แก้วตาพี่ จากลาแก้วตาพี่ ต่อจากนี้ยากอำลา บุญที่เคยสร้างมา ต้องผวาจากนวลน้อง ที่ปองแสนระทม ดุจระบมจากใฝ่ปอง สุดทางพี่จะครอง ฝากนวลน้องเคล้าระบม ให้ตรอมตรมจากไกล แสนอาลัยสุดขื่นขม กลับมาป่วนระทม หัวใจตรมเสียแล้วนี่ มาจากพี่ต้องหมอง ฝันเคยครองฝากชีวี สิ้นแม่พระธรณี หวนฤดีพี่เจียนขาด อนาถใจแทบมลาย สิ้นสลายหัวใจพลาด เปรียบน้องมาพิฆาต แทบใจขาดร้าวขื่นขม อกเอ๋ยที่ใฝ่ปอง จนพี่หมองใจระทม รักแล้วต้องมาตรม พิษมาบ่มแทบจะตาย สิ้นแล้วหวานเคยรัก ล้วนมาหักจนสิ้นสลาย ดวงฤดีแทบมลาย มาห่างไกลเสียแล้วเรา ลาก่อนน้องของพี่ ป่วนชีวีเสียจนเขลา ด้วยเธอช่างใจเบา หนีตามเขาให้พี่ตรม ค่ำทุกคืนพี่คิด ยากจะปลิดจนขื่นขม ล่วงยากคิดแนบชม คงหมองตรมเสียแล้วเอย เหม่อดูฟ้าพร่างพราย เธอจากไปยากมาเฉลย มัวหมองยากเปรียบเปรย เขาคงเชยแก้มน้องพี่ ปั่นป่วนฤดีพราก ที่ต้องจากร้าวรอนฤดี อกแทบปริเป็นผี สิ่งเปรมปรีดิ์ต้องร้าวราน โถใจบอกข้าที ต่อไปนี้ยากสมาน อกเอ๋ยสุดทรมาน ใครช่วยสานบอกหน่อยที ฝากฟ้าโลมชีวิน ทั่วแผ่นดินเขาเมินพี่ โอ้แม่พระธรณี ฝากชีวียังพสุธา หากแม้นสุดจะฝืน กลัวคนอื่นเขานินทา จึ่งฝากเปื้อนน้ำตา ลอยลมมาหาแม่นาง ช่างปวดร้าวฤทัย เดินทางไกลพบอ้างว้าง ฟันฝ่าหนามพงทาง รักที่วางคลายห่างไกล ขอลาแล้วนางเอย หวานที่เคยสุดสิ้นสลาย แม้นใจพี่ละลาย มิกลับกลายคงไร้เชียว. ** แก้วประเสริฐ. **
26 มกราคม 2553 19:26 น. - comment id 1091513
ฟังเพลงแล้วได้งานงามๆแบบนี้เลยนะคะ แต่บรรยากาศเศร้านะคะ วันนี้ฝนมาเป็นที่ หนึ่งเลย อิอิ
26 มกราคม 2553 19:41 น. - comment id 1091520
คุณ โคลอน ผมพยายามแต่งให้เป็นเพลงแนวเศร้าๆ ครับหากร้องได้ก็ทดลองดูนะ ผมเองร้องไปแต่งไป แม้ว่าบางประโยคจะทะแม่งๆบ้าง ด้วยผมนั้นถือ เรื่องฉันทลักษณ์หากแต่งแบบตลาดนะไปได้ฉิว ครับ คุณฝนเก่งนะมาที่หนึ่งแบบทิ้งพวกมิเห็นฝุ่น เลยล่ะครับ ทำนองคล้ายๆธรณีกรรแสงครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
26 มกราคม 2553 19:53 น. - comment id 1091530
ขอมาที่สองต่อจากน้องฝนค่ะครู ไพเราะ งดงาม เศร้าค่ะ
26 มกราคม 2553 20:04 น. - comment id 1091536
แวะมาเยี่ยม เป็นคนที่สามค่ะลุง
26 มกราคม 2553 20:06 น. - comment id 1091539
คุณ อนงค์นาง ที่จริงผมจะเว้นว่างจากงานเขียนนี้แล้วไป โผล่งานเขียนทางโน้นครับ แต่มาฟังเพลงที่มีจังหวะ คล้ายกับ ธรณีกรรแสง เกิดอารมณ์หากคุณร้อง ทำนองนี้แต่ไม่ต้องทุกๆวรรคนะครับ เพียงจัดให้ เข้ากับทำนองแบบตลาด ด้วยผมแต่งอาศัยทำนอง เพลงนี้แหละครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
26 มกราคม 2553 20:08 น. - comment id 1091542
คุณ ใจปลายทาง อย่างที่ผมเกริ่นไว้ข้างบนแหละครับเกิด อารมณ์เพลงก็เลยแต่งขึ้นมาครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
26 มกราคม 2553 20:42 น. - comment id 1091560
สวัสดี อาจารย์สบายดีนะ คิดถึงเสมอ
26 มกราคม 2553 21:22 น. - comment id 1091592
สวัสดีครับ ผลงานเศร้าจังครับ
26 มกราคม 2553 23:44 น. - comment id 1091682
กลอนดูทั้งเศร้าและเหงาจังค่ะครู
27 มกราคม 2553 01:41 น. - comment id 1091700
10.......ฮี่..ฮี่... แย่งที่ 10 ของสหายฝน .....ลุงๆ ลุงแก้วๆ ไปอ่านเรื่องสั้นของหนูเร้ววว น่ากลั๊ว น่ากลัวคะ ......เม้นต์ด้วยๆนะคะ อิอิ
27 มกราคม 2553 01:50 น. - comment id 1091701
บทเพลงเก่า ๆ ยามเหงา ๆ ฟังแล้ว แสนซึ้งใจนะคะ สุขภาพเป็นอย่างไร บ้างแล้วคะ
27 มกราคม 2553 09:46 น. - comment id 1091867
27 มกราคม 2553 10:53 น. - comment id 1091906
ลาแล้วแก้วตาพี่ สุดจะหนีใจตนเอง กลางคืนยิ่งวังเวง เสียงหง่างเหง่งเกรงจะกลัว ครูขยันแต่งจังเลยค่ะ รักษาสุขภาพนะคะ
27 มกราคม 2553 11:44 น. - comment id 1091955
คุณ อินสวน ที่จริงผมจะวางมือทางด้านนี้ก่อนครับ ปล่อย ให้ศิษย์เขาได้เล่นกันไป ผมก็หากว่างมีอารมณ์ก็ จะไปเล่นด้านงานเขียนเรื่องสั้น ผมว่าจะเขียนสั้น นี่ขนาดเขียนสั้นแล้วนะครับ ต้องหักใจไว้มิฉะนั้น ยาวๆกว่านี้อีกครับ เรื่องที่ยาวที่สุดจนจบแบบหักใจ และตัดบทสนทนาออกแยะ ตลอดจนควรมีการ สนทนาและงานของพวกขุนศึกบ้างผมก็ตัดออก ยังยาวเกรงใจเจ้าของเวปฯเขา คือเรื่อง ทัศยุราชันย์ ครับ หากว่างๆเข้าไปอ่านดูนะครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
27 มกราคม 2553 11:40 น. - comment id 1091960
คุณ ลุงแทน นมัสการครับ ผมก็คิดถึงรำลึกตลอดและครับ งานคงจะว่างๆแล้วนะซิครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
27 มกราคม 2553 11:46 น. - comment id 1091971
คุณ ฉางน้อย เจ้าฉางนุ้ยเอ๋ยไปอ่านแล้วจ้า และกลัว หลานมากก็เลยคอมเม้นท์ไว้ให้แล้วนะ อิอิ เขียน งานมาล้วนดีๆทั้งนั้นเลยล่ะ รักหลานเราเสมอ แก้วประเสริฐ.
27 มกราคม 2553 11:49 น. - comment id 1091972
คุณ เทียนหยด อ๋อยเอ๋ยครูฟังเพลงไปก็อดสะท้อนอารมณ์ ไม่ได้จึงได้เขียน ด้วยตั้งใจว่าจะวางมือทางด้านนี้ สักหน่อย ให้พวกเธอได้เล่นกันตามสบาย ส่วนครู หากว่างก็จะไปเล่นทางด้านโน้นจ๊ะ ด้วยทิ้งมานาน แล้ว นอกจากโพสส์งานคนอื่นทางเมล์ให้อ่าน รักศิษย์เราเสมอ แก้วประเสริฐ.
27 มกราคม 2553 11:55 น. - comment id 1091981
คุณ ปรางทิพย์ อันที่จริงผมชอบมากเพลงสมัยก่อนโน้นเก่าๆ ฟังได้อรรถรสเนื้อถ้อยความซาบซึ้งอารมณ์คนฟัง มากกว่าสมัยนี้มากครับ เปิดเพลงดุจดั่งไร้แผ่นดิน ของชรินทร์ นันทนาคร ขับร้อง ในทำนองเพลง ธรณีกรรแสง ก็เลยมาแต่งบ้างแต่ไม่เอาไหนเลย หากแต่งจริงๆควรจะใช้กลอนตลาดจะดีกว่าครับแต่ นี่ผมใช้กาพย์ยานี11 หากร้องก็ได้ครับแต่ว่า ต้องคาบเกี่ยวกันตามจังหวะเพลงครับ ครูเอง ก็เล่นไปเรื่อยๆแหละจ้า สายตาชักแย่จึงเขียนๆ ไว้ก่อนจะเขียนไม่ได้จ้า รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
27 มกราคม 2553 11:57 น. - comment id 1091984
คุณ เพียงพลิ้ว ขอบใจมากจ้าหวังว่าหลานเราคงสบายดีนะ ลุงเองนับวันจะแย่ทั้งสายตาและสุขภาพจ๊ะ รัก หลานเราเสมอ แก้วประเสริฐ.
27 มกราคม 2553 12:00 น. - comment id 1091989
คุณ แก้วประภัสสร ยายแบมเอ๋ยครูเองไม่ขยันก็ไม่ได้เพราะ ไม่รู้ว่าจะเขียนไปได้นานเท่าไหร่ อีกอย่างหนึ่ง ตั้งใจไว้ว่าจะให้พวกเธอเล่นกันไป นานๆจะมา สักครั้งค่อยๆวางมือไปจ้า และหากอารมณ์เบาบาง ก็จะไปเล่นทางโน้นเพื่อขัดเกลาสมองบ้างทิ้งมานาน นับแรมปีได้แล้วกระมังหรือกว่าๆเสียด้วยจ๊ะ ครู รักศิษย์เสมอๆ แก้วประเสริฐ.
27 มกราคม 2553 15:04 น. - comment id 1092130
แวะมาเยี่ยมพร้อมอ่าน งานครูแก้วครับ
27 มกราคม 2553 15:44 น. - comment id 1092175
คุณ กิ่งโศก กิ่งเอ๋ยการเล่นกลอนหรืออะไรก็ตามเราต้อง ใช้ความละเอียดและรู้จักดัดแปลงบางส่วน ที่ศิษย์ เราเล่นนั่นแหละ จะทำให้งานก้าวหน้าไปมากๆ แต่ก็ควรคำนึงถึงทำนองไว้ด้วย บางครั้งเล่นไป เพลินๆทำนองขาดจังหวะไปก็ย่อมเสียทั้งกระดาน ทุกอักษรเราต้องเชื่อมั่นและแปลความหมายได้ ด้วยนะ ไม่ใช่ว่าดัดแปลงแต่ไม่ได้ความหมายก็ ไม่ถูกต้องนัก อักษรทำนองมีให้เราเลือกเล่น ได้เยอะแยะไป พยายามค้นคว้าก็จะเห็นเอง หากหาไม่ได้ก็ให้ทำนองใกล้เคียงรวมทั้ง อักษรต้องสัมผัสกันด้วย รักศิษย์เราเสมอ แก้วประเสริฐ.
27 มกราคม 2553 15:50 น. - comment id 1092186
เป็นบทที่เหงา เศร้า จับใจเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ ดูแลสุขภาพด้วยค่ะ
27 มกราคม 2553 19:08 น. - comment id 1092260
คุณ เฌอมาลย์ ขอบคุณในกำลังใจครับ แต่ผมไม่มีอะไร หรอกครับ เพียงแต่ฟังเพลงเศร้า ก็เลยแต่งเรื่อง เศร้าๆไว้ครับ ส่วนตัวแล้วไม่เศร้าหรอกครับจะ เศร้าก็คือสุขภาพผมเท่านั้นครับ ขอบคุณรักเสมอ แก้วประเสริฐ.
27 มกราคม 2553 22:17 น. - comment id 1092338
มาชมผลงานครับครูช่วงนี้ไม่ค่อยว่าง เข้ามาพูดคุยสบายดีนะครับครู
27 มกราคม 2553 22:28 น. - comment id 1092342
กราบสวัสดีงามๆค่ะครูแก้ว ปักษาร้องเพลงไม่เป็นแต่ก็รับรู้ได้ถึงความเป็นครูที่ละเมียดลมัย ขอโทษครูด้วยนะคะปักษาห่างหายการฝึกปรือไปนาน กลับมาอ่านผลงานของครูและพี่ๆน้องๆแล้วอายจังค่ะ..ใจยังสู้อยู่นะคะคุณครู. รักและนับถือครูเสมอค่ะ.
27 มกราคม 2553 22:30 น. - comment id 1092344
แวะมาเยี่ยมค่ะ รักษาสุขภาพนะค่ะ
28 มกราคม 2553 12:07 น. - comment id 1092566
คุณ แมงกุ๊ดจี่ ขอบคุณมะกรูดคนสวยนักที่ให้ความเอ็นดู ห่วงใยผมเสมอมาและคบหากันมานานสมแล้วกับ ความเข้าใจกันและกันที่ผมมอบให้คุณ และใน เวลาเดียวกันก็ขอให้ความสำเร็จที่ต้องการของคุณ ก็จงเป็นปัจจัยให้คุณพบแต่สิ่งรุ่งโรจน์ต่อไปครับ รักเสมอมา แก้วประเสริฐ.
28 มกราคม 2553 11:52 น. - comment id 1092575
คุณ ป๋อง สหายปุถุชน ป๋องเอ๋ย ทุกๆอย่างเป็นอนิจจังยิ่งอายุมากๆ ความรู้สึกนึกคิดทางนี้ย่อมมีมาก มีมากอย่างไรล่ะ มีมากเพราะกายเรามันจะแจ้งอาการให้เรารู้เช่น ความอ่อนล้า ความปวดเมื่อร่างกายเป็นต้นนี่แหละ คือปัจจัยหนึ่งที่แสดงอาการออกมา ฉนั้นคนมีอายุ จะว่าสบายไม่ได้หรอก เพียงเรารักษาสุขภาพทาง จิตวิญญาณเราให้ปิติไว้ก็ถือได้ว่าเป็นสุขทางโลก อย่างหนึ่ง เธอเองก็ต้องประสบเช่นเดียวกับครู หรอกจ้า ฉนั้นสิ่งใดค้นหาในสิ่งที่ต้องการแต่ ไม่เดือดร้อนคนอื่น ก็จงรีบไขว่คว้าหาเสียก่อน ที่เราจะไม่สามารถทำได้จ้า รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
28 มกราคม 2553 12:04 น. - comment id 1092586
คุณ ปักษาสวรรค์ ผมขอน้อมเอาพานทองมารองรับไว้ครับ ทุกๆคนเรานั้น หากการต่อสู้แล้วชีวิตนี้ก็หาความ สมบูรณ์ไม่ได้หรอก จงตั้งมั่นต่อสู้ไว้ในสิ่งที่ถูกต้อง ควรตามแต่อัตภาพของเราอย่าไปไขว่าคว้าในสิ่ง ที่เกินมือเอื้อมเด็ดขาด หากเป็นเช่นนั้นก็จะทำให้ จิตใจเราว้าวุ่น แม้แต่งานที่เราทำก็จะพลอยวุ่นๆ ไปด้วยครับ การเป็นคนละเอียดอ่อนนั้นธรรมชาติ ได้มอบไว้ให้ทุกๆคนอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าคนๆนั้น จะรู้จักหรือไม่ ไม่เป็นไรหรอกผมเคยบอกเสมอๆ ว่างานด้านวรรณศิลป์นี้ให้ถือเป็นงานอดิเรก ของเรา เพราะงานด้านนี้มันจะเกิดเฉพาะด้าน จิตใจของเราเท่านั้น หากจะใช้เป็นด้านอาชีพ มันก็ต้องกว้างไกลกว่านี้เกินสติปัญญาเราจะทำ และที่ทำได้ เป็นแค่หนึ่งในร้อยเท่านั้นที่จะ ประสพผลสำเร็จ นับได้ว่าเป็นอาชีพที่ยากมาก และจะต้องมีพรสวรรค์ที่เขาพูดกันขอนำมากล่าว ไว้ คำว่าพรสวรรค์ หมายถึงสติปัญญารอบรู้ได้ โดยการฝึกปรือหรือไม่ก็ตามย่อมจะเกิดความ ละเอียดเป็นคนช่างสังเกตุเก็บเล็กผสมน้อยมา ดัดแปลงฝึกฝนแก่เราจนเกิดเป็นที่ยอมรับของ คนนั่นแหละผมเรียกว่าพรสวรรค์ หาใช่ได้มา แต่ชาติปางก่อนก็หาไม่ สติปัญญาอยู่ที่การค้น หาไขว่รู้และนำมาปฏิบัติดัดแปลงบางส่วนให้ สอดคล้องกับธรรมชาติปัจจุบันจนเป็นที่ยอมรับ ของหมู่ชนนั่นเอง ไม่ว่างานจะเป็นงานด้านอาชีพ ก็ตาม หากนำมาประสานกันก็ย่อมเกิดทางสว่างแก่หนทางเราเดินจ้า หากขัดข้องอย่างไร ผมพอจะช่วยเหลือได้ก็ยินดีเสมอ ไม่ต้องกับวล ตัดไปได้แล้ว การเขียนงานด้านนี้ก็เหมือนกัน เราต้องทำจิตใจให้ว่างๆไว้ตัดความกังวลด้าน อื่นออก ค่อยๆเป็นค่อยๆไปงานนั้นก็จะบรรลุผล ไม่มากก็น้อย นานๆเข้าก็เกิดความเชี่ยวชาญ รู้จักดัดแปลงค้นหาเองแหละ แต่สำคัญที่สุดคือ ต้องมีความอดทนต่อสิ่งต้านทานทั้งภายนอก และภายใน ให้มีความอดกลั้นต่สิ่งทั้งปวงอย่า ได้ใจร้อน และเราต้องคิดไว้เสมอๆว่าเราเอง เป็นคนโง่ๆไว้เสมอ เพื่อป้องกันตัวเองในการ ที่จะหลงลืมตัวเรา ให้ถ่อมตัวเราไว้เสมอๆ ก็ จะเจริญรุ่งเรืองเองแหละ ขอโทษนะที่กล่าว เพ้อเจ้อมากไปจ้า รักเสมอ แก้วประเสริฐ.