อีกาดำ ธรรมดา ตามองเห็น สิ่งนั้นเป็น ปกติ มิผิดเพี้ยน กาลสมัย บรรจบ ครบรอบเวียน สมเด็จฯ เขียน จารึกร้อย ฝากถ้อยความ ช่วงเวลา ถิ่นกาขาว ในราวนี้ ผู้คนมี ความเห็นผิด น่าคิดถาม มองอีกา ตัวมืดคล้ำ ดำวับวาม พิศว่างาม ขาวดังหงส์ น่าปลงใจ เห็นสีดำ เป็นขาว ราวสวรรค์ หมื่นร้อยพัน อวิชชา มาครอบไว้ กระเบื้องแผ่น ฟูฟ่อง ล่องลอยไป น้ำเต้าไหล ถอยจมลง ในคงคา ผีโขมด จากป่าวิ่ง สิงสู่เมือง คนเล็กเขื่อง ทำโตใหญ่ ได้พรรษา ปราชญ์บัณฑิต เดินถอยร้าง ห่างเมืองมา มุ่งเข้าป่า หาธรรมะ ประดับตน
21 ธันวาคม 2553 20:57 น. - comment id 1174906
..... รัชกาลที่ ๑ ..... มหากาฬผ่านมหายักษ์ หมายถึง สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกผ่านพระเจ้าตากสินไม่ใช่ฆ่า ตามประวัติศาสตร์บอกว่า พระเจ้าตากสินถูกรัชกาลที่ ๑ สั่งปลงพระชนม์ โดยใส่กระสอบแล้วเอาท่อนจันทน์ทุบให้ตายนั้น อันนี้อาตมาเห็นทีจะต้องยอมรับ อาตมานะรับรองว่าคำสั่งก็ต้องเป็นคำสั่งจริง ๆ ประหารก็ต้องประหารจริง ๆ แต่ว่าคนที่ตายนั้นไม่ใช่พระเจ้าตากสิน เป็นคนอื่นเขาตายแทน แล้วพระเจ้าตากสินไปทางไหน ทำไมจึงต้องทำกันอย่างนั้น นี่เป็นเรื่องของการเมือง พระเจ้าตากสินทรงกู้ชาติสมัยที่กรุงศรีอยุธยาแตกในคราวนั้นได้ตีฟันฝ่าข้าศึกออกมา จะเอาเงินที่ไหนออกมาแล้วในระหว่างกู้ชาติ จะเอาเงินทองที่ไหนมา การบริหารประเทศต้องใช้เงิน นั่งคิดดูซิความลำบากของพระเจ้าตากสินมีเพียงใด เรื่องนี้มันต้องมีการกู้การยืมกัน อาตมาพูดเท่านี้แหละ แต่ขอยืนยันว่าพระเจ้าตากสินไม่ได้ตาย ขอให้นักประวัติศาสตร์สืบค้นกันให้ดี แล้วจะพบจุดสำคัญของประวัติศาสตร์ จะหาว่าพระราชวงศ์จักรีเป็นกบฏต่อพระเจ้าตากสินแล้วขึ้นเถลิงราชย์ไม่ได้ เพราะเป็นพระราชประสงค์ของพระเจ้าตากสินเอง เพื่อหวังจะให้ชาติไทยอยู่รอด ทรงความเป็นชาติไทยต่อไป และเพราะอะไรพระองค์จึงไม่ทรงสละราชสมบัติเฉย ๆ นั่นเป็นเรื่องของการเมือง ทำไม่ได้ พระเจ้าตากสินมหาราชไม่ใช่เป็นกษัตริย์ที่มีความโง่ไม่รู้เท่าทันคน ถ้าพระองค์มีความโง่ไม่รู้เท่าทันคนแล้ว จะทรงกู้ชาติได้อย่างไรภายในปีเดียว ขอให้ท่านพุทธบริษัททั้งหลายช่วยกันพิจารณาด้วยปัญญาที่แท้จริง เอาระบบการเมืองเข้ามาเทียบเคียงกับความจริง แล้วจะทราบความจริงต่อไปในวันข้างหน้า เอากันแค่นี้ก็พอ ..... รัชกาลที่ ๒ ..... รู้จักธรรม ให้พระสงฆ์ทั้งหลายค้นคว้าพระธรรมวินัยกันใหญ่ ยุคฟื่นฟู ศิลปวัฒนธรรมฯ ..... รัชกาลที่ ๓ ..... จำต้องคิด พระองค์ทรงคิดหนัก ช่วงนั้น ตต.เริ่มล่าอนาณิคม อุตสาห์ช่วยอังกฤษ ยึดพม่า หวัง มะริด,ตะนาวศรี คืน อังกฤษโกง จึงรับสั่งว่าให้ระวังภัยทางทะเล ก่อนจะสวรรคตทรงมีลายพระหัตถ์ กันเงินท้องพระคลังไส่ไว้ในถุงแดง เรียกเงินถุงแดง บอกไว้ว่า ไว้ให้ลูกหลาน ไถ่บ้าน ไถ่เมือง พระองค์ตรัษว่า..ก็เห็นแต่มีแต่ฟ้าใหญ่ กับฟ้าน้อยที่พอจะเอาชาติรอด เสียแต่ว่า ฟ้าน้อยเอาแต่ขี่ม้าล่อช้างตกมัน ฟ้าใหญ่ ก็เอาแต่ห่มแหวก ..... รัชกาลที่ ๔ ..... สนิทธรรม ทรงผนวชถึง ๒๗ พรรษาและทรงเชี่ยวชาญด้านธรรมะ / มีมิตรทางพระ ทั้ง พุทธ และ คริต ..... รัชกาลที่ ๕ ..... จำแขนขาด เสียดินแดนให้แก่พวกฝรั่งเศสและอังกฤษ ..... รัชกาลที่ ๖ ..... ราษฏรราชาโจร ชาวบ้านหาว่าพระองค์เป็นโจร เอาเงินในท้องพระคลังไปใช้เสียหมด (สร้างเมืองจำลอง / ดุสิตธานี / สร้างพระราชวังสนามจันทร์ นครปฐม / ปลูกคฤหาส หลังงาม ๆๆ ให้บริวารใกล้ชิด จำนวนมาก ) ..... รัชกาลที่ ๗ ..... นั่งทนทุกข์ ทรงเถลิงราชสมบัติในช่วงของเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก ต้องใช้มาตราการ ดุนข้าราชการออก เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ทรงสละราชสมบัติ ..... รัชกาลที่ ๘ ..... ยุคทมิฬ เกิดสงครามโลกครั้งที่สอง และพระองค์ถูกลอบปลงพระชนม์ ..... รัชกาลที่ ๙ ..... ถิ่นกาขาว กาส่วนใหญ่ มันต้องดำ (กาขาวก็มีนะครับกาเผือก) แต่เป็นการอุปมา อุปมัย ( ตอนนี้คุณ ก็เห็นแล้ว กาขาว คือใคร พูดแต่ว่าตัวเองเป็นคนดี เป็นคนมีจริยธรรมสูง แต่ไม่ยอมให้ใครพูดว่าตัวเองดำ... กาขาวจริง... 5555 ) รัชกาลที่ ๑๐ ชาววิไล คือยุคที่บ้านเมืองของไทยเจริญรุ่งเรืองอย่างเต็มที่ แต่ตอนนี้เหตุการณ์ยังมาไม่ถึง ที่มาของบทความ http://www.siamsouth.com/smf/index.php?topic=1535.
21 ธันวาคม 2553 17:49 น. - comment id 1174955
สมเด็จโตท่านเขียนปริศนาไว้ ดังนี้ ๑. มหากาฬผ่านมหายักษ์ ๒. รู้จักธรรม ๓. จำต้องคิด ๔. สนิทธรรม ๕. จำแขนขาด ๖. ราษฏร์ราชาโจร ๗. นั่งทนทุกข์ ๘. ยุคทมิฬ ๙. ถิ่นกาขาว (สมัยปัจจุบัน) ๑๐. ชาววิไล
21 ธันวาคม 2553 18:27 น. - comment id 1174965
เคยได้ยินได้ฟัง แต่ก็รู้ไม่ละเอียด อยากรู้ละเอียดกว่านี้จัง
21 ธันวาคม 2553 18:28 น. - comment id 1174966
เค้าเป็นกาดำ แต่ลูกตาขาวมากกว่าลูกตาดำทำไงดี อิอิ
21 ธันวาคม 2553 18:45 น. - comment id 1174973
คุณอรุโณทัยครับ เดี๋ยวจะมีผู้รู้นำข้อมูลมาเพิ่มเติมให้ครับ ถ้ายังไม่มีผมจะหามาให้ค๊าบบ
21 ธันวาคม 2553 18:47 น. - comment id 1174975
มีตาขาวมากก่าตาดำเหรอตะเอง ไปซื้อบิ๊กอายสีดำมาใส่ซี้....กร๊ากก เค้ามีขายกันทางเว็บเกลื่อนเลย
21 ธันวาคม 2553 20:59 น. - comment id 1174988
หากพี่ๆ เพื่อนๆ ท่านใด ทราบข้อมูลอย่างชัดแจ้งละเอียดรอบด้าน ช่วยมาเพิ่มเติมความรู้ด้วยนะครับ
22 ธันวาคม 2553 01:54 น. - comment id 1175037
8 นี้เผื่อเจ้อ้อย ลคส
22 ธันวาคม 2553 02:05 น. - comment id 1175038
9 นี้เผื่อโคลอน ลชร
22 ธันวาคม 2553 02:10 น. - comment id 1175039
10 นี้เพื่อใครดีน๊า อ๊ะให้ตัวเองแล้วกัน
22 ธันวาคม 2553 04:34 น. - comment id 1175050
แวะมาอ่านความรู้ดีๆค่ะ
22 ธันวาคม 2553 08:49 น. - comment id 1175079
เคยได้ยินได้อ่านเหมือนกันค่ะ
22 ธันวาคม 2553 09:49 น. - comment id 1175119
อืม..เป็นเช่นนี้นี่เอง ขอบคุณเพื่อนเมจิก สำหรับเรื่องราวที่น่าสนใจจ๊ะ
22 ธันวาคม 2553 13:57 น. - comment id 1175216
ขอบคุณทุกท่านที่มาเยี่ยมเยียนครับ
22 ธันวาคม 2553 14:17 น. - comment id 1175231
น่าคิดเนาะขอบคุณข้อคิดดีๆที่ส่งผ่านงานเขียนค่ะ
23 ธันวาคม 2553 14:45 น. - comment id 1175500
ผมขอเพิ่มเติมเพียงข้อ ๑ นะครับที่ได้ อ่านนอกเหนือจากจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ แต่เป็นเกร็ดที่ถกเถี่ยงกันมาบ้างก็ยอมรับ บ้างก้ไม่ยอมรับ ที่พระเดชพระคุณรจนาไว้ นั้นเกี่ยวกับตัวพระเดชพระคุณทั้งสินด้วย ท่านเจ้าประคุณเป็นถึงหน่อเนื้อเชื้อกษัตริย์ ที่เกิดจากชาวบ้านธรรมดา ยามที่ก่อนที่จะ มาเป็นกษัตริย์ของไทยในราชวงศ์จักรีผม ไม่ต้องเอ่ยนะครับ เพียงเกริ่นไว้ให้ค้นหา กันเองเอง จะกล่าวแค่ร.๑กับพระเจ้าตากสินมหาราช เท่านั้น ตามจารึกที่ถกเถี่ยงในการพบบันทึก ไว้ ซึ่งมาค้นพบที่หลังว่า อันร.๑พระองค์นั้นไม่ได้ปลงพระชนม์ พระเจ้าตากสินมหาราช นั้นด้วยสาเหตุ ดังนี้ ๑ พระองค์ทั้งสองเป็นเพื่อนรักกันมาตั้ง แต่สมัยยังเด็ก ยิ่งมาสนิทสนมกันมากขึ้น ในสมัยตอนบวชเณร แล้วออกบิณฑบาตร ไปพบซินแสคนหนึ่ง ต่างร้องตกใจยิ่งนัก ที่แลเห็นพระองค์เดินบิณฑบาตรมาด้วย กัน ถึงกับอุทานทำนายทายทักว่า ทั้งสอง พระองค์นี้ต่อไปจะได้เป็นกษัตริย์ทั้งคู่ ๒ ครั้ง ร.๑ นั้นรับโทษอย่างสูงถึงกับต้อง ถูกประหารชีวิต แต่พระเจ้าตากสินมหาราช ก็ทำโทษเพียงแค่คาดโทษไว้เท่านั้น (แต่บางประวัติว่าเป็นแก้แค้นกลัวภัยโทษ จากพระเจ้าตากสินมหาราชทรงจึงวาง แผนไว้ล่วงหน้า อันนี้ผมขอยืนยันว่าไม่ จริง) ๓ การรบพุ่งกู้ชาติบ้านเมืองนี้ด้วยกำลัง พลน้อยนิดจึงจำเป็นต้องพึงพาชาวจีนเป็น กำลังใหญ่ ชาวจีนนี้เป็นชาวฮกเกี๋ยนมี อิทธิพลมากทางภาคใต้ของไทยที่อพยพ มาปักหลักตั้งถิ่นฐาน และยังได้รับการ สนันสนุนจากประเทศจีนอีกด้วย ๔ ครั้นการกู้ชาติบ้านเมืองสำเร็จลง ทาง เมืองจีนจะขอให้ไทยนั้นนึกถึงบุญคุณที่ ได้ช่วยเหลือไว้ แต่ตอนนี้เขาไม่ได้ลง รายละเีอียดไว้จึังไม่ขอกล่าว จะกล่าวว่า พอพระองค์เป็นชายชาติทหารเมื่อกล่าว คำใดแล้วจะต้องถือสัจจะตามโบราณเสมอ มาดังนั้นจึงพยายามหาทางออก ๕ ทรงปรึกษากับเพื่อนรักคือ ร.๑ ถึงเหตุ การณ์นี้ และต่างก็ช่วยกันหาวิธีการแ้ก้ไข เพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนต่อประเทศ ที่ใหญ่นั้น ทางเดียวเท่านั้นคือการสร้าง ภาพพจน์บางอย่างขึ้น ๖ พระองค์จึงหันมาทางบำเพ็ญวิปัสนา กรรมฐานที่วัดแจ้งหรือวัดอรุณฯนั่นเอง โดยทางราชสมบัติทรงปล่อยปละละเลย ทางโลกเสีย บ้างก็ทรงทำอาการบ้าๆบอๆ อันว่าสมาธิแตกจนเกิดสติวิปลาสไป ซึ่ง ตามหลักของธรรมะนั้นการเข้าถึงซึ่ง วิปัสนาได้แล้ว ย่อมมีสติและปัญญาสามารถ วินิจฉัยเหตุการณ์ต่างได้ดี ข้อนี้ชัดแย้ง กันในตัว ที่เป็นบ้าด้วยยังอยู่ในขั้นสมถะ กรรมฐาน ด้วยเจริญฌานผิดแผกไป ข้อนี้ตัดไปได้ด้วยพระองค์ถึงขั้นวิปัสนา เสียแล้ว ๗ พระองค์ให้เพื่อนรัก ปลุกปั่นให้เกิด การแข็งกร้าวภายใน ในข้อหาว่าทรงเป็น พระวิปลาสเสีย แล้วสั่งให้เพื่อนรักออก เดินทางไป ซึ่งประจวบเหมาะกับเพื่อนบ้าน ใกล้เรือนเคียงแข็งกระด้าง หากจำไม่ ผิดคือประเทศลาว ครั้น ร.๑ ทรงปราบ ปรามแล้่วยังนำพระแก้วมรกตมาสู่ผืน แผ่นดินไทยอีกด้วย ๘ ตามกฏมณเฑียรบาล จะมีกษัตริย์ สองพระองค์ไม่ได้ ในเมื่อเกิดการกบถ สำเร็จตามแผนที่ทรงร่วมกันปรึกษาไว้ แล้ว จึงต้องมีการชำระโทษกษัตริย์ที่ พ่ายแพ้ด้วยการทุบด้วยท่อนจันทร์ให้ตาย เรื่องนี้แม้แต่ขุนทหารที่ยอมตายเพื่อ พระองค์ พระเจ้าตากสินก็ยังไม่บอก การทำการปรึกษานี้รู้เพียงสามคนเท่านั้น คือพระองค์คือเพื่อนรักทองดี และน้อง ชายชื่อบุญมา ดังนั้นพระยาพิชัยดาบหัก ก็ไม่รู้ ด้วยทั้งสามพระองค์เปรียบเสมือน ดั่งเครือญาติที่สนิทสนมกันมาก ร.๑ จึงให้นำคนที่มีรูปร่างใบหน้าคล้าย คลึงมาลงโทษ และการลงโทษนี้ทำขึ้น ภายในท้องพระโรงเท่านั้นและไม่ให้เหล่า ขุนทหารใดๆเข้ามาได้ ๙ ไปพบหลักฐานที่ถ้ำหนึ่งในประจวบฯ เป็นที่พำนักของพระเจ้าตากสินมหาราช ที่ทรงผนวชอยู่พร้อมเครื่องรับใช้อันมี ถ้วย คณโฑฯลฯ ซึ่งเป็นของใช้สำหรับ พระมหากษัตริย์ได้เท่านั้น และยังพบ รายจากรึกไว้ในถ้ำอีกด้วย (ข้อนี้จึงเป็น การถกเถี่ยงกันของนักโบราณคดีบัดนี้ ยังไม่สำเร็จ จึงปล่อยไว้ให้เป็นไปตาม คำจากรึกในประวัติศาสตร์เท่านั้น) ๑๐ หากแม้นร.๑ ทำการเองแล้วจงจะไม่ มีเชื้อสายของพระเจ้าตากสินตกมาถึง ปัจจุบันนี้ อันเกิดจากท่านเจ้าจุ้ยโอรส คนโตของพระองค์ นามสกุลที่ใช้นี้ที่เป็น เชื้อสายของพระเจ้าตากสินมหาราชคือ ณ.นครและ กัลยาณมิตร สืบทอดมาและ ทั้งสองนามสกุลนี้ก็ยังรับใช้ในราชการ ของวงศ์ราชจักรีมาตลอดเกือบทุกๆรัชกาล แม้จนปัจจุบันนี้ต่างรับใช้บ้ัานเมือง ทางด้านทหารทั้งสิ้น ๑๑ ครั้นเมื่อแผนการณ์ที่วางไว้ด้วยพระ ปรีชาความสามารถของพระองค์ทั้งสอง ลุล่วงไป ทำให้ประเทศจีนและพวกฮกเกี๋ยนไม่บังเกิดความสงสัยเนื่องจาก ว่าเมืองไทยกษัตริย์ต้องเป็นคนไทยเท่านั้น ส่วนพระเจ้าตากสินมหาราชนี้พ่อเป็นจีน แม่เป็นไทย ไม่เกิดความสงสัย ดังนั้นจึงเกิดพวกอั่งยี่ ทั้งในเมืองและนอกเมืองจนถึงร.๓ ร.๒ ยังอ่อนน้อมยินยอมของพวกอั่งยี่อยู่เลย การปราบปรามอั่งยี่เรียบร้อยหมดเกิดใน สมัยร.๕ นั่นเ่อง จากประมวลเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ให้ ผู้รู้ลองใช้วิจารณาจารเอาเองเถิด ผมเอง ผิดพลาดก็ได้ นี่บอกตามที่สงสัยและ เริ่มค้นหาว่าเหตุใดเพื่อนรักร่วมรบกันมา จากไม่มีอะไรเลยจนก่อร่างสร้างตัวเด่น ดังในวงราชการได้ ยังมีเกร็ดละเอียดอีก แต่ผมจะไม่ขอเล่าให้ฟังว่าทำไมทั้งสอง พระองค์จึงมีบุญญาธิการมากเมื่อสมัย เด็กๆอีกมากมายนัก อ่านข้อความผม แล้วอย่าเชื่อนักให้ลองพินิจไตร่ตรองกัน เอาเองครับด้วยเป็นความเชื่อถือของแต่ ละบุคคลที่จะเชื่อหรือไม่เท่านั้น แก้วประเสริฐ.
23 ธันวาคม 2553 17:48 น. - comment id 1175557
โคลอน ... ขอบคุณที่มาเยี่ยมชม และยินดีเช่นกันคร๊าบบบ
23 ธันวาคม 2553 17:52 น. - comment id 1175558
ถึง ครูแก้วประเสิรฐ ขอบพระคุณมากครับครู สำหรับข้อมูลความรู้ในเกร็ดประวัติศาสตร์เพิ่มเติม .... ยิ่งอ่าน ยิ่งอยากรู้เกร็ดต่างๆ อีกหลายๆ เรื่องที่ครูกล่าวไว้แบบย่อนะครับ ขอแสดงความนับถืออย่างสูง