ห้วงรักฤาไฉน ๐ สนธยาม่านฟ้า คราลับ ล่วงแล แววสิ่งแพรวระยับ ฟากฟ้า พราวแสงมิระงับ สรรก่อ มวลแฮ สิ้นล่วงนี้ผ่านหล้า ฝากครึ้มยังสนองฯ ๐ อกพี่แสนห่วงซึ้ง อนงค์นาง สิ่งวับจับเลือนราง เมฆคล้ำ คร่ำครวญจืดจิตจาง หวามก่อ ม่านแฮ รำลึกแสนฝากย้ำ ซ่านเนื้อนวลครองฯ ๐ ลมโชยบุปผาพลิ้ว ล่องลอย ลับนอ หอมชื่นราตรีรอย ผ่านแพร้ว ดวงเนตรคิดย้อนคอย รักซึ่ง มอบแฮ ดุจหนึ่งดังฝากแคล้ว หลบลี้หนีหายฯ ๐ เหม่อมองธารผ่านน้ำ ไหลริน วิหคโผโบยบิน พรากแล้ว ขาวหงส์คู่เย้ายิน ผันสู่ หทัยแฮ ทรวงอกมิผ่องแผ้ว ชอกช้ำมวลสนองฯ ๐ วจีผ่านโสตถิ์ซ่านซึ้ง ใยยอง มากเฮย ไออุ่นเคยแนบครอง ผ่านไว้ ณ ที่เก่าหมายปอง คอยอยู่ เดียวนา หวามวาบดลซ่านไซร้ บัดนี้เลือนหายฯ ๐ ท้าวคางคงพร่ำเพ้อ เดียวดาย สายธารมิกลับกลาย ซ่านเร้น หงส์เจ้าเพื่อนมิคลาย รอหยอก จริงนา ห้วงอกนางซ่อนเน้น รักไว้มั่นเสมอฯ ๐ จวบสิ้นชีวิตแล้ว ยังคอย พี่แฮ โดดเดี่ยวเดิม ณ รอย ผ่านแล้ว ก่อนชมม่านผมปอย งามเด่น จริงนา เคยฝากวจีเพริศแพร้ว ซ่านล้ำหทัยสนองฯ ๐ อกเอ๋ยอกชอกช้ำ น้ำใจ จริงเฮย คอยสิ่งพราวสดใส ฝากน้อง เมฆม่านกลับครึ้มใน ทรวงอก จริงแฮ วายวุ่นสำเนียงก้อง เรียกร้องใฝ่สนานฯ ๐ น้ำตารินหลั่งไว้ หยดหยาด คอยพี่จนแทบขาด พรากห้วง เหลือเพียงร่องรอยพาด ปราศจาก กายแฮ ฝากสิ่งดวงแดล้วง ไขว่คว้ากลับสลายฯ ๐ ความรักยากทอดทิ้ง จากใจ มวลเฮย แสนฝากสิ่งสดใส เปรียบฟ้า แปรเปลี่ยนผ่านจากไป เกิดก่อ หมองนา หมั่นคิดก่อนจะคว้า รสลิ้มพึงสนอง.:- * แก้วประเสริฐ. *
15 สิงหาคม 2553 14:01 น. - comment id 961473
คุณ บินเดี่ยวหมื่นลี้ อ้าวท่านพยาครุฑจะบินจากไปเชียวหรือนี่ กระตุ้นๆต่อม อิอิ นิดหน่อยนา ทำเป็นคนหัวล้าน ไปได้ทั้งที่แสนหล่อนักเชียวล่ะ ท้องฟ้าครึ้มมืดแล้ว ปีกบัง แสงเฮย ภายใต้อุ้งเท้าขัง หนึ่งไว้ ดิ้นขลุกขลุกประดัง หนีหลีก ยากแฮ เพื่อนรักพรหมทัตไซร้ คลั่งไคล้นางหายฯ รีบบินจากเพื่อนแก้ว กกกอด เนื้อแนบเนื้อหอมยอด ชูตั้ง กลิ่นดมสูดมิรอด ทั่วร่าง ซ่านนา หวามวาบสบตาครั้ง หลั่งสิ้นฝนคนองฯ เวนไตยสุดคลั่งไคล้ นวลนาง มากแฮ มิอาจจะปล่อยวาง พุ่มเนื้อ บัดดลกลิ่นมนุษย์จาง พาลกลบ อวลเฮย ตาเหลือกใครมาเอื้อ สู่เจ้านวลนางฯ โกรธกริ้วพลันหอบหิ้ว ลอยลม คืนนา ฝืนส่งนางหลังชม เผ่นฟ้า ปั่นป่วนใจขื่นขม ยิ่งนัก กูเอย ตากล่ำแดงที่คว้า ศักดิ์ข้าเลือนสลาย. แก้วประเสริฐ.
16 สิงหาคม 2553 13:47 น. - comment id 1083689
คุณ ม่านแก้ว สวัสดีจ้าน้องรัก พี่กำลังทานกาแฟขนมปัง อยู่เชียวจ้า ม๊าๆมาๆมาชนแก้วกันระหว่างพี่น้อง จ๊ะ อ้อ หากไม่เป็นปัญหา วันที่ 9-10 ตค.นี้ พี่ว่าจะไปงานของเวปฯเขาจ๊ะ หากน้องพี่ไปด้วย ก็คงจะดีนะ จะได้พบปะสนทนากันบางทีอาจจะ แลกเปลี่ยนความคิดกันและกันจ้า เพชรบุรี เมืองคนดุ อิอิ รักน้องพี่มากเสมอ แก้วประเสริฐ.
16 สิงหาคม 2553 13:50 น. - comment id 1085188
คุณ ครูกระดาษทราย สายสวัสดิ์มงคลจ้า อิอิ ผมนอนดึกตื่นสายด้วย นอนไม่ค่อยหลับ เลยโหลดหนังมาดูพอง่วงนอนก็ เลิกเข้านอน เมื่อคืนนี้นอนไม่หลับทั้งคืนเลยคิด โน่นคิดนี่ ทรมานสิ้นดีเชียวล่ะครู รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
16 สิงหาคม 2553 14:10 น. - comment id 1085191
คุณ กิ่งโศก ครูเองก็คาดการไว้สองอย่างคือไม่กลับบ้าน ก็งานคงยุ่ง เห็นศิษย์รักหายไปหมดเลย การเล่น โคลงครูเคยกล่าวว่าชอบเล่นแนวของบรมครู ศรีปราชญ์เป็นหลัก ส่วนการเล่นคำนั้นนานๆที ท่านจะเล่น แต่คงไม่ชอบเหมือนครูนั่นแหละที่ ชอบแบบง่ายๆคนอ่านก็อ่านง่ายเน้นแค่ความ ไพเราะอ่อนไหวเท่านั้นเป็นเกณฑ์จ๊ะ การเล่นคำ นั้น ครูก็เคยเล่นแต่ไม่ชอบคือไทยแปลไทยจ๊ะ ๐เมืองธนบุรีล่มแล้ว ตานอง พลไพร่วิปโยคครอง ไห่หล้า เสี่ยนเกิดเพื่อนรักปอง เหตุก่อ จริงนา คดีหนึ่งโทษไขว่คว้า ฆาตซึ้งก่อเวรฯ ๐หนึ่งนายมิมากซึ้ง ยอมตาย จ้อยจึ่งต้องสู่สลาย เทิดฟ้า ลือเลื่องฤาพาขยาย สร้างก่อ ใหม่แฮ มิ่งขวัญฝากสู่หล้า ก่อฟ้าขยาดสยอง.:- ที่ครูเขียนมานี่เพื่อให้ศิษย์รู้ไว้ แต่ต้อง มานั่งแปลสำนวนทุกๆคำจ้า รักศิษย์เรามากเสมอ แก้วประเสริฐ.
13 สิงหาคม 2553 19:50 น. - comment id 1151076
สวัสดีครับ โคลงเพราะจังเลยครับคุณครู ผมไปปั่นจักรยานมา10 กม.ครับอ่านแล้วหายเหนื่อยครับ...
13 สิงหาคม 2553 21:32 น. - comment id 1151084
ความรักยากหยั่งรู้ หนไหน เกิดอยู่กับกายใจ แน่แท้ รักจริงบ่หลงใหล ลืมตื่น รักมั่นรักแม่แม้ มอดม้วย มิลืม อย่างนี้ได้ไหมลุงแก้ว แวะมาทักทายจ้า
14 สิงหาคม 2553 07:17 น. - comment id 1151111
คุณ อินสวน ดีใจังเลยครับปั่นจักรยานออกกำลังกาย เมื่อ ก่อนนี้ผมปั่นในหมู่บ้าน20-30 รอบทุกๆวัน แต่ เดี๋ยวนี้ไม่ไหวแล้ว เคยไปทดลองแค่ 5 รอบก็ชัก จะแย่แล้วครับ ขอบใจมากนะอันที่จริงผมก็เขียน แนวนี้ตลอดครับ ไม่อยากเล่นอักษรมากนักครับ ตามประสาคนบ้าๆแหละเน๊อะ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
14 สิงหาคม 2553 07:21 น. - comment id 1151112
คุณ หนูสน ได้จ้าดังที่แนะนำไว้ไม่ผิดฉันทลักษณ์ตลอด เนื้อหาสำนวนก็ใช้ได้จ้า พยายามไว้เถอะนะ อัน ที่จริงโคลงนั้นสมัยเด็กหนุ่มๆชอบมากเชียวเลยล่ะ แต่ห่างเหินร้อยกรองไปนับสิบๆปี พึ่งจะมาจับก็ ตอนแก่แล้วนี่แหละนะ อาศัยฐานดั่งเดิมคนเขา แนะนำให้บ้างค้นหาตามตำราบ้าง ก็จึงจะพอถูไถ ไปกับเขาได้จ้า รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
14 สิงหาคม 2553 10:09 น. - comment id 1151136
แวะมาให้กำลังใจและทักทายครับ
14 สิงหาคม 2553 16:26 น. - comment id 1151160
คุณ สุริยันต์ จันทราทิตย์ ขอบคุณครับที่ให้กำลังใจ หากจะแท้จริงโน่น ต้องวันที่ 9-10 ตค.จะถึงนี้หวังว่าคงจะได้พบกันนะ ครับหากผมไม่ล้มหมอนนอนเสื่อเสียก่อน อิอิ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
14 สิงหาคม 2553 19:15 น. - comment id 1151175
๐ คอยนางครางพร่ำเพ้อ เดียวดาย ยังห่วงหามิวาย พี่เจ้า เพียงไกลสื่อรุ้งพราย แฝดเพื่อน วานบอกอย่าครองเศร้า มั่นแท้ธรรมครอง..ฯ ไพเราะจังเลยค่ะ..แฝดเพื่อน...พึ่งกลับจากประเทศพม่ามาค่ะ...ช่วงนี้ไม่ค่อยว่างเลย ยังระลึกถึงเสมอนะคะ...ดูแลสุขภาพด้วยนะ...เป็นห่วงค่ะ...
14 สิงหาคม 2553 21:13 น. - comment id 1151189
คุณ ราชิกา หรือครับได้ไปเที่ยวพม่ามาไปชมเจดีย์ชเวดา กองหรือเปล่าล่ะครับ เรื่องนี้ผมเขียนเป็นสองนัย คือชายหวนรำลึกนึก ถึงสาวคนรัก แต่ไม่สามารถกลับมาได้ ส่วนสาว คนรักได้ตายไปกลายเป็นนางไม้คร่ำครวญหาชาย คนรักครับ ตอนแรกเป็นฝ่ายชาย ตอบหลังเป็น ฝ่ายหญิงครับ สรุปด้วยคติไว้ว่าหากมีความรัก แล้วต้องคิดให้ดีๆเสียก่อนครับ ตอนนี้หวัดเล่น งานผมทางนี้ฝนตกทุกวันไม่มากก็น้อยครับ ผมแพ้อากาศด้วยก็เลยพลอยไปกันใหญ่ครับ จามตลอดเลย รักแฝดเพื่อนรักเสมอ แก้วประเสริฐ.
14 สิงหาคม 2553 22:51 น. - comment id 1151206
ชิวิตเลยผ่านแล้ว วัยทนง เหมือนอาทิตย์อัสดง หม่นคล้อย ดวงจิตยังลุ่มหลง อกนุ่ม เช็ดปากน้ำลายย้อย ซ่านร้อนถอนใจ อิอิ นับถือ ๆ จริง ๆป่า อารมณ์ยังกระจ่าง อิอิ
14 สิงหาคม 2553 23:15 น. - comment id 1151213
คุณ ฤกษ์ รูปหล่อ ขื่อฤกษ์มิห่างแล้ว หลอกนาง ใจหนุ่มคิดมือวาง นุ่มเนื้อ เกาะแกะเกี่ยวอำพลาง สาวแก่ หม้ายแฮ ขยิบต่อมตาชิดเชื้อ ลากน้องเคียงสวรรค์.ฯ ขอบใจมากจ้า ป๋าไม่ไหวแล้วได้ข่าวหนุ่มรูปหล่อ ยังประพฤติตนเหมือนเมื่อหลายปีก่อนอยู่นะ ฮ่าๆๆๆ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
15 สิงหาคม 2553 10:12 น. - comment id 1151247
สวัสดีค่ะครู สุดยอดโคลงงาม ไพเราะมากค่ะ
15 สิงหาคม 2553 10:58 น. - comment id 1151260
สวัสดีค่ะ อาจารย์แก้วประเสริฐ ช่วงนี้คุณแม่ไหมแก้วไม่สบาย ไปเฝ้าไข้ที่ รพ.ไม่ค่อยได้เข้ามาทักทายค่ะ
15 สิงหาคม 2553 11:11 น. - comment id 1151267
สวัสดีครับ ครูแก้ว แวะมาศึกษา โคลง ครับ ระยะนี้ฝนตกบ่อย ๆ นะ ครับ รักษาสุขภาพ ด้วย ครับครู
15 สิงหาคม 2553 12:21 น. - comment id 1151276
๏ หลากเรื่องราวคละเคล้า...................ชีวา ดุจดั่งพรางมายา................................ดักแร้ว สุขสันต์ใฝ่เพลินหา............................กกกอด ยามจ่อมทุกข์มิแคล้ว.........................เอ่ยอ้างชะตาฯ ๏ มากมายหลายหมู่ล้อม.....................กายตน เสริมแต่งแข่งริษยาจน.......................เร่าร้อน บ้างเบียดบีฑาคน................................ลับร่วง หลากความสลับซับซ้อน.......... ............มนุษย์นี้ปนเปฯ ๏ ขอจรลาจากแล้ว..............................บินไกล บทบาทอีกความนัย.............................ซ่อนซ้อน หลากเรื่องปลดปลงไป.........................จากจิต ล่องล่วงจักมิย้อน.................................เกลือกกลั้วมายาฯ ๏ โดดเดี่ยวในไพรกว้าง.....................เดียวดาย ไร้เล่ห์เพทุบาย........... .......................สุขล้น คราคืนค่ำเอนกาย...............................พักผ่อน ยามรุ่งมุ่งบินพ้น...................................สู่ห้วงฟ้าไกล๚ะ๛
16 สิงหาคม 2553 07:16 น. - comment id 1151277
สวัสดีค่ะพี่ชาย ไม่ได้เข้าบ้านกลอนหลายวัน คิดถึงจังเลย ดีใจค่ะ ได้อ่านงานพี่ชาย พร้อมกับกาแฟยามเช้า มาชนแก้วกัน
15 สิงหาคม 2553 12:29 น. - comment id 1151280
คุณ วลีลักษณา สวัสดีจ้า..เรื่องเกิดจากผมว่างๆเลยไปที่เก็บ ภาพไว้แล้วพิจารณาดู เห็นภาพนี้สวยถูกใจก็เลย ตัดต่อภาพมาลงไว้ทำไว้ที่หน้าคอมฯผม นั่งมองไป มองมาก็เลยเขียนเรื่องนี้ขึ้นมาในสองนัยด้วยกัน นำมารวมกันไว้ครับ อันที่จริงโคลงนั้นไม่ยาก หรอกครับหากเรารักและหมั่นฝึกฝนรู้หลักการณ์ เท่านั้นก็ง่ายแต่การเขียนอยู่ที่แนวความคิดเรา ว่าจะเขียนอย่างไร จะเล่นคำ ผวน คำใช้คำ พร้องหรือไม่เท่านั้น แต่ผมชอบในลักษณะนี้ ครับ ด้วยโคลงมีหลายแบบผมชอบแบบนี้ก็เลย นำมาเขียนเป็นส่วนมากครับ ขอบคุณที่ชมจ้า รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
15 สิงหาคม 2553 12:35 น. - comment id 1151285
คุณ ไหมแก้วฯ สวัสดีจ้า คนเราพอมีอายุมากๆเข้าก็แบบนี้ แหละ ใจหนึ่งกายหนึ่งจะไม่สัมพันธ์กัน ใจนั้นมา ยังไงก็อยู่อย่างนั้น แต่กายย่อมแปรเปลี่ยนไปตาม ธรรมชาติ ดีแล้วความกตัญญูย่อมเป็นบ่อเกิดของ เจริญรุ่งเรือง ทั้งจิต ใจ กาย เสมอๆ ผมเองมา ถึงตอนนี้ก็รู้สึกอาการเปลี่ยนแปลงไปจ้า อาศัย การออกกำลังกายบ้างจึงค่อยยังชั่วหน่อย รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
15 สิงหาคม 2553 12:57 น. - comment id 1151288
คุณ อรุโณทัย สวัสดีจ้า ขอบคุณที่ห่วงใยผม ผมปล่อยวาง แล้วนอกจากพยุงๆไว้เท่านั้นครับ โคลงที่ผมเขียน นี้เป็นหนึ่งในโคลงกระทู้ที่ผมชอบมากกว่าโคลง สี่สุภาพเสียอีกครับ ผมศึกษาพิจารณาแล้วถึง ความแตกต่างกันคือ โคลงสี่สุภาพ นั้นเป็นการแต่งที่สุภาพใช้คำง่ายๆ และได้เนื้อหาไม่ต้องมานั่งแปลแต่ขาดอะไรๆสัก อย่างหนึ่ง ไม่สมบูรณ์นัก นอกจากผู้ชำนาญจริงๆจึงนิยมใช้แต่ เหมือนนกที่ไม่มีปีกข้างหนึ่งไป บรมครูศรีปราชญ์ ท่านยังนำโคลงสี่สุภาพมาผสมกับโคลงกระทู้เลย อุปมาดังการเขียนกลอน หากไม่มีคำสัมผัสใน ก็จะทำให้ขาดความไพเราะ หากไพเราะก็น้อย ลงไป โคลงก็เหมือนกันหากขาดคำสร้อยก็จะ ทำให้ความไพเราะขาดหายไปเช่นเดียวกัน ผมมักจะกล่าวไว้เสมอๆว่า กลอนคือ รากเง่า ของร้อยกรองทั้งหมด ทำไมถึงกล่าว เช่นนี้ ด้วยกลอนสามารถเข้ากับร้อยกรองใน โลกนี้ที่มีการเขียนร้อยกรองนั่นเอง ด้วย อักษรไทยมีหลายเสียงสามารถเข้ากับภาษาอื่น ได้อย่างดีจึงง่ายกับการใช้อักษร และกลอนไทย นั้นมีหลากหลายรูปแบบ นับแต่กลอนห้าไปจน ถึงกลอนสิบสองหรือกว่านั้นก็ได้ กลายเป็น กลอนเปล่าที่ตอนนี้ต่างประเทศนิยมกันมาก กลอนเปล่าคือการพรรณาอาการความคิดออก มาและสามารถนำไปใช้ในการแต่ง เพลง ได้ แต่ก็ยังอาศัยทำนอง เด่ โร มี ฟา ซอล ลา ซิ โด่ ซึ่งเป็นที่ยอมรับของนานาชาติใช้มาเขียน โน๊ตเพลงนั่นเอง แต่ก็ยังอาศัยกลอนผสานกับ ืำทำนองไว้เสมอๆ ไม่ว่ากลอนนั้นจะเป็นอย่าง ไรก็ยังต้องอาศัยรูปแบบกลอนแปดอยู่เสมอจึง จะทำให้เกิดความไพเราะมากขึ้น บรมครูสุนทร ภู่ท่านเน้นกำหนดกลอนแปดต้องแปดคำแต่ อนุโลมให้ใช้คำกล้ำแทนได้ เพราะคำนั้นเป็น ลหุ เช่น อักษร ประเทือง อันที่จริงนั้นจะนับ เป็นสองก็ได้แต่อาจจะทำให้ความหมายผิด เพี้ยนไปท่านจึงอนุโลมและมักกล่าวเสมอๆว่า เป็นกลอนตลาด หากสังเกตุงานท่านแล้วจะเห็น ว่านานๆจะแทรกมาบ้างก็ไม่มากนักด้วยจำเป็น นอกนั้นจะนับเป็นทำนองหมด ท่านจึงกล่าวว่า กลอนท่านเป็นกลอนตลาดจ้า เอาล่ะเพราะรักจึงเผยออกมามากตามประสา คนแก่จ๊ะ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
15 สิงหาคม 2553 15:45 น. - comment id 1151314
สวัสดีคุณลุงแก้วค่ะ ไม่ได้มาทักทายนานมากเลยค่ะ ล่าสุดอ่านเรื่องชวนติดตามของคุณลุง แต่สุดท้ายก็อ่านไม่จบ ชีวิตมันยุ่งเหยิงมากค่ะคุณลุง เหนื่อยมาก ๆ ไม่ว่ากันนะคะ ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ
15 สิงหาคม 2553 15:56 น. - comment id 1151317
คุณ คมดาบนารี สวัสดีจ้าแค่เท่านี้ก็เพียงพอสำหรับคนแก่ แล้วล่ะ ทุกชีวิตเกิดมาย่อมต้องมีหนักและเบาจง อย่าท้อถอยสิ่งที่เกิดหรือตามมาเด็ดขาด ใช้สติ ปัญญาขจัด ไม่นานหรอกสิ่งนั้นก็จะพบทางสว่าง เจิดจ้าแก่เราจ้า ขอบใจที่ห่วงใย รักคิดถึงเสมอ แก้วประเสริฐ.
16 สิงหาคม 2553 07:34 น. - comment id 1151412
อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณครู...
16 สิงหาคม 2553 13:18 น. - comment id 1151454
เพิ่งกลับจากกลับบ้านครับครู มาชมโคลงงามๆครับ รักษาสุขภาพด้วยนะครับครู