๏ สายฝนยังชื้นชุกอยู่ทุกคาบ โรยรินอาบแดนภพจบสวรรค์ ไร้แสงเรื่อเรืองรองของดวงจันทร์ ร้างแสงวันเคลื่อนขับเข้าจับจอง ไผ่ยืนกอแกว่งไกวกลางสายฝน ท่ามเมฆหม่นซึมเซาดูเศร้าหมอง หว่างคืนวันอิ่งอ้อยให้คอยมอง สูรย์,โสมส่องล่องฟ้า ณ คราใด เหมือนห้วงจินต์ถวิลคอยหนึ่งรอยรัก ซึ่งประจักษ์ค่ายิ่งกว่าสิ่งไหน แววอาทรห่วงหาและอาลัย ยังโชนไฟคุเชื้อทุกเมื่อกาล หวังบางใครรับรู้แม้นครู่หนึ่ง รักตราตรึงห้วงใจเกินไขขาน จักฝากฟ้าส่งข่าวกลัวยาวนาน ฝากลมผ่านหวั่นร้างบนทางจร มาดแม้นสองห้องทรวงคล้องพ่วงจิต นิรมิตแห่งฝันของวันก่อน จงประกายข้ามขัณฑ์สีทันดร ให้บังอรประจักษ์ความรักเรา สายฝนยังชื้นชุกอยู่ทุกคาบ โรยรินอาบภพภูดูเงียบเหงา ไร้โสม,สูรย์เคลื่อนผ่านนับนานเนา แต่รอยเงารักจรัสแจ่มชัดทรวง๚ะ๛
25 กันยายน 2553 09:57 น. - comment id 1158568
ไพเราะและซึ้งๆ เช่นเดิม
25 กันยายน 2553 09:59 น. - comment id 1158570
แวะมาเป็นเพื่อนในยามเหงา นะ
25 กันยายน 2553 09:59 น. - comment id 1158571
เวลามันเศร้าจริงๆนี่มันแต่งไม่ได้เลยครับ
25 กันยายน 2553 10:42 น. - comment id 1158577
ไพเราะมากค่ะคุณบินเดี่ยวฯ ต้องให้น้องวลีฯ มาแต่งตอบ แบบไพเราะเหมือนกันนะคะ
25 กันยายน 2553 18:59 น. - comment id 1158644
สวัสดีค่ะ คุณบินเดี่ยวฯ กลอนงดงามอ่อนหวานมากค่ะ ขออนุญาตต่อนะคะ สายฝนยังชื้นชุกอยู่ทุกคาบ โรยรินอาบภพภูดูเงียบเหงา ไร้โสม,สูรย์เคลื่อนผ่านนับนานเนา แต่รอยเงารักจรัสแจ่มชัดทรวง .........คุณบินเดี่ยวหมื่นลี้........... ๐ สาส์นจากภูร้อยพากย์ราวฝากภักดิ์ ดั่งสลักอักขราจากฟ้าสรวง หรือวสันต์เสกเสียงเพียงลมลวง เพื่อโน้มหน่วงขวัญคล้อยจนลอยลับ ๐ ไผ่ลิ่วลู่ล้อลมพลิ้วพรมหล้า หยาดน้ำฟ้าซัดสาดแทบขาดดับ หรือเทียบหนาวอกนุชสุดระงับ โพยมพยับห้อมหนยิ่งหม่นใจ ๐ ห่างไกลสุดเขตขัณฑ์ต่างอรรณพ เวียนบรรจบเพียงฝันที่สั่นไหว จินตภาพพร่า-พลางกลางหทัย เอื้อมคว้าไขว่ก็คว้างอยู่กลางลม ๐ จะรอคอยสูรย์พร่างระหว่างพรุ่ง พรายเรื่อรุ้งหลากสีคลี่ห้อมห่ม โอบฤดีรวมขวัญวันภิรมย์ พรากสิ้นความขื่นขมให้ล่มลาญ ๐ สั่งฝากฟ้าโปรยฝนปนคิดถึง สู่ใครหนึ่งรู้รับระดับหวาน เพื่อหล่อเลี้ยงใจขื่นให้ชื่นบาน กว่าพ้นผ่านขวากขวางร่วมทางจร
25 กันยายน 2553 19:10 น. - comment id 1158652
เห็นกอไผ่ลิ่วล้อ ลมไสว เห็นนกบินร่อนไกล ห่างฟ้า เห็นเดือนเคลื่อนลาไล หายวับ เห็นจิตสั่งสู้ท้า ค่ำเช้าถึงนวลฯ มาแจมแบบโคลงเคลงคะ อิ
26 กันยายน 2553 18:50 น. - comment id 1158777
มาเยี่ยมชมผลงานงดงามค่ะ
26 กันยายน 2553 19:54 น. - comment id 1158787
** ลำนำคำร่ำร้อง ลอยไกล ลมฝากนำดวงใจ แด่เจ้า เพียรรอหากหทัย คงอยู่ คู่แฮ หวังรักคงคอยเฝ้า มิรู้แรมรา.......ฯ บทกลอนถ่ายทอดความรู้สึกได้ดีมากค่ะ..อ่านแล้วเศร้าจัง...มาเยี่ยมให้กำลังใจกันนะคะ...
27 กันยายน 2553 13:05 น. - comment id 1158880
เพราะค่ะ
27 กันยายน 2553 15:46 น. - comment id 1158897
@...คห.1...ขอบคุณมากครับที่แวะมาครับ @...คุณฝนทอง...ขอบคุณมากครับ @...คุณคนเดียวกัน..เวลาเศร้าเราก็แต่งกลอนรักสิ..ลองดูนะ... @...คุณอนงค์นาง...ขอบคุณมากครับที่แวะมาอ่านและทักทายกันครับ
27 กันยายน 2553 15:56 น. - comment id 1158898
@...คุณวลีลักษณา...งานของคุณวลีงดงามมากครับ.. ๐ สั่งฝากฟ้าโปรยฝนปนคิดถึง สู่ใครหนึ่งรู้รับระดับหวาน เพื่อหล่อเลี้ยงใจขื่นให้ชื่นบาน กว่าพ้นผ่านขวากขวางร่วมทางจร ...........วลีลักษณา... ลมแผ่วพลิ้วพักไกวไผ่ก่อเก่า คล้ายบอกเล่าพจน์พากย์จากสมร ว่ายังคงจำจดทุกบทตอน อีกอาวรณ์ห่วงหาทุกคราไกล ฟ้าโปรยฝนอาบพงแดนดงป่า คล้ายหอบจำนรรจาฝากมาให้- คนคอยขวัญคืนมาด้วยอาลัย จึ่งร่ำไรรินหลั่งมิรั้งรอ รับรู้แล้วคิดถึงจากหนึ่งนุช ว่าพิสุทธิ์เพียงใดจากใจหนอ พี่จักสานสร้างรักที่ถักทอ ไว้คอยรอขวัญคืนด้วยชื่นบาน
27 กันยายน 2553 16:02 น. - comment id 1158900
@...คุณแก้วประภัสสร คืนวันผันผ่านห้วง...................เวลา เดือนเคลื่อนเวียนพรรษา.......ล่วงแล้ว สายชลล่องไหลครา-.................วารผ่าน ชายหนึ่งหวังอย่าแคล้ว-............คลาดชู้เชยชม @...คุณไม้หอม..ขอบคุณมากครับที่แวะมาทักทายกันครับ @...คุณราชิกา..ไม่ได้ทักทายกันนาน..สบายดีนะครับ หวังเรียมรับรู้บ้าง.................ความใน หวงห่วงแลอาลัย...................ค่ำเช้า กลางทรวงดั่งกองไฟ.............สุมก่อ ครวญคร่ำถึงหนึ่งเจ้า.............มิเว้นวันคืน @...คุณจอบอ...ขอบคุณมากครับ
28 กันยายน 2553 14:20 น. - comment id 1159098
สวัสดีค่ะคุณบินเดี่ยว อนงค์นางชอบอ่านกลอนของคุณบินเดี่ยวกับน้องวลีฯค่ะ ดูคลาสสิก น่าทะนุถนอม งดงามในจินตนาการ ยังไงก็ไม่ทราบค่ะ ไม่เหมือนความรักที่มีอย่างอื่นปนมาด้วย ชื่นชมค่ะ