงปีนี้ร้อนเร่าเราต้องสู้ จึงต้องกู้หนึ่งจุดสี่ล้านล้านกว่า คนทุกคนตั้งแต่เกิดกำเหนิดมา เป็นขี้ข้าหนี้ท่วมอ ่วมอรทัย หกหมื่นสี่ทุกคนไม่มีเว้น จะรีดนาทาเร้นถึงเมื่อไหร่ ขึ้นภาษีขึ้นราคาสิ้นค้าไป ประเทศไทยดินน้ำลมจมไฟฟอน จำเริญเถิดพ่อคุณ
22 กุมภาพันธ์ 2554 11:18 น. - comment id 1185612
ปรองดองเถิดผองไทย ก่อนจะสายไม่ได้เรื่อง เกี่ยวแขนเลิกแค้นเคือง สร้างบ้านเมืองให้เฟื่องฟู ไม่มีสี..ไม่มีฝ่าย เราทั้งหลายไทยทุกผู้ เลือดเดียวเกี่ยวกันอยู่ เร่งกอบกู้..อยู่ร่วมกัน