จักรยานสนิมเปรอะทั้งเกรอะกรัง ตรงเบาะนั่งมีรอยแยกจนแตกอ้า ดูเก่าโทรมหมองหม่นจนผิดตา กลายเป็นความไร้ค่าเวลานี้ แค่เศษเสี้ยวอีกซีกกระผีกริ้น คันบังคับหักบิ่นไม่เข้าที่ สงบนิ่งบนลานนานนับปี ข้างกำแพงซีดสีและมีรอย เมื่อหันหลังกลับไปจึงได้เห็น ว่าสายฝนอาจกระเซ็นอยู่ทุกบ่อย แม้ไม่อาจรู้ค่าคำว่าคอย เพื่อฝากถ้อยรอรับการกลับมา ทั้งสองล้อชำรุดและทรุดโทรม ถูกถาโถมด้วยลมแดดอันแผดจ้า หากแต่ยังคุ้นเคยความเฉยชา กับวันคืนอ่อนล้าที่ท้าทาย ให้หัวใจเปลี่ยนปรับการรับรู้ จากดวงตาทั้งคู่ที่พรูสาย เป็นหยดน้ำหยดหนึ่งถึงเม็ดทราย ระเหยหายท่ามลมโบกกรรโชกแรง ให้ได้กอดความเหว่ว้าที่บ่าริน บนลานดินอ้างว้างอันร้างแร้ง กับของขวัญล้ำค่าราคาแพง ที่สวรรค์จัดแจงแบ่งให้มา เหลือความฝันงมงายในสายลม จากรู้สึกรู้สมอันขมปร่า จักรยานคันจ้อยด้อยราคา รอเวลาล้มลงแห่งทรงจำ ว่าคือความเดียวดายของสายโซ่ ที่คล้องโบว์กับฟันเฟืองยังเบื้องต่ำ เสียงกระดิ่งเลื่อนลอยแทนถ้อยคำ มาตรอกย้ำซ้ำซากการจากลา มือข้างซ้ายเคลื่อนขยับเข้าจับเบรค หยุดอยู่ในเกลียวเมฆที่เสกฟ้า ตรงเส้นรุ้งเลื่อมพรายประกายตา แล้วพบว่าวารวันนั้นฝันไป จักรยานคันเก่าดูเศร้าหม่น เหมือนใจคนหมดฝันกับวันใหม่ รอเวลาให้เหลือเติมเชื้อไฟ คราวบอดใบ้เศร้าโศกเพราะโลกลืม
18 กันยายน 2553 21:19 น. - comment id 1157008
ถึงจะเก่าใช้งานไม่ได้หากแต่คุณค่าแห่งหัวใจนั้นมากมายยิ่งนักนะคะ
18 กันยายน 2553 21:57 น. - comment id 1157018
.......เสียงตอบจากจักรยาน.......... รู้ว่าเธอลืมแลแม้คิดถึง ความซาบซึ้งผูกพันในวันปลื้ม เคยเคียงคู่รู้ใจห้ามใครยืม ความอึมครึมครอบงำอย่างจำเป็น รู้ว่ามีแต่มองเหมือนของอยู่ ไม่ชื่นชูเพียงแค่ยังแลเห็น แต่ก่อนมาพาตะลอนกันตอนเย็น แวะพักเอนบึงใหญ่ใต้ไทรงาม เปรียบกระดิ่งกริ่งใสไฟประดับ ทั้งยกปรับแฮนด์เบาะชมเปราะถาม เมื่อยามรักเลื่อมรุ้งแต่งปรุงตาม ลืมนิยามเลยล่วงไปช่วงใด? เหมือนทิ้งฉันอยู่บ้านเพียงด้านนอก ที่เคยบอกเป็นทุกอย่างมันต่างไหม? เหมือนหมดสิทธิ์ชีวิตคู่ที่อยู่ไกล ลมหายใจเคยปรนคนละทาง มองฉันเป็นจักรยานมานานแล้ว ไม่เหลือแววเอนเอียงให้เคียงข้าง แค่วันนี้เธอปลอบอย่างบอบบาง ฉันครวญคราง...บั้นปลายได้เธอคืน .........................
18 กันยายน 2553 22:07 น. - comment id 1157020
ขอโทษนะคะบทประพันธ์คุณไพเราะมาก อ่านแล้วอยากจะตอบโต้แทนจักรยาน.. ซึ่งบางครั้ง...อาจจะเป็นการเสียมารยาท.. เพราะทำให้ความหมายของผู้แต่งเบี่ยงเบนไป แต่..ห้ามใจไม่ได้..เมื่อเปิดมาอ่านเจอพอดี ขออภัยและอนุโลมให้สักครั้งนะคะ ...แต่งหน้าจอ มีบางคำอยากแก้ไขแต่ทำไม่ได้ ต้องขอโทษอีกครั้ง หวังว่าจะได้อ่านบทประพันธ์ของท่านอีกค่ะ
19 กันยายน 2553 07:18 น. - comment id 1157096
อ่านแล้ว งดงาม อ่านอีก ก็งดงาม จะอ่านกี่ครั้ง ก็งดงามครับ
20 กันยายน 2553 13:40 น. - comment id 1157359
สวัสดีค่ะ คุณนรสิริ จักรยานคันนี้สีฟ้าค่ะ เป็นของขวัญจากย่า ที่ได้รับตอนเรียนอยู่มัธยมปลาย ถึงจะเก่าจนแทบใช้งานไม่ได้ แต่มีคุณค่าทางใจอย่างที่คุณว่าค่ะ ......................................................... สวัสดีค่ะ คุณBoomerang ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ บทกลอนแจมของคุณมากๆเลยนะคะ ได้ยินเสียงตอบจากจักรยานชัดแจ๋วเลยค่ะ รู้สึกดีใจที่อย่างน้อยมีคนแอบคล้อยตามน่ะ ไม่เคยคิดว่าเป็นการเสียมารยาทซักนิดเลยนะคะ แต่อย่างที่บอกไปแล้วว่ารู้สึกปลื้มใจต่างหาก ถือว่าเป็นการแชร์ความรู้สึกร่วมกันนะคะ ดีใจที่คุณแวะมาค่ะ ......................................................... สวัสดีค่ะ คุณสุริยันต์ฯ ขอบคุณอย่างสูงเลยนะคะ สำหรับนักเขียนผู้มากฝีมือ ให้เกียรติกันขนาดนี้ ไม่ดีใจอย่างไรไหวล่ะคะ .........................................................
21 กันยายน 2553 20:44 น. - comment id 1157729
จักรยานโซ่หย่อนตอนวางทิ้ง เปลี่ยนกระดิ่งปรับโซ่ทั้งโบว์สาย ขัดสนิมวงล้อก็สบาย ปรับโฉมใหม่ให้ข้องรองเปลี่ยนดู เหล็กวงล้อเก่าก่อนค่อนข้างแกร่ง ทั้งแข็งแรงทนทานนานยังหรู ทุกทุกอย่างธรรมดาค่าเป็นครู มนุษย์อยู่มินานรานร่วงลง สวัสดีค่ะ คุณปาลิน ดอกบัวแวะมารังสรรค์วลีพลีมอบประกอบทักทายค่ะ ลำนำงดงามมากค่ะ
8 ตุลาคม 2553 16:08 น. - comment id 1161169
ยังหวังเพียงเคียงข้างทางความคิด จักรยานคู่ชีวิต..เป็นมิตรใกล้ ที่เผลอพลั้งบังอาจผิดพลาดไป จะหาใคร? ดั่งเจ้าที่เข้ากัน เสียงโซ่รวนตรวนล่ามให้ห้ามหัก เคยประจักษ์รักเจ้าได้เท่านั้น แม้นเหลียวดูรู้ค่าว่าเทียมทัน ความผูกพันล้าสมัย..เยื่อใยมี อยากยินเสียงเจ้ากร่นบ่นคิดถึง จากซากซึ่งทิ้งร้างไปบางที่ ช่วยคร่ำครวญทวนคำย้ำอีกที จะพาขี่เที่ยวเล่นเช่นวันวาน งั้นต่อกร..อีกหน่อยนะจ๊ะ