2 กรกฎาคม 2553 15:55 น. - comment id 1142669
ภาพลวงตาหรือว่าตาลวงจิต หากความคิดติดต่อยึดข้อฝัน พาหลงไหลใจจับนับคืนวัน คงบากบั่นอั้นอกเกินยกวาง จริงไม่จริงยิ่งย้ำให้นำเนื่อง เรื่องเป็นเรื่องเฟื่องฟุ้งปรุงกว้างขวาง หากมองให้ใจดูรู้ในทาง สติสร้างพร่างล้ำ "ธรรมดา"
2 กรกฎาคม 2553 15:59 น. - comment id 1142672
เพราะอักษรกลอนกานท์ที่หวานหอม หลงใจยอมมอบรักแทบตักษัย คำที่บอกรักแน่มาแปรไป พาดวงใจร้าวรอนทรมาน ก่อนเคยคุยเคยทักสมัครสม หวังเคียงคู่ภิรมย์คมคำขาน รักคิดถึง..เอ่ยตรึงซึ้งดวงมาน เนิ่นเวลาไม่นานมาปันใจ แม้นแต่ก่อนงานหนักยังทักบ่อย ทุกวันคอยแบ่งปันวันสดใส ยามที่ท้อเธอท้วงด้วยห่วงใย ที่มอบให้ความอาทรมิคลอนคลาย รักราโรยใจล้าขอลาก่อน แทบรานรอนชีวันฝันสลาย ขอปิดฉากรักร้าวที่เปล่าดาย หมดความหมายสายสวาทมาขาดตอน
2 กรกฎาคม 2553 16:10 น. - comment id 1142686
2 กรกฎาคม 2553 16:49 น. - comment id 1142694
เคยบ่อยไปไม่อยากบอกดอกรู้สึก ว่าลึกลึกร้าวรวดปวดแค่ไหน แอบรักเขาข้างเดียวสุดเปลี่ยวใจ แอบร้องไห้ถอนสะอื้นกลืนน้ำตา.....ฮือออออ ๆ ............... จริงครับน้องแบมเคยร้องไห้เพราะผู้หญิงจริงๆ ถามว่าเสียใจไหม ตอบว่าไม่เลย ร้องไห้ให้สมกับความโง่งมของตัวเองต่างหาก ( จุ๊ ๆ ๆ อย่าบอกใครเขานะครับ ...เพราะนี่เป็นฟามลับสุดยอดเลย)
2 กรกฎาคม 2553 16:51 น. - comment id 1142697
คุณดาวศรัทธา .. แท้จริงภาพลวงตามาลวงจิต ให้นึกคิดวาบหวามตามอักษร แล้วบังเกิดอุตริจนนิวรณ์ เกินไถ่ถอนยกจิตพิจารณา บังเกิดเหตุเทวษสุดอุทธัจจะ ด้วยปล่อยปละสะสมจมกิเลสหนา คราวต้องตัด..ก็ยากตัด อัดอั้นอุรา อัลมิตรา..จักแก้ไขอย่างไรดี ?
2 กรกฎาคม 2553 17:00 น. - comment id 1142700
ฮือ ฮือ ฮื่อ ฮื้อ ฮื่อ ฮือออออ ฮำเพลงเฉยๆค่ะ...
2 กรกฎาคม 2553 17:05 น. - comment id 1142703
คุณเฌอมาลย์ .. เพราะไม่มีสิ่งใดไม่แปรเปลี่ยน บนสังเวียนโลกจริงยิ่งยากหา บนสังเวียนโลกปลอมย่อมย่อมา อนิจจาหลายคน.. ทุรนทุราย หากยึดติดคิดลึกนึกโกยกอบ สิ่งใดชอบปลาบปลื้มดื่มด่ำหลาย ที่เคยชังครั้งก่อนอาจผ่อนคลาย เกือบทุกรายหลงกลคนมากเชิง ภาพลวงตากว่าพิสูจน์ปูดบทบาท รอโอกาสอาจนานจนคร้านเบิ่ง แต่เมื่อคราวชัดแจ้งแหล่งหลงระเริง ที่เป็นเพลิงกลับสงบ..พบทางพลัน
2 กรกฎาคม 2553 17:09 น. - comment id 1142705
หลวงน้า .. อ่านจบแล้วนะคะ แต่บางคำยังสะกดยาก เว้นหายใจยังไม่ถูกจังหวะ ฮา .. คุณสุรศรี .. อ้าว ! แล้วกัน จดหมายผิดซองหรือเปล่า นี่อัลมิตรานะ ไม่ใช่คุณแบม หมู่นี้เป็นไง ก็ไม่รู้ มีจดหมายเร่ร่อนหวานฉ่ำหลุดมาให้อ่านอยู่เรื่อย เฮ้อ .... คุณแก้วประภัสสร .. มารับสมอ้างหรือเปล่าเนี่ย
2 กรกฎาคม 2553 17:32 น. - comment id 1142716
4 กลับมาคลอเคลียก่องเลย เดี๋ยวคนแถวบ้าน งอน ค๊า..5555 08 ตามนั้นนะคะ ไม่ใช่ๆๆค่ะ
2 กรกฎาคม 2553 18:00 น. - comment id 1142722
บางครั้งยังลวงตา แต่ทว่าไม่ทุกคน ไซเบอร์เออชอบกล มักจะดลให้หวั่นไป
2 กรกฎาคม 2553 18:26 น. - comment id 1142725
แบบนี้ลวงทั้งตาทั้งยายเลย....55
2 กรกฎาคม 2553 19:15 น. - comment id 1142733
2 กรกฎาคม 2553 20:03 น. - comment id 1142759
http://www.youtube.com/watch?v=Wj5NcdPBbNs&feature=related เอาเพลงไปฟังเล่นก่อนกลอนไม่เขียน ใครสร้างภาพแนบเนียนใจย่อมรู้
2 กรกฎาคม 2553 20:11 น. - comment id 1142761
โอ้ย แย่แล้วหละ ทำไงดีหละนี่ ต้องขออภัยมณีจริง ๆ ครับ เราเคยรู้จักกันรึเปล่า แฮะ ๆๆ แต่ผมคิดว่าไม่ผิดซองนะฮะ
2 กรกฎาคม 2553 20:11 น. - comment id 1142762
(มีต่อ .. ก็ .. มาตอบ อิอิ) ยิ่งอยากตัด ยิ่งยากตัด ยิ่งอัดอั้น เหมือนอยากสั้นดันต่อก่อยาวใหญ่ มีปัญญาท่าทีดีได้ไว อยู่ที่ใจใครรู้ดูที่ตน เมื่อรู้ตัวมัวมุ่นวุ่นวายจิต สติติดคิดความตามเหตุผล ไม่ต้องตัด ไม่ต้องต่อ กันก่อกล แค่มงคลดลใจใน รู้ พอ ...
2 กรกฎาคม 2553 20:38 น. - comment id 1142770
คุณแก้วประภัสสร .. :) นั่นสิ มีการมาครางฮือ นึกว่า สมยอม ฮา .. คุณครูกระดาษทราย .. เป็นเช่นภาพลวงตา หรือว่าเราต่างหากที่ล่อลวงใจ ทว่าทุก ๆ อย่างที่มันเป็นไป ถึงไม่ได้ตั้งใจ แต่ก็เสียใจทุกที หลวงน้า .. แล้วนั่นก็เข้าข่ายต้นเหตุแห่งทุกข์ใช่ไหมคะ คุณป๋อง .. :) ขอบคุณมาก แบ่งขนุนให้ซีกนึง คุณหน้าไม้ .. คาดว่าจะโดนบ้าง ไม่มากก็น้อย น่าจะรู้ตัวล่ะ คุณสุรศรี .. โอ๊ย เรื่องแบบนี้ ต้องมีการรำแก้บน
2 กรกฎาคม 2553 20:47 น. - comment id 1142774
คุณดาวศรัทธา .. (ตั้งอกตั้งใจ ตอบเชียวล่ะนะ) หากชนะคนอื่นคงชื่นจิต หากผูกมิตรทั่วไปคงได้ชื่อ หากยอมรับหนทางคงวางมือ หากอยากยื้ออยากพบคงจบกัน เอาชนะตัวตนเถิดคนเก่ง บอกตัวเองอีกว่าอย่าโศกศัลย์ ภาพลวงตาลวงใจทิ้งไปพลัน ก็แค่นั้น ... เรื่องขี้ขี้ เช่นนี้แล อตฺตา หเว ชิตํ เสยฺโย
3 กรกฎาคม 2553 13:54 น. - comment id 1142996
๐ โลกเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า ใช่ลวงตาพาให้ไม่แยแส แต่เหตุเกิดลวงใจไซร้ผันแปร มิใช่สิ่งจริงแท้และแน่นอน ๐ มีเพียงพิมพ์พจน์คำมาย้ำล่อ ให้เราต่อเติมไปใช่ใครต้อน จิตปรุงแต่งเล่นลายคล้ายละคร บทบาทย้อนสอนตนยามหม่นใจ ๐ ทิ้งไปเถิดขี้โคลนโยนลงถัง ของผุพังยังเก็บของเก่าได้ แต่คนคดเคี้ยวของอกรรไกร เอาไปทำเยี่ยงไร..ไม่ได้ดี. "พิกุลแก้ว" ขอร่วมความเห็นด้วยนะคะ
3 กรกฎาคม 2553 21:43 น. - comment id 1143110
3 กรกฎาคม 2553 23:15 น. - comment id 1143139
ขออนุญาติเก็บ 20 ฝากน้องฉางหน่อย โลกเน็ต ไม่เข็ดง่ายๆหรอก
4 กรกฎาคม 2553 00:09 น. - comment id 1143147
เห็นภาพลวงหลับตาก็สิ้นไป แต่ลวงใจหลับตาไม่จางหาย ความเจ็บช้ำติดตรึงไปจนตาย ไม่อยากคิดไม่วายเกาะกินใจ มีแต่ถูกหาว่าลวง
4 กรกฎาคม 2553 08:38 น. - comment id 1143195
เห็นด้วยครับที่ว่า อินเตอร์เน็ตคือโลกมายา ไม่กล้าที่จะไปจริงจังอะไรมากมาย บางที บทกลอน ตัวอักษร ก็ชวนหลงไหลเคลือบเคลิ้มได้เหมือนกันนะครับ เหมือนกับว่า ตัวอักษรมันมีชีวิตขึ้นมาได้จริงๆ โลกอินเตอร์เน็ต มันอยู่ใกล้เราแค่ ขอบจอกั้นเท่านั้นเอง ผมเลยเลือกสัมผัสแค่ความรู้สึกที่อยากสัมผัส แสวงหามิตรภาพที่ไร้เขตแดน ดีกว่าครับ
4 กรกฎาคม 2553 11:31 น. - comment id 1143266
ชอบทุกกลอนกานท์ของอัลมิตรา
5 กรกฎาคม 2553 10:45 น. - comment id 1143372
ตอบช้าไปหน่อย ต้องขออภัยแฟน ๆ ด้วยนะคะ พอดีว่าอัลมิตราติดภาระกิจจับโจรที่ศูนย์ประชุมสิริกิติ์ นอกจากกลับบ้านค่ำแล้วยังกลับบ้านในสภาพที่หมดสภาพด้วย เลยไม่ไหวจะเปิดเน็ต นี่ก็ยังเมื่อย+ง่วงอยู่เลย คุณพิกุลแก้ว .. ชอบบทสุดท้ายจัง คมและขลังค่ะ :) อยู่กับเน็ตเนิ่นนานจนพาลเบื่อ บางคราวเชื่อบางคราวราวสงสัย มีปะปนคนรัก/ชังครั้งนับไป บานตะไทโจทก์/จำเลยเคยฟาดฟัน ภาพลวงตาสาเหตุเลศเริ่มต้น ท้ายส่งผลไปนานาค่าแปรผัน อินเตอร์เน็ตปิดจอ...ก็จบพลัน ต่างคนต่างไม่รู้จักกัน....มันก็เหมือนเดิม (ล่ะว๊า) คุณนรสิริ .. :) ขอบคุณค่ะ คุณวิทย์ .. มาเก็บไข่ แล้วไม่คิดจะยกของตัวเองให้ฉางเอ๋อน้อยเหรอ คุณฤกษ์ .. ลวงดีกว่าล้วงนะ คุณปลายตะวัน .. ทุกอย่างอยู่ที่การมอง การมองก็ขึ้นอยู่กับมุม ในแต่ละมุมก็ตีวงกรอบอีก ทุกวันนี้เห็นได้ว่า ใคร ๆ ก็ใช้อินเตอร์เน็ตบรรเทาความเหงา จนลืมไปว่าสาระอื่น ๆ ก็มี เวลาที่อัลมิตราอ่านข่าวเกี่ยวกับคนที่เคลิ้มไปกับอินเตอร์เน็ตแล้วประสบเคราะห์หรือเป็นผู้ก่อเหตุซะเอง ก็ทำให้รู้สึกเอน็จอนาถใจเหลือเกิน .. มันจะบ้ากันไปใหญ่แล้ว (คิดในใจ) คุณทางแสงดาว .. ขอบคุณค่ะ
5 กรกฎาคม 2553 23:03 น. - comment id 1143511
อย่าเพิ่งคิดว่าล้วงไม่ดี ที่จริง การล้วง เป็นของดีจนเป็นประเพณีประจำท้องถิ่นทีเดียว มีเพื่อนเป็นลูกคนมอญที่พระประแดง ได้ไปเที่ยวบ้านเขาหลายครั้งค้างแรมทุกครั้ง ผู้ใหญ่เขาเล่าให้ฟังว่า เมื่อก่อนนานมาแล้ว มีปาระเพณีล้วงสาว ในหมู่คนมอญ บ้านมอญเขาจะมีร่องแมวลอด โดยมากจะอยู่ในครัว บ้านก็จะเป็นเรือนใต้ถุนสูง หนุ่มมอญจะมาแอบจีบสาวมอญ โดยที่สาวมอญอยู่บนบ้านคุยกันทางช่องแมวลอด หนุ่มยืนอยู่ใต้ถุนบ้านก็เอามือล้วงขึ้นไปจับมือกับสาวบนบ้าน ถ้ารักกันมากอาจได้จับมากกว่ามือ แล้วเขาจะจำคู่รักของกันและกันได้ จากมือที่สัมผัส มีคนแอบล้วงแทนคนอื่นถูกสาวเคาะด้วยสากกระเบือมือหักมาแล้ว ปัจจุบันประเพณีนี้ไม่มีแล้ว รุ่นเราไปเที่ยวก็เข้าไปบนบ้านเขาเลย อิอิ
6 กรกฎาคม 2553 07:48 น. - comment id 1143524
คุณฤกษ์ .. ว่าไงล่ะ แล้วนึกอยากจะล้วงแบบธรรมเนียมมอญไหม พอดีว่า อัลมิตราก็พอจะรู้จักคนมอญบ้างนะ แต่ไม่เห็นเขาจะเล่าแบบนี้ แถมอัลมิตราก็ไม่รู้ว่า บ้านเขามีร่องกระดานหรือเปล่า ไว้จะถามให้ เผื่อว่าคุณฤกษ์อยากจะล้วง จะได้ส่งนัยให้ทราบทันที ว่าแต่ว่า ล้วงแล้ว .. ถ้าไม่เจอมือ ก็อาจจะเจอไข่ 555555 เพราะว่า เพื่อนของอัลมิตรามันเป็นผู้ชายน่ะ 555555
6 กรกฎาคม 2553 08:42 น. - comment id 1143530
555555 ว่าจะไม่เล่าเกร็ดที่ได้รับฟังมา แต่พอเห็นเรื่องไข่ ก็เลยเล่าซะหน่อย จริงเท็จยังไงขึ้นอยู่กับคนที่เล่าให้ฟัง ในคืนวันวิสาขะ ชาวบ้านเขาไปวัดเพื่อเวียนเทียนกัน หนุ่มมอญใบ้ ก็จีบสาวมอญได้เป็นคู่รักกันมานานแล้วด้วยภาษาที่เข้าใจกันคืนนี้ปลอดคนเขานัดกับสาวไว้เรียบร้อยจึงพาเพื่อล่ำสันไปด้วยสามสี่คนให้สัญญานให้เงียบ ๆไปบ้านสาวถึงใต้ถุนช่องแมวลอดนัดคุยกันสักพักคงตกลงกันได้จึงวเปลื้องกางเกงออกให้เพื่อนช่วยแบกตัวเองในท่านอนหงาย ส่งของสำคัญของตัวเข้าไปในร่องแมวลอด สาวนัดแนะกันแล้วก็จัดการอยู่ข้างบน แต่เจ้ากรรม อีตาพ่อคงรู้ระแคะระคายอยู่ก็แ แอบเข้ามาในครัวถือไต้จุดไฟมาดูด้วยเห็นลูกสาวกำลังยงโย่ยงหยกแกก็ถีบคว่ำไปเอาขี้ไต้หยดใส่ของสำคัญเจ้าใบ้ เจ้าใบ้พูดบอกเพื่อนไม่ได้ ได้แต่ร้องอู้ เจ้าเพื่อนึกว่ากำลังมัน ก็เลยช่วยกันดันส่งขึ้นมาใหญ่ ตาพ่อก็เลยเอาไต้จิ้มลงไปขี้ไต้ติดลุกเป็นไฟ เจ้าใบ้ดิ้นสุดชีวิตหลุดจากเพื่อนตกลงมาบนพื้นลุกขึ้นออกวิ่งอ้าวไปที่วัดเพื่อกระโดดลงสร้าในวัดผ่านชาวบ้านกำลังเวียนเทียนรอบโบสถ์ คนแก่คนเฒ่า เข้าใจผิดเห็นลูกไฟลอยมาก็นั่งลงร้อง สาธุ พระธาตุเสด็จ... อิอิ
6 กรกฎาคม 2553 21:20 น. - comment id 1143721
คุณฤกษ์ .. ถามจริงเหอะ เขียนไป หัวเราะไปด้วยหรือเปล่า เหลียวหน้าแลหลังให้ดี ๆ นะ คนผ่านไปมาเขาจะคิดว่า "หมอนี่บ้า" เรื่องที่เล่าน่ะ มันก็ฮาดีนะ อ่านแล้วคลายเครียดดี มุขเยอะแฮะ ขี้ไต้ ?? เคยเห็นนานมาแล้ว ตอนที่แม่ติดเตาถ่าน ใช้นิดเดียวเพื่อให้เป็นเชื้อไฟก่อนที่จะวางเศษไม้และถ่าน เด็กสมัยนี้อาจนึกภาพไม่ออก แค่ถ้าพอนึกถึงคบไฟในหนังย้อนยุค คงพอไหว แล้วมีเรื่องมาเล่าอีกหรือเปล่า ? รออ่านอย่างใจจดใจจ่อ
6 กรกฎาคม 2553 23:48 น. - comment id 1143742
5555555ถึงกับใจจดใจจ่อเชียวหรือ คิดถึงเรามั้ง เรื่องเล่าได้มาจากวงเหล้า หรือรอบกองไฟเวลาแค๊มปิ้งมีเยอะแยะเล่าทั้งวันก็ได้ แต่ อยู่ในเกณท์เซนเซ่อร์ซะมากกว่า ไม่ให้ขัดศรัทรา ก็คงเป็นเรื่องหนุ่มมอญที่ได้รับถ่ายทอดมานานแล้วอีกนั่นแหละ ชื่อ ไอ้ไว คงไม่ใช่ชื่อจริงเป็นสมญามากกว่า เพราะกิติศัพท์ความไว ของเขาโด่งดังไวขนาดยิงศรออกจากแล่งเขาถือเป้าวิ่งจากที่ยิงไปรับลูกศรได้ นั่นแหละน่าเชื่อไหมล่ะไม่เช่นนั้นไม่ได้ สมญามาแน่ แต่ไอ้ไว มีนิสัยไม่ดี ชอบช่มชืนผู้หญิงไม่ว่าเด็กผู้ใหญ่ไม่เว้นลูกเขาเมียใคร ไม่กลัวใครเพราะจับมันไม่ได้ ไวมาก วันไหน มีข่าวไอ้ไวจะเข้าหมู่บ้าน ชาวบ้านร้านตลาดต้องรีบปิดประตูลงกลอนกันโครมครามทุก บ้านผู้ใหญ่รีบต้อนเด็ก ๆ เข้าแอบในบ้านกันหมด จะออกมาต่อเมื่อมีข่าวแน่ว่าไอ้ไวไปแล้ว วันหนึ่งข่าวไอ้ไวจะมาชาบ้านทุกบ้านลนลานหลบซ่อนกันอย่างเคย มีหนุ่มใหญ่คนหนึ่งกำลังมีบทรักกับสาวคู่ของเขาได้ข่าวก็เกรงอยู่ อารามอยากรู้อยากเห็น ก็แง้มหน้าต่างดูนอกบ้านอยากเห็นไอ้ไว แต่ความกลัวยังเอามือกุมของสำคัญแฟนตัวเองไว้ไม่วาง ดูก็ไม่เห็นสักที ว่าไอ้ไวมาหรือยัง ขณะนั้น ยุงเจ้ากรรมมากัดที่หน้าผากหนุ่มคนนั้นจะตบก็ลำบากเพราะมือไม่ว่างข้างหนึ่งจับหน้าต่าง แง้มดูอยู่ จึงเอามือข้างที่กุมยกขึ้นมาตบยุงเปี๊ยะแล้วรีบเอามือไปกุมที่เก่า แต่ปรากฏว่าไปเจอะก้นไอ้ไวเสียแล้ว อิอิอิอิ ตะแล็ม ๆ ๆ ๆ มันไวจริง ๆ อิอิ
7 กรกฎาคม 2553 07:04 น. - comment id 1143757
คุณฤกษ์ .. 555555 ชื่อไว น่ะ โคตรไวสมชื่อเลย แต่ถ้าจะให้ไวกว่าคำร่ำลือกันล่ะก็ หนุ่มคนนั้นไม่น่าจะแปะก้นของไอ้ไวได้ เพราะไอ้ไวมันน่าจะเสร็จกิจ เผ่นไปแล้ว ส่วนสาวคนนั้นก็คงยังไม่รู้เนื้อรู้ตัวว่า ตะกี้ อะไรเอ่ย ที่มันพรวดพราดเข้าพรวดพราดออก ว่าแต่ว่า คุณฤกษ์นี่มีเชื้อสายทางรามัญมาบ้างหรือเปล่า ? ได้เชื้อความไว มาซะ กี่มากน้อยล่ะ วุ๊ย ! ... รออย่างใจจดจ่อเช่นเคย แหม ! ... ก็คุยสนุกเข้าขากันซะอย่างนี้
7 กรกฎาคม 2553 23:24 น. - comment id 1143990
ไปเที่ยวบ้านมอญบ่อยก็คงได้รับเชื้อจากไอ้ไวมาบ้าง อิอิถึงแล่นเรือใบไม่พ้นปากอ่าว จนใครก็นึกว่าเป็นเรือเกลือ อิอิ จะเล่ามากไปก็อาจถูกลูกเสือเสนอปิดเวป ไม่รู้ด้วยนะ เอาพอหอมปากหอมคออีกสักเรื่องก็แล้วกันเขาเรียกกันว่าครอบครัวสุขสันต์ สามีภรรยามีความกลมเกลียวรักใคร่เข้าใจกัน ภรรยาเข้าใจธรรมชาติของผู้ชายดี ถึงขาดเมื่อมีวันเบา ๆ ทุก ๆเดือนจะจ่ายเงินให้ ห้า ร้อยบาท เพื่อไปหาความสุขนอกบ้าน เป็นปรกติอย่างนี้ตลอดมา จนเมื่อเดือนก่อน หลังจากสามีกลับบ้านมาภารรยาพบว่ามีเงินเหลือในกระเป๋าอีก สองร้อยบาท จึงต่อว่า ต่อขานว่าทำไมเดี๋ยวนี้ไปเที่ยวถูก ๆ หรือไง ถึงมีเงินเหลือ จะเอาโรคภัยมาติดกันจะลำบาก สามีรีบขอโทษ บอกว่าลืมเล่าให้ฟัง ตอนที่ออกไปเมื่อเช้าเจอแม่อี๋ดที่ปากตรอก เขาบอกว่าไม่ต้องไปที่ไหนหรอก เขารับเองเอาแค่สามร้อยบาท จึงมีเงินเหลือมาไง ภรรยาได้ฟังนิ่งเงียบไม่พูดอะไรเลย รีบทำงานบ้านเสร็จรีบกำเงินสองร้อยบาทเดินแน่วไปปากตรอก เจอแม่อี๋ดกำลังนั่งซักผ้า ไม่พูดพล่ามทำเพลง เอาเงินสองร้อยบาทปาใส่หน้าแม่อี๊ด แล้วตะคอกว่า อีอี๊ด เอาห้าร้อยของกูคืนมา มึงเอาเงืนผัวกูตั้งสามร้อยเทียวรึ ทีผัวมึงกูยังไม่เอาซักสลึงเลย... ตะแล้ม ๆ ๆ ๆ
8 กรกฎาคม 2553 10:23 น. - comment id 1144032
คุณฤกษ์ .. นอนดึกจังแฮะ ตั้งห้าทุ่มกว่า รอบอลเหรอ ?? อัลมิตราไม่ได้ดูบอล แต่ก็ได้ดูข่าวตอนเช้า(ตอนทานข้าวก่อนไปทำงาน) เยอรมันต้องเข้าชิงที่ 3 แย่หน่อย แต่ก็ไม่เป็นไร สำหรับฮอลแลนด์กับสเปน อืมมม คิดก่อน เชียร์ใครดี ฮอลแลนด์ ลุงอาร์มเปิดร้านอาหารไทยอยู่ที่นั่น คงเชียร์ขาดใจ ส่วนสเปน ก็มีตอเรสขวัญใจหงส์เล่นอยู่ แต่ก็ยังไม่ได้ยิงสักที สรุปว่า เชียร์ฮอลแลนด์ดีกว่า เรื่องเล่าชุดนี้ ประมาณว่า จัดจ้านทั้งเมียหนุ่มคนนั้นกับยัยอี๊ด .. โอ้ สามร้อย กับ ฟรี ๆ นี่ กินลำใยอยู่นะ หวานเจี๊ยบ ท่าจะหมดโลก่อนเที่ยงแฮะ เผลอแป๊บเดียวเหลือไม่กี่กิ่ง ตอนนี้ลำใยชุก แต่ราคาก็ยังแพงอยู่ ที่นี่ขาย 45 บาท มีอีกมั๊ยเรื่องเล่า กะว่า จะให้เล่าจึงถึง คห. ที่ 100 เลยนะ
8 กรกฎาคม 2553 23:38 น. - comment id 1144264
ไม่ไหว ๆ พังมาตั้งแต่บราซิลแล้วก็เยอรมัน ติดปลายนวมฮอลแลนด์ไว้พอค่าปลาเก๋าสดในกระชังที่อ่าวฮาลองเบย์เท่านั้น เข็ดแล้ว ๆ คราวก่อนไปเพื่อนลงมือตักปลาเก๋าในกระชังยักษ์กลางอ่าวเอง ตัวมันใหญ่เท่าเด็ก ที่ตักก็ใหญ่เลยลากเพื่อนตกลงไปในกระชังเฮกันลั่นไปเลย กว่าจะได้กินมันเปียกปอนไปหมด เอาเรื่องสุดท้ายแล้วกันประชากรชาวบ้านกลอนเขาจะค้อนเอา สมัยก่อนการเดินทางในต่างจังหวัดทุรกันดารต้องใช้ม้า ลา วัวเทียมเกวียน เดินทางรอนแรมเป็นเดือน ๆ กว่าจะถึงที่หมาย โจรผู้ร้ายก็ชุกชุมถ้าไม่มีเขียวเล็บป้องกันตัวเองก็ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ พ่อค้าเพชรพลอยรายหนึ่ง ปรกติจะเดือนทางจากแม่สอดมาเมืองตากสองเดือนต่อครั้งสองสามีภรรยาทำมาหากินได้ผลกำไรและโชคดีแคล้วคลาดโจรผู้ร้ายมาตลอด คราวนี้ภรรยาไม่ค่อยสบายจึงเอาลูกสาวคนเดียวกำลัวสวยงสมเป็นที่หมายปองของหนุ่ม ๆ เดินทางมาด้วยแทนแม่แต่เจ้ากรรม ถูกโจรก๊กใหญ่ดักปล้นกวาดต้อนช้างม้ากองคาราวานทรัพย์สินไปหมดสิ้นลูกน้องพลัดพรากล้มตายหนีหายไปหมดเหลือเพียงพ่อลูกที่โจรสงสารไม่ฆ่าแกง ทั้งคู่กอดคอปรับทุกันตาพ่อถึงกับร้องไห้ก่นว่าสิ้นเนื้อประดาตัวแล้ว ๆ ลูกสาวเฝ้าปลอบพ่ออยู่นานไม่สิ้นโศก จึงงัดเอาเพชรเม็ดใหญ่เท่าไข่นกพิลาป มาให้พ่อดู บอกว่ายังเหลือพอทำทุนได้ ตาพ่อดีใจบอกบ่ารอดแล้ว ๆ พอตั้งตัวได้ใหม่ แต่กลับฉุกคิดถามลูกสาวว่า เอาซ่อนไว้ตรงไหน เห็นโจรมันค้นจนทั่วปากคอมันก็ให้อ้า ดูกลัวจะอมเพชรไว้ ค้นขนาดนี้แล้วซ่อนไว้ได้ไง ลูกสาวอายหน้าแดงเป็นตำลึงสุกบิดม้วนไปม้วนมาไม่ยอมตอบว่าซ่อนไว้ตรงไหน อีตาพ่อมองลูกสาวเดี๋ยวหนึ่งคงนึกรู้ขึ้นมา ถึงกับตบเข่าฉาดทำปากจุ๊ ๆ แล้วร้องออกมาว่า เสียดายนักนี่ถ้าแม่เอ็งมาละก็ เกวียนข้าก็คงซ่อนเอาไว้ได้ ไม่หายแน่ ...ตะแล้มๆ ๆ พอแล้วนะเอาไว้เล่าสด ๆกันดีกวว่า อิอิ
9 กรกฎาคม 2553 07:24 น. - comment id 1144322
คุณฤกษ์ .. แหม๋ จริง ๆ ด้วย น่าเสียดายจริง ๆ ถ้าพาเมียมาก็คงซ่อนเพชรพลอยได้ทั้งเกวียน แต่อย่างว่าอะนะ ถ้าเป็นสมัยนี้ ลำพังอีตาผัวเองก็คงจะหาที่ซุกซ่อนได้ไม่ยาก ดีไม่ดี .. นอกจากเพชรพลอย อาจซ่อนได้ทั้งเวียน ทั้งม้า,ลา ... โอ๊ย เรื่องเข้าป่าเนี่ย ผู้ชายสมัยนี้ชอบกันนักแล .......... โธ่ บอกว่าเป็นเรื่องสุดท้าย ได้ไงกัน อีกหกสิบกว่าเรื่อง หารแบ่งกันก็คนละสามสิบกว่า ๆ เล่าไม่ได้หรือไงกัน ? .. หมดความพยายามแล้วสิ ? .. หมดน้ำยาหรือว่าหมดมุข นะ .. ถามอีกที 555
9 กรกฎาคม 2553 22:59 น. - comment id 1144697
หนอยแน่ มาว่าหมดน้ำยาได้ ขนมจีนก็มีอย่าว่าแต่น้ำยาเลย เอ้าแถมให้อีกเรื่องก็ได้ เมืองจีนสมัยฮ่องเต้กุปไลข่าน ต้องออกรบขยายดินแดนตลอดเวลาไม่ค่อยมีเวลาอยู่ในพระราชวังไปรบทีเป็นปี ๆ กว่าจะกลับมา ฮ่องเต้ระแคะระคายว่าพวกทหารองครักษ์ ไม่ซื่อชอบตีท้ายครัวพวกสนมกำนัล แม้แต่ฮองเฮาไม่มีเว้น จึงสั่งการให้จัดทำเข็มชัดป้องกัน ขึ้นมาจำนวนเท่ากับนางสนมกำนัลและฮองเฮา ไอ้เจ้าเข็มขัดเหล็กนี่มีกลไก ถ้ามีอะไรล่วงล้ำมันก็จะตัดฉับโดยอัตโนมัติ เมื่อจับใส่ครบทุกนางแล้วฮ่องเต้ก็ออกรบยกทัพไปด้วยความสบายใจ เกือบสองปีจึงกลับมาพร้อมชัยชนะ สั่งเรียกกองทหารองครักษ์มาเข้าแถวเรียงกันหลายร้อยคน สั่งให้เปิดตรวจของสำคัญ ทุกคน ปรากฏว่า แต่ละคนมีร่องรอยขาดด้วนสั่งให้เอาไปตัดหัวหมดทุกคนทั้งกองร้อยกองพันนั้นมีคนที่ไม่ด้วนเหลือคนเดียว ฮ่องเต้ชื่นใจนักตรัสว่าเจ้านี่มันซื่อสัตย์สุจริตดี สั่งปูนบำเหฯจทรัพย์สินเงินทางบ้านช่อง ที่ดิน เลื่อนยศให้เป็นผู้บัญชาหกรทหาร องครักษ์ แล้วด้วยความเอ็ดดู จึงเดินเข้ามาตบไหล่ตัสถามสารทุกข์สุขดิบถามถึงพ่อแม่บุตรภรรยาสุขสบายดีหรือไร เจ้าทหารผู้นั้นอ้าปากเอ่ยทูลอย่างนอบน้อมว่า แบ๊ะ ๆ แบ๊ะ ๆ อ้อแอ้ ๆลิ้นของมันขาดหายไป ตะแล้ม ๆ ๆ ๆ
10 กรกฎาคม 2553 10:45 น. - comment id 1144727
คุณฤกษ์ .. เรื่องนี้ ได้ฟังเขาเล่ามานานแล้วนะ ตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ โน่นนนนนน เรื่องที่มาจากจีนทั้งหลายแหล่ น้อยมากที่จะไม่ผ่านหูผ่านตา แต่เรื่องของพม่ารามัญ ไม่ค่อยได้ยินได้ฟังสักเท่าไหร่ ไหนบอกว่า มีน้ำยา แถมมีขนมจีนด้วย แล้วทำไมเสริฟเกี๊ยวน้ำซะล่ะ ... 555
14 กรกฎาคม 2553 00:17 น. - comment id 1145502
ไปๆมาก็อดคิดถึงไม่ได้ต้องแอบมาดูจนได้ว่าตอบว่าไง อิอิ มีเรื่องเล่าได้เขียนไม่ได้ทำไงดีล่ะ
17 กรกฎาคม 2553 16:05 น. - comment id 1146462
ภาพลวงตาอินเตอร์เน็ตที่มองเห็น มองให้เป็นด้านที่ดียังมีอยู่ บทเรียนที่ผ่านไปใครเรียนรู้ เหมือนดั่งครูสอนไว้ให้จดจำ กำลังเริ่มเรียนรู้ใหม่จากในเน็ต โลกใบเล็กอีกใบลงมือทำ แต่ความคิดเก่าๆเฝ้าตอกย้ำ เราก็ช้ำเพราะเน็ตไม่เข็ดเลย