...เส้นขอบฟ้ายากบรรจบมาพบกัน...
ลานจันทร์ฝันกวี
อาจเป็นเพราะหยาดวสันต์ได้ลาจาก แล้วพัดพาลมเหมันต์เหน็บหนาวให้มาเยือนอีกครั้ง
หมอกหม่นเทาบดบังท้องฟ้าเบื้องบน ไม่ต่างกับบางเวลาที่หัวใจก็คล้ายดั่งถูกหมอกเมฆแสนหวานปนโศกมาบดบัง
มองดูเส้นขอบฟ้าไกลลิบ มันจะมีจุดบรรจบบ้างไหม ทะเลหมอกเบื้องล่างดูปั่นป่วนดุจความรู้สึกที่เข้ามาทักทายยามที่ได้มีโอกาสอยู่เพียงลำพัง กับกล่องหัวใจที่ถูกล็อกไว้อย่างมิดชิด แต่เวลานี้ด้วยสภาพแวดล้อมหรือไร ถึงทำให้กุญแจที่ล็อกดานไว้ค่อย ๆ เปิดไขออกมาอย่างไม่รู้ตัว
แม้จะรู้ดีกว่า ไม่ควรปล่อยใจให้ปรุงแต่งเลยเถิด ถึงสิ่งที่ไม่อาจจะย้อนคืนกลับมา
ตราบใดที่ฝืนความจริงจิตใจยิ่งหม่นหมองเพราะสิ่งนั้น
แม้จะรู้แบบนี้ แต่ดวงใจเจ้ากรรม บางเวลาก็ไม่ยอมเชื่อฟังผู้เป็นเจ้าของเอาเสียเลย...
เฝ้าถามตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไร้คำตอบ...
สายใยจากชาติภพไฉนจึงรุนแรงถึงเพียงนี้
นอกจากบางเวลาที่ลางเลือน ราวกลับเลือนหาย หากพอเข้าใจว่ามันคงถูกกาลเวลาเจือจางสายใยนั้นไป
มันกลับปรากฏให้เห็นเด่นชัดว่า สายใยเส้นนั้นยังคงมีอยู่
ความรักของสองเรา...เป็นเพียงปรากฏการณ์ดั่งเส้นขอบฟ้า.. ขอบฟ้าเส้นเดียวกลับลึกซึ้ง ทอดยาว และไม่มีวันบรรจบพบกัน
ภาวนาสักชาติกับวาสน์รัก
จงพ้นปลัก..ร้าวรานเอื้อมานใส
ให้สราญในร่มภักดิ์รักวิไล
สองหทัย..คู่เคียง..เยี่ยงฟ้าดิ