เพลิงราคะ แสนเพริศพริ้งอวลอบนทีศรีสวาด งามดารดาษพรรณรายมไหศวรรย์ หอมกลิ่นโปรยโชยชื่นลัดดาวัลย์ เริงร่าอนันต์อโนดาตพาดเรืองรอง ใสสะอาดบริสุทธิ์ดุจแมนสรวง เหล่าพุ่มพวงดารณีพลีจัดสนอง ประทุมมาศเต่งตึงอึงคะนอง ชูชันครองสองเต้าเย้าพริ้มพราย บุปผาพฤกษ์โปรยปรายไอหอมกลิ่น โชยระรินกลิ่นผกาฟุ้งจรุงขยาย ด้วยทีท่าเย้ายวนชวนหทัยคลาย ปรุงแต่งขจายอาภรณ์ร่อนเริงลม หวังสลายดวงฤทัยให้แตกซ่าน พลิกผันผ่านคืนกลับนับเสพย์สม ด้วยท่าทีอ่อนช้อยปรอยเชยชม หว่านทวีถมองค์มุนินทร์ชินสีห์ เหล่ามาณวิกาสารพัดจัดถวาย เพื่อสลายดวงหทัยนัยยวนฉวี สุดเปล่งปลั่งครอบราคะคละทวี ยวนยั่วฤดีหลายท่าตัณหาเถกิง ชม้อยดวงเนตรหยาดเยิ้มเพิ่มพิลาส แล้วนวยนาดปราศอาภรณ์ร่อนเถลิง เปล่งสำเนียงหวานหาคราระเริง หวังกระเจิงดวงหทัยให้ละลาย องค์มุนินทร์ปิ่นนิพพานนั้นสอน สิ้นอาวรณ์ตรัสรู้หมู่มารถวาย เปี่ยมสิ่งเกิดตัณหาราคะขจาย ซุกซ่อนในธรรมมารมย์บ่มวาง ทรงตัดขาดเยื้อใยใช้ปัญญา พิจารณากองไฟอันใหญ่สล้าง ทั้งเศษเล็กมากน้อยอย่าคล้อยทาง สมาธิสร้างพลิกค้นจนเบิกบาน. * แก้วประเสริฐ. *
29 สิงหาคม 2553 15:27 น. - comment id 1153469
สวัสดีค่ะ คุณครูแก้ว มาอ่านกลอนงามๆค่ะ เห็นชื่อเรื่อง น่ากลัวสักหน่อย
29 สิงหาคม 2553 15:35 น. - comment id 1153473
คุณ ช่ออักษราลี สวัสดีจ้า ศิษย์รักเรารุ่นแรกหายไปสองยังดี เหลือหนึ่งนะ คำว่าเพลิงราคะนั้นเป็นชื่อเปรียบ กามารมณ์ประดุจดั่งกองไฟกองใหญ่ความร้อน นั้นจะมากกว่าร้อนใดๆในโลกนี้ บ่อเกิดจากจิตใจ เรานั่นเองยากจะดับได้ ไฟอื่นๆนั้นดับได้แต่ไฟ ราคะนั้นยากนักจะดับสิ้นลงอย่างสมบูรณ์ นานๆ ครูจะเขียนแนวทางธรรมสักทีจ้า ศิษย์รุ่นหลังครู บอกว่าเธอเป็นรุ่นแรกของครู ผู้ที่ครูคิดจะมอบ การทำงานต่อจากครูจ๊ะ แต่พอเธอหายไปครู ใจหายไป จึงได้ปั้นศิษย์ขึ้นอีกรุ่นสองขึ้นมีทั้ง หมดสี่คนคิดว่าเธอคงทราบดีอยู่แล้วว่ามีใคร บ้างที่กล่าวนี้หมายถึงศิษย์ที่สมัครโดยถูกต้อง สมบูรณ์ เธอคอยดูแลแทนครูด้วยนะ รักศิษย์เรามากเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
29 สิงหาคม 2553 16:49 น. - comment id 1153486
อยากเป็นลูกศิษย์แบบเป็นทางการด้วยคนค่ะครู รับเพิ่มหรือเปล่าคะ
29 สิงหาคม 2553 17:28 น. - comment id 1153492
คุณ อนงค์นาง ได้ซิจ๊ะเราสายเลือดเดียวกันนี่นา กฏคือว่า ให้สมัครมาทางเมล์ถึงครูง่ายนิดเดียว แล้วครูจะ บอกวิธีปลีกย่อยต่างๆของ โคลง กาพย์ กลอน ซึ่งครูนั้นศึกษาไว้แค่สามอย่าง นอกนั้นเพียงแค่ รู้ไว้เท่านั้น ด้วยเธอครูก็ถือว่าเป็นศิษย์เหมือน กันแต่ไม่เป็นทางการเท่านั้น ที่ทำเช่นนี้ด้วยเหตุ ว่าต้องมีความจริงใจต่อกันเท่านั้นเอง และจะมอบ เรื่องร้อยกรองทั้งหมดให้ไปศึกษาเลือกเอาว่าจะ ชอบแบบไหน และจะคอยติดตามผลงานจนกว่า ศิษย์คนนั้นจะดำเนินการตามแนวทางของครู ไม่ผิดนั่นแหละถึงได้ปล่อยวางไป ไม่มีอะไร มากนัก ขอเพียงแค่มีความจริงใจต่อกันเท่านั้น ก็พอแล้ว สำหรับความรู้อันน้อยนิดนี้นะ ถ้าเธอจริงใจก็บอกในเมล์ไว้ด้วยว่าสมัครเป็น ศิษย์ เพราะหากไม่บอกก็จะถูกลบทิ้งไปด้วย มีเมล์มามากมายจ๊ะ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
30 สิงหาคม 2553 07:31 น. - comment id 1153556
สวัสดีค่ะ มาทักทายก่อนไปงาน คิดถึงแสงเพชรนะคะ ไม่รู้หายไปไหน พี่ชายคะ ค่ะ ไม่หวาน ไม่เมท สดชื่นยามเช้าค่ะพี่
30 สิงหาคม 2553 12:11 น. - comment id 1153629
๐ คือเพลิงสุมรุมโชนให้ป่นเชื้อ คือพิษเถือแล่ถากให้ตักษัย คือคมมีดกรีดหั่นให้บรรลัย คือร้อนเล่ห์เสน่ห์นัย ที่ซ่อนนำ ๐ร้อยสวาทรัดรึงคะนึงร้อน ร้อยรสกร่อนเล็มกินจนสิ้นหวำ รอยกิเลสหลงเกิดกำเนิดกรรม ร้อยถลำเพราะฤทธิ์ราคะ.....เพลิง . แจมด้วยสองบทครับครู..
30 สิงหาคม 2553 12:19 น. - comment id 1153632
เปลวไฟโหมรุกไหม้........ใจคน เคลือบกิเลสปะปน............มากเชื้อ สวยงามจับกมล...............หลงพิศ แลนา แฝงคุห่ามใคร่เอื้อ...........เงื่อนซ้อนซ่อนกลฯ เหมือนมดแดงย่อมจ้อง......มะม่วงงาม คอยส่องแฝงทุกยาม..........ฉ่ำล้ำ รสเปรี้ยวคลุกหวานหวาม....ชื่นชอบ จริงนอ ทิ้งร่องรอยผ่านช้ำ...............คลุกเคล้าผิวนวลฯ กราบสวัสดีค่ะครูแก้วฯ
30 สิงหาคม 2553 13:23 น. - comment id 1153654
คุณ ม่านแก้ว น้องรักพี่เองก็ไม่รู้คุณแสงเพชรเห็นเข้ามา เหมือนกันแต่พี่เองนิสัยแปลกๆไม่ค่อยจะยุ่งเท่าไร นัก นอกจากไปเยี่ยมครั้งสองครั้งก็ไป ยกเว้น แฟนคลับพี่ที่เข้ามาเสมอจะหมั่นไปเยี่ยมจ้า พี่เอง นั้นชอบแบบเดี่ยวๆอยู่แล้วล่ะจ้า ขอบใจกาแฟ น้องมาก กำลังพิมพ์อยู่นี้กำลังทานอยู่จ้า รักน้องพี่ มากเสมอ แก้วประเสริฐ.
30 สิงหาคม 2553 13:27 น. - comment id 1153655
คุณ กิ่งโศก ศิษย์รัก ครูเองอ่านกลอนเธอถึงกับอึ้งไปเลย ไม่คิดว่าจะก้าวหน้าไปมาก กลอนนั้นนับว่าเขียน ได้อย่างงดงามลึกซึ้งแฝงนัยตลอดจนความอ่อนหวาน อ่อนช้อยพลิ้วไหวผสมผสานกันอย่างกลมกลืน แต่ จำคำครูไว้อย่าลืม อย่าทนงตนเองว่าเก่งกว่าคน อื่นให้ถ่อมตนเสมอ อย่าเย่อหยิ่งในความรู้ ครู ปลาบปลื้มใจมาก รักศิษย์เสมอแก้วประเสริฐ.
30 สิงหาคม 2553 13:38 น. - comment id 1153667
คุณ แก้วประภัสสร ครูอ่านโคลงเธอแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ปลาบ ปลื้มใจมาก เธอจะเห็นได้ว่ากลอนนั้นคือรากเง่า ของร้อยกรองทุกชนิดไหมล่ะ? เมื่อเราเขียนกลอน ได้ดีอย่างถูกต้องแล้วจะไปเล่นอะไรๆก็ได้ แต่อย่า ลืมคำสั่งครูที่ตอบไว้ให้เจ้ากิ่งด้วยนะ ศิษย์รุ่นสอง นี้เก่งเกือบทุกคนแต่ จงจำไว้ว่า ครูคือผู้อบรมสั่ง สอนแนะนำหนทางให้ แต่คำกวีเนื้อหาอรรถรสจะ ดีหรือเลว อยู่ที่ทักษะการคิดอ่านของคนๆนั้น หาใช่ ว่าครูจะช่วยได้ ฉนั้นศิษย์เรารุ่นนี้สี่คนดังที่ ทราบอยู่แล้วต่างล้ำหน้าไปแทบทุกๆคนจะมาก น้อยอยู่ที่สติปัญญาย่อมแตกต่างกันออกไปใน หนทางการคิดอ่านเขียนในบทกวี ฉนั้นเมื่อ เราเดินทางมาถึงจุดๆนี้แล้ว ยิ่งเก่งสูงเท่าใด เราต้องเตี้ยเท่านั้น อย่าได้ทะเยอทะยานเย่อ หยิ่งจองหองเป็นอันขาด จำคำครูไว้นะ บอกตรงๆครูปลาบปลื้มศิษย์รุ่นนี้มากขอ ให้แก่รุ่นสอง อ้อ รุ่นหนึ่ง ช่ออักษราลี เข้ามาแล้วให้ยกย่องนับถือเขาประดุจพี่น้อง คลานตามกันออกมาด้วยนะ เพียงแค่รุ่นนี้ครู ก็แสนจะสบายใจยิ่งนัก แม้นจะไม่ได้ขึ้นหน้า แรกก็ตามที คนอ่านย่อมจะรู้เองว่าร้อยกรอง เราเป็นอย่างไรเขาจะตัดสินใจของเขาเอง ไม่ ต้องน้อยเนื้อต่ำใจอะไร ปล่อยวางเฉยเช่นครู เป็นต้น สมัยก่อนได้ขึ้นแต่ก็ก็วางเฉยจนเกิด ความเคยชินไปเสียแล้ว รักศิษย์เรามากเสมอ แก้วประเสริฐ.
30 สิงหาคม 2553 16:03 น. - comment id 1153697
สวัสดีค่ะครู อนงค์นางส่งเมล์สมัครไปแล้ว ครูได้รับหรือเปล่าคะ
30 สิงหาคม 2553 16:37 น. - comment id 1153705
ไฟใดไหนร้อนเร่า จ้องแผดเผาทุกขณะ นอกจากไฟราคะ ย่อมชนะถ้าฝึกใจ...
30 สิงหาคม 2553 17:51 น. - comment id 1153710
คุณ อนงค์นาง สวัสดีจ้าศิษย์รักเรา ครูได้รับเรียบร้อยแล้ว และได้ฝากคำแนะนำเล็กๆน้อยไว้ก่อน พร้อมทั้ง ตำราในใช้ฝึกฝน แต่ค่อยๆเป็นค่อยๆไปนะ ตอนนี้เธอถือว่าเป็นศิษย์สมบูรณ์เต็มตัวแล้ว และครูได้แต่งกลอนสดฝากไปด้วยนะ รักศิษย์เราเสมอ แก้วประเสริฐ.
30 สิงหาคม 2553 17:55 น. - comment id 1153711
คุณ ครูกระดาษทราย แต่งเก่งครับ ร้อยกรองที่ผมว่ายากคือการ แต่งผสมธรรมะเข้าไปด้วยนี่แหละครับครู ด้วย ธรรมะมักจะใช้คำบาลีสันสฤกษติ์เป็นส่วนมาก แล้วมาแปลไทยแต่ก็อ้างอิงคำไว้เสมอครับ ขอบคุณ รักเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
30 สิงหาคม 2553 19:36 น. - comment id 1153730
สวัสดีครับ.คุณครู.อ่านชื่อกลอนแล้วสะดุ้งครับ..ตอนนี้กำลังราคะแรงครับ
30 สิงหาคม 2553 22:07 น. - comment id 1153760
คุณ อินสวน จำคำครูไว้ อันไฟในโลกนี้แม้จะมีความ ร้อนแรงก็จริงอยู่ แต่หาได้ร้อนแรงเท่าไฟในใจ เรามิได้ สิ่งจะเกิดหรือดับนั้นมันมาจากไฟในใจ เราทั้งสิ้น ไฟเกิดได้ก็ด้วยใจบัญชาการไว้ อัน รูปธรรมนามธรรมคือสิ่งสมมุติทั้งสิ้น รูปก่อขึ้นจาก ดิน น้ำ ไฟ ลม อากาศธาตุทั้งหลาย นามธรรม คือสิ่งใช้กำหนดเรียกเท่านั้นหาได้มีตัวตนใดๆทั้ง สิ้น เพียงแค่อาภรณ์ของรูป หากรูปที่สมบูรณ์คือ รูปที่มีวิญญาณธาตุประกอบด้วย จิต เจตสิก และใจรวมกันเข้าไว้ รูปใดมิมีวิญญาณธาตุสิง อยู่ย่อมจะประดุจไม้ตายซากฉันท์นั้น หากมี วิญญาณธาตุสิงสู่ เมื่อเกิดก็ต้องอยู่ในกฏไตรลักษณ์ แล้วก็ว่ายเวียนอยู่ในกฏแห่งกรรมที่สะสม มาหลายอดีตชาติ หากมีรูปและวิญญาณธาตุ กลมกลืนกันก็เป็นมนุษย์ สัตว์ขึ้น หรือวิญญาณ ธาตุบางวิญญาณหารูปที่เป็นดินน้ำไฟลมอากาศธาตุ ไม่ได้ก็อาศัยตามต้นไม้ เราเรียกว่าพวกรุกขเทวดา หรืออื่นๆเป็นต้น ไฟนั้นจุดกำเนิดจากเหล่าตัณหา ราคะ ที่เกาะกุมไว้ทั้งสิ้น ก็จะเวียนว่ายตายเกิดไป เรื่อยๆจนกระทั้งเราสามารถระงับตัด เจ้าตัณหา ราคะซึ่งเป็นแม่ใหญ่ของเหล่ากิเลสทั้งปวงแยก กันออกเป็น สาม คือ โลภะ โทสะ และโมหะ สิ่งเหล่านี้เกิดจากตัณหาเป็นต้นเหตุโลมเล้า ด้วยราคะจริตเข้าไป อ้าวนี่มากล่าวทำไมว่าจะกล่าวติดเดียว การที่ครูกล่าวว่า เพลิงราคะ นั้นถูกต้องแล้ว มันจะเผาผลาญจิตใจเรา ทำให้เกิดอาการขึ้น ต่างวาระกันไป ไฟเกิดจาก เวทนา สัญญา สังขาร เข้ารวมอยู่ในวิญญาณแล เมื่อถูก สังขารปรุงแต่งขึ้นก็เกิดเรื่องขึ้น อิอิ ยาว หน่อยนะ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
31 สิงหาคม 2553 10:25 น. - comment id 1153805
สวัสดีค่ะ....ครู... อ่านชื่อและน่ากลัวค่ะ...ครูสบายดีนะคะ...
31 สิงหาคม 2553 11:24 น. - comment id 1153819
คุณ แกงฯ สวัสดีจ้าศิษย์รัก การตั้งชื่อของเรื่องนี้ก็มี ความสำคัญนะ เวลาเราเขียนกลอนก็ควรหาชื่อ ให้ด้วยแต่ที่สำคัญกว่าคือกลอนต้องสัมพันธ์กับชื่อ ที่เราตั้งไว้ด้วยนะ ระยะนี้ร่างกายครูแย่ด้วยการ เปลี่ยนแปลงของอากาศนี่แหละจ้า แต่ก็ยังพอจะ ทนได้อยู่หรอก รักศิษย์เรามากเสมอ แก้วประเสริฐ.