***** หากมีม่าน อันใด บังใจอยู่ โปรดรับรู้ ตรงนี้ ยังมีฉัน ท่ามความร้อน แสงจ้า แห่งตาวัน ใช่โศกศัลย์ เหงาอยู่ แต่ผู้เดียว หากมีม่าน อันใด บังใจอยู่ โปรดรับรู้ มีคน ที่แลเหลียว ท่ามลมกราว หนาวพัด สะบัดเกรียว ใช่โดดเดี่ยว เปลี่ยวคว้าง ร้างรักลา หากมีม่าน อันใด บังใจอยู่ โปรดรับรู้ ยังมี คนห่วงหา ท่ามสายฝน โปรยฉ่ำ ดั่งน้ำตา อย่าโศกา ชาชิน จนสิ้นแรง หากมีม่าน อันใด บังใจอยู่ โปรดรับรู้ ที่นี่ ยังมีแสง สาดโลมไล้ ปลอบผู้ ที่อ่อนแรง ให้แข็งแกร่ง สู้โลก โชคชตา โปรดเปิดม่าน บังใจ เพื่อรับรู้ ในสนาม นักสู้ ผู้หาญกล้า ต้องเรียนรู้ เล่ห์กล มนต์มายา เพื่อฟันฝ่า ถึงฝัน อย่างมั่นใจ *****************************************
13 พฤศจิกายน 2553 17:33 น. - comment id 1168844
ขอต่อกลอนค่ะ เก็บความสุขซุกไว้..อยู่ในห้อง คิดจะท่องเที่ยวเวปหาเจ็บไม่ ทำโหยหวญครวญเศร้าว่าเหงาไป แม้เยื่อใยในจันทร์..ก็ฟั่นเฟือน เสียงหรีดหริ่งไรร้องคล้องสดับ ใช้จิตจับปรุงเฉยว่าเอ่ยเอื้อย เพื่อจะล่อหลอกใจว่าใครเตือน แล้วบิดเบือนเชือนแช..ว่าแลเงา หามีม่านอันใด..บังใจอยู่ เพียงก้องกู่เหตุผล..แบบคนเหงา เป็นลีลาอาการยากอ่านเดา ใจของเราดั่งภูผา..เสียดฟ้าเอย ........... ก็ว่ากันไปครับ แถไปเรื่อย
15 พฤศจิกายน 2553 13:15 น. - comment id 1169185
หากมีม่าน อันใด บังใจอยู่ จะก้องกู่ เรียกหา ผู้ใดเล่า รู้ทั้งรู้ จริงแท้ ก็แค่เรา ที่หลงเงา เหงาอยู่ เพียงผู้เดียว
16 พฤศจิกายน 2553 18:19 น. - comment id 1169367
*** ต่อคุณอรจ้า ไม่มีม่าน อันใด บังใจดอก อย่าลวงหลอก ให้มี ผู้แลเหลียว ชีวิตใช่ เหงาอยู่ แต่ผู้เดียว อย่าแกล้งเปลี่ยว ใจเหงา ให้เศร้าใจ
16 พฤศจิกายน 2553 16:59 น. - comment id 1169370
*** ******ต่อคุณ Boomerang ******* ใจของเจ้า ดั่งภูผา เสียดฟ้าสูง ใครจะจูง ไปแห่งหน ตำบลไหน ทำโหยหวน ครวญเศร้า เหงาทำไม เมื่อเยื่อใย สวาทหวัง ยังคงมี หากมีม่าน อันใด บังใจเจ้า จะโศกเศร้า ไปใย ให้เสื่อมศรี เสียงกู่ก้อง ร้องไป ทำไมมี ใจเจ้านี้ ดั่งภูผา เสียดฟ้าเอย
16 พฤศจิกายน 2553 21:35 น. - comment id 1169422
ต่อกรท่าน din ก่อนนิทราดีกว่า ใจของเราหลับสนิท..มิคิดตื่น ซึ้ง- ขมขื่น- อื่นใด-ไม่เฉลย ทั้งหวานอม- ขมกลืน หรือชื่นเชย ใครไหนเลยก็มิรู้ อยู่ในใจ ถึงเยี่ยมยุทธ.สุดหยั่ง.ก็ยังยาก ลีลามากเกินกว่าจะมาใกล้ อยากเชยชิดเหมือนต่างอยู่ห่างไกล หวานละมัยในกลอน...ดั่งนอนเคียง ม่านบังใจ..ไม่บังจันทร์คืนวันผ่อง เป็นสื่อส่องมองผ่านฝากอ่านเสียง "คิดถึงเธอ"ก่อนหลับจับสำเนียง ฉันจะเอียง..แก้มกับคอ..ไว้รอเธอ .....หลับก่อนนะ.พรุ่งนี้จะมาต่อกรด้วยครับ
17 พฤศจิกายน 2553 14:57 น. - comment id 1169468
ขอต่อคุณ Boomerang เมื่อใจเจ้า หลับสนิท มิคิดตื่น น้ำตารื้น หมองไหม้ ใจพร่ำเพ้อ คิดฟุ้งซ่าน ฟูมฟก อกละเมอ จนเผลอเรอ เอียงแก้ม-คอ ไว้รอใคร ม่านบังจันทร์ ไม่บังใจ ในวันจาก ได้แต่ฝาก ลีลา มา-กรายไกล้ เป็นบทกลอน หวานกรุ่น อุ่นละไม ปลอบขวัญให้ หลับสนิท ยามนิทรา
22 พฤศจิกายน 2553 20:17 น. - comment id 1170179
เธอเขียนใกล้..เป็นไกล้..ตั้งใจสื่อ ว่าเธอคือ"คนนั้น"ที่ฝันหา เมื่อไหร่เธอ?..ลงกลอนอ้อนวาจา ฉันจะมาทุกครั้งอย่างตั้งใจ มิเคยลืมรสร้อยที่คล้อยลิ้น มิชาชินพอเพียงอยากเคียงใกล้ ฉันเป็นดินเธอเป็นดาวที่กล่าวไว้ แล้วไฉนชื่อdin ถวิลวรณ์ รู้ว่าเธอเป็นสุข..มีทุกสิ่ง ฉันอาจหยิ่งเงียบหาย..คลายสังหรณ์ ม่านบังใจ..ใครกันรำพันกลอน ฉันร้าวรอนลำพัง..เธอยังมา .........ฯลฯ........จะมาต่อทุกครั้งที่คิดถึงนะ.....
23 พฤศจิกายน 2553 13:17 น. - comment id 1170246
**** "Boomerang" คือใคร ฉันใคร่รู้ อ่านอ่านดู บทกลอน ช่างอ้อนหา ทุกวจี เรียงร้อย ถ้อยพรรณา เป็นภาษา ไพเราะ เสนาะกรรณ ฉันไม่ได้ เป็นสุข ไปทุกสิ่ง ความเป็นจริง เพียงฤดี ที่ใฝ่ฝัน เมื่อคนหยิ่ง เอ่ยถ้อย ร้อยรำพัน จึงไหววั่น ไปทั้งตัว ทั้งขั้วมาน ช่างตัดพ้อ ต่อว่า ต่ำค่าสิ้น "คนติดดิน" คือใคร? ใยส่งสาสน์ เป็นวจี ร้อยรจ พจมาน ช่างแสนหวาน จับต้อง ทุกห้องใจ ............คิดถึงเช่นกัน..................
23 พฤศจิกายน 2553 23:52 น. - comment id 1170286
ถ้าหลงกันทุกเว็ปจะเจ็บนะ ลืมฉันซะดีกว่าอย่ามาใกล้ เมื่อเราต่างเป็นดินถวิลใด จะยากไร้กินเกลือ..ยากเหลือรวย เมื่อเธอพบคนที่เค้าดีกว่า หงส์กับกาคิดไปก็ไม่ช่วย แม้ทักผิดคิดว่าจะเอออวย นายอาจซวยเสียเส้นดังเช่นกลอน .............................................
24 พฤศจิกายน 2553 16:14 น. - comment id 1170393
*** หากหลงกัน ทุกเว๊บ ไม่เจ็บดอก มิเคยหลอก ลวงใคร ใจสังหรณ์ จึงร่ายรจ พจนา ภาษากลอน เพื่อเว้าวอน สอบถาม ความเป็นจริง เป็นเพียงแค่ รู้สึก ลึกลึกอยู่ หากโฉมตรู เคืองไป ในทุกสิ่ง ไม่มีใคร ผิดดอก บอกจริงจริง จงประวิง นิ่งคิด พินิจเอา
24 พฤศจิกายน 2553 17:53 น. - comment id 1170419
เมื่อสองใจหวังดี..แต่มีม่าน ดวงใจกร้านจะง้อมันก็เศร้า แสงตะวันยามพลบ
24 พฤศจิกายน 2553 18:11 น. - comment id 1170421
เมื่อสองใจหวังดีแต่มีม่าน คนชากร้านจะง้อมันก็เศร้า เมื่อตะวันชิงพลบดังหลบเงา ใจของเราเฉกเช่น..ถูกเซ่นกรรม อยากใคร่คว้าทบทวนครวญอดีต ร่องรอยกรีดเห็นไหม?ข้างในช้ำ แผลภายนอกพอกยาทาประจำ แต่ถ้อยคำ..ฝากไว้..ยังได้ยิน ชื่อเคยเขียนบนทรายเอาใจเกี่ยว คลื่นทุกเกรียวกรอกกลบแล้วลบสิ้น เธอสอนฉันปรารถนาจนชาชิน และไหลรินเลิกลา...กลับมาครวญ ..............................................
25 พฤศจิกายน 2553 17:32 น. - comment id 1170534
เมื่อตะวัน ชิงพลบ หลบขอบฟ้า ในอุรา ครวญคร่ำ ร่ำไห้หวล รอยดีต กรีดย้ำ ช้ำจนซวน ความรัญจวน ยังประทับ กับห้วงใจ เมื่อเจ้าลอง ใคร่ครวญ ทวนอดีต ดังคมมีด กรีดกมล จนตรมไหม้ ความหวังดี มีล้น ท้นฤทัย แผลข้างใน ใช้คลื่นกลบ ลบให้เลือน แล้วจะเห็น แสงทอง ของชีวิต ดวงความคิด จะสว่าง หาใดเหมือน ทางข้างหน้า ฟ้าใส ให้มาเยือน นีอพร จากเพื่อน ผู้ห่วงใย
25 พฤศจิกายน 2553 17:38 น. - comment id 1170535
เมื่อตะวัน ชิงพลบ หลบขอบฟ้า ในอุรา ครวญคร่ำ ร่ำไห้หวล รอยดีต กรีดย้ำ ช้ำจนซวน ความรัญจวน ยังประทับ กับห้วงใจ เมื่อเจ้าลอง ใคร่ครวญ ทวนอดีต ดังคมมีด กรีดกมล จนตรมไหม้ ความหวังดี มีล้น ท้นฤทัย แผลข้างใน ใช้คลื่นกลบ ลบให้เลือน แล้วจะเห็น แสงทอง ของชีวิต ดวงความคิด จะสว่าง หาใดเหมือน ทางข้างหน้า ฟ้าใส ให้มาเยือน นี่คือพร จากเพื่อน ผู้ห่วงใย
25 พฤศจิกายน 2553 23:35 น. - comment id 1170590
คนบาดเจ็บ เก็บกด เหมือนหมดสิทธิ์ ใฝ่คว้าฟาง เส้นนิด เพื่อชิดใกล้ กลัวสัมพันธ์ เลือนลาง เคยจางใจ เป็นเพื่อนใคร คงยาก ผลัดพรากมา เห็นกลอนหวาน ของใคร ใจก็เจ็บ อ่านกลอนเหน็บ ยิ่งเหงา มันเศร้ากว่า ถ้าเห็นใจ นัยคำ ซ่อนน้ำตา จึงฝากลา อาลัย ไว้ในกลอน อยู่แบบเฉา เหงาบ้าง เลยอ้างแอบ ใช่ปวดแปลบ ความหลัง แต่สังหรณ์ เธอยังหวง ห่วงหา หรืออาทร ผ่านบทกลอน ชื่อ din เพื่อกินใจ .................................................
26 พฤศจิกายน 2553 04:43 น. - comment id 1170596
ตี 4 กว่า..... ตกลง. เรารู้จักแบบว่า knew หรือ แบบว่า will know หรือไม่รู้จักกันมาก่อนคะ ดีดี...กันเถอะ...เดี๋ยวไปใส่บาตรให้นะแบบว่าอุทิศให้เทวดา+เจ้ากรรมนายเวร อโหสิกรรม..ให้เราเถอะนะ .................................................
26 พฤศจิกายน 2553 11:35 น. - comment id 1170676
ได้อ่านแล้วหรือยัง ฉันเดินทางมาไกลมิได้พัก ผ่านลมรัก.ลมร้าว จนหนาวสั่น เห็นศาลาอาศัยรู้ไม่ทัน ทั้งแมลงวันแมลงวี่แถมมีแตน เหมือนลำธารไหลรินแว่วยินเสียง เปลี่ยนเป็นเถียงเอียงท่าดูว่าแค้น มีชิงรักหักสวาทแย่งมาดแมน ละครแฟนช่องเจ็ดช่างเอ็ดอึง ผมถอยหลังหลายก้าว..จึงเข้าบ้าง อารมณ์ว่างแหว่งเว้ากลัวเค้าซึ้ง เลยเขียนกลอนลูกผสม..ไม่กลมกลึง อยากทะลึ่งทะเล้น..ก็เว้นลง เหมือนผูกเปลทิ้งไว้ในขนำ เช้า-บ่าย-ค่ำ-เวียนวนเหมือนคนหลง ถ้าเห็นใครพักผ่อน..มาอ่อนองค์ จะรีบตรง..มาไคว..คนในเปล อยากให้เธอ..แวะกลับ..มาหลับบ้าง อย่าทิ้งร้าง..เถียงน้อย..เหมือนร้อยเล่ห์ ด้วยคนรอ..ร้อนลุ่ม..อยากทุ่มเท ฉันอยากเฮ..อยากฮา..ภาษากลอน ท้องนาเราลงกล้า..ห้าเดือนก่อน เก็บรวงอ่อน.รอเคียว.มาเกี่ยวฟ่อน ลืมกลิ่นดิน-ถิ่นนา..เคยอาวรณ์ เหมือนตัดทอน..หัวใจ..เมื่อไกลกัน (ผมลงไว้ในกระทู้...ท่านนักสืบไร้อันดับ...) ........ศิลปินเท่านั้น ที่มองเห็นศิลปะ........ .................................................
26 พฤศจิกายน 2553 16:55 น. - comment id 1170711
เห็นกลอนหวาน ของใคร ถ้าใจเจ็บ อย่าไปเก็บ อารมณ์ ให้ตรมไหม้ เมื่อวันเคลื่อน เดือนคล้อย อย่าน้อยใจ เป็นเพื่อนใคร ไม่ยาก ถ้าอยากเป็น คนบาดเจ็บ เก็บกด ไม่หมดสิทธิ์ ฟ้าชีวิต จะสว่าง อย่างที่เห็น รอยอดีต ตรมเศร้า เคล้าลำเค็ญ ทิ้งให้เป็น บทกลอน ไว้สอนใจ เหมือนผูกเปล ทิ้งไว้ ในขนำ เช้า-บ่าย- ค่ำหลับลง คงมิได้ เมื่อร่องรอย แห่งอดีต กรีดทรวงใน เธอฝากลา อาลัย ไว้ในกลอน ยินดีมาก ที่ทราบ ว่าอ้างแอบ ไม่ปวดแปลบ ความหลัง ดังสังหรณ์ ทั้งไอดิน กลิ่นนา ยังอาวรณ์ มิอาจทอน หัวใจ ไปได้เลย พูดจริงๆ เพิ่งรู้จักคุณบูมที่นี่ แต่ก็ยินดีมากที่ได้รู้จักกัน ตัวเองก็เข้าใจผิด คิดว่าคุณบูม เป็นคนที่เคยรู้จักเหมือนกัน แต่ไม่เป็นไร คนเรามันเข้าใจผิดกันได้ ย้ำอีกครั้ง ยินดีที่ได้รู้จักกัน
26 พฤศจิกายน 2553 18:37 น. - comment id 1170731
อยากจะขอเชิญชวนแบบทวนเข็ม ได้แทะเล็มลีลา..จึงกล้าเผย อยู่ตรงนี้อ่อนละมุนเหมือนคุ้นเคย ชอบจริงเอยมิรู้จัก..แต่ตักตวง คมกวี ฝีปาก อยากสนิท เขียนสะกิด ดวงใจ คงไม่หวง คำว่า"ดิน" กินใจ อยากใคร่ทวง นึกว่าลวง เรียกเล่น คือเป็นเรา อยู่เวปหนึ่งพึงใช้..มิได้แจ้ง ชอบแสดงชายชาญ..จนงานเข้า หนีมาหลบ พบทางเพื่อบางเบา กลัวว่าเอามะพร้าวสวน..มาชวนนาย http://www.umarin.com/board/index.php ...ลองมาเที่ยวเวปนี้..ดูหน่อยไหมคะ?...มีเรื่องราวมากมาย ...เพิ่งไปเหมือนกัน..มีคนเขียนกลอน..อยู่ 4 คน ....มาแนวฟังเพลงกันบ้าง..เชื่อว่าคุณคงมีจิตใจสบายๆคล้ายกัน ....ผมชื่อ Natee แวะไปนะ..จะรอ..ว่าแต่ว่ากล้าตามผู้หญิงอย่างผมหรือเปล่า? ....อีกเรื่อง.คุณอ่านกลอนท่านฤทธิ์ ศรีดวง ลิงค์ล่างนี้ให้จบ ค่อยพบกัน ....เพราะบูม..อ่านหลายเที่ยวแล้วค่ะ http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem127404.html ..................................................
28 พฤศจิกายน 2553 12:37 น. - comment id 1170867
ฉันอยากเห็นเธอไปแต่ใช่ว่า จะหลบลี้หนีหน้าหรือว่าหน่าย ทุกทุกที่มีมุม..ให้สุมกาย แต่มีมุมโชคร้ายสำหรับฉัน ขอเห็นเธอตรงนี้..ที่เคยซ่อน มิใช่อ้อนอ่อนแอได้แค่นั้น ในมุมสุขมีเศร้าอยู่เท่ากัน แค่อยากปันอารมณ์..ตามสมควร คุณคือ Mymy แน่นะ............
30 พฤศจิกายน 2553 10:12 น. - comment id 1171111
**** เดี๋ยวมานะ ตามไปอ่านกลอนก่อน
30 พฤศจิกายน 2553 17:26 น. - comment id 1171212
...คุณคือ Dinner มื้อเย็นที่เป็นอยู่ ...ให้ขี้ตู่ Mymy ยังไงนั่น ...ตกลงจะยืนกรานพยานยัน ...เราไม่เคยรักกัน...ว่างั้นเถอะ ..............................................
1 ธันวาคม 2553 13:44 น. - comment id 1171316
......... เพราะฉันคือ dinner มื้อเย็นอยู่ อย่ามาตู่ Mymy ให้มันเลอะ ในมุมสุข มีเศร้า จึงซังเซอะ เพื่อมาเจอะ คนดี ที่นี่ไง ..................
1 ธันวาคม 2553 18:38 น. - comment id 1171363
สิ่งที่เธอทำอยู่..รู้แก่จิต ฉันอาจผิดที่เพ้อ,,เธอไม่ใช่ เธอไม่ใช้ชื่อปาน..นานเพียงใด? ฉันเป็นใคร?สำหรับเธอถึงเพ้อเอา ฉันเหนื่อยหน่ายท้อแท้..แต่ไม่ทุกข์ เธอสนุกมากไหม?เห็นใครเศร้า ฉันประสบปัญหา..จึ่งคว้าเงา ไม่อยากเดาว่าคือใคร? ตามใจเธอ บางครั้งอยากหยุดนิ่ง..ไม่ติงไหว อสงไขยกี่ภพ?..จะจบเหรอ? เธอคือฟางเส้นเดียวที่เหลียวเจอ ไม่ต้องเออ-ออตาม..ฉันปรามเป็น ปัญหาที่มีอยู่..เท่าภูเขา กรวดเล็กเข้ารองเท้า..เราไม่เห็น มันทิ่มตำยามเดิน..เกินลำเค็ญ เจ็บเช้า-เย็น.เปรียบเจ้า ให้เข้าใจ เขียนบทกลอนด้วยน้ำตา.."บ้าที่สุด" คำว่าหยุดยับยั้ง..หวังไม่ได้ ความหมกมุ่นครุ่นคิดคือพิษภัย ดับยังไง?..ไม่อยู่..คอยขู่มา .... เรามีปัญหาทางธุระกิจ..กับการดำเนินชีวิต .... ไม่ใข่เรื่องรักๆใคร่ๆ .... เราไม่ได้หวังจะระบายรายละเอียด ....ไม่ต้องกังวนเรื่องตัวตน...ตามสบาย .... เรามีเวปกลอนซ่อนชื่อ+ ซ่อนตัวหลายที่..แต่ระยะนี้เราอาการแย่ .....ช่วงนี้เราเบื่อตัวเอง...น้อยใจตัวเอง .....ถ้านายอยากต่อกลอนกับเราต่อตรงนี้..เราก็ยินดี ....ความรู้สึกจริงๆไม่มีใคร..เอาไปใส่ในกลอนได้หรอก ....เราขอบใจ...แต่เราคิดว่านายคือ..น้องปาน ....ถ้าใช่...แต่ไม่อยากรับ..ก็ตามใจ ....กลอนนี้เราอาจปรับปรุงเป็นภาษิตสอนใจต้องขออนุญาตเอาไปใช้ที่อื่นด้วยนะ ....นายไม่อยากอยู่อัมรินทร์.ก็ดี.เรากลัวชวนแล้วTakecare กลอนนายไม่ได้ ....ที่นั่น..เป็นละคร ฉากนึง..เราจะจบหลายครั้งแล้ว..กลอนที่ลงก็เป็นกลอนเก่าบ้าง ....เราอยากฟังเพลงมากกว่า ....ขอโทษนะ.. ...............................................
2 ธันวาคม 2553 18:17 น. - comment id 1171469
เราไม่ใช่น้องปานหรือใครทั้งนั้น เรา...คือเรา นี่แหละ อย่างที่บอก เพิ่งรู้จักคุณบูมที่นี่ ตัวเราเองก็เขียนกลอนไว้หลายที่ ใช้หลายนามแฝง แต่เราไม่ใช่น้องปาน(ยืนยัน) ถ้ามีปัญหาทางด้านธุรกิจ และการดำเนินชีวิต ลองปล่อยๆ มันบ้าง บางทีกาลเวลา จะช่วยจัดสรรให้ทุกสิ่งดีขึ้นเอง เราเองก็เคยมีปัญหา คิดไปอย่างนั้นอย่างนี้ แต่มันก็ไม่ใช่อย่างที่คิด และบางทีจังหวะของชีวิต กลับทำให้ทุกอย่างลงตัวได้อย่างไม่น่าเชื่อ ขอให้คุณบูม "ผ่าน" เหตุการณ์ และความรู้สึกชวงนี้ไปให้ได้....เราเอาใจช่วย... ขอให้โชคดีนะ ......................
3 ธันวาคม 2553 11:58 น. - comment id 1171556
เปิดคอมฯทิ้งพิงโซฟากล่าว"ลาก่อน" ถนอมใจไหวอ่อนซ่อนร่ำไห้ ปิดเปลือกตาฟังธรรมกรรมที่ใด? มิห่างไกล.ความเชื่อ.ที่เรื้อรัง เคยเลือกสรรปั้นแต่งหนีแหล่งทุกข์ ชอบแต่สุข..สุขล้น..ดั่งตนหวัง เจอปัญหาถาโถมเสียงโครมดัง สิ้นพลังหมดท่า..เหมือนบ้าบอ ให้ความสุขตนเอง..ไม่เกรงหรอก" ไร้ทางออกเปรอปรน..คนที่ขอ เป็นภาระ..เหมือนนัด..มารัดคอ ใครพะนอยิ่งลำคาญจนบานปลาย เบื่อก็สู้รู้ดี...หนีไม่พ้น เกิดเป็นคน...ปลอบคนที่เสียหาย ถึงวันวุ่นฝุ่นเข้าตา..(อยากลาตาย)หาที่คลาย เลือกตรงบ้านของนาย...ก็แล้วกัน .....วันนี้มีแต่เรื่องต้องถอนหายใจ...ว่ะ .....ขอโทษ.อยากพุด...ว่ะ ไม่อยากพิมพ์เป็นแบบอื่น .....ไปทำงานก่อนนะ...นายไม่ต้องตอบ.เราไม่ได้รอ. .....แวะเข้ามาหลายครั้ง เพราะอยากเขียนแล้วเปลี่ยนใจ.. .....ช่างมันเถอะ..ขอบใจนะ ..................................................
3 ธันวาคม 2553 00:57 น. - comment id 1171564
แม้ปัญหามีอยู่ดูไม่เที่ยง แต่จะเลี่ยงทุกข์เข็ญ...ก็เป็นยาก เหนื่อยทั้งใจ..หัว..เท้า..ก้าวลำบาก ใช่ว่าอยากจมปรักแบบหลักลอย เมื่อวิถีมีกรรมก็ทำเถิด แสร้งบรรเจิด..เหมือนสุข ทุกข์เต็มร้อย ศีลกำหนดกฏไว้ก็ใช้น้อย จิตไม่คล้อยตามจินต์ถวิลวรณ์ ยิ่งเป็นช่วงธุระกิจมาติดขัด โลกบัญญัติบัญชา..ให้ล้าอ่อน จะแข็งขืนยืนกรานต้องรานรอน มิได้หลับได้นอน...ยากผ่อนใจ ..........ผมนอนก่อนนะ.......
13 ธันวาคม 2553 17:21 น. - comment id 1171603
................................... เพราะไม่คิด ลวงหลอก จึงบอกให้ ไม่ใช่เวป ในฝัน ใครกันหนอ เป็นเวปเพื่อน ร่วมงาน เขาขานรอ แล้วร้องขอ ให้ช่วย ร่วมด้วยกัน มาวันนี้ เวปนั้น พลันแตกดับ ไปพร้อมกับ การเมือง สะเทือนขวัญ ทั้งเสื้อเหลือง เสื้อแดง แบ่งค่ายกัน เขาห้ำหั่น จน admin แทบสิ้นลม ท่ามกลางความ ร้อนแรง เขาแก่งแย่ง ต่างแสดง ฤทธี มิเหมาะสม หากอีกหลาย กระทู้ ดูรื่นรมย์ และนิยม ปันใน น้ำใจกัน เพราะการเมือง วุ่นวาย ไปกันใหญ่ กระจายไป ทั่วประเทศ ทุกเขตขันธ์ เมื่อเกิดเรื่อง เคืองแค้น ขัดแย้งกัน ดังสนั่น เวปบอร์ด ก็จอดลง ท่องไปใน เวปหนึ่ง ซึ่งเย็นอยู่ มีกระทู้ กล่อมกมล จนใหลหลง หลากนามแฝง แบ่งไว้ ไม่งวยงง เจตน์จำนง ปกปิด คิดซ่อนตัว ด้วยใจจริง จริงใจ ไม่ได้หลอก มิกล้าบอก เพื่อให้ ใครยิ้มหัว แต่เพราะความ หวั่นหวาด เพราะขลาดกลัว จะรู้ตัว รู้ตน จนเกินงาม ขอมีม่าน บังใจ เอาไว้หน่อย คงไม่กร่อย ปล่อยให้ มีคำถาม หากนวลน้อง ลองคิด พินิจตาม เป็นนิยาม ที่เจ้า คงเข้าใจ ..............................
3 ธันวาคม 2553 17:32 น. - comment id 1171638
ปัญหาที่ มีอยู่ ดูไม่เที่ยง จะหลบเลี่ยง ทุกข์ได้ อย่างไรขวัญ เอาความทุกข์ คุกคาม ลามชีวัน มาแบ่งปัน กันบ้าง เพื่อบางเบา หยุดยาวหลายวัน คุณบูม หาโอกาสไปเที่ยวไหม เผื่อจะสบายใจ เราเองก็มีเรื่องเครียด แต่คงไม่หนักเท่าคุณ ขอให้ปัญหาทุกอย่างคลี่คลายโดยไวนะ เราคงทำได้แค่เอาใจช่วย
3 ธันวาคม 2553 20:54 น. - comment id 1171644
เป็นคำพูดที่เห็นแล้วเย็นจิต ขอบใจมิตร.สหาย..ให้คลายเขลา ช่วงเวลามัวหม่นในตนเรา ถ้าไม่เอาปล่อยวางจะครางครวญ จึงแวะเวียนเขียนบอกปลอกกิเลส ความพิเศษตรงนี้มีครบถ้วน เรามิได้อยากคบเพื่อทบทวน แค่เชิญชวนเขียนคำที่จำใจ หลังจากนี้สองเดือนเพื่อนจะเปลี่ยน ยังวนเวียนอ่านอยู่จะรู้ได้ ขอเพียงผลพ้นพ่วงที่ห่วงใย จะผ่านไปต้นปีแล้วดีงาม ขอบใจจังยังทนมิบ่นเบื่อ ยอมเป็นเหยื่อเนื้อกวีไม่มีห้าม ขอกุศลผลบุญเกื้อหนุนตาม ให้งองามกายใจไปนิรันดร์ .....ขอบใจมากนะ .....คำพูด..ให้หาเวลาไปพักผ่อน...กินใจมาก .....เพราะส่วนใหญ่.มีแต่เราชอบชวนคนอื่น.ไม่เคยมีใครชี้ชวนเราเลยยย .....ดีใจที่ได้รู้จักกัน...อีกสักเดิอนครึ่ง..เราจะน่ารักกว่านี้ .....จะเขียนกลอนดีดีให้อ่านนะ .....ไปนะ.......................................
4 ธันวาคม 2553 09:05 น. - comment id 1171659
เราไม่อยู่.สี่วัน.ละกันเพื่อน จะคล้อยเคลื่อนย้อนกลับมารับขวัญ หวังร่วมเรียงเคียงคอยร้อยรำพัน เพื่อแบ่งปันอักษรากลับมาเจอ อย่าคิดถึง.อย่าเศร้า.อย่าเข้าข้าง เว้นช่องว่างไว้เถิด..ถ้าเกิดเพ้อ ฝากสายลมพรมลูบมาจูบเธอ ไม่อาจเจอ..ในด้าน..ที่ม่านบัง ถ้าหากแม้นมีสิทธิ์จะติดปีก บินหลบหลีกอาจหาญไปด้านหลัง แต่ด้วยน้อยวาสนา..ชะตายัง เพียงลำพังเขียนกลอน.มาอ้อนรอ ................................................
7 ธันวาคม 2553 18:02 น. - comment id 1171994
....... เพียงแว่วฟัง สำเนียง เสียงที่บอก ก็ยิ้มออก เย็นใน ฤทัยหนอ ทั้งภาระ หน้าที่ มีมารอ ก็เพียงขอ ให้ขจัด ปัดเป่าไป ขอให้เพื่อน โชคดี มีแต่สุข อีกความทุกข์ ห่างหาย อย่ากรายใกล้ ที่นี่พร้อม โอบเอื้อ ด้วยเยื่อใย และสานต่อ กำลังใจ ให้แด่เธอ จะรอฟังกลอนดีๆ จากคุณบูมนะ ..........................
8 ธันวาคม 2553 00:44 น. - comment id 1172030
ขอบใจจังยังรอมาต่ออยู่ ใจหดหู่ห่างหายดั่งคลายเผลอ ถึงเวลาบอกกันฉันอยากเจอ ครวญละเมอเวปไหน?..ชื่อใดกัน เธอท่องยุทธสุดหยั่งคงหลั่งไหล ขอตามอ่านได้ไหม?..เว๊ปในฝัน มีกระทู้ลึกซึ้งกึ่งรำพัน แอบโจทย์จันหวั่นหวาดหรือขลาดคำ ถ้าใจจริง+จริงใจ..บอกไปเถอะ เราอาจเจอะมาก่อน..กลอนขำขำ ขอเพียงฝากนามปากกา คงกล้าทำ หรือใจดำเป็นนิสัย...ช่วยไขที .................................................
14 ธันวาคม 2553 13:54 น. - comment id 1173341
ไปอุดรฯถือศีลถวิลหยุด แล้วถูกฉุดขึ้นเฉียงไปเชียงใหม่ กราบวัดวาคณุบาล้านนาไทย ทำเรื่อยไปมิอยากหยุดสุดกมล เดี๋ยวต้องรีบหาหมอเช็คคอขา เพื่อได้ยาบำรุง..ใช้ถุงขน ไม่บรรยะบรรยัง..ระวังตน จึงส่งผลยามซวย..ป่วยที่ใจ ขอบใจดิน..ถิ่นไหน?ก็ไม่รู้ ที่จู่จู่.มือบอนต่อกลอนไหว เอื้อวิหคนกป่า..บินมาไกล ร่วมพฤกษ์ไพรพึ่งพิง..แอบอิงกลอน ถอนหายใจหลายครั้ง...แต่ยั้งคิด ไม่สนิทหรือสนิท..จิตสังหรณ์ ผ่านเรื่องราวมากมายมาหลายตอน ทั้งหาบคอนงานเยอะ..จนเลอะเลือน มีหลายหลากฝากปมอารมณ์ซ่อน เก็บไว้ก่อนละกัน..รักฉันเพื่อน ถ้าปีหน้าฟ้าใหม่ยังใคร่เยือน อาจต้องเฉือนม่านบางที่ขวางกาย ต้องเดินทางอีกแล้วขอแจวก่อน ได้หลับนอนชั่วงีบรีบขวนขวาย ยากเก็บความซับซ้อนย้อนบรรยาย ขอให้นายเป็นดิน...ชื่อ"ชินจัง" ..................................................
17 ธันวาคม 2553 18:30 น. - comment id 1174096
[center][color=darkblue][size=14pt]ไม่อาจย้อน เวลา คืนมาได้ จะต้องทำ ฉันท์ใด ใจเจ้าเอ๋ย แค่ล้อเล่น เพียงนิด ไม่คิดเลย เธอจะเอ่ย วาจา เหมือนฆ่ากัน เราพบกัน ตรงนี้ เมื่อปีก่อน ทุกช่วงตอน อยู่ใน หัวใจฝัน เคยหยอกเย้า ยั่วแหย่ เคยแคร์กัน แล้วเหตุใด แปรผัน ผิดสัญญา เหมือนไม่เคย รักกัน ในวันนี้ ทุกนาที เสียขวัญ หวั่นผวา อยู่กับความ ว้าเหว่ แห่งเวลา ที่ผลาญพล่า เราให้ ไกลจากกัน[/size][/color][/center]
18 ธันวาคม 2553 15:58 น. - comment id 1174252
................. คุณบูม ขอบคุณมาก ลองทำดูแล้ว พอทำได้อยู่ เที่ยวใหญ่เลย คงสบายใจขึ้นนะ .........................