เมื่อค่อนรุ่งฟ้าหนาวแสงดาวเหนือ ส่องแสงเพื่อนำทางสว่างไสว พอตะวันแรงร้อนก็จรไกล จำหลักใจด้วยแสงแห่งตาเธอ จับกุมมือกันและกันมั่นใจนัก เชื่อในรักในสัตย์สม่ำเสมอ วันข้างหน้าอีกไกลอาจไม่เลิศเลอ มิใช่เพ้อ...แค่จริง...ก็นิ่งพอ วันนี้ฉันเป็นฉันมั่นคงยิ่ง ทำใจนิ่งปล่อยวางได้ใจสานก่อ ไม่สนใจคำคนปนด่าทอ ไม่ทดท้ออยู่ที่ใจ...ที่ใฝ่ธรรม สัมผัสคำว่างามความเรียบง่าย ไม่เวียนว่ายในสับสนปนเหยียบย่ำ เลิกแคร์คำและสายตาพาระกำ แต่จดจำเอาไว้ไม่ลืมเลือน แสงศรัทธาแห่งดาวเหนือเพื่อตัวฉัน ยังเชื่อมั่นในอัตตาประสาเพื่อน เรามีเราเป็นเพื่อนเตือนใจเตือน ก็ยังเหมือนอบอุ่นละมุนละไม หนาวที่กายเอากายชายมาห่ม หนาวใจถมด้วยรักจักสดใส วันนี้กลับเข้มแข็งเต็มแรงใจ รอหน้าไหน...ใครกล้า...มา...เข้ามา มิใช่อวดอ้างตนเป็นคนเก่ง แต่นักเลงคนจริงหญิงคนกล้า กับหลายปีชีวิตลิขิตมา มีศรัทธาถึงมาไกล...ได้วันนี้
11 ธันวาคม 2553 17:18 น. - comment id 1172902
ขนาดนี้หรอกหรือที่ถือว่า เดินทางมาแสนไกลโม้ไปหรือเปล่า มีศรัทธาธรรมมากหรือปากเบา ที่ยกเอาคำเรียกคนให้เข้ามา อยู่ว่างว่างวาจาเลยหาเรื่อง คงมิขุ่นมิเคืองในภาษา เย้ามารเล่นเห็นช่างจำนรรจา และถ้าคิดชังหน้า***ให้ว่าเป็นกลอน
11 ธันวาคม 2553 23:06 น. - comment id 1172952
คุณอรชุนคะ จะโม้ มีศรัทธา จึงปากเบา คุณกล่าวหาฉันไปไยกัน เราผ่านมาพบกันบนโลกมายาเท่านั้น แล้วฉันไม่ได้เรียกคนเข้ามาอ่าน ฉันเขียนบทกลอนมานานแล้ว เขียนเพราะฉันอยากเขียน คุณจะอยู่ว่าง อยากหาเรื่องก็ไปหาที่อื่นเถิด แล้วมาเย้าอะไรแถวนี้ แถมยังมาสั่งให้ตอบเป็นกลอนเสียอีก หุหุ ฉันอ่านความเห็นของคุณอยู่สามรอบแล้วจึงตัดสินใจเขียนตอบทั้งหมดนี้ ด้วยความไม่เข้าใจในเจตนาของคุณ ไทยโพเอ็มเป็นเวทีสำหรับเขียนกลอน ที่ผ่านมาฉันแค่มาวางกลอน หากมีเวลาฉันก็มาโพสตอบบ้าง ไปโพสในกระทู้คนอื่นบ้าง ไม่เคยระรานใคร หากไม่มี ใครเข้ามาหาเรื่องฉันก่อน ซึ่งฉันไม่อยากจะถือสา แต่บอกตรงๆ ว่างง หากเป็นการเย้าหยอก อยากเป็นมิตรก็นับว่าคุณทำได้พิลึกพิลั่นโดยแท้ อ้อ...คุณไม่ได้เป็นสมาชิกด้วยนี่ อรชุน...