รัดห้วงบ่วงใจ อารมณ์ซึ้งแนบซ่านผ่านสรวงเอ๋ย จันทร์ที่เคยทอแสงแฝงไปไหน ดาวขอบฟ้าพาลับกลับหายไป สิ่งสดใสทอทาบยากอาบทรวง เคยโรยรินดอมกลิ่นบุบผาชาติ ช่างประหลาดพฤกษามาลาสรวง แนวหุบผาสิ้นสลายคลายทั้งปวง สิ่งโชติช่วงนวลมณีสีพร่างพราย จำเนียรแจ้วแว่วกล่อมดนตรีพฤกษ์ เสียงระทึกหมดเสียงเลี่ยงหนีหาย เฝ้าแต่รอคอยเขาเศร้าเดียวดาย สะท้านกายฟุ้งซ่านผ่านราตรี หรือเขามองว่าเราประหลาดนัก บ้าบอจักหมดสิ้นประทินฉวี จนหมองหม่นเสื้อผ้าสร้างราคี หากนารีเคียงข้างจึงหมางเมิน แม้นแต่เพื่อนร่วมชิดสนิทเชื้อ เขายังเบื่อหลีกเร้นเช่นนกเหิร มองว่าเราปีกหักยากเหลือเกิน ที่ก้าวเดินเคียงคู่สู่ชมจันทร์ โอ้รักห้วงบ่วงใจสลายแล้ว สิ่งเพริศแพร้วหลีกเร้นเน้นหนีหัน ปล่อยให้เราเวิ้งว้างสร้างลาวัณย์ จวบตะวันทอแสงแล้งกานดา อนิจจาคนบ้าบ่อท่าแล้ว เสี่ยงเจื่อนแจ้วราตรีที่ฝันหา พอแสงเดือนดาวคล้อยลอยลับตา แม่ยุพาปล่อยคว้างร้างคนเดียว เคยเสกสรรวาทีวลีไพเราะ แสนเสนาะฝังใจมิได้เฉลียว เขาว่าบอผสมบ้าร้างลาเชียว ป่วนให้เปลี่ยวมองแลชะแง้คอย ทั้งโคลงกาพย์กานท์กลอนสะท้อนห้วง กลับต้องร่วงดับไปคล้ายเศษฝอย ฉีกละเอียดปนขว้างส่งสร้างรอย ต้องละห้อยก้มหน้าฝ่าเดินดง รักที่คงฝากไว้แกล้งใช้สอย หวานหยดย้อยสมหวังดังประสงค์ หลอกแต่ตัวไม่ว่าข้าจำนง ใยขีดวงสร้างกรอบลอบร้างลา แม้แต่เดือนดวงดาวเคยพราวสว่าง ยังมาสร้างหัวใจให้กังขา ล้วนหนีหายไกลลับมิจับตา สู้อุตส่าห์เฝ้ามองเพื่อครองใจ หมดรักแล้วไม่ว่าชวนมาปลิ้น น้ำค้างรินชโลมไว้ให้สดใส นี่แหละหนอเราบ้าเขาลาไกล สิ้นเยื้อใยเคว้งคว้างกลางป่าดง จะอาศัยเดือนดาวภิรมย์จิต ให้ชีวิตแปรเปลี่ยนกับเวียนผง เป็นธุลีเคว้งคว้างกลางไพรพง สิ้นอนงค์หมดดาวยากเฝ้าเดือน. * แก้วประเสริฐ. *
18 มีนาคม 2553 21:17 น. - comment id 1111876
มาแล้วค่ะครู มาบอกราตรีสวัสดิ์เจ้าค่ะ กลอนเหมือน้อยใจอะไนหน่อยๆนะคะครู อิ
18 มีนาคม 2553 21:19 น. - comment id 1111877
โอ้ รีบเขียนไปหน่อย คำผิดเพียบเลย จะบอกว่า เหมือนน้อยใจหน่อยๆจ้า
18 มีนาคม 2553 20:58 น. - comment id 1112178
นวนิยายจบแล้ว ได้เวลาเขียนกลอนหวานๆต่อเจ้าค่ะ
18 มีนาคม 2553 22:30 น. - comment id 1112197
ยังมัผมอีกฅนพร้อมเป็นกำลังใจให้นะครับ
18 มีนาคม 2553 23:52 น. - comment id 1112218
ยังยอดเยื่อมเหมือนเดินนะครับครู งดงามทุกตัวอักษรเลยครับ
19 มีนาคม 2553 08:59 น. - comment id 1112261
งดงามด้วยอักษรและไพเราะด้วยสำนวนคะพี่ เยี่ยม
19 มีนาคม 2553 11:33 น. - comment id 1112313
รอยรักเร้าริดเร้นเริงรมร้อน รำเพยรอนพัดรานพล่านรักเผา ลำเจียกร่ำจำเรียงจจ้องจำลองเรา จำเลยเร้าเจ้าร้องจำแลงใจ คำเจ้าโจทย์โทษท้าวป่าวประกาศ ว่าตัดขาดตัดข้อมิขอไข เยื่อโยงยืดยึดยาดหย่อนย่อใย ปลิดแค่ใบไม้ผลยังค้างตอ ขอแจมสองบทครับครู อิอิ
19 มีนาคม 2553 12:48 น. - comment id 1112327
คุณ ยาแก้ปวด ครับคงจะเป็นเช่นนั้น แหล่งนี้คือสถานที่ ผมใช้ฝีกสมองของตัวเองมิให้เสื่อมลงเร็วเท่านั้น ส่วนจะดีหรือไม่ดีอีกเรื่องหนึ่ง แต่ผมได้ในความ เพลิดเพลินงานผมยามมาอ่านจ๊ะ การอ่านงานเรื่อง ลุ่มลึกอิสราวดีนั้นควรจะอ่านตั้งแต่ต้นจนจบ ด้วยเป็นเรื่องอิงประวัติศาสตร์ระหว่างเก่ากับใหม่ ไว้ในระบบสองมิติจ้า รักหลานเรา มากๆเสมอ แก้วประเสริฐ.
19 มีนาคม 2553 12:51 น. - comment id 1112329
คุณ แก้วประภัสสร ฝันหวานนะ เรื่องน้อยใจครูไม่น้อยใจใคร ดังที่เคยกล่าวไว้ว่า งานเขียนควรสร้างจิตและ อารมณ์เราให้ว่างๆ ส่วนงานออกมาในลักษณะ น้อยใจ นั้นเกิดจากจิตใต้สำนึกงามจิตอารมณ์ว่าง มันสะสมมานานก็จะออกมาจึงเป็นแนวทางนี้ไปจ๊ะ รักศิษย์เราเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
19 มีนาคม 2553 12:54 น. - comment id 1112331
คุณ แก้วประภัสสร ครูเองขนาดตรวจแล้วยังผิดเสมอๆแหละแต่ ร้อยกรองไม่ควรผิด ด้วยอักษรหากผิดแล้วความ หมายจะเพี้ยนไปทันที การตอบกระทู้นั้นครูเอง ก็ผิดบ่อยๆเหมือนกันไม่ต้องคำนึงหรอก คนอ่าน เขาจะรู้ความหมายเองแหละจ้า รักศิษย์เราเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
19 มีนาคม 2553 12:55 น. - comment id 1112332
คุณ สุริยันต์ จันทราทิตย์ เพียงแค่ได้รับฟังแค่นี้ก็ชื่นใจแล้วล่ะ ขอบใจ มากจริงๆ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
19 มีนาคม 2553 12:57 น. - comment id 1112333
คุณ ป๋อง สหายปุถุชน ขอบคุณครับ งานเขียนผมมักจะสร้างด้วยจิต และอารมณ์เป็นหลักครับ จะดีหรือไม่ดีผมมักจะ ไม่ค่อยคำนึงเท่าไหร่ ด้วยได้รับแล้วคือความปิติ แก่ใจผมเองครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
19 มีนาคม 2553 13:00 น. - comment id 1112334
คุณ ฉัตรบงกช พี่เองตอนนี้จะรีบๆเขียนด้วยเวลานั้นเหลือ น้อยเต็มทีแล้วล่ะ ก่อนจะเขียนไม่ได้ด้วยสายตา และสมองนั่นเองที่เป็นอุปสรรคขวางกั้นงานเขียน ฉะนั้นผมจะเริ่มเร่งก่อนที่จะไม่ได้เขียนอีกแล้วล่ะ ขอบใจน้องรักมาก รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
19 มีนาคม 2553 13:08 น. - comment id 1112338
คุณ กิ่งโศก นับได้ว่าเขียนด้วยการเล่นคำนั้นงดงามยิ่งนัก ผสมผสานกับทำนองเสียงให้กลมกลืนได้แนบเนียนแน่นหนัก อย่างที่ครูกล่าวเสมอๆว่า การเล่นร้อยกรองนั้น อุปมาดังเชิดหุ่น หากการเชิดได้ถูกต้องอ่อนช้อย ย่อมเป็นที่บันเทิงใจแก่ผู้ดู ฉนั้นครูถึงเน้นมาก เรื่องกลอนแปดต้องแปดคำเพราะด้วยเหตุนี้เอง แหละ การเล่นแบบกลอนตลาดนั้นใครๆก็เล่น ได้ด้วยไม่เกิดความระมัดระวังในอักษรโดย อาศัยทำนองอารมณ์ของตนเป็นใหญ่ ฉนั้นจึง มักพลาดได้กลายเป็นกลอนพาไป เมื่อใช้ไปแล้วด้วยความลืมตัวก็จะบังคับ อักษรมิได้ หากเขียนด้วยบังคับอักษรก็จะทำให้ อักษรนั้นถูกต้องและงดงามอ่อนช้อยเสมอๆ รักศิษย์เราเสมอ แก้วประเสริฐ.
19 มีนาคม 2553 19:37 น. - comment id 1112463
หวาน งาม ชดช้อย เหมือนเดิมนะคะลุงแก้ว รักษาสุขภาพด้วยค่ะ
19 มีนาคม 2553 19:56 น. - comment id 1112485
คุณ ร้อยฝัน ชมเชยหรือยกยอครับ ผมก็เขียนไปตามใจ ของผมเท่านั้นเองแหละครับ แบบโบราณไม่ทัน สมัยอะไรหรอกครับ พวกเราชมกันเอง แต่อย่าง ไรขอบคุณมากนะครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
19 มีนาคม 2553 22:20 น. - comment id 1112518
หายคิดถึงบทกลอนนะค่ะ ไปเขียนร้อยแก้วซะนาน.... รักษาสุขภาพนะค่ะ
20 มีนาคม 2553 13:38 น. - comment id 1112719
อ่านบทกลอนผ่อนคลายความร้อนรนค่ะ บ่วงใจ ยากหลุดพ้นจากพันธนาการค่ะ
20 มีนาคม 2553 15:15 น. - comment id 1112738
คุณ แมงกุ๊ดจี่ คุณมะกรูดครับผมเมื่อชักเบื่อร้อยกรองก็ หันไปทางร้อยแก้วบ้างฝึกฝนไว้ครับ ตอนนี้มานั่ง คิดว่าจะเริ่มงานร้อยแก้วต่อ จากเรื่อง ฟ้าเพียงดิน แต่ขอเวลาพักผ่อนสมองก่อนครับ ว่าจะเขียน ให้จบๆไปเดี๋ยวเสียชื่อว่าทำงานจับจดครับ หาก ปวดหัวก็มาพักผ่อนทางนี้ครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
20 มีนาคม 2553 15:17 น. - comment id 1112740
คุณ ครูกระดาษทราย สวัสดีครับครู ผมเองเมื่อเขียนไปนานเข้างาน ก็จะอยู่กับที่เสียแล้ว ถึงว่างเว้นไปนานก็จริงแต่ ก็เหมือนด้านเอกลักษณ์นั่นแหละครับ ขอบคุณ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
20 มีนาคม 2553 15:40 น. - comment id 1112748
คุณ เฌอมาลย์ ครับห้วงรักยังพอทำเนาได้แต่บ่วงรัดนี่ซิ ครับยากจะเลือนเลือนได้จริงๆครับ มันช่างฝังลึก สงสัยอยู่ก้นบึ้งแห่งใจจริงๆซินะครับ อย่าคิดมาก ครับพอนานๆเข้าก็จะค่อยๆจางไปเช่นผมแหละครับ ด้วยทุกๆอย่างล้วนแล้วแต่วาสนาของแต่ละ คนที่สร้างสมกันมาครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
20 มีนาคม 2553 15:43 น. - comment id 1112751
** คิมหันต์เยีอน เพื่อนพิง ได้อิงอุ่น ยังหอมกรุ่น คงมั่น มิหวั่นไหว ท่ามขุนเขา สุดแดน แม้นแสนไกล ส่งหทัย คอยอยู่ มิรู้ลืม....ฯ มาอ่านบทกลอน..หวานไพเราะ..ยังระลึกถึง..แฝดเพื่อน..เสมอค่ะ..ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ...
20 มีนาคม 2553 18:27 น. - comment id 1112786
คุณ ราชิกา แฝดเพื่อนเอ๋ยคิดเคยเห็นเย็นเช้า แต่ใยเล่าผูกพันนั้นเกษมศรี เพียงอักษรตอนหนึ่งจึงเปรมปรีดิ์ เป็นสักขีสองเราเคล้าใจจริง. ขอบตอบเป็นกลอนก็แล้วกันนะครับ พอแต่ง เรื่องฟ้าเพียงดินจบตอนหนึ่ง ด้วยทิ้งห่างงานเรื่อง นี้ไปนานว่าจะแต่งให้จบตั้งนานแต่อารมณ์ไม่ สัมพันธ์ แต่เขียนไปว่าจะแต่งต่อให้เขาอ่าน ด้วยผมเป็นคนรักสัจจะนัก จึงต้องขีดเขียนเท่า ที่สามารถจะทำได้ครับ รักแฝดเพื่อนเสมอๆ แก้วประเสริฐ.