ธรรมชาติให้ป่ามากับโลก มนุษย์สัตว์บริโภคผลาหาร เขียวขจีมีสีสันนั้นช้านาน ตั้งแต่ครั้งบรรพกาลเทศาลัย เกิดวายุกระหน่ำทำชายหาด โกงกางเก่งกาจรับเอาไว้ ฝนกระหน่ำพรำยอดเขาลำเนาไพร ป่าซับน้ำเอาไว้ทยอยคืน ให้แม่น้ำลำห้วยช่วยชีวิต ให้พื้นราบผลิตทั้งแผ่นผืน ให้ท้องนาอยู่ยงยั้งยาวยืน ให้ข้าวปลาฟักฟื้นชีพสืบพงศ์พันธุ์ ความโลภครอบงำกระหน่ำจิต เข้าพิชิตผืนป่าพาจัดสรร ที่ราบลุ่มริมชลาปลาผสมพันธุ์ ถูกมนุษย์โรมรันเป็นของตน บุกรุกที่ทางชลธี เคยไหลผ่านทุกปีฤดูฝน แม้ธารแห้งขอดขาดสายชล ฤดูฝนน้ำหลากพรากเส้นทาง บรรพชนเคยอยู่ผู้อาศัย ยกเคหะแห่งใดไม่กีดขวาง ยกใต้ถุนสูงไว้ไม่ขวางทาง สายชลไม่เอ่อขังไหลลงนที ปัจจุบันบ้านติดพื้นธรนินทร์ ใช้ดินใช้อิฐมาถมที่ ไม่ดูเส้นทางชลธี ปฐพีจึงมีแต่น้ำตา
30 ตุลาคม 2553 17:04 น. - comment id 1165529
เดือดร้อนกันทั่วถ้วนเลยนะคะ
30 ตุลาคม 2553 22:56 น. - comment id 1165669
ขาดความสมดุลดังที่ ครูว่าครับ น้ำ ดิน ฝน ป่า ไปคนละทาง เสียแล้ว. ได้แง่คิดสะกิดความรู้สึก ครับ. :)
31 ตุลาคม 2553 10:44 น. - comment id 1165742
เอาใจช่วยคะ
31 ตุลาคม 2553 16:12 น. - comment id 1165822
สวัสดีค่ะ คุณวชรกานท์ มาอ่านงานดีๆ ค่ะ อ่านแล้วนึกถึงปลวกค่ะ อยู่ที่ไหน ก็พังที่นั่น
31 ตุลาคม 2553 19:51 น. - comment id 1165861
ให้ข้อคิดขอรับ
2 พฤศจิกายน 2553 21:25 น. - comment id 1166227
เกิดจากฝีมือมนุษย์นี่เอง
2 พฤศจิกายน 2553 21:57 น. - comment id 1166240
เยี่ยมไปเลยค่ะ บทไพเราะด้วย