เช้านี้ฉันมองเห็น ความลำเค็ญบนร่างหนึ่ง แขนขาเขาดูตึง เต็มไปด้วยแผลเรื้อรัง เหยียดกายนอนคว่ำหน้า เหงื่อออกมาทั่วแผ่นหลัง ยื่นมือขอเศษตังค์ ผู้คนมองอย่างสนใจ บ้างให้เพราะเวทนา คงอ่อนล้านั่งไม่ไหว บางคนเดินผ่านไป มิเฉียดใกล้ชายพิการ ดวงตาเขาสอดส่าย แลร่างกายน่าสงสาร คงทนทรมาน เลือดเกรอะกรังซ้ำบวมแดง เขาคลานไปข้างหน้า แทรกกายาทุกหนแห่ง แสงแดดเริ่มร้อนแรง ดูเหนื่อยล้าเสียเหลือทน กระป๋องที่เขาถือ นี่น่ะหรือความเป็นคน ฉันคิดอย่างสับสน หยิบเศษเหรียญหย่อนลงไป ตกเย็นฉันกลับบ้าน ท้องเริ่มพล่านทนไม่ไหว หิวจนแทบขาดใจ แวะร้านข้าวในทันที ข้าวแกงอยู่ตรงหน้า เลิกวางท่าไม่รอรี ตรงไปนั่งเก้าอี้ อารมณ์ดีแล้วซิเรา มองไปยังหน้าร้าน คนพลุกพล่านไม่เงียบเหงา ลูกค้าเยอะไม่เบา แวะเวียนชิมเป็นประจำ ชายหนึ่งเดินเตร็ดเตร่ ร่างซวดเซเกือบคมำ ตรงพื้นที่เหยียบย่ำ เต็มด้วยน้ำที่เจิ่งนอง ใช่เขาคนเมื่อเช้า เหตุใดเล่ายืนถือของ ฉันนึกพร้อมตรึกตรอง จึงชัดแจ้งในเหตุการณ์ เขาสร้างภาพลวงตา แปลงกายาน่าสงสาร แท้จริงนั้นคือมาร หลอกสังคมไปวันวัน นี่หรือจิตมนุษย์ หยั่งไม่สุดแลผกผัน เล่ห์เหลี่ยมสารพัน ล้วนสิ่งสร้างให้รานรอน เพียงภาพภายนอกเย็น อาจซ่อนเร้นด้วยไฟฟอน แจ่มชัดทุกบทตอน รู้เท่าทันนั่นแหละดี เทียนหยด
18 กันยายน 2553 23:55 น. - comment id 1157042
แหม....แม่เที่ยน...หมีหมี่...อิอิ ที่ลับ ลวง พราง บน แผ่นฟิลม์..อ่ะ ซัดตังเราไปตั้งหลายบาท...เรยยยน้า.. เปลี่ยนหลายบทด้วยน้า...แม่คุณ..อิอิ. แค่คนบน ทางเท้า... นึกซะว่า...เจอะดารานักแสดง..กลางทางเท้า แระกานนน..จร้า... อ้อ...ลืมๆๆๆ.... หวัดดีจร้า...อาคุงอ้อย....ชึ๊ก ชึ๊ก ...
19 กันยายน 2553 00:04 น. - comment id 1157045
...........ไพเราะมากค่ะ..............
19 กันยายน 2553 07:00 น. - comment id 1157092
หักมุมได้ยอดเยี่ยมมากๆครับ
19 กันยายน 2553 18:51 น. - comment id 1157200
วันก่อนฉันมองเห็น ชายหนึ่งเป็นเช่นขอทาน ขาขาดน่าสงสาร ถือขันน้ำลากนำเดิน เขาดูคิ้วเครารก หน้างันงกระหกระเหิน คนอื่นเห็นทำเมิน แต่ฉันเกินจะห้ามใจ ยื่นเงินใส่กระป๋อง แล้วยืนมองอย่างสงสัย คนขายกาแฟไง บอกฉันว่าไม่น่าเลย ขอทานขี่รถหรู สองประตูเบ๊นส์น้องเอ๋ย ตอนเย็นถอดขาเลย เดินไปเฉยเหมือนไม่จน ที่ท่าน้ำสี่พระยาค่ะ คนขายกาแฟบอกพี่มา รู้งี้ แม่งแตะก้นมันสักปาบก็ดีนะ อิ
20 กันยายน 2553 12:33 น. - comment id 1157275
ปู่กิ่งฯ... อ่ะจ้า..ศิษย์พี่...ขอบคุณหลายๆเด้อ...
20 กันยายน 2553 08:06 น. - comment id 1157281
คุงกี... แหมๆๆ นั้นมันบนแผ่นฟิลม์..ก็พอได้อยู่.. แต่นี่มังเห็นตำตาน่ะซิ... ใครจะทนได้หล่ะพ่อคู้นนนนนน... อะหวัดดีเช่นกัน อาคุงกี...คั่ก คั่ก
20 กันยายน 2553 08:07 น. - comment id 1157282
คุณ boomerang ขอบคุณที่แวะมาทักทายค่ะ มีความสุขนะคะ
20 กันยายน 2553 08:09 น. - comment id 1157283
คุณสุริยันต์.... อืม..ก็ว่ากันไปตามที่เห็นเลยค่ะ.. ขอบคุณที่แวะมาทักทาย มีความสุขนะคะ
20 กันยายน 2553 08:10 น. - comment id 1157284
เจ๊แบม... นั่นๆๆๆ เหงป่ะเจ๊...ภาพที่เห็นเป็นสิ่งลวง เง้อ.. ทำไปได้เนาะ
20 กันยายน 2553 08:10 น. - comment id 1157285
20 กันยายน 2553 08:11 น. - comment id 1157286
10 เซฟๆๆๆ ไว้ก่อง...ยังไงก็บ้านเรา มิใช้บ้าน ลิงลพ 55555
20 กันยายน 2553 10:45 น. - comment id 1157325
งามภาพงามกาพย์ยิ่ง มาชื่นชมจ้า
20 กันยายน 2553 11:19 น. - comment id 1157330
บ่อยเลยพิม เห็นขอทานยืนขอข้าวกิน แม่ค้าก็ไล่ พิมยื่นตังค์ให้ใจก็คิด ทำไมนะ แค่ข้าวสักจาน ให้ทานคนจนมันจะทำให้เขาหมดสักเท่าไหร่ ไม่ใช่ ขอทานอย่างเดียวนะ เป็นคนสติไม่ดี เสื้อผ้ามอมแมมรุงรัง เหม็นคลุ้งไปทั้งตัวเขาไม่ สามาถทำมาหากินเองได ทีนี้เจอตรงไหน ให้เงินตรงนั้น มีอีกเคส คนนี้ก็สติไม่ดี พบเห็นเป็นสิบๆปีแระคนนี้ ให้ตังค์บ่อยมาก บางทีจอดรถมีของกินอะไรในรถก็ให้หมด ละยื่นตังค์เหรียญทั้งหมดเกือบสองร้อยให้อีก เขาไม่เอา ไม่รู้ว่าเป็นตังค์ พอให้ยี่สิบ รีบรับเลย พอเดินไปเจอแม่ค้าขายลูกชิ้นปิ้งก็ซื้อให้อีกยี่สิบบาบ บอกแม่ค้าว่า ถ้าคนสติไม่ดีคนนั้น(ชี้มือ) เดินผ่านมาก็ให้เขานะ แม่ค้าบอก ให้ของกินน่ะดีแล้ว อย่าให้ตังค์มัน เอาไปซื้อเหล้ากินหมด ซะงั้น...ยังไงก็ให้อยู่ค่ะ เฮ้อ...เป็นคนใจอ่อน เห็นแล้วอดใจไม่ ไหวสักที แต่...เจออย่างที่คุณอ้อยเล่า กรำ....ก็เอาเหอะ ถ้าเขาทำได้ก็ได้กับตัวเขาแหละคุณอ้อย ..ชิมิฯ
20 กันยายน 2553 12:43 น. - comment id 1157344
คุณพิม... ปกติอ้อยเห็นคนตาบอดที่เขามานั่งร้องเพลง ตามข้างทางหรือเดินร้องก็แล้วแต่ อ้อยมักจะ หยิบเงินใส่กล่องให้เขาเสมอๆ..โดยส่วนตัว พวกเขาคือ วณิพก เขามีเสียงเพลงมาแลก เท่ากับว่าเขาสร้างความสุขให้เราเหมือนกัน อ้อยเต็มใจน๊ะถ้ามาลักษณะนี้... > > ส่วนมากก็จะดูว่าน่าให้หรือเปล่า..บางคนเขา พิการเขาก็ยังพยายามทำมาหากินไง...แต่ไอ้ คนที่มันมีครบสามสิบสองเนี่ย..กลับมาแกล้ง เพื่อหวังผลประโยชน์อันนี้ไม่ปลื้มเลยจริงๆ > > สำเหตุการณ์ที่เจอมาก็ไม่ได้คิดมากหรอกค่ะ เพียงแต่อยากเตือนตัวเองเท่านั้นหล่ะค่ะ.. มีตาหามีแววไม่..อ้อยเอ๊ยยย คุณพิมสบายดีนะคะ
20 กันยายน 2553 12:48 น. - comment id 1157346
ไม่รู้ใครเคยเห็นขอทานขาพิการบนสะพาน ระหว่างทางจากพันทิพย์ไปแพททินั่มป่ะ ขาไปเราเหงมังขากุด ขากลับเราเหงมันเดินกลับบ้าน ฮาดีหว่ะ อาชีพใหม่
20 กันยายน 2553 17:39 น. - comment id 1157431
ศิษย์พี่.... มาชื่นชมผลงานค่ะ...
20 กันยายน 2553 19:19 น. - comment id 1157453
คิดซะว่า ชาติก่อนเราอาจจะเคยเป็นหนี้เขาแล้วดาบอ่ะแกร บางครั้งความสงสารก็กลับมาทำร้ายเราได้นะแกร ไม่ว่าจะทางกายหรือแม้กระทั่งใจ
20 กันยายน 2553 20:06 น. - comment id 1157472
มาชื่นชมผลงานคับ
20 กันยายน 2553 21:41 น. - comment id 1157504
คุณอ้อย ได้ยินว่าอยากให้มาเม้นท์บ่อยๆ เอาซะหน่อยก็แล้วกัน งานกาพย์ชุดนี้อ่านแล้วเข้าใจ รู้เรื่อง ถือว่าใช้ได้แล้ว แต่การแต่งร้อยกรองเล่าเรื่องแบบนี้เป็นลักษณะหักมุม จุดสำคัญมากของงานหักมุม คือการทำให้ผู้อ่านเดาทางไม่ถูก ถ้าเป็นไปได้ความเฉลยที่วรรคสุดท้าย แล้วจบไปเลย ทิ้งให้ผู้อ่านคิดเอาเอง แต่ชุดนี้สี่บทหลังบอกเรื่องทุกอย่างครบ ทำให้ไม่เกิดการหักมุมที่ทำให้ผู้อึ้ง วิธีการแก้ไขงานชุดนี้ในความเห็นของผมคือ น่าจะมีหนึ่งหรือสองวรรคช่วงกลางเรื่องเป็นการบอกลักษณะเด่นของขอทานคนนี้ สมมุติว่า มีแผลเป็นที่หน้า พอบอกเสร็จแล้วให้เล่าเรื่องต่อตามปรกติ ที่ยากหน่อยคือช่วงบทท้ายๆ ต้องเล่าเรื่องถึงชายอีกคนโดยที่ผู้อ่านต้องไม่ระแคะระคายว่าเป็นไอ้หมอนี่ หลอกผู้อ่านไปว่าชายคนใหม่เป็นตัวละครใหม่ แล้วให้มาเร่งขมวดปมที่บทสุดท้าย เร่งบรรยายลักษณะของชายที่ว่า แล้ววรรคสุดท้ายต้องบอกว่า เขามีแผลเป็นที่หน้า แล้วจบไปเลย อ่านแล้วเข้าใจหรือเปล่าเนี่ย ได้ยินใครไม่รู้เคยบ่นว่า หัวหน้าแก้งค์ ไม่ดูแลลูกน้อง วันนี้ทำหน้าที่ซะหน่อย อ้อยเขียนกลอนแปดได้ดีอยู่แล้ว ควรนำความสามารถตรงนั้นมาใช้ในกาพย์ด้วย เพราะกาพย์ยานี มีข้อจำกัดน้อยเรื่องสัมผัส จึงทำให้มีอิสระในการใช้คำมาก เอาแค่นี้ก่อนก็แล้วกัน (ต่อไปจะให้เมนท์ อีกไหมหนอ) ขอให้มีความสุขมากๆครับ
20 กันยายน 2553 22:14 น. - comment id 1157517
สหายยา.... นั่นจิ...อาชีพใหม่..เขาว่ากันว่า..รายได้ มากกว่ามนุษย์เงินเดือนซะอีกแน่ะ!... เฮ้อ..กรรมไม่แบฟร่ะยาเอ๊ยยย
20 กันยายน 2553 22:16 น. - comment id 1157518
ศิษย์น้อง แกงฯ หายไปนานเลยจ๊ะ.. สบายดีมั๊ยเอ่ย... ขอบคุณที่แวะมาทักทายกันน๊ะจ๊ะ
20 กันยายน 2553 22:20 น. - comment id 1157521
ฝน.... อืม..นั่นดิ..ว่าแต่ไม่รุ ว่าชาติที่แล้วตรูเป็น หนี้คนกี่คนเนาะ... จะได้ทำใจเผื่อไว้ล่วงหน้าเลยแกร หุหุหุ > >
20 กันยายน 2553 22:22 น. - comment id 1157522
พี่วิทย์..... โห..หายไปไหนมาค่ะพี่...ไม่ได้เจอกันเล๊ยย ฮ่าๆๆ พูดเหมือนเคยเจอนิ..อิอิ พี่สบายดีนะคะ ขอบคุณที่แวะมาค่ะ
20 กันยายน 2553 22:32 น. - comment id 1157527
คุณฤทธิ์.... ไม่อยากจะบอกเลยว่า..แอบอมยิ้มคนเดียว ที่เห็นคุณเข้ามาเม้นท์... ดีใจน๊ะที่คำ ขอของอ้อยสัมฤทธิ์ผล. .. > > ขอบคุณสำหรับคำแนะนำที่อ่านแล้วเข้าใจ อย่างแจ่มชัด...นี่แหล่ะที่อ้อยต้องการ..เพราะ อ้อยเองยังถือว่าเป็นแค่นักกลอนสมัครเล่น เท่านั้น...ประสบการณ์ก็ถือว่าน้อยนิด..ดีใจ และยินดีเป็นที่สุดค่ะ.. > > ประโยคที่คุณฤทธิ์บอกว่า..... >เอาแค่นี้ก่อนก็แล้วกัน< แสดงว่าครั้งหน้าต้องมาอีกแน่..ถูกต้องป่าว ถือเป็นสัญญาอีกแล้วน๊ะ..ฮ่าๆ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ มีความสุขเช่นกัน
21 กันยายน 2553 09:52 น. - comment id 1157624
ไม่รู้เลยจะดีกว่านะคะ
21 กันยายน 2553 16:44 น. - comment id 1157706
ก้าว..ที่กล้า ก็น่านน่ะซี่...คริ คริ